จุดประสงค์ในการแต่งเรื่องสังข์ทอง
เมื่อกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าใน พ.ศ. ๒๓๑๐ นั้น การละเล่นที่มีอยู่ในประเทศ เช่น โขน ละคร ฯลฯ ก็ได้รับความกระทบกระเทือนเป็นอย่างมาก ตัวละครและบทละครได้สูญหายไปเป็นจำนวนไม่น้อย ละครในคงจะมีตัวละครเหลืออยู่น้อยเพราะเป็นของหลวงแต่การที่แบบแผนละครในไม่หายสาบสูญไปเสียทีเดียวเพราะมีผู้เล่นละครบางคนหลบหนีรอดชีวิตอยู่ได้ ละครนอกเป็นละครของชาวบ้าน ตัวละครคงจะหลบหนีข้าศึกอยู่ได้มากและเมื่อสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงฟื้นฟูความเจริญทางศิลปะการละครขึ้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกก็ทรงเจริญรอยตาม เข้าใจว่าในสมัยรัชกาลที่ ๑ คงจะมีละครหลายโรง ทั้งของหลวงและของเอกชน ซึ่งละครเอกชนก็จะเล่นละครนอกส่วนละครหลวงจะเล่นละครใน
เดิมละครผู้หญิงของหลวงเล่นแต่ละครในคือ เรื่องรามเกียรติ์ อิเหนาและอุณรุท ส่วนละครนอกแต่เดิมคือละครที่ราษฎรเล่นกันในพื้นเมือง ตัวละครเป็นชายล้วน เพราะแต่โบราณมีพระราชบัญญัติห้ามมิให้ผู้อื่นมีละครผู้หญิงเพิ่งพระราชทานพระบรมราชานุญาต เมื่อรัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์นี่เอง ดังนั้น ละครนอกที่ใช้ผู้หญิงเล่น จึงมีแต่ละครของหลวง เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระราชนิพนธ์บทละครนอกขึ้นใหม่ จึงโปรดให้หัดละครหลวงขึ้นอีกชุดหนึ่งนอกเหนือไปจากละครใน ฝึกหัดกันที่โรงต้นสนละครชุดนี้เข้าใจว่าได้เล่นออกเป็นโรงเป็นครั้งแรกเมื่อคราวสมโภชพระยาเศวตกุญชร ช้างเผือกเอกเมืองโพธิสัตว์ซึ่งเข้าสู่พระบารมี เมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๕ ตัวละครเท่าที่สืบทราบนาม และบทที่เล่นก็มี จัน พระสังข์ ขำ เงาะ องุ่น รจนา บัว ท้าวสามนต์ น้อยงอก ไกรทอง
นาฏศิลป์ศิลปินหญิงของหลวงในสมัยรัชกาลที่ ๒ แสดงทั้งละครในและละครนอก ส่วนละครของเอกชนนั้นเป็นการแสดงของศิลปินชายเพราะไม่ได้อยู่ในข้อห้าม แต่การละเล่นละครนอกในกรุงเทพฯ นั้น คงจะเอาอย่างละครในที่เล่นกันเมื่อครั้งก่อนกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี จนกระทั่งละครนอกกับละครในเกือบจะเป็นอย่างเดียวกัน ผิดกันแต่ทำนองร้องและกระบวนการเล่นบางอย่างเท่านั้น
บทละครนอกที่ใช้เล่นในสมัยกรุงศรีอยุธยามีต้นฉบับอยู่ ๑๔ เรื่อง และมีบทละครนอกอีก ๕ เรื่อง ที่เป็นสำนวนเก่าก่อนรัชกาลที่ ๒ รวม ๑๙ เรื่อง แต่ไม่มีเรื่องใดมีต้นฉบับครบถ้วนสมบูรณ์เลย เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงฝึกหัดละครผู้หญิงของหลวงดีขึ้น จึงโปรดให้ละครผู้หญิงของหลวงเล่นละครนอกแข่งกับละครผู้ชาย และเลือกละครนอกบางเรื่องมาทรงพระราชนิพนธ์บทขึ้นใหม่เฉพาะตอนที่จะให้ละครผู้หญิงของหลวงเล่น คือ เรื่อง ไชยเชษฐ์ สังข์ทอง ไกรทอง มณีพิชัย คาวี ส่วนเรื่องสังข์ศิลป์ชัยนั้นกล่าวกันว่าเป็นบทที่พระเจ้าลูกเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ทรงพระราชนิพนธ์ปรับปรุงบทเดิม แล้วถวายตราเป็นพระราชนิพนธ์
ละครนอกของเอกชนเล่นเรื่องไชยเชษฐ์ สังข์ทอง สังข์ศิลป์ชัย ฯลฯ เช่นเดียวกับละครหลวง แต่กระบวนที่ละครหลวงเล่นไม่เหมือนกับละครเอกชน เพราะพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงแก้ไขทั้งทำนองร้องและวิธีรำจึงมี " ละครนอกแบบหลวง" ขึ้น ซึ่งละครของผู้มีบรรดาศักดิ์ถือเอาเป็นแบบอย่างสืบมา (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ๒๕๐๘: ๖๔-๑๔๒)