เรื่องย่อ 4
นางพันธุรัตคิดอยากจะไปตามสัตว์ในป่ากินตามวิสัยยักษ์ แต่ก็กลัวว่าพระสังข์จะหนีไป พระสังข์เริ่มสงสัยให้ถ้อยคำของพระมารดา ประกอบกับไว้ที่เริ่มจะเป็นหนุ่มเกิดความอยากรู้อยากเห็น จึงใช้คงวามคิดตริตรองหาข้อเท็จจริงเพราะแครงใจในพฤติกรรมของนางพันธุรัต
พระสังข์เกิดความแคงใจในพฤติกรรมของนางพันธุรัตว่าคำพูดกับการกระทำไม่ตรงกัน หากสั่งว่าจะไกป่าวันเดียว ก็จะไปเจ็ดวันกว่าจะกลับแต่พอสั่งว่าจะไปเจ็ดก็ไปเพียงวันเดียว ทั้งสั่งห้ามทำอะไรหลายอย่าง พอมาคราวนี้ นางบอกว่าจะไปวันเดียวจึงน่าจะยืดยาวไปถึงเจ็ดวันพระองค์สงสัยยิ่งนักว่าห้ามไม่ให้ไปที่ครัวไฟ อะไรจะมีอยู่ที่นั่น ดังนั้นจึงจึงลับตาสาวใช้ที่ลอบไปพลันไดแห็นสำคัญในทันที
สิ่งที่พระสังข์เห็นทุกอย่างคือ โครงกระดูกเสือ ช้าง กวาง เนื้อทราย และซากมนุษย์ ทำให้พระสังข์ตกใจมาก จึงสำรวจต่อไปอีกว่านางพันธุรัตซ่อนอะไรไว้อีก
พระสังข์เอานิ้วจุ่มลงไปในบ่อเงินซึ่งแนบ่อด้านซ้าย ก็เป็นสีเงินติดนิ้วมาพอจุ่มลงไปในบ่อขวาซึ่งเป็นบ่อทอง นิ้วก็กลายเป็นสีทอง เช็ดถูอย่างไรก็ไม่ออกความเกรงกลัวว่านางพันธุรัตจะกลับมาเห็นก็รีบฉีกผ้าพันนิ้ว
พระสังข์เหาะลองเล่นพอเห็นดี กลัวพระชนนีไม่ช้าได้ ก็ถอดไว้วางเดิม แต่ก็ยินดีอยู่นักคิดแต่ว่า ทีเอยทีนี้ ชอบทีจะหนีแม่ยักษา จะเหาะไปหาพระมารดา ถึงไร่ตายายที่เลี้ยงดูเพราะพระสังข์เริ่มรู้สึกไม่ไว้ใจด้วยนางพันธุรัตเป็นยักษ์ หากเนิ่นนานไปก็จะหนีลำบากหรืออาจจะต้องอยู่เมืองยักษ์ไปตลอดชีวิต
นางพันธุรัตกลับมาเห็นนิ้วพระสังข์พันผ้าไว้ก็ถามด้วยความห่วงใยพระสังข์ตอบว่าโดนมีดบาด แล้วทำมารยาทแกล้งเจ็บปวดไม่ให้นางดูแผล นางถึงจะทำโทษพวกพี่เลี้ยงที่ปล่อยให้พระสังข์เล่นซุกซน ซึ่งแสดงถึงความรักความห่วงใยอย่างมาก พระสังข์ต้องทูลบอกว่าเป็นความผิดของพระองค์ที่ดื้อไปเล่นมีดพลาดเอง แท้ที่จริงแล้วพวกพี่เลี้ยงรักพระองค์มาก หากพวกเขาถูกลงโทษโดยไม่มีความผิดก็ไม่ยูติธรรม นางพันธุรัตจึงงดโทษไว้
อยู่มาวันหนึ่ง นางพันธุรัตเกิดร้อนรุ่มกลุ้มใจอยากจะไปในป่าก็อุ้มองค์พระสงค์นั่งตัก โลมลูบจูบแล้วรับขวัญ วันนี้แม่จะลาไปอารัญสายัณห์เลี้ยวลับจะกับมา นางไม่ได้กลับมาตามที่พูด คืนนั้นพระสังข์เข้าที่บรรทม จิตใจว้าวุ่นสับสนอยู่ คิดถึงพระมารดาจันท์เทวีว่าจะโศกเศร้าคร่ำครวญหาพระองค์ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดียังไง
ในที่สุดพระสังข์ก็ตัดสินใจ จำจะคิดติดตามหาสืบให้พบพานมารดาจงได้ จากนั้นก็ขึ้นไปบนปราสาทชัยที่เก็บรูปเงาะ พอหยิบรูปเงาะขึ้นมาพิจารณา พระสังข์ก็อดที่จะอาลัยอาวรณ์นางพันธุรัตไม่ได้
พระสังข์นึกถึงคุณงามความดีที่นางพระพันธุรัตที่มีต่อพระองค์อยู่จนฉุนใจคิดขึ้นมาว่าไม่ควรจะอยู่ช้าต่อไป เกลือกว่ามารดามาแต่ไพร หนีไปไม่ทันจะเสียการ ดังนั้นจึงเอารูปเงาะสวมองค์เข้าแล้ว ใส่เกือกแก้วถือไม้เท้ากล้าหาญ เหาะขึ้นเวสหาเหินทะยาน ออกจากเมืองมารรีบมา