• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:00cff2f81f020b4781eaa401efe79db3' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n1.ชื่อโรค \n</p>\n<p>\nโรคงูสวัด (Herpes zoster)\n</p>\n<p>\n2.อยู่ในกลุ่มโรคประเภทใด\n</p>\n<p>\nจัดอยู่ในประเภท โรคผิวหนัง \n</p>\n<p>\n3.ผู้ค้นพบ\n</p>\n<p>\nไม่สามารถระบุได้\n</p>\n<p>\n<img border=\"0\" width=\"250\" src=\"/files/u7479/post-19658-1189598450.jpg\" height=\"250\" style=\"width: 250px; height: 214px\" />\n</p>\n<p>\n<a href=\"/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/blank.htm\">http://www.thaigoodview.com/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/blank.htm</a>\n</p>\n<p>\n4.สาเหตุ\n</p>\n<p>\nโรคงูสวัดเกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ &quot;วีแซดวี&quot; (varicella-zoster virus) เป็นคนละโรคกับ โรคเริม คนที่เป็นโรคงูสวัดจะต้องเคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน เมื่อภูมิต้านทานอ่อนแอลงจึงกลายเป็นโรคงูสวัดและโรคงูสวัดจะเป็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในชีวิตนี้ ซึ่งต่างกับโรคเริมที่จะกลับมาเป็นซ้ำได้อีก (ยกเว้น ผู้ที่มีความต้านทานต่ำมาก ๆ เช่น เอดส์อาจกลับมาเป็นโรคงูสวัดซ้ำได้อีก)<br />\n4.อาการของโรค\n</p>\n<p>\nจะมีอาการปวดมากเจ็บแสบร้อนบางคนคันร่วมด้วยเป็นไข้ได้ บางคนปวดจนทรมานมาก นอนไม่หลับ กลุ่มของตุ่มน้ำในนี้จะเริ่มแห้ง และตกสะเก็ดจางหายไปใช้ระยะเวลาประมาณ 7-14 วัน\n</p>\n<p>\nลักษณะผื่น <br />\nระยะแรกจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อน หรือคันบริเวณที่เป็น ต่อมา 1-2 วัน จะเห็นมีกลุ่มของตุ่มน้ำใสเกิดขึ้น อยู่บนพื้นผิวหนังที่มีสีแดง และกลุ่มของตุ่มน้ำใสนี้จะวางเรียงตัวกันเป็นเส้นตามแนวของเส้นประสาทที่ผิวหนัง (ตามแนว dermatome) เพราะฉะนั้น จะเห็นเป็นทางขวางตามลำตัวด้านหน้า ด้านหลัง รอบเอว ตามแนวเส้นประสาทตามยาวที่แขนและขา หรือตามแนวเส้นประสาทที่บริเวณใบหน้า นัยน์ตา หู ศีรษะ เป็นต้น งูสวัด ไม่สามารถจะพันตัวเรา จนครบรอบเอวได้เพราะแนวเส้นประสาทของตัวเรา จะมาสิ้นสุดที่บริเวณกึ่งกลางลำตัวเท่านั้น ในคนธรรมดาที่มีภูมิต้านทานปกติ งูสวัดจะไม่ลุกลามเข้ามาแนวกึ่งกลางลำตัวไปอีกซีกหนึ่ง ของร่างกาย (ยกเว้นในกรณีที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น โรคเอดส์ เป็นต้น ถ้าเกิดเป็นงูสวัด ก็อาจเป็นข้ามแนวกึ่งกลางลำตัวไปอีกซีกหนึ่งของร่างกายได้ หรือเป็นงูสวัดทั่วร่างกายได้)\n</p>\n<p>\n<img border=\"0\" width=\"250\" src=\"/files/u7479/post-19658-1189598367.jpg\" height=\"250\" />\n</p>\n<p>\n<a href=\"/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/blank.htm\">http://www.thaigoodview.com/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/blank.htm</a><br />\nอาการต่อเนื่อง <br />\nอาการปวดตามแนวเส้นประสาทระยะจากที่โรคงูสวัดหายแล้ว (post herpetic neuralgia) คืออาการปวดเจ็บแสบร้อนตามแนวเส้นประสาทนี้ ถึงแม้ว่า ผื่นงูสวัดหายไปแล้ว แต่ก็ยังคงมีอาการปวดแสบร้อนอยู่ บางท่านเป็นอยู่หลายเดือนทำให้ทรมานพอสมควร มักพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป\n</p>\n<p>\n<br />\nอาการแทรกซ้อน <br />\nสำหรับอาการแทรกซ้อนที่สำคัญคือ อาการปวดเกิดขึ้นภายหลังจากผื่นหายหมดแล้ว มักเกิดกับผู้สูงอายุที่เป็นงูสวัดบริเวณประสาทสมองคู่ที่ 5 อาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณผื่น หรือโรคแทรกซ้อนทางตา เช่นตาอักเสบ เส้นประสาทตาอักเสบ หรือ แผลที่กระจกตา ในกรณีของผู้ป่วยที่ภูมิต้านทานต่ำ เช่น เป็นโรคเอดส์ หรือผู้ป่วยที่ได้รับยากดอิมมูน อาจมีการกระจายของผื่นทั่วตัวได้ แพทย์บางท่านอาจจะให้ยาฆ่าเชื้อไวรัสชนิดรับประทานเป็นเวลาประมาณ 5-10 วันร่วมด้วย ทั้งนี้ต้องอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา\n</p>\n<p>\n6.วิธีรักษา\n</p>\n<p>\nรักษาตามอาการคือ กินยาระงับอาการปวด อาการคัน เช่น พาราเซตามอล ไอดาแรค พอนสแตน คลอเฟนนิรามีน ฯลฯ <br />\nยาต้านไวรัส ซึ่งราคาค่อนข้างแพงมาก ควรอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ เฉพาะทางด้านผิวหนัง แต่ได้ผลดีมาก ช่วยระงับอาการได้รวดเร็ว และทำให้ระยะเวลา ของโรคสั้นลง เช่น กลุ่มยาอะไซโคลเวียร์ โซวิแรกซ์ วาลเทรกซ์ แฟมซิโคลเวียร์ ไวลิม ไวโรแรกซ์ เป็นต้น <br />\nยาทากลุ่มฆ่าเชื้อไวรัส เป็นกลุ่มยาอะไซโคลเวียร์ <br />\nยาทาพวกเสลดพังพอน ใช้ทาระงับอาการได้ดีพอสมควร ราคาไม่แพง\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<img border=\"0\" width=\"350\" src=\"/files/u7479/20071016173257101.jpg\" height=\"227\" />\n</p>\n<p>\n<a href=\"/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/blank.htm\">http://www.thaigoodview.com/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/blank.htm</a><br />\n7.วิธีป้องกัน/การปฏิบัติตน\n</p>\n<p>\nสวัด เป็นโรคที่เชื่อว่าไม่ติดต่อ เป็นแล้วหายไปเองได้ เพียงแต่รักษาแผลให้สะอาด ในระยะเป็นตุ่มน้ำใสที่มีอาการปวดแสบปวดร้อนให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเกลืออุ่นๆ หรือ กรดบอริก 3% ปิดประคบไว้ เมื่อผ้าแห้งก็ชุบเปลี่ยนใหม่ ทำเช่นนี้วันละ 3-4 ครั้งๆ ละประมาณ 15 นาที ในระยะตุ่มน้ำแตกมีน้ำเหลืองไหลต้องระมัดระวังการติดเชื้อแบคทีเรียที่จะเข้าสู่แผลไ<br />\nด้ ควรใช้น้ำเกลือสะอาดชะแผลแล้วปิดด้วยผ้าก๊อสที่สะอาด ถ้า ปวดแผลมากรับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล\n</p>\n<p>\nในรายเป็นมากหรือรุนแรงจะต้องเข้ารับการตรวจรักษากับแพทย์ทันที เช่น ผู้ป่วยสูงอายุที่มีอาการปวดและอับเสบรุนแรง ในคนที่มีภูมิต้านทานต่ำจากการได้ยากดภูมิต้านทานไว้ ได้แก่ ยาฆ่าเซลล์มะเร็ง หรือจากการได้รับการฉายรังสี หรือในผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งของตอมน้ำเหลือง เป็นต้น การรับประทานอาหารที่เกี่ยวกับโรคที่คุณเป็นนั้น สามารถรับประทานได้ทุกอย่างไม่มีข้อห้าม ยกเว้นแต่ของหมักดองที่ควรจะงด\n</p>\n<p>\n<img border=\"0\" width=\"250\" src=\"/files/u7479/post-19658-1189598538.jpg\" height=\"250\" />\n</p>\n<p>\n<a href=\"/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/blank.htm\">http://www.thaigoodview.com/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/blank.htm</a>\n</p>\n<p>\n8.สะท้อนความคิดเห็น\n</p>\n<p>\n8.1 ทำไมถึงสนใจศึกษาโรคนี้\n</p>\n<p>\nเพราะข้าพเจ้าเคยเป็นและคนใกล้เคียงก็เป็นโรคนี้จึงสนใจสาเหตุที่มาของโรคนี้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรและมีแนวทางแก้ไขอย่างไรบ้าง\n</p>\n<p>\nเพื่อจะนำข้อมูลเล่านี้ไปบอกต่อเพื่อนๆให้ได้ทราบ\n</p>\n<p>\n8.2 คิดอย่างไรกับโรคนี้\n</p>\n<p>\nเป็นโรคที่รบกวนจิตใจเพราะเวลาเป็นจะคันและแสบตลอดเวลา\n</p>\n<p>\nอ้างอิงแหล่งข้อมูล\n</p>\n<p>\n<a href=\"http://xchange.teenee.com/index.php?showtopic=55867\">http://xchange.teenee.com/index.php?showtopic=55867</a>.\n</p>\n<p>\n<a href=\"http://www.bangkokhealth.com/index.php/2009-01-19-03-23-23/1153-2009-01-22-04-49-00\">http://www.bangkokhealth.com/index.php/2009-01-19-03-23-23/1153-2009-01-22-04-49-00</a>\n</p>\n<p>\n<a href=\"http://bbs.soizaa.com/thread-3576-1-1.html\">http://bbs.soizaa.com/thread-3576-1-1.html</a></p>\n<p><a href=\"http://www.geocities.com/HotSprings/Resort/7341/herpes.htm\">http://www.geocities.com/HotSprings/Resort/7341/herpes.htm</a><img border=\"0\" width=\"1\" src=\"/\" height=\"1\" /> \n</p>\n', created = 1727547180, expire = 1727633580, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:00cff2f81f020b4781eaa401efe79db3' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

