มะเร็งเต้านม(Breast Cancer)
ชื่อโรค..........มะเร็งเต้านม(Breast Cancer)
มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบบ่อยในหญิงไทยเป็นที่สองรองจากมะเร็งปากมด
ลูกมักเกิดในหญิงอายุ 40 ปีขึ้นไปและพบมากในหญิงที่ไม่มีบุตรหรือมีบุตร
น้อยและในผู้ที่มีประวัติญาติพี่น้องเคยเป็นมะเร็งเต้านมหญิงอายุน้อยหรือชาย
ก็อาจเป็นมะเร็งเต้านมได้ แต่พบได้น้อย
ผู้ค้นพบ..........
สาเหตุของการเกิดโรค..........
ยังไม่ทราบแน่นอน แต่ในทางระบาดวิทยาอาหารไขมันสูง มีส่วน ทำให้เกิดโรคได้ ตำแหน่งเกิดของมะเร็งเต้านมมักเป็นที่ส่วนบน
ด้านนอกของ เต้านมมากกว่า ส่วนอื่น หรือ อาจเกิดจาก ฮอร์โมน, พันธุกรรมและภาวะทางสภาพแวดล้อม โดยทั่วไปมักพบมะเร็งเต้านมในผู้ป่วยอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป3 (แต่ในแถบเอเชียพบในผู้ป่วยอายุน้อยกว่านี้ได้บ่อยขึ้น) ประวัติการมีประจำเดือนครั้งแรกอายุน้อย
(early menarche) และหมดประจำเดือนช้า (late menopause) การไม่มีบุตรหรือมีบุตรคนแรก เมื่ออายุมาก โดยเฉพาะมากกว่า 30 ปี มีประวัติมะเร็งเต้านมในครอบครัวเดียวกัน4 องค์ประกอบอื่น เช่น การได้รับรังสี5,6 และปริมาณไขมันในสารอาหารที่รับประทาน3 เป็นต้น
อาการของโรค..........
ลักษณะอาการของโรค
- เริ่มจากการคลำก้อนไม่ได้จนถึงมีก้อนเล็กๆ ขึ้นที่เต้านม ส่วนมากจะไม่มี
อาการ เจ็บปวด
- ก้อนจะโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ท ำให้เต้านมมีลักษณะผิดไป อาจทำให้เต้านม
ใหญ่ขึ้น หรือบางชนิดทำให้เต้านมแข็ง หดตัวเล็กหรือแบนลงได้ ก้อนมะเร็ง
อาจจะรั้งให ้หัวนมบุ๋ม เข้าไปจากระดับเดิม หรือทำให้ผิวหนังบริเวณเต้านม
มีลักษณะ หยาบ และขรุขระ
บางรายเมื่อบีบบริเวณหัวนมจะมีน้ำเหลืองหรือเลือดไหลซึมออกมา
มะเร็งจะลุกลาม แพร่กระจายจากตำแหน่งที่เกิดได้อย่างรวดเร็วไปตาม
หลอดเลือด และน้ำเหลืองสู่อวัยวะอื่นๆ
- บริเวณที่พบการแพร่กระจายได้เร็วและบ่อยที่สุดได้แก่ ต่อมน้ำเหลือง ที่รักแร้
- ในรายที่เป็นมากแล้วเนื้อมะเร็งบางส่วนจะเน่าตาย ทำให้เกิดเป็นแผลขยาย
กว้างออกไป และมีกลิ่นเหม็นจัด
วิธีรักษา..........
