ขอ กราบสวัสดีงามมมม น่ะค่ะทุกคนขา ^____^ ห่างเหินกันไปนาน เรามีเรื่องแปลกๆ มาให้อ่านกันอีกแล้วล่ะค่ะ เรื่อง
V
V
V
ข้อมูล และรายละเอียด หนอนเรืองแสง
· ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Arachnocampaluminosa
· พวกมันไม่ใช่หนอน ตามชื่อเรียกแต่ชื่อมาจากรูปร่างที่คล้ายหนอน แต่พวกมันเป็นตัวอ่อนของแมลง
· พวกมันมีวงจรชีวิต คือเป็น ไข่แล้วเข้าสู่ช่วง ตัวอ่อน( ช่วงนี้ที่ถูกเรียกว่า หนอนเรืองแสง ) ช่วงดักแด้และช่วงโตเต็มวัย ( เป็นแมลง มีรูปร่างคล้ายยุงสามารถบินได้ )
· เมื่อฟักออกจาไข่ตัวอ่อนจะมีขนาดลำตัวเพียง 3 ถึง 5 มิลลิเมตร ใช้เวลาประมาณ 6 ถึง 12 เดือนขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของอาหารจนมีลำตัวยาว 3 เซ็นติเมตร จะเข้าสู่ช่วงดักแด้แล้วถือกำเนิดใหม่เป็นแมลง
· พวกมันในทุกช่วงชีวิต จะสามารถเรืองแสงได้ทั้งเพศผู้ และเพศเมีย ในช่วงดักแด้และโตเต็มวัยเป็นแมลงการเรืองแสงมีประโยชน์เพื่อ บ่งบอกเพศ สายพันธุ์ และการหาคู่
· ในช่วงตัวอ่อนการเรืองแสงมีประโยชน์เพื่อล่อเหยื่อ เพื่อนำมาเป็นอาหาร
· บนเพดาน จะเห็นที่เป็นแสงไฟก็คือแสงจากหนอนเรืองแสง ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่า มีดาวประดับอยู่บนเพดานถ้ำอย่างสวยงาม
ภาพนี้จะเห็นทางด้านขวาของรูปเป็นเส้นหนาๆ คือตัวหนอนเรืองแสง
เทคนิคการล่าเหยื่อ ของ หนอนเรืองแสง
· พวกมันจะวางโครงข่ายท่อบนเพดานถ้ำเพื่อเป็นทางสำหรับเคลื่อนที่ไปมา
· ต่อมาพวกมันจะหย่อนเบ็ดที่มีลักษณะคล้ายเส้นไหม ที่มีตุ่มน้ำเหนียวๆ ที่มีความยาวตั้งแต่ 1 - 50 เซ็นติเมตรลงมา กว่า 70 เส้น
· เมื่อกับดักเสร็จสิ้น พวกมันก็ได้แต่รอแล้วก็รอ ให้เหยือโชคร้ายหลงเข้ามาเล่นไฟ ที่เรืองออกมาจากตัวของพวกมันเมื่อเหยื่อหลงเข้ามาก็จะติดกับ เบ็ดที่ห้อยเอาไว้ ยิ่งดิ้นก็ยิ่ง ติดแน่นเข้า
· หนอนเรืองแสงจะเคลือนตัวไปตามโครงข่ายท่อที่วางไว้ไปยังท่อของสายเบ็ดแล้ว โผล่ออกมาลากเหยื่อกับเข้าไปในท่อ เพื่อสังหารและกินเป็นอาหาร wowboom
· อาจจะดูโหดร้าย อาจจะดูสวยงามแต่มันคือกฎของธรรมชาติ ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะรอด
·
·
หนอนปกติช่วงวัยต่างๆ
|
|
|
ตัวเมียเต็มวัย ขนาด 20 mm
|
|
หนอนไหมวัยที่ 5, เกาะบนใบหม่อน
|
|
ที่มา http://gotoknow.org/file/puisouyhansa/ask20071207123133_lg.jpg
แมลงสาบมีชื่อเสียงมานานแล้วว่า (โด่งดังว่างันนนนน) เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทนทายาด ต่อให้เมืองถูกถล่มราบเป็นหน้ากลองด้วยขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ มันก็ยังมีชีวิตรอดอยู่ได้อย่างน่าประหลาด ที่อึดยิ่งกว่านั้น คือ หัวขาดแล้วยังมีชีวิตอยู่ได้เป็นอาทิตย์ นักวิทยาศาสตร์ยืนยันแล้วว่าเป็นจริง ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ทำไมแมลงสาบและแมลงอีกหลายชนิดยังมีชีวิตอยู่ได้ทั้งที่ถูกเด็ดหัว จะได้เข้าใจว่า ทำไมทีคนถูกตัดหัวขาดถึงตายม่องเท่ง โจเซฟ คุนเคล นักชีวเคมีและนักกายภาพวิทยา จากมหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งศึกษาพัฒนาการของแมลงสาบมานาน
