ก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx
ก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx
ออกไซด์ของไนโตรเจนประกอบด้วย ไนตรัสออกไซด์ (N2O) ไนตริกออกไซด์ (NO) ไดไนโตรเจนไตรออกไซด์ (N2O3) ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ไดไนโตรเจนไดออกไซด์ (N2O2) ไดไนโตรเจนเตตราออกไซด์ (N2O4) และ ไดไนโตรเจนเพนต๊อกไซด์ (N2O5) ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงต่างๆ เช่น ก๊าซ ถ่านหิน ฟืน เป็นต้น อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงทางเคมี ของออกไซด์ของไนโตรเจนซับซ้อนมาก และขึ้นอยู่กับสารมลพิษอื่นๆ เช่น ไฮโดรคาร์บอน โอโซน สารประกอบซัลเฟอร์ เป็นต้น รวมทั้งสภาวะทางธรรมชาติ เช่น แสงอาทิตย์ ก็เป็นองค์ประกอบตัวหนึ่งเช่นกัน ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะไนตริกออกไซด์ (NO) และไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2)
ไนตริกออกไซด์เป็นก๊าซไม่มีสีและกลิ่น ซึ่งส่วนมากเมื่อทำปฏิกิริยาทางเคมีกับออกซิเจนในอากาศจะเปลี่ยนเป็นไนโตรเจนไดออกไซด์ และมีผลต่อมนุษย์ ดังแสดงในตาราง ซึ่งพบว่าค่าต่ำสุดที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ปวดโรคหืด คือ 190 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (0.1 ส่วนในล้านส่วน) ในระยะเวลา 1 ชั่วโมงต่อวันที่หายใจเอาก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์เข้าไป อย่างไรก็ตาม จากการประชุมขององค์การอนามัยโลก พ.ศ. 2515 ที่กรุงโตเกียว ได้สรุปว่า ถึงแม้จะมีการทดลองกับผู้ป่วยโรคหืด และพบว่าก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ที่ระดับ 190 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรในระยะ 1 ชั่วโมง มีผลทำให้เกิดหลอดลมตีบตันมากขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดควรมีการทดสอบต่อไปอีก
ความเข้มข้น |
ระยะเวลา ที่ได้รับก๊าซ |
เหตุผล |
เอกสารอ้างอิง |
|
ไมโตรกรัมต่อ ลูกบาศก์เมตร |
ส่วนใน ล้านส่วน |
|||
230 230
200 |
0.12 0.12
0.11 |
- -
- |
กลิ่น ชายปกติและแข็งแรง จำนวน 3 คน ใน 9 คนจะได้กลิ่น ส่วนใหญ่ของจำนวน 14 คนได้กลิ่นทันทีเมื่อเริ่มการทดลอง 26 คนในจำนวน 28 คนได้กลิ่นทันที่เมื่อเริ่มต้นการทดลอง |
Henschler และ คณะ (1960) Salamberidze (1967) Feldman (1974) |
1,300 - 3,800 190 560,000 - 940,000 |
0.7 - 2.0 0.1 300 - 500 |
10 นาที 1 ชม./วัน - |
ผลต่อการทำงานของปอด เพิ่มความต้านทางของระบบทางเดินหายใจ ทั้งการหายใจเข้าและออก เพิ่มความต้านทานของระบบทางเดินหายใจ และเพิ่มอาการตีบตัน ของทางเดินหายใจในผู้ป่วยโรคหืด 13 คน จากจำนวน 20 คน เป็นอัตรายถึงแก่ชีวิต ด้วยโรคจากอาการปอดบวมน้ำ (Pulmonary Edema) หรือสลบเนื่องจากสมองขาดออกซิเจน |
Suzuki & Ishikawa (1965) Orchek และคณะ (1976)
Grayson (1956) |
94 >=940 |
0.50 |
1 ชม. |
ผลต่อชุมชน เปรียบเทียบผลซึ่งเกิดต่อชนสองกลุ่ม นับถือศาสนาเดียวกัน อยู่ต่างเมือง ซึ่งมีความเข้มข้นของมลพิษไม่เท่ากัน ไม่ปรากฎผลต่อการทำงานของปอด และอัตราผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ ในผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ต่างกันอย่างไร เมื่อใช้ความเข้มข้นก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ เป็น 43 ไมโครกรัมต่อลูบาศก์เมตรต่อกลุ่มชนในเมือง ซึ่งถือเป็นกลุ่มเปรียบเทียบ (Control Group) ไม่ปรากฎว่าเกิดโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน ต่อแม่บ้านซึ่งประกอบอาหารด้วยเตาอบก๊าซ เมื่อเปลียบเทียบกับกลุ่มที่ใช้เตาอบไฟฟ้า |
Cohen และคณะ (1972)
U.S. EPA (1976b) |
ดังนั้น การกำหนดมาตฐานคุณภาพอากาศ จึงยึดถือค่าต่ำสุดที่ยังไม่ปรากฏผลเป็นอันตรายต่อมนุษย์ เท่ากับ 940 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเมื่อพิจารณาใช้ค่าอัตราส่วนความปลอดภัย (Safety Factor) เป็น 3 แล้ว จะได้ค่าที่ควรตั้งเป็นมาตฐาน คือ 320 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือ 0.17 ส่วนในล้านส่วน ในระยะเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง