ประโยคพื้นฐาน
ในการอ่านข้อความหรือบทความภาษาอังกฤษให้เข้าใจนั้น สิ่งแรกที่จำเป็นต้องศึกษา คือ ส่วนประกอบของประโยคแล้วจึงทำความเข้าใจโครงสร้างที่ซับซ้อน การจะเข้าใจได้นั้นจะต้องเข้าใจในข้อความเบื้องต้นก่อนว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร
โครงสร้างของประโยค
Subject+Main Verb+Modifiers
ประธาน +กริยาหลัก +ส่วนขยาย
โดยปกติแล้วโครงสร้างของประโยคนั้นจะประกอบไปด้วยประธานและกริยาหลัก อาจจะมีกรรมหรือไม่มีกรรมมารองรับก็ได้ ทั้งนี้นั้นขึ้นอยู่กับกริยาของประโยคที่ต้องการกรรมหรือไม่ เช่น
John loves his mother very much. ( จอห์นรักแม่ของเขามาก )
จะเห็นว่าจากประโยคนี้กริยาของประโยคนั้นต้องการกรรม ซึ่งถ้าไม่มีกรรมแล้วความหมายของประโยคจะไม่สมบูรณ์ เพราะกริยาของประโยคคือ loves ซึ่ง ถ้าประโยคไม่มีกรรมมารองรับแล้วประโยคนี้จะมีใจความว่า " จอห์นรัก "ซึ่งจะทำให้ไม่ทราบว่าจอห์นรักใคร
Vichai works very hard. ( วิชัยทำงานหนักมาก )
จะเห็นได้ว่าประโยคนี้กริยาของประโยคนั้นไม่จำเป็นต้องมีกรรมมารองรับ เพราะกริยาของประโยคนั้นคือ works ส่วนคำยาย
" very hard " ซึ่งเป็นส่วนขยายไม่จำเป็นต้องมีก็ทำให้ประโยคสมบูรณ์ได้
ส่วนที่ทำหน้าที่เป็นประธาน ( subject ) นั้น มีหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น คำนามคำเดียว, คำสรรพนาม, กลุ่มของคำนาม หรือที่เรียกกันว่า "วลี"หรือประโยคย่อย ( clause )
( คำนามคำเดียว ) A dog runs very fast. หมาวิ่งเร็วมาก
( คำสรรพนาม ) They like dancing. พวกเขาชอบการเต้นรำ
( วลี ) A stange noise at night frightened me.
เสียงประหลาดเมื่อคืนนี้ทำให้ฉันตกใจ
( ประโยคย่อย ) What he did shows much courage.
สิ่งที่เขาทำไปนั้นแสดงถึงความกล้าหาญอย่างมาก
กริยาหลัก ( Main Verb ) อาจจะปรากฏในรูปของกริยาตัวเดียว หรือกลุ่มของกริยาก็ได้ เช่น
( กริยาตัวเดียว ) The trains to Chiangmai leave every hour.
รถไฟไปเชียงใหม่ออกเดินทางทุกชั่วโมง
( กลุ่มกริยา ) The criminal was arrested by the police.
อาชญากรถูกตำรวจจับ