โรคงูสวัด (Herpes zoster)

รูปภาพของ sss28360

1.ชื่อโรค 

โรคงูสวัด (Herpes zoster)

2.อยู่ในกลุ่มโรคประเภทใด

จัดอยู่ในประเภท โรคผิวหนัง 

3.ผู้ค้นพบ

ไม่สามารถระบุได้

http://www.thaigoodview.com/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/blank.htm

4.สาเหตุ

โรคงูสวัดเกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ "วีแซดวี" (varicella-zoster virus) เป็นคนละโรคกับ โรคเริม คนที่เป็นโรคงูสวัดจะต้องเคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน เมื่อภูมิต้านทานอ่อนแอลงจึงกลายเป็นโรคงูสวัดและโรคงูสวัดจะเป็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในชีวิตนี้ ซึ่งต่างกับโรคเริมที่จะกลับมาเป็นซ้ำได้อีก (ยกเว้น ผู้ที่มีความต้านทานต่ำมาก ๆ เช่น เอดส์อาจกลับมาเป็นโรคงูสวัดซ้ำได้อีก)
4.อาการของโรค

จะมีอาการปวดมากเจ็บแสบร้อนบางคนคันร่วมด้วยเป็นไข้ได้ บางคนปวดจนทรมานมาก นอนไม่หลับ กลุ่มของตุ่มน้ำในนี้จะเริ่มแห้ง และตกสะเก็ดจางหายไปใช้ระยะเวลาประมาณ 7-14 วัน

ลักษณะผื่น
ระยะแรกจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อน หรือคันบริเวณที่เป็น ต่อมา 1-2 วัน จะเห็นมีกลุ่มของตุ่มน้ำใสเกิดขึ้น อยู่บนพื้นผิวหนังที่มีสีแดง และกลุ่มของตุ่มน้ำใสนี้จะวางเรียงตัวกันเป็นเส้นตามแนวของเส้นประสาทที่ผิวหนัง (ตามแนว dermatome) เพราะฉะนั้น จะเห็นเป็นทางขวางตามลำตัวด้านหน้า ด้านหลัง รอบเอว ตามแนวเส้นประสาทตามยาวที่แขนและขา หรือตามแนวเส้นประสาทที่บริเวณใบหน้า นัยน์ตา หู ศีรษะ เป็นต้น งูสวัด ไม่สามารถจะพันตัวเรา จนครบรอบเอวได้เพราะแนวเส้นประสาทของตัวเรา จะมาสิ้นสุดที่บริเวณกึ่งกลางลำตัวเท่านั้น ในคนธรรมดาที่มีภูมิต้านทานปกติ งูสวัดจะไม่ลุกลามเข้ามาแนวกึ่งกลางลำตัวไปอีกซีกหนึ่ง ของร่างกาย (ยกเว้นในกรณีที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น โรคเอดส์ เป็นต้น ถ้าเกิดเป็นงูสวัด ก็อาจเป็นข้ามแนวกึ่งกลางลำตัวไปอีกซีกหนึ่งของร่างกายได้ หรือเป็นงูสวัดทั่วร่างกายได้)

http://www.thaigoodview.com/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/blank.htm
อาการต่อเนื่อง
อาการปวดตามแนวเส้นประสาทระยะจากที่โรคงูสวัดหายแล้ว (post herpetic neuralgia) คืออาการปวดเจ็บแสบร้อนตามแนวเส้นประสาทนี้ ถึงแม้ว่า ผื่นงูสวัดหายไปแล้ว แต่ก็ยังคงมีอาการปวดแสบร้อนอยู่ บางท่านเป็นอยู่หลายเดือนทำให้ทรมานพอสมควร มักพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป


อาการแทรกซ้อน
สำหรับอาการแทรกซ้อนที่สำคัญคือ อาการปวดเกิดขึ้นภายหลังจากผื่นหายหมดแล้ว มักเกิดกับผู้สูงอายุที่เป็นงูสวัดบริเวณประสาทสมองคู่ที่ 5 อาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณผื่น หรือโรคแทรกซ้อนทางตา เช่นตาอักเสบ เส้นประสาทตาอักเสบ หรือ แผลที่กระจกตา ในกรณีของผู้ป่วยที่ภูมิต้านทานต่ำ เช่น เป็นโรคเอดส์ หรือผู้ป่วยที่ได้รับยากดอิมมูน อาจมีการกระจายของผื่นทั่วตัวได้ แพทย์บางท่านอาจจะให้ยาฆ่าเชื้อไวรัสชนิดรับประทานเป็นเวลาประมาณ 5-10 วันร่วมด้วย ทั้งนี้ต้องอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา

6.วิธีรักษา

รักษาตามอาการคือ กินยาระงับอาการปวด อาการคัน เช่น พาราเซตามอล ไอดาแรค พอนสแตน คลอเฟนนิรามีน ฯลฯ
ยาต้านไวรัส ซึ่งราคาค่อนข้างแพงมาก ควรอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ เฉพาะทางด้านผิวหนัง แต่ได้ผลดีมาก ช่วยระงับอาการได้รวดเร็ว และทำให้ระยะเวลา ของโรคสั้นลง เช่น กลุ่มยาอะไซโคลเวียร์ โซวิแรกซ์ วาลเทรกซ์ แฟมซิโคลเวียร์ ไวลิม ไวโรแรกซ์ เป็นต้น
ยาทากลุ่มฆ่าเชื้อไวรัส เป็นกลุ่มยาอะไซโคลเวียร์
ยาทาพวกเสลดพังพอน ใช้ทาระงับอาการได้ดีพอสมควร ราคาไม่แพง

 

http://www.thaigoodview.com/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/blank.htm
7.วิธีป้องกัน/การปฏิบัติตน

สวัด เป็นโรคที่เชื่อว่าไม่ติดต่อ เป็นแล้วหายไปเองได้ เพียงแต่รักษาแผลให้สะอาด ในระยะเป็นตุ่มน้ำใสที่มีอาการปวดแสบปวดร้อนให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเกลืออุ่นๆ หรือ กรดบอริก 3% ปิดประคบไว้ เมื่อผ้าแห้งก็ชุบเปลี่ยนใหม่ ทำเช่นนี้วันละ 3-4 ครั้งๆ ละประมาณ 15 นาที ในระยะตุ่มน้ำแตกมีน้ำเหลืองไหลต้องระมัดระวังการติดเชื้อแบคทีเรียที่จะเข้าสู่แผลไ
ด้ ควรใช้น้ำเกลือสะอาดชะแผลแล้วปิดด้วยผ้าก๊อสที่สะอาด ถ้า ปวดแผลมากรับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล

ในรายเป็นมากหรือรุนแรงจะต้องเข้ารับการตรวจรักษากับแพทย์ทันที เช่น ผู้ป่วยสูงอายุที่มีอาการปวดและอับเสบรุนแรง ในคนที่มีภูมิต้านทานต่ำจากการได้ยากดภูมิต้านทานไว้ ได้แก่ ยาฆ่าเซลล์มะเร็ง หรือจากการได้รับการฉายรังสี หรือในผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งของตอมน้ำเหลือง เป็นต้น การรับประทานอาหารที่เกี่ยวกับโรคที่คุณเป็นนั้น สามารถรับประทานได้ทุกอย่างไม่มีข้อห้าม ยกเว้นแต่ของหมักดองที่ควรจะงด

http://www.thaigoodview.com/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/blank.htm

8.สะท้อนความคิดเห็น

8.1 ทำไมถึงสนใจศึกษาโรคนี้

เพราะข้าพเจ้าเคยเป็นและคนใกล้เคียงก็เป็นโรคนี้จึงสนใจสาเหตุที่มาของโรคนี้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรและมีแนวทางแก้ไขอย่างไรบ้าง

เพื่อจะนำข้อมูลเล่านี้ไปบอกต่อเพื่อนๆให้ได้ทราบ

8.2 คิดอย่างไรกับโรคนี้

เป็นโรคที่รบกวนจิตใจเพราะเวลาเป็นจะคันและแสบตลอดเวลา

อ้างอิงแหล่งข้อมูล

http://xchange.teenee.com/index.php?showtopic=55867.

http://www.bangkokhealth.com/index.php/2009-01-19-03-23-23/1153-2009-01-22-04-49-00

http://bbs.soizaa.com/thread-3576-1-1.html

http://www.geocities.com/HotSprings/Resort/7341/herpes.htm 

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 222 คน กำลังออนไลน์