โรคตาแดง
โรคตาแดง
โรคตาแดงเป็นโรคตาที่พบได้บ่อย เป็นการอักเสบของเยื่อบุตา(conjuntiva)ที่คลุมหนังตาบนและล่างรวมเยื่อบุตาที่คลุม
ตาขาว โรคตาแดงอาจจะเป็นแบบเฉียบพลัน หรือแบบเรื้อรัง สาเหตุอาจจะเกิดจากเชื้อแบคทีเรีบ ไวรัส Chlamydia trachomatis
ภูมิแพ้ หรือสัมผัสสารที่เป็นพิษต่อตา สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส มักจะติดต่อทางมือ ผ้าเช็ดหน้าหรือผ้
าเช็ดตัวโดยมากใช้เวลาหาย 2 สัปดาห์ ตาแดงจากโรคภูมิแพ้มักจะเป็นตาแดงเรื้อรัง มีการอักเสบของหนังตา ตาแห้ง การใช้
contact lens หรือน้ำยาล้างตาก็เป็นสาเหตุของตาแดงเรื้อรัง
ที่มา http://academy.chs.ac.th/academy/physical/My%20Dream1/PIC/Test/e7.JPG
อาการของโรคตาแดง
แพทย์จะถามถึงยาที่ท่านรับประทาน ยาหยอดตา เลนส์ น้ำยาล้างตา รยะเวลาที่เป็น อาการที่สำคัญคือ
- คันตา เป็นอาการที่สำคัญของผู้ป่วยตาแดงที่เกิดจากภูมิแพ้ อาการคันอาจจะเป็นมากหรือน้อย คนที่เป็นโรคตาแดงโดยที่ไม่มี
อาการคันไม่ใช่เกิดจากโรคภูมิแพ้ นอกจากนั้นอาจจะมีประวัติภูมิแพ้ในครอบครัวเช่นหอบหืด ผื่นแพ้
- ขี้ตา ลักษณะของขี้ตาก็ช่วยบอกสาเหตุของโรคตาแดง
ขี้ตาใสเหมือนน้ำตามักจะเกิดจากไวรัสหรือโรคภูมิแพ้
ขี้ตาเป็นเมือกขาวมักจะเกิดจากภูมิแพ้หรือตาแห้ง
ขี้ตาเป็นหนองมักจะร่วมกับมีสะเก็ดปิดตาตอนเช้าทำให้เปิดตาลำบากสาเหตุมักจะเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย - ตาแดงเป็นข้องหนึ่งหรือสองข้าง
เป็นพร้อมกันสองข้างโดยมากมักจะเกิดจากภูมิแพ้
เป็นข้างหนึ่งก่อนแล้วค่อยเป็นสองข้างสาเหตุเกิดจากการติดเชื้อเช่นแบคทีเรีย ไวรัส หรือ Chlamydia
ผู้ที่มีโรคตาแดงข้างเดียวแบบเรื้อรัง ชนิดนี้ต้องส่งปรึกาแพทย์
- อาการปวดตาหรือมองแสงจ้าไม่ได้ มักจะเกิดจากโรคชนิดอื่นเช่นต้อหิน ม่านตาอักเสบเป็นต้น ดังนั้นหากมีตาแดงร่วมกับปวดตา
หรือมองแสงไม่ได้ต้องรีบพบแพทย์
การป้องกันโรคตาแดง
- อย่าใช้เครื่องสำอางร่วมกับคนอื่น
- อย่าใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าเช็ดตัวร่วมกัน
- ล้างมือบ่อยๆ อย่าเอามือเข้าตา
- ใส่แว่นตากันถ้าต้องเจอสารเคมี
- อย่าใช้ยาหยอดตาของผู้อื่น
- อย่าว่ายน้ำในสระที่ไม่ได้ใส่คลอรีน
- ยาเมื่อไม่ได้ใช้ให้ทิ้ง
- อย่าสัมผัสมือ
- เช็ดลูกบิดด้วยน้ำสบู่เพื่อฆ่าเชื้อโรค
การรักษาตาแดงด้วยตัวเอง
- ประคบเย็นวันละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ10-15 นาที
- ล้างมือบ่อยๆ
- อย่าขยี้ตาเพราะจะทำให้ตาระคายมากขึ้น
- ใส่แว่นกันแดด หากมองแสงสว่างไม่ได้
- อย่าใส่ contact lens ช่วยที่มีตาแดง
- เปลี่ยนปลอกหมอนทุกวัน เปลี่ยนหมอนทุก 2 วัน
หากมีอาการต่อไปนี้ให้รีบพบแพทย์
- ตามัวลง
- ปวดตามากขึ้น
- กรอกตาแล้วปวด
- ไข้
- ให้ยาไปแล้ว 48 ชั่วโมงไม่ดีขึ้น
- น้ำตายังไหลอยู่แม้ว่าจะได้ยาครบแล้ว
- แพ้แสงอย่างมาก
ที่มา http://www.dektube.com/files/articles/cdf1e288ca02272L.jpg
โรคตาแดงจากการติดเชื้อไวรัส Viral Conjunctivitis
เชื้อที่เป็นสาเหตุได้แก่ adenovirus มักจะระบาดในชุมชน โรงเรียน ที่ทำงาน การติดต่อมักจะติดต่อโดยการสัมผัสทางมือ
เครื่องมือ สระว่ายน้ำ
อาการที่สำคัญ คือตาแดงเฉียบพลัน น้ำตาไหล เยื่อบุตาบวม ต่อมน้ำเหลืองหน้าหูโต เคืองตาเล็กน้อย บางรายอาจจะมีเลือดออก
ที่ตาขาว อาจจะเป็นข้างใดข้างหนึ่งก่อนแล้วค่อยลามมาอีกข้างหนึ่ง
เนื่องจากโรคนี้ติดต่อโดยการสัมผัสจึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงสัมผัสกับคนอื่นเป็นเวลา 7 วันนับตั้งแต่เกิดอาการ การรักษาเป็นเพียงประคับ
ประคองโดยการประคบเย็น ยาหยอดตา ยาปฏิชีวนะไม่มีความจำเป็นต้องใช้ ไม่ควรใช้ยาที่มีส่วนผสมของ steroid เพราะจะทำให้หาย
ช้า ตามัว แม้ว่ากระพริบตาแล้วก็ยังมัวอยู่ โรคตาแดงมักจะเห็นปกติหากมีอาการตามัวร่วมกับตาแดงต้องปรึกษาแพทย์ ประวัติอื่น
การเป็นหวัด การใช้ยาหยอดตา น้ำตาเทียม เครื่องสำอาง โรคประจำตัว ยาที่ใช้อยู่ประจำ
ไปยัง โรคติดต่อ