ส้ม orange
แหล่งที่มาภาพ : http://www.learningdream8.net/workshop/m105_15b/image/somkag.jpg
ชื่อวิทยาศาสตร์
ชนิดที่ 1 Garcinia atroviridis Griff. Ex T. Anderson
ชนิดที่ 2 Garcinia cambogia Desr.
ชื่อวงศ์
GUTTIFERAE
ชื่ออื่น ๆ
ชนิดที่ 1 ส้มแขก มะขามแขก ชะมวงช้าง ส้มมะวน ส้มควาย
ส้มพะงุน อาแซกะลูโก
ชนิดที่ 2 ส้มแขก , Gamboge
ส่วนที่ใช้
ผล
ส้มแขกชนิดแรกเป็นชนิดที่พบมากในประเทศไทย ส่วนชนิดที่ 2 เป็นชนิดที่มีการใช้กันมากในตลาดโลก ประเทศอินเดียเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่
การปลูก
ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด โดยเมล็ดที่ใช้ต้องมีลักษณะสมบูรณ์ปราศจากโรคและแมลงทำลาย สามารถทำได้ดังนี้
1. ทำการเพาะเมล็ดส้มแขกในถุงดำก่อน เมื่อต้นกล้าอายุ 3-4 เดือน จึงทำการย้ายปลูก
2. เตรียมแปลงปลูกโดยขุดหลุมกว้าง 30 เซนติเมตร X ยาว 30 เซนติเมตร X ลึก 30 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยอินทรีย์รองก้นหลุม
3.นำต้นพันธุ์ลงปลูกในหลุมปลูก กลบดินให้แน่นและมีไม้ยึดลำต้นกันโยก ถ้าแดดจัดต้องพรางแสงแดดในระยะแรกปลูกด้วย
การเก็บเกี่ยว
อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 7-8 ปี โดยผลจะออกในช่วงเดือนมิถุนายน ถึงเดือนสิงหาคม เก็บผลผลิตโตเต็มที่ ผลผลิตสด 3 ตัน/ไร่
การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว
นำผลส้มแขกมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ และตากแดดจัด ๆ ประมาณ 3 วัน ให้แห้งสนิท เก็บไว้ในภาชนะที่กันความชื้น อัตราส่วนการทำแห้งคือ ผลผลิตสด : ผลผลิตแห้ง = 4:1
สารสำคัญ
ส้มแขกทั้งชนิด G. atroviridis และ G.cambogia , สารสำคัญเหมือนกัน คือ
? -hydroxycitric acid ที่เรียกสั้น ๆ ว่า “สาร HCA” ซึ่งมีคุณสมบัติในการยับยั้งเอนไซม์ในกระบวนการสร้างไขมันจากการบริโภคอาหาร ที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง นอกจากนี้ยังมีกรดอินทรีย
์อื่น ๆ อีก ได้แก่ กรดซิตริก (citric acid) กรดเพนตาดีคาโนอิค (pentadecanoic acid) กรดออคตาดีคาโนอิค (octadecanoic acid) และกรดโดคีคาโนอิค (dodecanoic acid)