• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:5822ee698694e41fff4d7f5ce9a7036b' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nรายงานการประเมินตนเอง (SAR)  ด้านงานที่ได้รับมอบหมาย<br />\nชื่อ – สกุล สุริยา  บุดดี  ตำแหน่ง ครู คศ.๑ <br />\nได้ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งการมอบหมายงานประจำปีการศึกษา ๒๕๕๑ ของโรงเรียนเวียงแก่นวิทยาคม      อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ตามรายละเอียดดังนี้<br />\nตอนที่ ๑  รายงานผลการปฏิบัติงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย <br />\n๑.๑ ชื่องานที่รับผิดชอบ งานสารสนเทศ ฝ่าย บริหารงานนโยบายและแผนงาน <br />\n       ผลการปฏิบัติงาน<br />\n       ด้านปริมาณ   ๑.  มีข้อมูลสารสนเทศโรงเรียนจำนวน ๑ เล่ม <br />\n       ด้านคุณภาพ   ๑. โรงเรียนมีสารสนเทศที่เป็นปัจจุบันและสามารถให้ข้อมูลแก่บุคลากรในโรงเรียนและ<br />\n                                   หน่วยงานต่าง  ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร้อยละ ๘๐<br />\n๒. โรงเรียนได้รับการจัดสรรงบประมาณ  ครุภัณฑ์ และอื่นๆ  ร้อยละ ๘๐ จากการส่งข้อมูลสารสนเทศที่รวดเร็ว และข้อมูลเป็นปัจจุบัน <br />\n      จุดเด่นของการปฏิบัติงาน<br />\n๑. การส่งข้อมูลสารสนเทศที่รวดเร็วไม่ล่าช้าและข้อมูลถูกต้องทำให้ได้รับการจัดสรรงบประมาณ<br />\n       หรือสิ่งอื่นต่อเนื่องสม่ำเสมอ<br />\n      จุดที่ควรพัฒนา<br />\n๑. ข้อมูลสารสนเทศบางข้อมูลเป็นข้อมูลดิบยังไม่ได้มีการวิเคราะห์ทำให้ไม่สามารถนำไป                  <br />\n       ใช้ประโยชน์ได้<br />\n       ๒.  การเก็บข้อมูลสารสนเทศในแต่ละฝ่ายงานไม่มีผู้รับผิดชอบทำให้ได้ข้อมูลสารสนเทศไม่ครอบคลุม<br />\n       ๓.  การจะใช้ข้อมูลสารสนเทศแต่ละครั้งจะวุ่นวายมากเพราะไม่มีข้อมูลที่ถูกจัดเก็บเป็นหมวดหมู่<br />\n             เรียบร้อยแล้ว ในแต่ละฝ่ายงาน<br />\n       วิธีการพัฒนา<br />\n๑. แต่ละฝ่ายงานแต่งตั้งเจ้าหน้าที่สารสนเทศเก็บรวบรวมข้อมูลในฝ่ายทำการวิเคราะห์  แล้วรวบรวม<br />\n       ให้หัวหน้างานสารสนเทศโรงเรียนเพื่อจัดทำเป็นข้อมูลสารสนเทศของโรงเรียนต่อไป                  ๒.  ข้อมูลสารสนเทศต้องมีการวิเคราะห์แล้วเสมอเพื่อสามารถนำไปใช้งานได้เลย\n</p>\n<p>\n<br />\n๑.๒ ชื่องานที่รับผิดชอบ งานประกันคุณภาพการศึกษา ฝ่าย บริหารงานนโยบายและแผนงาน<br />\n       ผลการปฏิบัติงาน<br />\n       ด้านปริมาณ   ๑.  มีรายงานการประเมินตนเอง (SSR)ของโรงเรียนจำนวน ๑ เล่ม <br />\n    ๒. มีรายงานการประเมินตนเอง(SAR)ของคณะครูคนละ ๑ เล่ม<br />\n  ๓.  มีรายงานสรุปผลการประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานรอบสองจาก สมศ.   <br />\n        จำนวน ๑ เล่ม <br />\n    ๔. มีรายงานการพัฒนาคุณภาพการศึกษาประจำปีการศึกษา ๒๕๕๑ จำนวน ๑ เล่ม<br />\n      ด้านคุณภาพ   ๑.โรงเรียนมีระบบประกันคุณภาพที่มีประสิทธิภาพร้อยละ ๘๐<br />\n    ๒. นักเรียน ครู ผู้บริหาร ชุมชน มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานที่กำหนดไว้ <br />\n                                   ร้อยละ ๘๐ <br />\n           ๓. โรงเรียนผ่านการประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานรอบสองจาก สมศ. ได้คะแนน<br />\n                                   ร้อยละ ๘๓.๙๒<br />\n       จุดเด่นของการปฏิบัติงาน<br />\n       ๑.ประสานงาน จัดรวบรวมเอกสารหลักฐานมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้ง ๑๘มาตรฐานจากครูที่<br />\n           รับผิดชอบแต่ละมาตรฐาน นำมาจัดอย่างเป็นระบบเพื่อรับการประเมินมาตรฐานการศึกษาขั้น<br />\n           พื้นฐาน รอบสองจาก สมศ. ส่งผลให้โรงเรียนได้รับการรับรอง มาตรฐาน ในระดับดีมาก ๖ <br />\n          มาตรฐาน ระดับดี ๗ มาตรฐานและพอใช้ ๑ มาตรฐาน  <br />\n      จุดที่ควรพัฒนา<br />\n๑. การเก็บเอกสารหลักฐานของครูตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๑๘ มาตรฐานไม่สม่ำเสมอ<br />\n       ต่อเนื่อง <br />\n๒. ผู้รับผิดชอบมาตรฐานตามคำสั่งของโรงเรียนไม่สามารถรวบรวมเอกสาร หลักฐานครบตาม<br />\n       หลักฐานที่ต้องมีในมาตรฐานนั้น<br />\n       ๓.  ครูยังไม่ค่อยมีความรู้ความเข้าใจในมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้ง ๑๘ มาตรฐาน<br />\n       ๔.  การนิเทศติดตามงานตามมาตรฐานไม่ค่อยต่อเนื่องสม่ำเสมอ<br />\n       ๕.  ครูบางท่านไม่ค่อยให้ความสนใจเพราะคิดว่าไม่ใช่งานที่ตนเองได้รับมอบหมายหรือรับผิดชอบ<br />\n       วิธีการพัฒนา<br />\n๑. จัดอบรมให้ความรู้เรื่องมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้ง ๑๘ มาตรฐานแก่คณะครูเพื่อจะได้มี<br />\n        ความรู้ความเข้าใจมากขึ้น<br />\n       ๒.  จัดนิเทศติดตามงานตามมาตรฐานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ<br />\n  <br />\n \n</p>\n<p>\n๑.๓ ชื่องานที่รับผิดชอบ งานนโยบายและแผน  ฝ่าย บริหารงานนโยบายและแผนงาน<br />\n       ผลการปฏิบัติงาน<br />\n       ด้านปริมาณ   ๑.  มีแผนกลยุทธ์ ปีงบประมาณ ๒๕๔๙ – ๒๕๕๑ จำนวน ๑ เล่ม   <br />\n    ๒. มีแผนปฏิบัติการปีงบประมาณ ๒๕๕๒ จำนวน ๑ เล่ม<br />\n    ๓.  มีรายงานโครงการตามแผนปฏิบัติการปีงบประมาณ ๒๕๕๑ จำนวน ๑ เล่ม<br />\n                             ๔.  มีรายงานการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา(Best Practice) จำนวน ๑ เล่ม<br />\n                             ๕.  มีมาตรฐานการปฏิบัติงานปีงบประมาณ ๒๕๕๒  จำนวน ๑ เล่ม<br />\n       ด้านคุณภาพ   ๑.  การบริหารงานบรรลุผลตามนโยบายและแผนที่กำหนดไว้ ร้อยละ ๘๐<br />\n  ๒. จัดกิจกรรมตามโครงการในแผนปฏิบัติการปีงบประมาณ ๒๕๕๐ สำเร็จ       <br />\n                                    ร้อยละ ๘๐ <br />\n    ๓.  คณะครูปฏิบัติงานได้มาตรฐานตามมาตรฐานการปฏิบัติงานปีงบประมาณ ๒๕๕๑ <br />\n                                   ร้อยละ ๘๐<br />\n           ๔.  งานนโยบายและแผนเป็นระบบและมีประสิทธิภาพร้อยละ ๘๐    <br />\n       จุดเด่นของการปฏิบัติงาน<br />\n๑. จัดทำแผนกลยุทธ์  แผนปฏิบัติการประจำปี มาตรฐานการปฏิบัติงาน ได้อย่างชัดเจนทำให้สามารถ<br />\n       ดำเนินงานหรือจัดกิจกรรมต่างๆได้ตามแผนจนบรรลุเป้าหมายที่วางไว้อย่างเป็นระบบ<br />\n      จุดที่ควรพัฒนา<br />\n๑. การส่งโครงการตามแผนปฏิบัติการประจำปี  ของคณะครูล่าช้าไม่ทันส่งตามกำหนดทำให้การจัดทำรูปเล่มล่าช้าไปด้วย<br />\n๒. งบประมาณที่เขียนไว้ในโครงการไม่ได้ดำเนินการตามที่เขียนไว้   <br />\n       ๓.  มาตรฐานการปฏิบัติงานบางงานไม่ส่ง<br />\n       วิธีการพัฒนา<br />\n       ๑.  จัดทำโครงการร่วมกันและส่งในเวลานั้นเลย<br />\n       ๒. โครงการใดไม่ดำเนินงานตามโครงการที่เขียนไว้ไม่อนุมัติให้ใช้เงินยกเว้นกรณีที่มีความจำเป็น<br />\n              จริงๆ<br />\n <br />\n ตอนที่ ๒  รายงานผลจากการดำเนินโครงการตามแผนปฏิบัติการประจำปี <br />\n๒.๑ ชื่อโครงการ พัฒนาการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ งบประมาณที่ได้รับจัดสรร - บาท<br />\n       เป้าหมายของโครงการ<br />\n๑. พัฒนาความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับชั้นม.๓ , ม.๔และไดโนเสาร์ของไทย ม.๖ ให้มีผลสัมฤทธิ์ผ่านเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด<br />\n       กิจกรรมการดำเนินงานโครงการ<br />\n       ๑.  จัดหา จัดทำสื่อการเรียนการสอน          ๒.  พัฒนาการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์และฟิสิกส์<br />\n       ๓.  ปรับปรุงพัฒนาบรรยากาศในชั้นเรียน     ๔.  ประเมินและสรุปรายงานผลตามโครงการ<br />\n      ผลการดำเนินงาน<br />\nด้านปริมาณ ๑.  มีสื่อการสอนด้าน ICT วิชาฟิสิกส์ ม.๔  จำนวน ๖ เรื่อง<br />\n                    ๒. มีสื่อการสอนด้าน ICT วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม.๓  จำนวน ๗ เรื่อง<br />\n         ๓.  มีแผนการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม.๓  จำนวน ๕ หน่วย<br />\n                           ละๆ ๑ เล่ม <br />\n       ๔.  มีแผนการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๑<br />\n             หน่วย จำนวน ๔ แผน ๑ เล่ม หน่วยเรื่อง “ดำเนินวิถีชีวิตประจำวัน บน<br />\n             ถนนแห่งความพอเพียง” <br />\n      ๕.  มีแผนการจัดการเรียนรู้แบบ Backward Design  จำนวน ๑ หน่วย<br />\n      ๖.  มีวิจัยในชั้นเรียน จำนวน ๑ เรื่อง เรื่องการพัฒนาทักษะการค้นคว้าความรู้<br />\n            วิทยาศาสตร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓/๓    <br />\n     ๗.  มีผลงานนักเรียนจำนวน  ๔  ชิ้น ในรายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม.๓   ได้แก่ ปฏิทินเทคนิคการประหยัดพลังงานไฟฟ้า , ชิ้นงานหน่วยที่ ๑ – ๕ , <br />\n                                                  โครงงานวิทยาศาสตร์,ชิ้นงานแผนบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง<br />\n      ๘.  มีห้องวิทยาศาสตร์ ๑ ห้อง ที่เอื้อต่อการเรียนรู้  <br />\n            ด้านคุณภาพ    ๑.  นักเรียนร้อยละ ๑๐๐ ได้รับการพัฒนาทักษะวิทยาศาสตร์ <br />\n                        ๒.  นักเรียนร้อยละ ๘๐ มีพื้นฐานความรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์และไดโนเสาร์<br />\n                              ของไทย<br />\n                        ๓.  นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์คิดเป็นร้อยละ ๘๐<br />\n <br />\n      จุดเด่นของการดำเนินงาน<br />\n       ๑.  การกำหนดชิ้นงานที่ให้นักเรียนทำได้อย่างชัดเจน  มีการวัดและประเมินผลที่หลากหลายวิธี<br />\n      จุดที่ควรพัฒนา<br />\n๑. นักเรียนไม่ค่อยมีพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เพราะเป็นวิชาที่ต้องนำมาใช้ในการ<br />\nเรียนและการคิดคำนวณทำให้ได้ผลการเรียนที่ต่ำ<br />\n๒. กิจกรรมการจัดการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ยังไม่ค่อยหลากหลาย ขาดอุปกรณ์การทดลอง<br />\n      บางอย่าง และนักเรียนไม่ค่อยได้ปฏิบัติจริง อีกทั้งบางชั่วโมงที่มีเรียนตรงกับการจัดกิจกรรมทำ<br />\n      ให้ผลการเรียนค่อนข้างต่ำ   <br />\n วิธีการพัฒนา<br />\n       ๑.  การสอนซ่อมเสริม การให้ฝึกคิดฝึกทำใบงาน แบบฝึกหัด ข้อสอบบ่อยๆ และอ่านหนังสือให้มากขึ้น  <br />\n       ๒. จัดกิจกรรมหลากหลายแปลกใหม่กระตุ้นความสนใจ ให้ปฏิบัติจริง ทดลองมากขึ้น <br />\n๒.๒ ชื่อโครงการ พัฒนางานระบบสารสนเทศโรงเรียน งบประมาณที่ได้รับจัดสรร ๒๕,๐๐๐ บาท<br />\n       เป้าหมายของโครงการ<br />\n       ๑.  พัฒนาจัดการข้อมูลสารสนเทศอย่างเป็นระบบครอบคลุมและทันต่อการใช้งานและบริการ<br />\n       กิจกรรมการดำเนินงานโครงการ<br />\n       ๑.  จัดทำข้อมูลสารสนเทศโรงเรียนและเอกสารอื่นๆเป็นรูปเล่ม<br />\n       ๒.  จัดระบบการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศเป็นแฟ้มและลงเว็บไซด์<br />\n       ๓.  กรอกข้อมูล โปรแกรมStudents 44<br />\n       ๔.  กรอกข้อมูล โปรแกรมObec 51<br />\n       ๕.  กรอกข้อมูลโรงเรียนในฝัน<br />\n       ๖.  กรอกข้อมูล โปรแกรม Onweb<br />\n       ๗.  กรอกข้อมูลโปรแกรม M-obec  , B-obec<br />\n       ๘.  ประเมินและสรุปรายงานผลการจัดกิจกรรม<br />\n       ๙.  โปรแกรมคำนวณต้นทุนผลผลิต<br />\n       ๑๐. คำรับรองการปฏิบัติราชการ <br />\n      ผลการดำเนินงาน<br />\n       ด้านปริมาณ   ๑.  มีข้อมูลสารสนเทศโรงเรียนจำนวน ๑ เล่ม <br />\n       ด้านคุณภาพ   ๑. โรงเรียนมีสารสนเทศที่เป็นปัจจุบันและสามารถให้ข้อมูลแก่บุคลากรในโรงเรียนและ<br />\n                                   หน่วยงานต่าง  ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร้อยละ ๘๐<br />\n  ๒. โรงเรียนได้รับการจัดสรรงบประมาณ  ครุภัณฑ์ และอื่นๆ  ร้อยละ ๘๐ จากการส่ง<br />\n        ข้อมูลสารสนเทศที่รวดเร็ว และข้อมูลเป็นปัจจุบัน <br />\n      <br />\nจุดเด่นของการดำเนินงาน<br />\n๑. การส่งข้อมูลสารสนเทศที่รวดเร็วไม่ล่าช้าและข้อมูลถูกต้องทำให้ได้รับการจัดสรรงบประมาณ<br />\n       หรือสิ่งอื่นต่อเนื่องสม่ำเสมอ<br />\n      จุดที่ควรพัฒนา<br />\n๑. ข้อมูลสารสนเทศบางข้อมูลเป็นข้อมูลดิบยังไม่ได้มีการวิเคราะห์ทำให้ไม่สามารถนำไป                  <br />\n       ใช้ประโยชน์ได้<br />\n       ๒.  การเก็บข้อมูลสารสนเทศในแต่ละฝ่ายงานไม่มีผู้รับผิดชอบทำให้ได้ข้อมูลสารสนเทศไม่ครอบคลุม<br />\n       ๓.  การจะใช้ข้อมูลสารสนเทศแต่ละครั้งจะวุ่นวายมากเพราะไม่มีข้อมูลที่ถูกจัดเก็บเป็นหมวดหมู่<br />\n             เรียบร้อยแล้ว ในแต่ละฝ่ายงาน<br />\nวิธีการพัฒนา<br />\n๑. แต่ละฝ่ายงานแต่งตั้งเจ้าหน้าที่สารสนเทศเก็บรวบรวมข้อมูลในฝ่ายทำการวิเคราะห์  แล้วรวบรวม<br />\n       ให้หัวหน้างานสารสนเทศโรงเรียนเพื่อจัดทำเป็นข้อมูลสารสนเทศของโรงเรียนต่อไป                  ๒.  ข้อมูลสารสนเทศต้องมีการวิเคราะห์แล้วเสมอเพื่อสามารถนำไปใช้งานได้เลย\n</p>\n<p>\n๒.๓ ชื่อโครงการ ระบบประกันคุณภาพภายใน   งบประมาณที่ได้รับจัดสรร   ๒,๕๐๐   บาท<br />\n       เป้าหมายของโครงการ<br />\n       ๑.  พัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล<br />\n       กิจกรรมการดำเนินงานโครงการ<br />\n       ๑.  แต่งตั้งผู้รับผิดชอบแต่ละมาตรฐาน  ๒.  วางแผนดำเนินการประกันคุณภาพภายใน<br />\n       ๓.  ดำเนินการประกันคุณภาพภายใน               ๔.  ติดตามประเมินผล<br />\n      ผลการดำเนินงาน<br />\n      ด้านปริมาณ   ๑.  มีรายงานการประเมินตนเอง (SSR)ของโรงเรียนจำนวน ๑ เล่ม <br />\n    ๒. มีรายงานการประเมินตนเอง(SAR)ของคณะครูคนละ ๑ เล่ม<br />\n  ๓.  มีรายงานสรุปผลการประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานรอบสองจาก สมศ.   <br />\n        จำนวน ๑ เล่ม <br />\n    ๔. มีรายงานการพัฒนาคุณภาพการศึกษาประจำปีการศึกษา ๒๕๕๐ จำนวน ๑ เล่ม<br />\n      ด้านคุณภาพ    ๑.โรงเรียนมีระบบประกันคุณภาพที่มีประสิทธิภาพร้อยละ ๘๐<br />\n    ๒. นักเรียน ครู ผู้บริหาร ชุมชน มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานที่กำหนดไว้ <br />\n                                   ร้อยละ ๘๐ <br />\n           ๓. โรงเรียนผ่านการประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานรอบสองจาก สมศ. ได้คะแนน<br />\n                                   ร้อยละ ๘๓.๙๒<br />\n    <br />\n   จุดเด่นของการปฏิบัติงาน<br />\n       ๑.ประสานงาน จัดรวบรวมเอกสารหลักฐานมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้ง ๑๘มาตรฐานจากครูที่<br />\n           รับผิดชอบแต่ละมาตรฐาน นำมาจัดอย่างเป็นระบบเพื่อรับการประเมินมาตรฐานการศึกษาขั้น<br />\n           พื้นฐาน รอบสองจาก สมศ. ส่งผลให้โรงเรียนได้รับการรับรอง มาตรฐาน ในระดับดีมาก ๖ <br />\n          มาตรฐาน ระดับดี ๗ มาตรฐานและพอใช้ ๑ มาตรฐาน  <br />\n      จุดที่ควรพัฒนา<br />\n๑. การเก็บเอกสารหลักฐานของครูตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๑๘ มาตรฐานไม่สม่ำเสมอ<br />\n       ต่อเนื่อง <br />\n๒. ผู้รับผิดชอบมาตรฐานตามคำสั่งของโรงเรียนไม่สามารถรวบรวมเอกสาร หลักฐานครบตาม<br />\n       หลักฐานที่ต้องมีในมาตรฐานนั้น<br />\n       ๓.  ครูยังไม่ค่อยมีความรู้ความเข้าใจในมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้ง ๑๘ มาตรฐาน<br />\n       ๔.  การนิเทศติดตามงานตามมาตรฐานไม่ค่อยต่อเนื่องสม่ำเสมอ<br />\n       ๕.  ครูบางท่านไม่ค่อยให้ความสนใจเพราะคิดว่าไม่ใช่งานที่ตนเองได้รับมอบหมายหรือรับผิดชอบ<br />\n           วิธีการพัฒนา<br />\n๑. จัดอบรมให้ความรู้เรื่องมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้ง ๑๘ มาตรฐานแก่คณะครูเพื่อจะได้มี<br />\n               ความรู้ความเข้าใจมากขึ้น <br />\n       ๒.  จัดนิเทศติดตามงานตามมาตรฐานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<br />\n \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nภาคผนวก\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n', created = 1715641677, expire = 1715728077, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:5822ee698694e41fff4d7f5ce9a7036b' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

SAR นายสุริยา บุดดี ด้านงานที่รับผิดชอบ

รายงานการประเมินตนเอง (SAR)  ด้านงานที่ได้รับมอบหมาย
ชื่อ – สกุล สุริยา  บุดดี  ตำแหน่ง ครู คศ.๑
ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งการมอบหมายงานประจำปีการศึกษา ๒๕๕๑ ของโรงเรียนเวียงแก่นวิทยาคม      อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ตามรายละเอียดดังนี้
ตอนที่ ๑  รายงานผลการปฏิบัติงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
๑.๑ ชื่องานที่รับผิดชอบ งานสารสนเทศ ฝ่าย บริหารงานนโยบายและแผนงาน
       ผลการปฏิบัติงาน
       ด้านปริมาณ   ๑.  มีข้อมูลสารสนเทศโรงเรียนจำนวน ๑ เล่ม
       ด้านคุณภาพ   ๑. โรงเรียนมีสารสนเทศที่เป็นปัจจุบันและสามารถให้ข้อมูลแก่บุคลากรในโรงเรียนและ
                                   หน่วยงานต่าง  ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร้อยละ ๘๐
๒. โรงเรียนได้รับการจัดสรรงบประมาณ  ครุภัณฑ์ และอื่นๆ  ร้อยละ ๘๐ จากการส่งข้อมูลสารสนเทศที่รวดเร็ว และข้อมูลเป็นปัจจุบัน
      จุดเด่นของการปฏิบัติงาน
๑. การส่งข้อมูลสารสนเทศที่รวดเร็วไม่ล่าช้าและข้อมูลถูกต้องทำให้ได้รับการจัดสรรงบประมาณ
       หรือสิ่งอื่นต่อเนื่องสม่ำเสมอ
      จุดที่ควรพัฒนา
๑. ข้อมูลสารสนเทศบางข้อมูลเป็นข้อมูลดิบยังไม่ได้มีการวิเคราะห์ทำให้ไม่สามารถนำไป                 
       ใช้ประโยชน์ได้
       ๒.  การเก็บข้อมูลสารสนเทศในแต่ละฝ่ายงานไม่มีผู้รับผิดชอบทำให้ได้ข้อมูลสารสนเทศไม่ครอบคลุม
       ๓.  การจะใช้ข้อมูลสารสนเทศแต่ละครั้งจะวุ่นวายมากเพราะไม่มีข้อมูลที่ถูกจัดเก็บเป็นหมวดหมู่
             เรียบร้อยแล้ว ในแต่ละฝ่ายงาน
       วิธีการพัฒนา
๑. แต่ละฝ่ายงานแต่งตั้งเจ้าหน้าที่สารสนเทศเก็บรวบรวมข้อมูลในฝ่ายทำการวิเคราะห์  แล้วรวบรวม
       ให้หัวหน้างานสารสนเทศโรงเรียนเพื่อจัดทำเป็นข้อมูลสารสนเทศของโรงเรียนต่อไป                  ๒.  ข้อมูลสารสนเทศต้องมีการวิเคราะห์แล้วเสมอเพื่อสามารถนำไปใช้งานได้เลย


