ดอกแก้ว
ดอกแก้ว
ที่มา : http://www.pharmacy.msu.ac.th/exhibition_new/Pharma-Herb/each-html-herb/001/keaw_image001.jpg
ชื่อพฤกษศาสตร์ : Murraya paniculate Jack
พืชวงศ์ : Fam, Rutaceae
ชื่อท้องถิ่น : ภาคเหนือเรียกว่า แก้วพริก ตะไหลแก้ว ได้แก่ แก้วขี้ไก่ แก้วลาย (สระบุรี) , จ๊าพริก ,
จ้าพริก (ลำปาง), แก้วขาว (กลาง), กะมู ,งานิง (ปัตตานี), แก้วขี้ไก่ (ยะลา), เกาหลี่เฮียง (จีน)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
ไม้ต้นขนาดเล็ก สูงได้ถึง 10 เมตร ไม่ผลัดใบ ใบ เป็นใบประกอบ ผิวใบมันเข้ม และเป็นมันทั้งสองด้าน ดอก ช่อ ออกเป็นกระจุก สีขาว
ร่วงง่าย มีกลิ่นหอมมาก ผล สดกลมรี หรือรูปไข่ ปลายสอบเล็กน้อย ที่เปลือกมีต่อมน้ำมันเห็นได้ชัด กว้าง 5-8 มม. ยาว 0.8-1 ซม. ผล
อ่อนสีเขียว ผลสุกสีส้มแดง เมล็ดรูปไข่ มีขนสั้นๆ อยู่รอบเมล็ด กว้าง 4-6 มม. ยาว 6-9 มม. สีขาวขุ่น มีจำนวน 1-2 เมล็ดต่อผล
รสและสรรพคุณ :
ก้านและใบ - รสเผ็ด สุขุม ขม ใช้เป็นยาชาระงับปวด แก้ผื่นคันที่เกิดจากชื้น
แก้แผลเจ็บปวดเกิดจากการกระทบกระแทก แก้ปวดฟัน
ราก - รสเผ็ด ขม สุขุม ใช้แก้ปวดเอว แก้ผื่นคันที่เกิดจากชื้น และ
ที่เกิดจากแมลงกัดต่อย
ใบ - ขับพยาธิตัวตืด แก้บิด แก้ท้องเสีย
ราก, ใบ - เป็นยาขับประจำเดือน
ดอก, ใบ - ช่วยย่อย แก้ไขข้ออักเสบ แก้ไอ เวียนศีรษะ
ผลสุก - รับประทานเป็นอาหารได้
ที่มา : http://gotoknow.org/file/drkamie/DSC00134.jpg
ที่มา : http://img373.imageshack.us/img373/5373/kxxw7yj.jpg
วิธีใช้และปริมาณที่ใช้
ใช้ภายใน :
รับประทานขับพยาธิตัวตืด แก้บิด แก้ท้องเสีย
- ใช้ก้านและใบสด 10-15 กรัม ต้มกับน้ำ 2 ถ้วยแก้ว เคี่ยวให้เหลือ 1 ถ้วยแก้ว รับประทานวันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้า-เย็น
- หรือใช้ดองเหล้า ดื่มแต่เหล้า ครั้งละ 1 ถ้วยตะไล ใช้เป็นยาขับประจำเดือน
- ใช้รากแห้ง 10-15 กรัม ต้มกับน้ำ 2 ถ้วยแก้ว เคี่ยวให้เหลือ 1 ถ้วยแก้ว รับประทานวันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้า-เย็น
ใช้ภายนอก :
- ใช้ก้านและใบสด ตำพอก หรือคั้นเอาน้ำทาบริเวณที่เป็น
- ใช้ใบแห้งบดเป็นผงใส่บาดแผล
- รากแห้งหรือสด ตำพอก หรือต้มเอาน้ำชะล้างบริเวณที่เป็น
- ใบและก้านสด สกัดด้วยแอลกอฮอล์ 50 % ใช้เป็นยาชาเฉพาะที่
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ :
ใบประกอบด้วย Volatile oil และ indole น้ำมันหอมระเหยของใบแก้วมีกลิ่นหอม ประกอบด้วยสารประเภท Sesquiterpenes จาก
การศึกษาวิจัยพบว่า ใบมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ Micrococcus pyogenes ver. Aureus และ E.coli
ใบ เมื่อกลั่นด้วยไอน้ำให้น้ำมันหอมระเหยสีเข้ม 0.01% กลิ่นน้ำมันหอมระเหยจากใบประกอบด้วย
1 - Cadinene (sesquiterpene) 32.5% bisaboline 18% betacaryophyllene 14% carene 3.5%
5 - quaiazulene 1.2% methyl anthrailate 1.5% euhenol 5% citronellol 4.5% geranoil 9.1% methylsalicylate3-5%