กิโมโน....ชุดประจำชาติประเทศญี่ปุ่น
กิโมโน....ชุดประจำชาติประเทศญี่ปุ่น
ดูเหมือนว่าชาวต่างชาติไม่ว่าจะเป็นประเทศใด จะทึ่งสตรีญี่ปุ่นที่ใส่ชุด กิโมโน กันมากหรือแม้แต่ในประเทศญี่ปุ่นเองก็ไม่ได้แตกต่างกันนัก ทั้งนี้เป็นเพราะชาวญี่ปุ่นในยุคปัจจุบันส่วนใหญ่จะแต่งกายแบบสากล ผู้ที่สวมกิโมโนในชีวิตประจำวันก็จะมีเพียงผู้ประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับศิลปะญี่ปุ่นแต่โบราณเท่านั้น หรือไม่ก็อาจจะสวมเฉพาะในงานพิธีต่าง ๆ เช่น งานแต่งงาน งานฉลองการบรรลุนิติภาวะ งานปีใหม่ ฯลฯ เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ผู้ที่สามารถสวมชุดกิโมโนได้เองจึงมีน้อย ถึงขนาดจัดเป็นคุณสมบัติข้อหนึ่งของ "การเตรียมตัวเพื่อเป็นเจ้าสาว" ของสตรี
วิวัฒนาการของชุดกิโมโน
ชุดกิโมโน ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ชุดยาว (เหมือนชุดติดกันผ่าหน้าในปัจจุบันแล้วเอามาทบกันที่ด้านหน้าและผูกด้วยผ้าคาดเอวที่เรียกว่า โอะบิ) ยกเว้นพวกเสื้อคลุม หรือเสื้อโค๊ต ลักษณะชุดยาวดังกล่าวถูกประดิษฐ์ขึ้นในสมัยนะระ และใช้เป็นชุดชั้นในมาโดยตลอดจนกระทั่งถึงสมัยเฮอัน หลังจากนั้นได้มีการนำมาสวมใส่เป็นชุดภายนอกให้เข้ากับกางเกงที่เรียกว่า ฮะคะมะ และถูกดัดแปลงให้ง่ายขึ้น เหมือนกับชุดกิโมโนในปัจจุบัน สวมใส่กันทั้งหญิงและชายในสมัยมุโระมะฉิ เมื่อมาถึงสมัยเอะโดะได้มีการนำชุดกิโมโนไปสัมพันธ์กับการแสดงฐานะทางชนชั้นในระบบขุนนาง ชุดกิโมโนจึงเริ่มมีข้อบังคับที่หลากหลายขึ้นโดยเฉพาะผู้ชาย ตัวอย่างเช่น ชุดกิโมโนผ้าขาวเรียบอนุญาตให้ใส่ได้เฉพาะบุตรชายคนโตของไดเมียวที่เกิดกับภรรยาหลวงเท่านั้น และทหารทั่วไปห้ามใส่ชุดกิโมโนผ้าไหม ( ผ้าซาติน ) ส่วนชาวบ้านจะใส่ผ้าป่านหรือผ้าฝ้าย แต่เมื่อคนทั่วไปมีฐานะร่ำรวยขึ้น ความอิสระในการแต่งกายก็เริ่มมีมากขึ้นตั้งแต่ปลายสมัยเอะโดะเป็นต้นมา เมื่อเข้าสมัยเมจิการแต่งกายแบบสากลก็เริ่มแพร่หลายจากเชื้อพระวงศ์ไปสู่ทหาร ข้าราชการ และเหล่านักศึกษาตามลำดับ และในที่สุดก็แพร่หลายกันโดยทั่วไป
การแพร่หลายของชุดสากล
ขณะที่การแต่งชุดกิโมโนของบุรุษผูกพันธ์กับระบบชนชั้น ในทางตรงกันข้ามกลับไม่มีข้อบังคับที่เข้มงวดมากนักกับการแต่งกิโมโนของสตรี กล่าวคือ มีข้อกำหนดเพียงว่าชุดกิโมโนแขนยาวที่เรียกว่า ฟุริโสะเดะ สำหรับหญิงสาวที่ยังโสดอยู่ใส่ และเมื่อแต่งงานแล้วให้เปลี่ยนเป็นชุดกิโมโนแบบแขนสั้น ด้วยเหตุนี้การแต่งกายด้วยชุดกิโมโนชีวิตประจำวันของสตรีจึงมีมาโดยตลอดจนกระทั่งถึงสมัยไทโช แต่เมื่อเข้าสู่สมัยโชวะที่สตรีมีบทบาทในสังคมมากขึ้น การแต่งกายแบบสากลก็แพร่หลายอย่างรวดเร็ว ประวัติศาสตร์การแต่งกายแบบตะวันตกของชาวญี่ปุ่น แม้กระทั่งการแต่งกายของบุรุษจึงสั้นมากเพียง 1 ศตวรรษกว่าเท่านั้น ในปัจจุบันการแต่งกายแบบสากลเป็นที่นิยมกันโดยทั่วไป ถึงขนาดสตรีสามารถแต่งกายด้วยเสื้อผ้าของนักออกแบบเสื้อระดับโลกได้โดยไม่แปลกแต่อย่างใด งานแสดงแฟชั่นก็เช่นเดียวกัน เวทีแสดงแฟชั่นได้ค่อย ๆ ย้ายจากปารีส นิวยอร์คเข้ามากรุงโตเกียว นักออกแบบเสื้อของชาวญี่ปุ่นเองไม่ว่าจะเป็นโมะริ ฮะนะเอะ, มิยะเขะ อิสเซ, ยะมะโมะโตะ คันไซ, ทะคะดะ เค็นไซ และยะมะโมะโตะ โยจิ ล้วนแต่มีบทบาทในแฟชั่นระดับโลกอย่างมาก
ชุดสวยอ่ะ อยากใส่จังเยย...