• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:fbf215ac3977a46bc811e604f0cc73ed' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n<span style=\"font-size: x-small\">โรคทางเดินหายใจเป็นโรคที่พบมากของประเทศไทยโดยเฉพาะประชาชนในเขตเมืองเนื่องจากมลภาวะและภูมิแพ้ บทความนี้จะนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับภูมิแพ้ในหลายแง่มุมที่คุณควรจะรู้</span>\n</p>\n<h5>โรคภูมิแพ้คืออะไร</h5>\n<p>\nระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีหน้าที่ที่จะจดจำสิ่งแปลกปลอมที่จะทำร้ายร่างกายเรา เช่นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัสโดยการสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นต่อสู้กับเชื้อโรค โรคภูมิแพ้เป็นภาวะที่ภูมิของร่างกายมีปฏิกิริยากับโปรตีนหรือสารก่อภูมิแพ้ allergen จากสิ่งแวดล้อมซึ่งปกติจะไม่มีอันตรายสำหรับผู้ที่ไม่แพ้ ปฏิกิริยานี้เริ่มเมื่อเราได้รับสารก่อภูมิแพ้ก็จะเกิดการสร้างภูมิที่เรียกว่า IgE antibody ตัว antibody นี้จะกระตุ้น Mast cell ให้มีการหลั่งสาร Histamin ขึ้นที่เนื้อเยื่อต่าง เช่น ผิวหนัง ปอด จมูก ลำไส้ ทำให้เกิดการอักเสบของอวัยวะต่างๆ อาการแสดงจะเกิดตามอวัยวะต่างๆ เช่นลมพิษที่ผิวหนัง คัดจมูก แน่นหน้าอกเนื่องจากหอบหืด บางรายอาจจะรุนแรงถึงกับเสียชีวิตได้ Anaphylaxis shock\n</p>\n<table border=\"1\" align=\"center\" width=\"80%\" cellPadding=\"0\" cellSpacing=\"0\" borderColor=\"#111111\" style=\"border-collapse: collapse\">\n<tbody>\n<tr>\n<td bgColor=\"#111111\" width=\"50%\" align=\"center\">\n<p>\n <b><span style=\"font-size: x-small; color: #ff00ff\">ตัวอย่างโรคที่เกิดจากภูมิแพ้</span></b>\n </p>\n</td>\n<td bgColor=\"#111111\" width=\"50%\" align=\"center\">\n<p>\n <b><span style=\"font-size: x-small; color: #ff9900\">สารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ที่พบบ่อย</span></b>\n </p>\n</td>\n</tr>\n<tr>\n<td bgColor=\"#ccd0ce\" width=\"50%\">\n<ul>\n<li><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/Respiratory/asthma1/Asthma.htm\"><u><span style=\"color: #ff0000\">โรคหอบหืด</span></u></a><span style=\"color: #ff0000\"> </span></li>\n<li><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/allergy/anaphylaxis.htm\"><span style=\"font-size: x-small; color: #ff0000\"><u>Anaphylaxis</u></span></a><span style=\"color: #ff0000\"> </span></li>\n<li><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Health/Photo_teaching/eczema.htm\"><u><span style=\"color: #ff0000\">Eczema,</span></u></a><span style=\"color: #ff0000\"> </span></li>\n<li><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/allergy/contact_dermatitis.htm\"><u><span style=\"color: #ff0000\">contact dermatitis,</span></u></a><span style=\"color: #ff0000\"> </span></li>\n<li><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Health/Photo_teaching/urticaria.htm\"><u><span style=\"color: #ff0000\"> ลมพิษ urticaria</span></u></a><span style=\"color: #ff0000\"> </span></li>\n<li><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/allergy/conjunctivitis.htm\"><u><span style=\"color: #ff0000\">allergic conjuntivitis</span></u></a><span style=\"color: #ff0000\"> </span></li>\n<li><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/allergy/drug.htm\"><u><span style=\"color: #ff0000\">แพ้ยา</span></u></a><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/allergy/sting.htm\"><u><span style=\"color: #ff0000\"> แพ้แมลง</span></u></a><span style=\"color: #ff0000\"> </span><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/allergy/latex.htm\"><u><span