การดึงหน้าและคอ
แหล่งที่มา : http://siliconeclub.com/images/stories/surgeryPic/16602_002.jpg
ภาวะการแก่ชรา(Aging Process) เริ่มเมื่ออายุ 30 ปี โดยจะมีส่วนประกอบใหญ่ๆ สองส่วนคือ
1. ความเสื่อมโดยธรรมชาติและแสงแดดทำให้ ผิวหนังบางลง มีริ้วรอยย่นขนาดเล็กๆ หรือจุดเม็ดสีที่ผิดปกติ
2. ผิวหนังหย่อนยานลงจากแรงโน้มถ่วงของโลก เห็นได้จากคิ้วที่ตกลงมาพร้อมๆกับหนังตาบน หนังตาล่างและแก้มที่หย่อนลงมาทำให้โหนกแก้มดูต่ำลง เกิดร่องข้างแก้มและจมูก หรือแก้มที่ห้อยลงมาจนมองไม่เห็นขอบของกระดูกขากรรไกรล่าง รวมทั้งคอที่เห็นเป็นสันและไขมันใต้คางที่ย้อยลงมาทำให้คางดูสั้นลงหรือเห็น เป็นสองชั้น
การผ่าตัดดึงหน้าและคอจะช่วยในกรณีที่ 2 นี้โดยการดึงให้ส่วนที่ตกลงมากลับไปอยู่ในที่ที่ควรจะเป็นให้ได้มากที่สุด ร่วมกับการตัดผิวหนังส่วนเกินออก ส่วนริ้วรอยขนาดเล็กๆที่เหลืออยู่และจุดเม็ดสีที่ผิดปกติต้องแก้ไขด้วยวิธี อื่น เช่น การใช้สารเคมี (Chemical Peeling) และการใช้เลเซอร์ เป็นต้น
การผ่าตัด
การ ผ่าตัดมักจะกระทำโดยการดมยาสลบหรือการทำให้หลับโดยการฉีดยาร่วมกับการฉีดยาชาเฉพาะที่ การผ่าตัดจะพยายามซ่อนแผลให้มองเห็นได้น้อยที่สุด เช่นการดึงหน้าผากก็จะซ่อนแผลเอาไว้หลังไรผม
โดยในสมัยก่อนแผลผ่าตัดจะยาวจากหูซ้ายถึงหูขวา แต่ในปัจจุบันเราสามารถทำการผ่าตัดผ่านกล้องได้ทำให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กลง มากและในการผ่าตัดยังสามารถที่จะตัดกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดรอยย่นระหว่างคิ้วได้อีกด้วย
สำหรับการผ่าตัดดึงหน้าแผลจะอยู่บริเวณหน้าใบหูและอาจจะอ้อมไปหลังใบหู ซึ่งเมื่อแผลหายดีแล้วก็จะมองไม่ค่อยเห็นเช่นกัน ส่วนการผ่าตัดดึงคอมักจะทำไปพร้อมๆกันกับการดึงหน้าแต่ก็อาจจะทำแยกต่างหากได้ โดยจะมีแผลเพิ่มขึ้นบริเวณใต้คางหรือบริเวณไรผมด้านหลัง ในการผ่าตัดดึงคอเราจะเอาไขมันส่วนเกินออกแล้วเย็บกล้ามเนื้อที่แยกออกจนเห็นเป็นสันเข้ามาหากันและตัดหนังส่วนเกินออกทางด้านหลัง
อย่างไรก็ตามการผ่าตัดก็จะช่วยให้ดีขึ้นในระดับหนึ่งเท่านั้นไม่สามารถทำให้ผิวหนังดู อ่อนเยาว์เหมือนวัยรุ่นได้และเมื่อเวลาผ่านไปอาจจะต้องมารับการผ่าตัดซ้ำอีก เนื่องจากเราไม่สามารถที่จะหยุดยั้งสาเหตุที่กล่าวมาแล้วได้
หลังการผ่าตัดอาจจะมีสายระบายเลือดและน้ำเหลืองซึ่งจะเอาออกในวันรุ่งขึ้น หลังการผ่าตัดมักจะไม่ค่อยมีอาการเจ็บปวดเนื่องจากเส้นประสาทที่มาเลี้ยงผิว หนังถูกตัดออกไปทำให้มีอาการชาซึ่งจะเป็นอยู่เพียงชั่วคราวและจะกลับมาเป็นปกติภายใน 1-2 เดือน ในระหว่างนี้จึงควรระมัดระวังในการประคบหรือการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเนื่องจากอาจเกิดแผลน้ำร้อนลวกได้
ภาวะแทรกซ้อน
1. การติดเชื้อ
2. มีเลือดคั่งในแผล ถ้าเกิดขึ้นจะทำให้มีอาการปวดแผลมากซึ่งโดยปกติหลังการผ่าตัดดึงหน้ามักจะไม่มีอาการปวดแผลดังที่กล่าวมาแล้ว ดังนั้นถ้ามีอาการปวดแผลมากขึ้นหลังการผ่าตัดต้องรีบแจ้งให้แพทย์ทราบโดยทันที
3. กล้ามเนื้อที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของใบหน้าไม่ทำงานซึ่งมักจะเป็นชั่วคราวและมักจะกลับมาเป็นปกติภายในสามเดือน เกิดขึ้นเนื่องจากเส้นประสาทได้รับการกระทบกระเทือนจากการผ่าตัด แต่ก็อาจจะเกิดแบบถาวรได้ถ้าเส้นประสาทถูกตัดขาดซึ่งพบได้ค่อนข้างน้อย
4. ผิวหนังตายจากการขาดเลือดโดยมากมักจะเกิดบริเวณหลังใบหูเนื่องจากผิวหนังบาง มีความตึงและอยู่ไกลที่สุด รักษาโดยการทำแผล 2-3 สัปดาห์ก็จะหายได้เอง
5. ผมร่วงบริเวณขมับ อาจเกิดได้ถ้าดึงผิวหนังบริเวณขมับจนตึงเกินไป
6. แผลเป็น พบได้น้อยมักจะพบบริเวณหลังใบหู สามารถแก้ไขโดยการฉีดยาให้แผลเป็นยุบลง