อธิบายว่า ประการแรกที่คนถูกตัดหัวแล้วเสียชีวิตกันทุกรายเพราะเสียเลือด แรงดันเลือดต่ำลง ทำให้ไม่สามารถส่งออกซิเจนและสารอาหารเดินทางไปเลี้ยงเนื้อเยื่อในส่วนต่างๆ ของร่างกายได้
อีกประการหนึ่ง คนหายใจทางปากและจมูก มีสมองทำหน้าที่ควบคุมการทำงานที่สำคัญ เมื่อไม่มีศีรษะระบบหายใจก็หยุดทำงาน และไม่มีช่องทางสำหรับอาหารเข้าสู่ร่างกาย แต่ระบบร่างกายของแมลงสาบไม่ได้เป็นอย่างนั้น แมลงสาบไม่มีแรงดันโลหิตเหมือนคน มันไม่มีเครือข่ายเส้นเลือด หรือเส้นเลือดฝอยเพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียน แมลงสาบใช้ระบบเส้นเลือดไหลเวียนแบบเปิด ซึ่งใช้มีแรงดันโลหิตน้อยมาก ผู้เชี่ยวชาญแมลงสาบ กล่าว หลังจากแมลงสาบถูกตัดหัวขาดแล้ว แผลที่คอจะสมานอย่างรวดเร็ว ทำให้เลือดไม่ไหลทะลักออกจนตาย แมลงสาบยังหายใจผ่านทางท่อหายใจขนาดเล็กที่อยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไม่จำเป็นต้องใช้สมองควบคุมการหายใจ และเลือดไม่ได้เป็นตัวลำเลียงออกซิเจนไปทั่วร่างกาย แต่เนื้อเยื่อต่อตรงเข้ากับท่อหายใจโดยตรง แมลงสาบยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า สัตว์เลือดเย็น หมายความว่า กินอาหารน้อยกว่ามนุษย์ ดังนั้น ถ้ามันได้กินอาหารสักมื้อ มันสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้หลายสัปดาห์ ตราบใดที่มันไม่ถูกสัตว์นักล่าสวาปาม แค่มันทำตัวนิ่งเฉย ไม่เดินเพ่นพ่านให้ติดเชื้อรา แบคทีเรีย หรือไวรัส มาปลิดชีพ นอกจากนี้ อวัยวะแต่ละส่วนของแมลงสาบยังมีกลุ่มเนื้อเยื่อประสาทเฉพาะของตัวเอง คอยตอบสนองระบบประสาทพื้นฐาน ถึงจะไม่มีสมองร่างกายของมันยังทำงานพื้นๆ ได้ เช่น ยืน และขยับตัวได้เมื่อถูกแตะ และไม่ใช่แต่ลำตัวเท่านั้นที่แสดงปฏิกิริยาตอบสนองได้ แม้แต่หัวที่ขาดกระเด็นออกมาจากร่างกาย ยังสามารถขยับหนวดไปมาได้หลายชั่วโมงจนกว่าพลังงานหมด หรือถ้าเอาสารอาหารป้อนแล้วไปเลี้ยงในตู้เย็น หัวแมลงสาบยังขยับได้อีกนาน
ที่มา http://news.sanook.com/technology/technology_114629.php
*******อ่านกันแล้วมีใครอยากจะเป็นแมลงสาบมั้ยค่ะจะได้มีชีวิตอยู่นานโลกยิ่งร้อนอยู่ด้วยแต่ฉันขอบอกนิดหนึ่ง เป็นคนดีท่สุดค่ะ อ่ะๆๆๆ อย่า!!!!!!! ด่วนปิดไป เรายังมีเรื่องของมดต่อด้วย น่ะค่ะ อ่านจบแล้ว ช่วยเม้นกันเยอะน่ะค่ะ จะได้หล่อ ๆๆๆ สวยๆๆกันน่ะค่ะทุกคน ........55555++++
ที่มา http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/652/1652/images/I5590127-6.jpg
ทำไมมดถึงต้องเดินแล้ว เอาหนวดแตะกัน มันเปล่าทะเลาะกันน่ะเพื่อนๆๆๆ อย่าเข้าใจผิดน่ะค่ะ 555+
ที่มดเดินแล้วเอาหนวดแตะกันนั้นเป็นเพราะว่ามดต้องการสื่อสารกัน
มดสื่อสารกันได้อย่างไร?? เป็นเวลากว่า 30 ปีมาแล้วที่นักกีฏวิทยาและนักมดวิทยาได้ศึกษาแมลงสังคมและมดและก็ได้ลงความเห็นว่ามดมีรูปแบบการสื่อสารระหว่างกันทั้งหมด 12 แบบด้วยกันได้แก่
1. การเตือนภัย หรือบอกเหตุอันตราย