๑.๒ ชื่องานที่รับผิดชอบ งานประกันคุณภาพการศึกษา ฝ่าย บริหารงานนโยบายและแผนงาน
       ผลการปฏิบัติงาน
       ด้านปริมาณ   ๑.  มีรายงานการประเมินตนเอง (SSR)ของโรงเรียนจำนวน ๑ เล่ม
    ๒. มีรายงานการประเมินตนเอง(SAR)ของคณะครูคนละ ๑ เล่ม
  ๓.  มีรายงานสรุปผลการประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานรอบสองจาก สมศ.  
        จำนวน ๑ เล่ม
    ๔. มีรายงานการพัฒนาคุณภาพการศึกษาประจำปีการศึกษา ๒๕๕๑ จำนวน ๑ เล่ม
      ด้านคุณภาพ   ๑.โรงเรียนมีระบบประกันคุณภาพที่มีประสิทธิภาพร้อยละ ๘๐
    ๒. นักเรียน ครู ผู้บริหาร ชุมชน มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานที่กำหนดไว้
                                   ร้อยละ ๘๐
           ๓. โรงเรียนผ่านการประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานรอบสองจาก สมศ. ได้คะแนน
                                   ร้อยละ ๘๓.๙๒
       จุดเด่นของการปฏิบัติงาน
       ๑.ประสานงาน จัดรวบรวมเอกสารหลักฐานมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้ง ๑๘มาตรฐานจากครูที่
           รับผิดชอบแต่ละมาตรฐาน นำมาจัดอย่างเป็นระบบเพื่อรับการประเมินมาตรฐานการศึกษาขั้น
           พื้นฐาน รอบสองจาก สมศ. ส่งผลให้โรงเรียนได้รับการรับรอง มาตรฐาน ในระดับดีมาก ๖
          มาตรฐาน ระดับดี ๗ มาตรฐานและพอใช้ ๑ มาตรฐาน 
      จุดที่ควรพัฒนา
๑. การเก็บเอกสารหลักฐานของครูตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๑๘ มาตรฐานไม่สม่ำเสมอ
       ต่อเนื่อง
๒. ผู้รับผิดชอบมาตรฐานตามคำสั่งของโรงเรียนไม่สามารถรวบรวมเอกสาร หลักฐานครบตาม
       หลักฐานที่ต้องมีในมาตรฐานนั้น
       ๓.  ครูยังไม่ค่อยมีความรู้ความเข้าใจในมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้ง ๑๘ มาตรฐาน
       ๔.  การนิเทศติดตามงานตามมาตรฐานไม่ค่อยต่อเนื่องสม่ำเสมอ
       ๕.  ครูบางท่านไม่ค่อยให้ความสนใจเพราะคิดว่าไม่ใช่งานที่ตนเองได้รับมอบหมายหรือรับผิดชอบ
       วิธีการพัฒนา
๑. จัดอบรมให้ความรู้เรื่องมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้ง ๑๘ มาตรฐานแก่คณะครูเพื่อจะได้มี
        ความรู้ความเข้าใจมากขึ้น
       ๒.  จัดนิเทศติดตามงานตามมาตรฐานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ
 
 

๑.๓ ชื่องานที่รับผิดชอบ งานนโยบายและแผน  ฝ่าย บริหารงานนโยบายและแผนงาน
       ผลการปฏิบัติงาน
       ด้านปริมาณ   ๑.  มีแผนกลยุทธ์ ปีงบประมาณ ๒๕๔๙ – ๒๕๕๑ จำนวน ๑ เล่ม  
    ๒. มีแผนปฏิบัติการปีงบประมาณ ๒๕๕๒ จำนวน ๑ เล่ม
    ๓.  มีรายงานโครงการตามแผนปฏิบัติการปีงบประมาณ ๒๕๕๑ จำนวน ๑ เล่ม
                             ๔.  มีรายงานการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา(Best Practice) จำนวน ๑ เล่ม
                             ๕.  มีมาตรฐานการปฏิบัติงานปีงบประมาณ ๒๕๕๒  จำนวน ๑ เล่ม
       ด้านคุณภาพ   ๑.  การบริหารงานบรรลุผลตามนโยบายและแผนที่กำหนดไว้ ร้อยละ ๘๐
  ๒. จัดกิจกรรมตามโครงการในแผนปฏิบัติการปีงบประมาณ ๒๕๕๐ สำเร็จ      
                                    ร้อยละ ๘๐ 
    ๓.  คณะครูปฏิบัติงานได้มาตรฐานตามมาตรฐานการปฏิบัติงานปีงบประมาณ ๒๕๕๑
                                   ร้อยละ ๘๐
           ๔.  งานนโยบายและแผนเป็นระบบและมีประสิทธิภาพร้อยละ ๘๐   
       จุดเด่นของการปฏิบัติงาน
๑. จัดทำแผนกลยุทธ์  แผนปฏิบัติการประจำปี มาตรฐานการปฏิบัติงาน ได้อย่างชัดเจนทำให้สามารถ
       ดำเนินงานหรือจัดกิจกรรมต่างๆได้ตามแผนจนบรรลุเป้าหมายที่วางไว้อย่างเป็นระบบ
      จุดที่ควรพัฒนา
๑. การส่งโครงการตามแผนปฏิบัติการประจำปี  ของคณะครูล่าช้าไม่ทันส่งตามกำหนดทำให้การจัดทำรูปเล่มล่าช้าไปด้วย
๒. งบประมาณที่เขียนไว้ในโครงการไม่ได้ดำเนินการตามที่เขียนไว้  
       ๓.  มาตรฐานการปฏิบัติงานบางงานไม่ส่ง
       วิธีการพัฒนา
       ๑.  จัดทำโครงการร่วมกันและส่งในเวลานั้นเลย
       ๒. โครงการใดไม่ดำเนินงานตามโครงการที่เขียนไว้ไม่อนุมัติให้ใช้เงินยกเว้นกรณีที่มีความจำเป็น
              จริงๆ
 
