ประติมากรรม(งานเเกะสลักไม้)
1. การคัดเลือกแม่ไม้ (Plus tree) ในการปรับปรุงพันธุ์ไม้สักทอง จะทำให้ได้สายพันธุ์ของไม้ ที่มีคุณลักษณะดี สำหรับนำไปใช้ในการขยายพันธุ์ ทั้งจากการเพาะด้วยเมล็ดโดยการสร้างสวนเมล็ดพันธุ์ หรือการผลิตกล้าไม้คุณภาพดีแบบ ไม่อาศัยเพศ เช่น การตัดกิ่งปักชำ และ การะเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การมีแม่ไม้ทีดีนั้นอาจเป็นหลักประกันได้ว่า จะให้เมล็ดหรือกล้าไม้ที่ดีสำหรับการ ปลูกสร้างสวนป่าเป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถเพิ่มผลผลิตเนื้อไม้ต่อหน่วยเนื้อที่ได้
การคัดเลือกแม่ไม้สักทองมีหลักในการพิจารณาอยู่หลายประการ ทั้งการพิจารณาจากลักษณะภายนอก (Phenotypes) และลักษณะภายใน-ลักษณะภายนอกสามารถพิจารณาได้ทันที ตามหลักวิชาการใช้วิธีประเมินค่าลักษณะต่าง ๆ ของต้นไม้ โดยการให้คะแนน ส่วนลักษณะภายในพิจารณาได้ยากเพราะจะต้องมีการโค่นต้นไม้หรือเลื่อยแปรรูปเสียก่อนจึงจะพิจารณาได้ ซึ่งหมายความว่าจะต้องเสียแม่ไม้ที่ให้เมล็ด ไป แต่ถ้าเป็นการตัดกิ่งปักชำ หรือการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เมื่อโค่นแม่ไม้แล้วสามารถใช้หน่อจากต้นตอได้
2. การคัดเลือกแม่ไม้สักทองในประเทศไทย มีลักษณะในการพิจารณากว้าง ๆ ดังนี้
1.อายุของต้นไม้ สามารถนำมาทำเป็นแม่ไม้ได้นั้น ควรมีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี
2. ลักษณะของลำต้น ควรคัดเลือกลักษณะของลำต้น ต้องเปลาตรง ไม่บิด คดงอ วัตถุประสงค์ในการปลูกไม้สักทอง เพื่อจะขายได้ราคาแพงกว่าไม้สักทองที่ลำต้นคดงอ
3. ขนาดของลำต้น โตทางเส้นรอบวงไม่น้อยกว่า 7 ซ.ม. การคัดเลือกแม่ไม้สักทองโดยพิจารณาความโตเป็นสิ่งสำคัญ 4. ลักษณะและคุณภาพของเนื้อไม้ ต้นไม้ที่รูปทรงดีและโตเร็วแล้ว ยังมีความต้องการเนื้อไม้สักทองที่มีลวดลาย สวยงามด้วย
5. ความต้านทานโรคและแมลง การคัดเลือกแม่ไม้ไว้ทำพันธุ์ ต้องไม่มีร่องรอยของโรคและแมลงรบกวนตามส่วน ต่าง ๆของลำต้น
6. ความสามารถในการแตกหน่อ เป็นผลดีในการปรับปรุงพันธุ์ โดยวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ แม่ไม้สักทองควรจะต้องมีการแตกหน่อที่ดีและให้หน่อที่สมบูรณ์ด้วย
7. ความสามารถในการแตกรากของกิ่งปักชำ ปลูกสร้างสวนสักทอง มีประสิทธิภาพมากในอนาคต จำเป็นต้องมีการทดลองเก็บข้อมูลไว้สำหรับการ ปรับปรุงพันธุ์
8. ความสามารถในการถ่ายทอดและดำรงพันธุ์ แม่พันธุ์ที่ดีต้องให้ลูกไม้ที่มีลักษณะเด่นเหมือนแม่พันธุ์