3. คำกริยา

รูปภาพของ teddygirl

  

       คำกิริยาที่ควรรู้

              Imasu                 = มี (สิ่งมีชีวิต)                      iru

              Arimasu               = มี (สิ่งมีชีวิต)                     aru

              Desu                   = เป็น , อยู่ , คือ คล้ายกับ Verb to be ในภาษาอังกฤษ แต่ จะอยู่ท้ายสุดของประโยคเสมอ 

              Wasuremasu        = ลืม                                 wasureru 

              Ikimasu               = ไป                                  iku

              Tabemasu           = กิน                                  taberu

              Mimasu                = ดู , มอง                           miru 

              Hanashimasu        = พูด                                  hanasu 

              Iimasu                 = พูด , บอก                         iu 

              Aimasu                = พบ                                 au 

              Shimasu              = ทำ                                  suru 

              Benkyo shimasu    = เรียน                               benkyo suru 

              Utaimasu             = ร้องเพลง                          utau 

              Kaimasu               = ซื้อ                                 kau 

              Kaerimasu            = กลับบ้าน                          kaeru 

              Kakimasu             = เขียน                               kaku 

              Wakarimasu          = เข้าใจ                             wakaru 

              Nomimasu            = ดื่ม                                 nomu

              Machimasu           = รอ                                  matsu 

              Yomimasu            = อ่าน                                yomu 

              Kikimasu               = ฟัง                                 kaku 

              Hatarakimasu        = ทำงาน                            hataraku

              Hajimarimasu         = เริ่มต้น                             hajimaru 

              Owarimasu            = เลิก                                owaru 

              Arukimasu             = เดิน                                aruku 

              Kaburimasu           = สวมหมวก                         kaburu

              Nakimasu              = ร้องไห้                             naku 

              Naraimasu             = เรียน                               narau 

              Tachimasu            = ยืน                                  tatsu 

              Shinimasu             = ตาย                                shinu 

              Suwarimasu          = นั่ง                                  suwaru

              Demasu               = ออก                                deru 

              Oshierimasu          = สอน                                oshieru 

              Okimasu               = ตื่น                                 okiru 

              Nemasu               = นอน                                neru 

              Tomemasu           = จอด                                tomeru 

              Oboemasu            = จำ                                  oboeru

              Ai shimasu            = รัก                                  ai suru

              Ryokou shimasu     = เที่ยว                              ryokou suru

       กิริยาที่ได้บอกไปบ้างแล้วนั้นอยู่ในรูปสุภาพ –masu (ด้านซ้าย) ส่วนด้านขวาคือรูปธรรมดาภาษาญี่ปุ่นนั้นก็มีทั้งรูปสุภาพและไม่สุภาพ เช่น คำว่า tabemasu ที่แปลว่ากิน และ อยู่ในรูปสุภาพ จะเปลี่ยนเป็นรูปธรรมดาคือคำว่า taberu เป็นการผันกิริยาชนิดหนึ่งในหลายชนิด ซึ่งการผันกิริยาบางชนิดยากมากจะเห็นว่าญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการพูดมาก ทำให้คำๆเดียวผันได้เป็นสิบๆแบบสำหรับการทำคำกิริยาให้เป็นรูปปฏิเสธ ถ้ากิริยานั้นอยู่ในรูปสุภาพ ให้เปลี่ยน –masu เป็น –masen ถ้าเป็นรูปธรรมดาให้เติม –anai หรือ –nai ไว้ท้ายกิริยานั้น 

       เช่น tabemasen หรือ tabenai 

              (กิริยากลุ่มที่2) -raremasu , (กิริยากลุ่มที่1) -aremasu ถ้าต่อท้ายคำกิริยาจะแสดงว่าทำสิ่งนั้นได้ แต่ก็มีอีกความหมายคือถูกกระทำ 

              อย่างเช่น taberu แปลว่ากิน taberaremasen จะแปลว่ากินไม่ได้ 

              (กิริยากลุ่มที่2) -sasemasu , (กิริยากลุ่มที่1) -asemasu ถ้าต่อท้ายคำกิริยาจะแสดงความอนุญาติให้ทำสิ่งนั้นได้

       การแสดงความต้องการที่จะกระทำสิ่งนั้นๆทำได้โดยเติม  (กิริยากลุ่มที่ 2) -tai , (กิริยากลุ่มที่ 1) –itai 

       การแสดงออกว่าจะกระทำสิ่งนั้นๆทำได้โดย (กิริยากลุ่มที่ 1) เปลี่ยนเสียง u เป็น oo  (กิริยากลุ่มที่ 2 ) ตัด ru แล้วเติม yoo

       การผันรูปกิริยาธรรมดาให้เป็นรูปสุภาพทำได้โดย

              กิริยากลุ่มที่ 1

                     กิริยาธรรมดาจะลงท้ายด้วยเสียง “u” กริยาที่ลงท้ายด้วยเสียง “u”  ในทุกกรณี ให้เปลี่ยนเสียง u เป็นเสียง i แล้วเติม masu เป็นรูปสุภาพ ในรูปปฏิเสธแบบสุภาพจะเป็น -masen และแบบธรรมดาจะเป็น –anai

             กิริยากลุ่มที่ 2

                     กิริยาที่ลงท้ายด้วย “ru” เพียงตัวเดียว และหน้า “ru” ต้องเป็นเสียง  “i” หรือ “e” เท่านั้นยกเว้น ikimasu ที่แปลว่า ไป ถือเป็นกริยากลุ่มหนึ่ง

                     การเปลี่ยนรูป ให้ตัด  ru ออกก่อน แล้วจึงเติม -masu ลงไปในรูปปฏิเสธแบบสุภาพจะเป็น -masen และแบบธรรมดาจะเป็น –nai

            กริยากลุ่มที่ 3

                     คือ กริยาที่ลงท้ายด้วย “suru” เท่านั้น ยกเว้น “kuru” = kimasu = มา ซึ่งอยู่ในกลุ่มสามนี้เองการเปลี่ยนจากรูปพจนานุกรมให้เป็นรูปสุภาพ โดย ตัด “suru” ออก แล้วเติม “shimasu

แหล่งที่มา : http://www.arukithai.com/th/kanji2/romanji.asp#a3

สร้างโดย: 
นางสาวสินีนาถ โพธิ์แดง ชั้น ม.6/3 เลขที่ 37 โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 528 คน กำลังออนไลน์