 ตอนที่ ๒  รายงานผลจากการดำเนินโครงการตามแผนปฏิบัติการประจำปี
๒.๑ ชื่อโครงการ พัฒนาการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ งบประมาณที่ได้รับจัดสรร - บาท
       เป้าหมายของโครงการ
๑. พัฒนาความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับชั้นม.๓ , ม.๔และไดโนเสาร์ของไทย ม.๖ ให้มีผลสัมฤทธิ์ผ่านเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด
       กิจกรรมการดำเนินงานโครงการ
       ๑.  จัดหา จัดทำสื่อการเรียนการสอน          ๒.  พัฒนาการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์และฟิสิกส์
       ๓.  ปรับปรุงพัฒนาบรรยากาศในชั้นเรียน     ๔.  ประเมินและสรุปรายงานผลตามโครงการ
      ผลการดำเนินงาน
ด้านปริมาณ ๑.  มีสื่อการสอนด้าน ICT วิชาฟิสิกส์ ม.๔  จำนวน ๖ เรื่อง
                    ๒. มีสื่อการสอนด้าน ICT วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม.๓  จำนวน ๗ เรื่อง
         ๓.  มีแผนการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม.๓  จำนวน ๕ หน่วย
                           ละๆ ๑ เล่ม
       ๔.  มีแผนการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๑
             หน่วย จำนวน ๔ แผน ๑ เล่ม หน่วยเรื่อง “ดำเนินวิถีชีวิตประจำวัน บน
             ถนนแห่งความพอเพียง”
      ๕.  มีแผนการจัดการเรียนรู้แบบ Backward Design  จำนวน ๑ หน่วย
      ๖.  มีวิจัยในชั้นเรียน จำนวน ๑ เรื่อง เรื่องการพัฒนาทักษะการค้นคว้าความรู้
            วิทยาศาสตร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓/๓   
     ๗.  มีผลงานนักเรียนจำนวน  ๔  ชิ้น ในรายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม.๓   ได้แก่ ปฏิทินเทคนิคการประหยัดพลังงานไฟฟ้า , ชิ้นงานหน่วยที่ ๑ – ๕ ,
                                                  โครงงานวิทยาศาสตร์,ชิ้นงานแผนบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
      ๘.  มีห้องวิทยาศาสตร์ ๑ ห้อง ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ 
            ด้านคุณภาพ    ๑.  นักเรียนร้อยละ ๑๐๐ ได้รับการพัฒนาทักษะวิทยาศาสตร์
                        ๒.  นักเรียนร้อยละ ๘๐ มีพื้นฐานความรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์และไดโนเสาร์
                              ของไทย
                        ๓.  นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์คิดเป็นร้อยละ ๘๐
 
      จุดเด่นของการดำเนินงาน
       ๑.  การกำหนดชิ้นงานที่ให้นักเรียนทำได้อย่างชัดเจน  มีการวัดและประเมินผลที่หลากหลายวิธี
      จุดที่ควรพัฒนา
๑. นักเรียนไม่ค่อยมีพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เพราะเป็นวิชาที่ต้องนำมาใช้ในการ
เรียนและการคิดคำนวณทำให้ได้ผลการเรียนที่ต่ำ
๒. กิจกรรมการจัดการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ยังไม่ค่อยหลากหลาย ขาดอุปกรณ์การทดลอง
      บางอย่าง และนักเรียนไม่ค่อยได้ปฏิบัติจริง อีกทั้งบางชั่วโมงที่มีเรียนตรงกับการจัดกิจกรรมทำ
      ให้ผลการเรียนค่อนข้างต่ำ   
 วิธีการพัฒนา
       ๑.  การสอนซ่อมเสริม การให้ฝึกคิดฝึกทำใบงาน แบบฝึกหัด ข้อสอบบ่อยๆ และอ่านหนังสือให้มากขึ้น 
       ๒. จัดกิจกรรมหลากหลายแปลกใหม่กระตุ้นความสนใจ ให้ปฏิบัติจริง ทดลองมากขึ้น
๒.๒ ชื่อโครงการ พัฒนางานระบบสารสนเทศโรงเรียน งบประมาณที่ได้รับจัดสรร ๒๕,๐๐๐ บาท
       เป้าหมายของโครงการ
       ๑.  พัฒนาจัดการข้อมูลสารสนเทศอย่างเป็นระบบครอบคลุมและทันต่อการใช้งานและบริการ
       กิจกรรมการดำเนินงานโครงการ
       ๑.  จัดทำข้อมูลสารสนเทศโรงเรียนและเอกสารอื่นๆเป็นรูปเล่ม
       ๒.  จัดระบบการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศเป็นแฟ้มและลงเว็บไซด์
       ๓.  กรอกข้อมูล โปรแกรมStudents 44
       ๔.  กรอกข้อมูล โปรแกรมObec 51
       ๕.  กรอกข้อมูลโรงเรียนในฝัน
       ๖.  กรอกข้อมูล โปรแกรม Onweb
       ๗.  กรอกข้อมูลโปรแกรม M-obec  , B-obec
       ๘.  ประเมินและสรุปรายงานผลการจัดกิจกรรม
       ๙.  โปรแกรมคำนวณต้นทุนผลผลิต
       ๑๐. คำรับรองการปฏิบัติราชการ
      ผลการดำเนินงาน
       ด้านปริมาณ   ๑.  มีข้อมูลสารสนเทศโรงเรียนจำนวน ๑ เล่ม
       ด้านคุณภาพ   ๑. โรงเรียนมีสารสนเทศที่เป็นปัจจุบันและสามารถให้ข้อมูลแก่บุคลากรในโรงเรียนและ
                                   หน่วยงานต่าง  ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร้อยละ ๘๐
  ๒. โรงเรียนได้รับการจัดสรรงบประมาณ  ครุภัณฑ์ และอื่นๆ  ร้อยละ ๘๐ จากการส่ง
        ข้อมูลสารสนเทศที่รวดเร็ว และข้อมูลเป็นปัจจุบัน
     
