มะละกอ Papaya
แหล่งที่มาภาพ : http://www.healthcorners.com/2007/webboard/reply/1238040239_7562.jpg
มะละกอเป็นไม้ผลที่คนทั่วไปนิยมรับประทาน ผลดิบนำมาปรุงอาหาร ผลสุกรับประทานสด น้ำมีรสชาติหวานหอมมีวิตามินเอและแคลเซียมสูง นอกจากจะบริโภคภายในประเทศแล้วยังสามารถส่งไปจำหน่ายตลาดต่างประเทศในปี 2539 ส่งออกปริมาณ 5 ตัน คิดเป็นมูลค่า 0.2 ล้านบาท มะละกอแปรรูป 2,450 ตัน มูลค่า 51.8 ล้านบาท
ลักษณะทั่วไปของพืช
มะละกอเป็นไม้ผลล้มลุกขนาดกลาง ความสูงระหว่าง 5 - 20 ฟุต ลำต้นอวบน้ำ มะละกอเป็นพืชปลูกง่ายโตเร็ว ให้ผลเร็ว ให้ผลได้ตลอดทั้งปี โดยทั่วไปมะละกอเป็นพืชที่ไม่ค่อยมีแมลงรบกวน และปลูกได้ดีในดินทั่วไป แต่ต้องเป็นดินที่มีการระบายน้ำดี น้ำไม่ขังแฉะและมีอินทรีย์วัตถุมากพอสมควร มีหน้าดินลึกไม่น้อยกว่า 1 เมตร เริ่มออกดอกเมื่ออายุ 130 - 150 วันหลังจากปลูกด้วยเมล็ดและสามารถให้ผลผลิต 3 - 4 ปี ถ้าไม่มีปัญหาโรคแมลงทำลาย สามารถเก็บเกี่ยวผลดิบได้เมื่ออายุ 3 - 4 เดือน และเก็บเกี่ยวผลสุกได้เมื่ออายุ 5 - 6 เดือนหลังดอกบาน มะละกอ 1 ต้น สามารถให้ผลผลิต 25 - 30 กก./ปี หรือ 2,966 กก./ไร่ น้ำหนักผลอยู่ระหว่าง 0.7 - 2.50 กก.
พื้นที่ส่งเสริม
จังหวัดราชบุรี นครปฐม นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม และชุมพร
การปลูก
วิธีการปลูก
1. ควรปลูกในช่วงต้นฤดูฝน
2. ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดกว้างและลึกประมาณ 50 เซนติเมตร
3. ผสมดิน ปุ๋ยคอกจำนวน 5 กิโลกรัม และปุ๋ยร็อคฟอสเฟตจำนวน 5 กิโลกรัม เข้าด้วยกันให้สูงประมาณ 2 ใน 3 ของหลุม
4. ยกถุงกล้าวางในหลุม โดยให้ระดับของดินในถุงสูงกว่าระดับดินปากหลุมเล็กน้อย
5. ใช้มีดที่คมกรีดถุงจากก้นถุงมาถึงปากถุง ทั้ง 2 ด้าน (ซ้ายและขวา)
6. ดึงถุงพลาสติกออก โดยระวังอย่าให้ดินแตก
7. กลบดินที่เหลือลงในหลุม
8. กดดินบริเวณโคนต้นให้แน่น
9. หาวัสดุคลุมบริเวณโคนต้น เช่น ฟางข้าว หญ้าแห้ง
10. รดน้ำให้ชุ่ม
11. ทำร่มเงา เพื่อช่วยพรางแสงแดด