การปกครอง ร.3
การจัดการปกครองส่วนกลาง หรือ การปกครองในราชธานี ในสมัยรัชกาลที่ 3 ยังคงใช้รูปแบบเดิมเหมือนสมัยรัชกาลที่ 2 กล่าวคือ
โปรดให้ สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ ( พระปิตุลา ) ดำรงตำแหน่ง กรมพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) ส่วนตำแหน่ง อัครมหาเสนาบดีทั้งฝ่ายทหารและฝ่ายพลเรือนยังคงเป็นขุนนางที่ดำรงตำแหน่งในสมัยรัชกาลที่ 2 ในระยะแรกยังไม่ได้แต่งตั้งผู้ใดเลย จนกระทั่ง ในปี พ.ศ. 2373 รัชกาลที่ 3 ได้โปรด ฯ ให้เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนีย์) ดำรงตำแหน่งสมุหนายก เจ้าพระยามหาเสนา ดำรงตำแหน่งสมุหกลาโหม แต่ตำรงอยุ่ในตำแหน่งได้ไม่นานก็ถึงแก่อนิจกรรม จึงโปรดให้ เจ้าพระยาพระคลัง(พระยาสุริยวงษมนตรี ผู้ดำรงตำแหน่งกรมพระคลังมาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 2) รับผิดชอบราชการในตำแหน่งสมุหกลาโหมอีกตำแหน่งหนึ่งด้วยโปรดฯ ให้ เจ้าพระยายมราช ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกรมพระนครบาล
เจ้าพระยาธรรมา ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกรมพระธรรมาธิกรณ์
เจ้าพระยาพระคลัง ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกรมพระคลัง
เจ้าพระยาพลเทพ ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกรมพระเกษตราธิการ
การปกครองส่วนภูมิภาค หรือ การปกครองหัวเมือง ก็ยังคงใช้รูปแบบเดิมเหมือนในสมัยรัชกาลที่ 2 แบ่งออกเป็น การปกครองหัวเมือง ชั้นใน หัวเมืองชั้นนอก หัวเมืองประเทศราช
ประเทศราชหรือเมืองขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2 ได้แก่ ล้านนา (เชียงใหม่) ลาว (ล้านช้าง) กัมพูชา (เขมร) และหัวเมืองมลายู
กลับหน้าหลัก หน้าถัดไป ย้อนกลับ