style=\"color: #ff0000\">แพ้ยาง</span></u></a><span style=\"color: #ff0000\"> </span></li>\n<li><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/allergy/food.htm\"><u><span style=\"color: #ff0000\">แพ้อาหาร</span></u></a><span style=\"color: #ff0000\"> </span></li>\n<li><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/allergy/sneeze.htm\"><u><span style=\"color: #ff0000\">โรคภูมิแพ</span></u></a><span style=\"color: #ff0000\">้หรืออาการคัดจมูก </span></li>\n<li><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/allergy/treatment.htm\"><u><span style=\"color: #ff0000\">การรักษาโรคภูมิแพ</span></u></a><span style=\"color: #ff0000\">้ </span></li>\n<li><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/allergy/antihistamin.htm\"><u><span style=\"color: #ff0000\">ยาแก้แพ</span></u></a>้ </li>\n</ul>\n<p>\n <span style=\"font-size: x-small\"></span>\n </p>\n</td>\n<td bgColor=\"#ccd0ce\" width=\"50%\">\n<ul>\n<li><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/allergy/dust.htm\"><u><span style=\"color: #800000\">ไรฝุ่น</span></u></a><span style=\"color: #800000\"> </span></li>\n<li><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/allergy/pollen.htm\"><u><span style=\"color: #800000\">เรณูหรือเกสรดอกไม้ และหญ้า</span></u></a><span style=\"color: #800000\"> </span></li>\n<li><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/allergy/pet.htm\"><u><span style=\"color: #800000\">สะเก็ดรังแคของสัตว์(แมว สุนัข ม้า)</span></u></a><span style=\"color: #800000\"> </span></li>\n<li><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/allergy/crocrash.htm\"><u><span style=\"color: #800000\">แมลงสาบ</span></u></a><span style=\"color: #800000\"> </span></li>\n<li><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/allergy/mold.htm\"><u><span style=\"color: #800000\">เชื้อรา</span></u></a><span style=\"color: #800000\"> </span></li>\n<li><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/allergy/food.htm\"><u><span style=\"color: #800000\">อาหาร</span></u></a><span style=\"color: #800000\">(ไข่ขาว นม แป้งสาลี ถั่วเหลือง อาหารทะเล ถั่ว)</span> </li>\n<li><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/allergy/sting.htm\"><u><span style=\"color: #800000\">เหล็กไนของผึ้งและตัวต่อ</span></u></a><span style=\"color: #800000\"> </span></li>\n<li><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/allergy/drug.htm\"><u><span style=\"color: #800000\">ยา</span></u></a><span style=\"color: #800000\"> </span></li>\n<li><a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/allergy/latex.htm\"><u><span style=\"color: #800000\">ยางพารา</span></u></a> </li>\n</ul>\n<p>\n <span style=\"font-size: x-small\"></span>\n </p>\n</td>\n</tr>\n</tbody>\n</table>\n<h5><span style=\"font-size: x-small\"><b>คนเราเป็นภูมิแพ้ได้อย่างไร</b></span></h5>\n<p>\n<span style=\"font-size: x-small\">เนื่องจากเกิดโรคภูมิแพ้เป็นจำนวนมากจึงได้มีการวิจัยหาสาเหตุของโรคภูมิแพ้</span>\n</p>\n<p>\nกรรมพันธุ์ ผู้ที่มีประวัติภูมิแพ้ในครอบครัว เช่นพ่อแม่ พี่น้อง ก็จะเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าจะเป็นโรคภูมิแพ้ได้ง่าย เด็กชายเป็นมากกว่าเด็กหญิงหากพ่อหรือแม่เป็นโรคภูมิแพ้เด็กจะเป็นภูมิแพ้ได้ร้อยละ 30 แต่หากทั้งพ่อและแม่เป็นภูมิแพ้เด็กจะมีโอกาศเป็นโรคภูมิแพ้ร้อยละ 50-60\n</p>\n<p>\nสิ่งแวดล้อมของเด็กในขวบปีแรกสำคัญมาก การสัมผัสควันบุหรี่ ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ สะเก็ดรังแคสัตว์ การใช้ยาปฏิชีวนะ การรับประทานอาหารสำเร็จรูป เหล่านี้จะทำให้เกิดโรคภูมิแพ้\n</p>\n<p>\nการติดเชื้อไวรัสในวัยเด็ก การที่มีเชื้อ lactobacillus ในลำไส้หรือการอาศัยใกล้ฟาร์มสัตว์จะลดอุบัติการณ์ของภูมิแพ้\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: x-small\">การหลีกเลี่ยงหรือนำสิ่งที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ออกจากสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวเป็นการรักษาที่สำคัญที่สุดในการรักษาโรคภูมิแพ้ ซึ่งจะทำให้ลดอาการของโรคภูมิแพ้และลดปริมาณการใช้ยา</span>\n</p>\n<p>\n<center></center></p>\n<h5><span style=\"font-size: x-small; color: #ff99cc\"><strong>ทำไมคนในเมืองถึงเป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้น</strong></span></h5>\n<p>\n<span style=\"font-size: x-small\">พบว่าปัจจัยที่สำคัญคือการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมจากสังคมชนบทเป็นสังคมเมือง</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: x-small\">คนในเมืองอยู่บ้านมาก ติดเครื่องปรับอากาศ ไม่ออกกำลังกายทำให้ร่างกายอ่อนแอ เกิดการติดเชื้อได้ง่าย</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: x-small\">เด็กกินนมแม่น้อยลง คนรับประธานอาหารจานด่วนมาก ทำให้ได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน และได้รับสิ่งแปลกปลอมเข้ามามาก เช่น สี สารกันบูด</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: x-small\">คนนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในบ้านเพิ่ม</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: x-small\">การตกแต่งบ้าน ติดตั้งพรมและติดเครื่องปรับอากาศทำให้อากาศถ่ายเทไม่ดี เชื้อไรฝุ่นเจริญได้ดี</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: x-small\">มลภาวะจากอุตสาหกรรม และการจราจร</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: x-small\">การสูบบุหรี่</span>\n</p>\n<h5><span style=\"font-size: x-small\"><b>สารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ในบ้าน</b></span></h5>\n<p>\n<span style=\"font-size: x-small\">สารก่อโรคภูมิแพ้ในบ้านจะพบได้ตลอดปีและเป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดโรค ภูมิแพ้คัดจมูก โรคหอบหืด ผื่นแพ้ eczema สารก่อภูมิแพ้ในบ้านที่สำคัญได้แก่</span>\n</p>\n<ul>\n<li>ไรฝุ่นพบมากบนที่นอน โซฟา </li>\n<li>สะเก็ดรังแคสัตว์ น้ำลาย และเหงื่อของสัตว์เลี้ยง </li>\n<li>ขนนก ของเสียแมลงสาบ รา </li>\n</ul>\n<h5><span style=\"font-size: x-small\"><b>วิธีป้องกันสารก่อภูมิแพ้ในบ้าน</b></span></h5>\n<ul>\n<li>เปิดหน้าต่างให้เกิดการถ่ายเทของอากาศ โดยเฉพาะห้องครัว ห้องน้ำโดยเปิดหน้าต่างอย่างน้อยครั้งละ 1 ชั่วโมงเปิดวันละสองครั้งหากแพ้เกสรควรปิดหน้าต่างโดยเฉพาะช่วงที่มีเกสรดอกไม้มาก </li>\n<li>ไม่ควรตากผ้าในห้องนอนและห้องนั่งแล่น </li>\n<li>ถ้าห้องมีความชื้นมากให้เปิดให้อาการถ่ายเทให้มาก </li>\n</ul>\n<h5>การปฏิบัติตัวเมื่อเป็นโรคภูมิแพ้</h5>\n<ul>\n<li>ไม่เลี้ยงสัตว์ที่มีขนไว้ในบ้านโดยเฉพาะในห้องนอน </li>\n<li>ไม่ควรตกแต่งห้องนอนด้วยพรม หรือมีตุกตา มั่นเช็ดฝุ่นบ่อยๆ </li>\n<li>ห้องนอนไม่ควรจะมีชั้น หรือหนังสือ </li>\n<li>เครื่องนอนควรจะซักและต้มสัปดาห์ละครั้ง </li>\n<li>งดบุหรี่ หรือทาสีในบ้าน </li>\n<li>หมั่นทำความสะอาด และดูดฝุ่นบ้านและม่านกันแดด </li>\n<li>กำจัดเศษอาหารให้มิดชิดเพื่อป้องกันแมลงสาบ </li>\n<p><a href=\"/node/39658\">&lt; กลับสู่หน้าหลัก</a>\n</p></ul>\n', created = 1715468631, expire = 1715555031, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:fbf215ac3977a46bc811e604f0cc73ed' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

