ไข้หวัดนก มหันตภัยไวรัส H5N1 จากไก่สู่คน
ประเทศไทยไม่มีการระบาดของโรคไข้หวัดนกมาก่อน จากข้อมูลระบุว่าสัตว์รังโรคหรือเป็นพาหะของโรคไข้หวัดนก ได้แก่ นกเป็ดน้ำ นกอพยพ หรือนกตามธรรมชาติซึ่งเป็นแหล่งรังโรค โดยไม่แสดงอาการเมื่อสัตว์เหล่านี้บินผ่านประเทศต่างๆ หรืออพยพเข้าไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ประเทศนั้นๆ จะนำเชื้อไวรัสตัวนี้เข้าไปด้วย เมื่อเชื้อไวรัสถูกขับถ่ายออกมาทางอุจจาระจะติดต่อไปยังสัตว์ปีกต่างๆ อาทิ เป็ด ไก่ ในฟาร์ม หรือในบ้านที่ได้รับเชื้อจากระบบทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร
เมื่อเป็ด ไก่ในฟาร์มและในบ้านติดเชื้อจะแสดงอาการ โดยเชื้อไวรัสตัวนี้มีระยะฟักตัวสั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง-3 วัน เมื่อได้รับเชื้อเข้าไป เป็ด ไก่ จะมีอาการซึม ซูบผอม ไม่กินอาหาร ขนยุ่ง ไข่ลด ไอ จาม หายใจลำบาก หน้าบวม หงอนและเหนียงบวม มีสีคล้ำ มีอาการทางประสาทท้องเสียอาจตายกะทันหันโดยไม่แสดงอาการ อัตราการตายอาจสูงถึง 100%
การติดต่อ / อาการการติดต่อระหว่างสัตว์สู่คน คนสามารถติดเชื้อจากสัตว์ได้โดยตรงจากการสัมผัสสัตว์ป่วยโดยตรง และโดยทางอ้อมจากการสัมผัสกับสิ่งคัดหลั่งจากสัตว์ที่เป็นโรค เช่น อุจจาระ น้ำมูก น้ำตา น้ำลายของสัตว์ป่วย จากการเฝ้าระวังโรคยังไม่มีการติดต่อระหว่างคนและคน
ผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรค ได้แก่ ผู้ที่มีอาชีพและใกล้ชิดสัตว์ปีก เช่น ผู้เลี้ยง ฆ่า ขนส่ง ขนย้าย ผู้ขายสัตว์ปีกและซากสัตว์ปีก สัตวบาล และสัตวแพทย์ ระยะฟักตัวในคนสั้นประมาณ 1-3 วัน ในคนอาจมีอาการทางระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลัน มีไข้สูงมากกว่า 38 องศาและมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดกล้ามเนื้อ หายใจผิดปกติ หนาวสั่น ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย มีน้ำมูก ไอและเจ็บคอ บางครั้งพบว่ามีอาการตาแดงซึ่งจะหายเองได้ภายใน 2-7 วัน หากมีอาการแทรกซ้อนจะมีอาการรุนแรงถึงปอดบวมได้ โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุ เพื่อความปลอดภัย ผู้บริโภคไก่ ไข่ไก่ หรือผลิตภัณฑ์จากไก่ ควรรับประทานที่ปรุงสุกแล้วเท่านั้น ไม่ควรรับประทานที่ปรุงสุกๆ ดิบๆ ส่วนเกษตรกรและผู้ชำแหละไก่ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันร่างกาย เช่น พลาสติก ผ้ากันเปื้อน ผ้าปิดจมูก ถุงมือ แว่นตา รองเท้าบู๊ต และต้องหมั่นล้างมือบ่อยๆ รวมทั้งอาบน้ำชำระร่างกายด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาดเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกครั้งหลังปฏิบัติงานเสร็จหากมีอาการไม่สบาย เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ หนาว สั่น เจ็บคอ ไอ ต้องรีบปรึกษาแพทย์ทันทีการรักษา สำหรับการตรวจวิเคราะห์ว่า ผู้ป่วยเป็นโรคไข้หวัดนกหรือไม่นั้น จะต้องเก็บตัวอย่างเสมหะ น้ำมูก น้ำลายจากผู้ป่วย และผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย มาตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ รวมทั้งเจาะเลือดมาตรวจ เพื่อให้การศึกษาครบถ้วนกระบวนความ จากนั้นประมาณ 3 สัปดาห์ จะต้องไปเจาะเลือดมาตรวจเป็นครั้งที่ 2 เพื่อดูว่าผู้ที่ได้รับเชื้อแล้วไม่ปรากฎอาการมีหรือไม่ และดูอีกว่ายีนของเชื้อไวรัสไข้หวัดนกไปผสมพันธุ์กับไข้หวัดใหญ่ตัวอื่นหรือไม่ ถ้าเชื้อทั้งสองผสมพันธุ์กัน ก็จะมีความสามารถสูงขึ้นที่จะติดต่อจากคนสู่คนยาที่ใช้ในการรักษาโรคไข้หวัดนกนั้น มีเพียง 2 ชนิดที่มีการพิสูจน์ว่าสามารถทำลายเชื้อไวรัสได้ คือ Rimantadine และ Amantadine โดยยาดังกล่าวมีราคาค่อนข้างสูง