จุดเด่นของการดำเนินงาน
๑. การส่งข้อมูลสารสนเทศที่รวดเร็วไม่ล่าช้าและข้อมูลถูกต้องทำให้ได้รับการจัดสรรงบประมาณ
       หรือสิ่งอื่นต่อเนื่องสม่ำเสมอ
      จุดที่ควรพัฒนา
๑. ข้อมูลสารสนเทศบางข้อมูลเป็นข้อมูลดิบยังไม่ได้มีการวิเคราะห์ทำให้ไม่สามารถนำไป                 
       ใช้ประโยชน์ได้
       ๒.  การเก็บข้อมูลสารสนเทศในแต่ละฝ่ายงานไม่มีผู้รับผิดชอบทำให้ได้ข้อมูลสารสนเทศไม่ครอบคลุม
       ๓.  การจะใช้ข้อมูลสารสนเทศแต่ละครั้งจะวุ่นวายมากเพราะไม่มีข้อมูลที่ถูกจัดเก็บเป็นหมวดหมู่
             เรียบร้อยแล้ว ในแต่ละฝ่ายงาน
วิธีการพัฒนา
๑. แต่ละฝ่ายงานแต่งตั้งเจ้าหน้าที่สารสนเทศเก็บรวบรวมข้อมูลในฝ่ายทำการวิเคราะห์  แล้วรวบรวม
       ให้หัวหน้างานสารสนเทศโรงเรียนเพื่อจัดทำเป็นข้อมูลสารสนเทศของโรงเรียนต่อไป                  ๒.  ข้อมูลสารสนเทศต้องมีการวิเคราะห์แล้วเสมอเพื่อสามารถนำไปใช้งานได้เลย

๒.๓ ชื่อโครงการ ระบบประกันคุณภาพภายใน   งบประมาณที่ได้รับจัดสรร   ๒,๕๐๐   บาท
       เป้าหมายของโครงการ
       ๑.  พัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
       กิจกรรมการดำเนินงานโครงการ
       ๑.  แต่งตั้งผู้รับผิดชอบแต่ละมาตรฐาน  ๒.  วางแผนดำเนินการประกันคุณภาพภายใน
       ๓.  ดำเนินการประกันคุณภาพภายใน               ๔.  ติดตามประเมินผล
      ผลการดำเนินงาน
      ด้านปริมาณ   ๑.  มีรายงานการประเมินตนเอง (SSR)ของโรงเรียนจำนวน ๑ เล่ม
    ๒. มีรายงานการประเมินตนเอง(SAR)ของคณะครูคนละ ๑ เล่ม
  ๓.  มีรายงานสรุปผลการประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานรอบสองจาก สมศ.  
        จำนวน ๑ เล่ม
    ๔. มีรายงานการพัฒนาคุณภาพการศึกษาประจำปีการศึกษา ๒๕๕๐ จำนวน ๑ เล่ม
      ด้านคุณภาพ    ๑.โรงเรียนมีระบบประกันคุณภาพที่มีประสิทธิภาพร้อยละ ๘๐
    ๒. นักเรียน ครู ผู้บริหาร ชุมชน มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานที่กำหนดไว้
                                   ร้อยละ ๘๐
           ๓. โรงเรียนผ่านการประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานรอบสองจาก สมศ. ได้คะแนน
                                   ร้อยละ ๘๓.๙๒
   
   จุดเด่นของการปฏิบัติงาน
       ๑.ประสานงาน จัดรวบรวมเอกสารหลักฐานมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้ง ๑๘มาตรฐานจากครูที่
           รับผิดชอบแต่ละมาตรฐาน นำมาจัดอย่างเป็นระบบเพื่อรับการประเมินมาตรฐานการศึกษาขั้น
           พื้นฐาน รอบสองจาก สมศ. ส่งผลให้โรงเรียนได้รับการรับรอง มาตรฐาน ในระดับดีมาก ๖
          มาตรฐาน ระดับดี ๗ มาตรฐานและพอใช้ ๑ มาตรฐาน 
      จุดที่ควรพัฒนา
๑. การเก็บเอกสารหลักฐานของครูตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๑๘ มาตรฐานไม่สม่ำเสมอ
       ต่อเนื่อง
๒. ผู้รับผิดชอบมาตรฐานตามคำสั่งของโรงเรียนไม่สามารถรวบรวมเอกสาร หลักฐานครบตาม
       หลักฐานที่ต้องมีในมาตรฐานนั้น
       ๓.  ครูยังไม่ค่อยมีความรู้ความเข้าใจในมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้ง ๑๘ มาตรฐาน
       ๔.  การนิเทศติดตามงานตามมาตรฐานไม่ค่อยต่อเนื่องสม่ำเสมอ
       ๕.  ครูบางท่านไม่ค่อยให้ความสนใจเพราะคิดว่าไม่ใช่งานที่ตนเองได้รับมอบหมายหรือรับผิดชอบ
           วิธีการพัฒนา
๑. จัดอบรมให้ความรู้เรื่องมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้ง ๑๘ มาตรฐานแก่คณะครูเพื่อจะได้มี
               ความรู้ความเข้าใจมากขึ้น
       ๒.  จัดนิเทศติดตามงานตามมาตรฐานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ

 

 

 

 


 

 

 

ภาคผนวก

 

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 490 คน กำลังออนไลน์