โรคภูมิแพ้

โรคทางเดินหายใจเป็นโรคที่พบมากของประเทศไทยโดยเฉพาะประชาชนในเขตเมืองเนื่องจากมลภาวะและภูมิแพ้ บทความนี้จะนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับภูมิแพ้ในหลายแง่มุมที่คุณควรจะรู้

โรคภูมิแพ้คืออะไร

ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีหน้าที่ที่จะจดจำสิ่งแปลกปลอมที่จะทำร้ายร่างกายเรา เช่นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัสโดยการสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นต่อสู้กับเชื้อโรค โรคภูมิแพ้เป็นภาวะที่ภูมิของร่างกายมีปฏิกิริยากับโปรตีนหรือสารก่อภูมิแพ้ allergen จากสิ่งแวดล้อมซึ่งปกติจะไม่มีอันตรายสำหรับผู้ที่ไม่แพ้ ปฏิกิริยานี้เริ่มเมื่อเราได้รับสารก่อภูมิแพ้ก็จะเกิดการสร้างภูมิที่เรียกว่า IgE antibody ตัว antibody นี้จะกระตุ้น Mast cell ให้มีการหลั่งสาร Histamin ขึ้นที่เนื้อเยื่อต่าง เช่น ผิวหนัง ปอด จมูก ลำไส้ ทำให้เกิดการอักเสบของอวัยวะต่างๆ อาการแสดงจะเกิดตามอวัยวะต่างๆ เช่นลมพิษที่ผิวหนัง คัดจมูก แน่นหน้าอกเนื่องจากหอบหืด บางรายอาจจะรุนแรงถึงกับเสียชีวิตได้ Anaphylaxis shock

ตัวอย่างโรคที่เกิดจากภูมิแพ้

สารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ที่พบบ่อย

คนเราเป็นภูมิแพ้ได้อย่างไร

เนื่องจากเกิดโรคภูมิแพ้เป็นจำนวนมากจึงได้มีการวิจัยหาสาเหตุของโรคภูมิแพ้

กรรมพันธุ์ ผู้ที่มีประวัติภูมิแพ้ในครอบครัว เช่นพ่อแม่ พี่น้อง ก็จะเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าจะเป็นโรคภูมิแพ้ได้ง่าย เด็กชายเป็นมากกว่าเด็กหญิงหากพ่อหรือแม่เป็นโรคภูมิแพ้เด็กจะเป็นภูมิแพ้ได้ร้อยละ 30 แต่หากทั้งพ่อและแม่เป็นภูมิแพ้เด็กจะมีโอกาศเป็นโรคภูมิแพ้ร้อยละ 50-60