ปัจจุบันนี้การรักษามะเร็งเต้านมที่ได้ผลดีที่สุดจะต้องเป็นการผสมผสานกัน38 (multidisciplinary)
ระหว่างการผ่าตัด การฉายรังสี เคมีบำบัดและ/หรือฮอร์โมนบำบัด ซึ่งต้องอาศัยทีมงานที่ประกอบด้วย
ศัลยแพทย์, รังสีรักษาแพทย์, แพทย์อายุรกรรมด้านโรคมะเร็ง ตลอดจนพยาธิแพทย์
การผ่าตัด
ถือเป็นส่วนที่สำคัญเพื่อให้ได้การวินิจฉัยโรคและใช้เป็นการรักษามะเร็งเต้านม
ในระยะเวลาเป็นร้อยปีที่ผ่านมา มีการใช้การผ่าตัดหลายรูปแบบ ตั้งแต่การทำ radical mastectomy,
supraradical mastectomy, modified radical mastectomy (MRM), simple
mastectomy และ segmentectomy หรือ tumorectomy39-42 จากการศึกษาต่าง ๆ42-44
โดยเฉพาะ NSABP B-06 trial42 แสดงให้เห็นว่า การทำ segmentectomy (quadrantectomy)
หรือ tumorectomy และตามด้วยการฉายรังสีที่เต้านม สามารถใช้เป็นการรักษามาตรฐานสำหรับ
ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่เป็น T1 T2 lesion ซึ่งเป็นวิธีการผ่าตัดแบบสงวนเต้านม (breast conservation
surgery) โดยมีผลการรักษาไม่แตกต่างจากการทำผ่าตัด modified radical mastectomy
ซึ่งเป็นวิธีการที่ตัดเต้านมออกทั้งหมด สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือ จะต้องผ่าตัดเลาะต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้
ระดับที่ I และ II ออกมาด้วย
เคมีบำบัด และฮอร์โมนบำบัด แต่เดิมใช้ในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเต้านมที่มีการแพร่กระจายของโรคหรือภาวะที่มีการลุกลามของโรคเฉพาะ
ที่อย่างรุนแรง แต่ในปัจจุบันนี้ได้ถูกพัฒนามาใช้เพื่อเป็นการรักษาเสริม45-48 (adjuvant treatment)
ในผู้ป่วยที่มีอัตราเสี่ยงต่อการกำเริบของโรคสูง เพื่อเพิ่มอัตราการปลอดโรคและเพิ่มอัตรารอดชีวิตแก่ผู้ป่วย
เนื่องจากมะเร็งเต้านมมักจะเป็น systemic disease แล้ว ในขณะที่ได้รับการวินิจฉัย
และการรักษาเฉพาะที่อย่างเดียวยากที่จะทำให้ผู้ป่วยหายขาดได้ National Cancer Institute (NCI)
ของสหรัฐอเมริกาได้มี Consensus Development Committee49 ในปี ค.ศ. 1985ซึ่งแนะนำการใช้
รังสีรักษา (Radiotherapy)
ความสำเร็จของการรักษามะเร็งเต้านม จะต้องสามารถควบคุมโรคเฉพาะที่และป้องกันหรือลดการแพร่
กระจายของโรคให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด ในส่วนของการควบคุมโรค
เฉพาะที่นั้น การใช้ยาเคมีบำบัดหรือฮอร์โมนบำบัดเพียงอย่างเดียว จะไม่สามารถให้การควบคุมโรค
เฉพาะที่ได้ดีเพียงพอโดยปราศจากการใช้การผ่าตัดและ/หรือรังสีรักษา27,50-52 ถึงแม้ว่าจะมีความพยายามในการทำผ่าตัดแบบถอนรากถอนโคนของเนื้อเยื่อ เต้านมและต่อมน้ำเหลือง
บริเวณใกล้เคียงก็ตาม ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมกลุ่มหนึ่งก็ยังคงมีการกำเริบของโรคขึ้นที่บริเวณ chest wall
และ regional lymph nodes53
วิธีการป้องกัน..........
ยังไม่มีวิธีแน่นอนในการป้องกันมะเร็ง คุณสามารถป้องกันมะเร็งด้วยการลดปัจจัยเสี่ยงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่นสมาคมมะเร็งของอเมริกาแนะนำวิธีป้องกันมะเร็งเต้านมดังนี้
เปลี่ยนแปลงอาหาร เช่น ลดอาหารเนื้อแดง ลดอาหารมัน งดเกลือ
เลือกรับประทานอาหารพวก ผักและผลไม้
ควบคุมน้ำหนักมิให้อ้วน ออกกำลังกายอาทิตย์ละ 4 ชั่วโมงช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมได้
งดเว้นการสูบบุหรี่ และ แอลกอฮอล์
ให้เตรียมอาหารและเก็บอาหารอย่างปลอดภัย
สะท้อนความคิดเห็น..........
- ควรตรวจเต้านมด้วยตนเองเดือนละครั้งเป็นประจำ หลังหมดประจำเดือน 7
วัน หากพบก้อนหรือสิ่งผิดปกติใด ๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยเร็ว
- ให้ความร่วมมือในการรักษา อย่าหลงเชื่อและเสียเวลาไปกับการรักษาโรค
มะเร็ง ด้วย วิธีการ ทางไสยศาสตร์และยากลางบ้าน เพราะมะเร็งนั้นจะโต
ขึ้นเรื่อยๆ โอกาสที่จะหายขาดจะลดลง ทุกขณะ
- พึงระลึกเสมอว่ามะเร็งของเต้านมหรืออวัยวะใดก็ตาม ถ้าได้รับการรักษาใน
ระยะเริ่มต้น เร็วเท่าไร ความหวังที่โรคจะหายขาดก็ยิ่งมีมากขึ้นเพียงนั้น
อื่นๆ..........
คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับมะเร็งเต้านม
1. ใครคือผู้มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม
ผู้หญิงทุกคน สำหรับผู้ชายมีเพียงส่วนน้อยแต่ก็สามารถเป็นได้
2. จริงหรือไม่ที่มีผู้หญิงบางกลุ่มมีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม
ใช่ เช่นผู้หญิงที่มีญาติใกล้ชิดเป็นมะเร็ง ผู้หญิงที่ไม่มีลูกหรือมีหลังจาก
อายุ 30 ปีแล้ว แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มนี้ พบว่า 80%
ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมเป็นหญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปี
3. อะไรเป็นสาเหตุของมะเร็งเต้านมและสามารถป้องกันได้หรือไม่
ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุและยังไม่มีวิธีการป้องกัน
4. มีผู้หญิงจำนวนเท่าไรที่จะเป็นมะเร็งเต้านม
ในสหรัฐอเมริกามีผู้หญิง 1 ใน 9 ที่จะเป็นมะเร็งเต้านมในช่วงชีวิต
มะเร็งเต้านมพบได้บ่อยในผู้หญิงในประเทศนี้
5. ลักษณะก่อนที่เต้านมเป็นอย่างไร
โดยทั่วไปก้อนที่เต้านมกว่า 80% เมื่อตรวจชิ้นเนื้อที่ผิดปกติพบว่าไม่ได
้ เป็นมะเร็งแต่ต้องได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์
6. ถ้าพบก้อนที่เต้านมแล้วต้องทำอย่างไร
ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจและรับคำแนะนำต่อไป
7. อะไรเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเอาชนะมะเร็งเต้านม
การค้นหามะเร็งระยะเริ่มแรกเป็ฯวิธีที่ดีที่สุด พบอัตราการอยู่รอด 5 ปี ถึง
97 % หลังการรักษามะเร็งเต้านมที่เป็นระยะแรก
8. โปรแกรมในการค้นหามะเร็งเต้านมระยะเริ่มแรกที่ดีที่สุดคืออะไร
ตรวจโดยแมมโมแกรมเป็นประจำเริ่มตั้งแต่อายุ 40 ปี ตรวจเต้านมโดย
บุคลากรทางการแพทย์เป็นประจำ ตรวจเต้านมด้วยตนเองเดือนละครั้ง
หลังจากมีประจำเดือนหรือหมดประจำเดือน ในวันเดียวกันทุกเดือน
ส่วนใหญ่ผู้หญิงมักพบสิ่งผิดปกติของเต้านมด้วยตนเอง
9. จะสามารถตรวจเต้านมด้วยแมมโมแกรมได้ที่ไหน
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ โรงพยาบาลของทบวงมหาวิทยาลัย และ
โรงพยาบาลเอกชนบางแห่ง
10. ถ้าต้องการทราบเรื่องเกี่ยวกับมะเร็งเต้านมมากกว่านี้จะเป็นอย่างไร
จดหมายสอบถามได้ที่ นายแพทย์อดิศักดิ์ ศรพรหม ฝ่ายสุขศึกษา
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ 268/1 ถนนพระราม 6 เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
10400
ที่มาของข้อมูล : http://www.thailabonline.com/sec7cabreast.htm
เรียบเรียงข้อมูลโดย : น.ส.ศุภาพิชญ์ อัครานุรักษ์กุล ม.6/4 เลขที่ 27
สวัสดีจ่ะน้องมุก
พี่น้ำเองนะ เพื่อนพี่ปรางทิพย์อ่ะ
พี่อยากติดต่อมากๆแต่ว่า
จะเขียนจดหมายไปหาก็กลัวจะย้ายบ้านกัน
ยังไงรบกวนบอกถึงปรางทิพย์ด้วยนะ
loognam_ness@hotmail.com
พี่ได้เห็นน้องมุกจากห้องพยาบาลรถโรงเรียน
สวยขึ้นเยอะเลยนะ
ถ้าได้อ่านยังไงติดต่อมาหน่อยนะ
0879005622