2. การดึงดูดความสนใจทั่วไป
3. การบอกตำแหน่งแหล่งอาหารและรัง
4. การช่วยเหลือตัวอ่อนเวลาลอกคราบ
5. การแลกเปลี่ยนหรือแบ่งปันอาหารเหลว
6. การแลกเปลี่ยนอาหารที่เป็นของแข็ง
7. อิทธิพลของกลุ่มที่มีทั้งการสนับสนุนและยับยั้งกิจกรรมที่ให้กระทำ
8. การยอมรับวรรณะของมดร่วมรังและแบ่งแยกมดพวกที่บาดเจ็บหรือตาย
9. การกำหนดวรรณะโดยมดราชินี
10. การควบคุมการแข่งขันการสืบพันธุ์ของกลุ่ม
11. การกำหนดอาณาเขตของรังและตำแหน่งของรัง
12. การสื่อสารเรื่องเพศ
ที่มา www.ads.co.th/services/services_1_1_2.aspx
รูปแบบการสื่อสารเหล่านี้ก็โดยใช้“สารเคมีในร่างกาย”(หรือที่เราเรียกว่า “ฟีโรโมน”) ที่มีกลิ่นแตกต่างกันไปเป็นหลักโดยอวัยวะส่วนที่สัมผัสและรับรู้กลิ่นนี้ได้ดีก็คือ “หนวด”นั่นเอง มดจะใช้หนวดในการสื่อสารกัน เราคงคุ้นเคยที่เห็นมดเวลาเจอกันจะใช้หนวดแตะกัน นั่นคือการสื่อสารกัน พฤติกรรมที่เราเห็นนั้นคือมันกำลังถ่ายเทอาหารหรือของเหลวให้แก่กันอาจเป็นตัวหนึ่งให้อีกตัวหนึ่งรับหรือการแลกเปลี่ยนระหว่างกัน สารเคมีเปรียบเสมือนกลิ่นประจำตัวที่ทำให้มดสามารถแยกแยะตัวอื่นได้ว่าเป็นมดกลุ่มเดียวกันหรือมาจากต่างกลุ่มกันกลิ่นของสารเคมียังช่วยให้มันแยกแยะวรรณะได้คือทำให้มันรู้ว่าพี่น้องมันตัวไหนเป็นมดงาน ตัวไหนเป็นมดเพศผู้ตัวไหนเป็นมดเพศเมีย หรือตัวไหนเป็นมดราชินีอีกทั้งยังรู้ด้วยว่าตัวอ่อนที่เป็นน้องของมันนั้นอยู่ในระยะไหนแล้ว เพราะถ้าใกล้ลอกคราบมันก็จะมาช่วยด้วยเพราะปกติในรังนั้นก็มืดอยู่แล้ว และการมองเห็นของมดก็ไม่ค่อยดีการสัมผัสโดยรับรู้จากกลิ่นทำให้เป็นการกำหนดพฤติกรรมของมันไปด้วยในตัว เมื่อมดออกนอกรังโลกใบใหญ่อันกว้างขวางของมันนั้น มันรับรู้ได้โดยใช้สารเคมีนี้ช่วย ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจสิ่งรอบตัวหรือแหล่งอาหารเมื่อมันพบแล้วมันก็ยังต้องพึ่งเส้นทางจากสารเคมีนั่นเองเพื่อใช้เป็นเส้นทางกลับรังไปบอกพรรคพวกและเดินเส้นทางเดิมโดยไม่หลงทางเพื่อไปลากอาหารกลับ รังเราอาจเรียกทางนี้ว่า “เส้นทางมด” ซึ่งก็เป็นเส้นทางของสารเคมีจากตัวมันนั่นเอง
อีกทั้งเมื่อรังของมันถูกคุกคามจากศัตรูภายนอกก็เป็นสารเคมีนี้อีกนั่นแหละที่มีบทบาทโดยมดราชินีจะเป็นผู้ส่งสัญญาณเตือนภัยออกไปเพื่อให้มดงานทั้งหลายมาปกป้องเธอและไข่
จะเห็นได้ว่าสารเคมีจากตัวมดนี้ มีบทบาทต่อวิถีชีวิตพวกมันมากทีเดียวค่ะ
ที่มา 108ซองคำถาม เล่ม4 สำนักพิมพ์นิตยสารสารคดี2544
หวังว่าเพื่อนงสนุกกับการรูเรื่องเกี่ยวกับมดน่ะค่ะ ไงอ่านกันจบแล้วไม่เม้นอ่ะ ต้องเศร้าแน่เลย ช่วยเม้นกันด้วยน่ะค่ะ รักๆๆๆๆคนเม้นทุกคนน่ะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
เหอะๆๆๆๆ ดีๆๆ ตอนแรกก้คิดว่า มดมันทะเลาะกัน 555
สรุปแล้ว คิดผิด ขอบคุณน่ะค่ะที่ช่วยแก้ความคิดที่ผิดไป
ขอคำติชมด้วยนะคะ ใช่คำพูดที่สุภาพด้วยคะ ขอบคุณคะ
โอ้ว พระเจ้าจอร์จมันเทพมาก
เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยดีค่ะ
สวยมากกๆๆๆๆ
ของเรายังไม่ทำเลย -_- เอิ๊กๆ