สิ่งแวดล้อมของเด็กในขวบปีแรกสำคัญมาก การสัมผัสควันบุหรี่ ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ สะเก็ดรังแคสัตว์ การใช้ยาปฏิชีวนะ การรับประทานอาหารสำเร็จรูป เหล่านี้จะทำให้เกิดโรคภูมิแพ้

การติดเชื้อไวรัสในวัยเด็ก การที่มีเชื้อ lactobacillus ในลำไส้หรือการอาศัยใกล้ฟาร์มสัตว์จะลดอุบัติการณ์ของภูมิแพ้

การหลีกเลี่ยงหรือนำสิ่งที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ออกจากสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวเป็นการรักษาที่สำคัญที่สุดในการรักษาโรคภูมิแพ้ ซึ่งจะทำให้ลดอาการของโรคภูมิแพ้และลดปริมาณการใช้ยา

ทำไมคนในเมืองถึงเป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้น

พบว่าปัจจัยที่สำคัญคือการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมจากสังคมชนบทเป็นสังคมเมือง

คนในเมืองอยู่บ้านมาก ติดเครื่องปรับอากาศ ไม่ออกกำลังกายทำให้ร่างกายอ่อนแอ เกิดการติดเชื้อได้ง่าย

เด็กกินนมแม่น้อยลง คนรับประธานอาหารจานด่วนมาก ทำให้ได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน และได้รับสิ่งแปลกปลอมเข้ามามาก เช่น สี สารกันบูด

คนนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในบ้านเพิ่ม

การตกแต่งบ้าน ติดตั้งพรมและติดเครื่องปรับอากาศทำให้อากาศถ่ายเทไม่ดี เชื้อไรฝุ่นเจริญได้ดี

มลภาวะจากอุตสาหกรรม และการจราจร

การสูบบุหรี่

สารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ในบ้าน

สารก่อโรคภูมิแพ้ในบ้านจะพบได้ตลอดปีและเป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดโรค ภูมิแพ้คัดจมูก โรคหอบหืด ผื่นแพ้ eczema สารก่อภูมิแพ้ในบ้านที่สำคัญได้แก่

  • ไรฝุ่นพบมากบนที่นอน โซฟา
  • สะเก็ดรังแคสัตว์ น้ำลาย และเหงื่อของสัตว์เลี้ยง
  • ขนนก ของเสียแมลงสาบ รา
วิธีป้องกันสารก่อภูมิแพ้ในบ้าน
  • เปิดหน้าต่างให้เกิดการถ่ายเทของอากาศ โดยเฉพาะห้องครัว ห้องน้ำโดยเปิดหน้าต่างอย่างน้อยครั้งละ 1 ชั่วโมงเปิดวันละสองครั้งหากแพ้เกสรควรปิดหน้าต่างโดยเฉพาะช่วงที่มีเกสรดอกไม้มาก
  • ไม่ควรตากผ้าในห้องนอนและห้องนั่งแล่น
  • ถ้าห้องมีความชื้นมากให้เปิดให้อาการถ่ายเทให้มาก
การปฏิบัติตัวเมื่อเป็นโรคภูมิแพ้
  • ไม่เลี้ยงสัตว์ที่มีขนไว้ในบ้านโดยเฉพาะในห้องนอน
  • ไม่ควรตกแต่งห้องนอนด้วยพรม หรือมีตุกตา มั่นเช็ดฝุ่นบ่อยๆ
  • ห้องนอนไม่ควรจะมีชั้น หรือหนังสือ
  • เครื่องนอนควรจะซักและต้มสัปดาห์ละครั้ง
  • งดบุหรี่ หรือทาสีในบ้าน
  • หมั่นทำความสะอาด และดูดฝุ่นบ้านและม่านกันแดด
  • กำจัดเศษอาหารให้มิดชิดเพื่อป้องกันแมลงสาบ
  • < กลับสู่หน้าหลัก

สร้างโดย: 
นายฌัฐพล ชัยศรี

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 179 คน กำลังออนไลน์