• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:a647e6ed6161e4df9ab6c23b401c02cc' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n<span style=\"font-size: x-large\"><span style=\"color: #000000\"><strong><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">นโยบายต่างประเทศของไทย ข้อเสนอการปรับรื้อระบบ </span></strong></span></span>\n</p>\n<p><span style=\"font-size: x-large\"><span style=\"color: #000000\"><strong><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\"></span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"><o:p></o:p></span></strong></span></span><strong><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt; font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">ญี่ปุ่น ไม่ได้เน้นการลงทุนจากต่างชาติ เพราะญี่ปุ่นกลัวว่า ถ้าต่างชาติเข้ามามากเกินไป จะทำให้ระบบเศรษฐกิจต้องพึ่งพาต่างชาติ ต้องสูญเสียเอกราช ด้านเศรษฐกิจ</span></span></strong><strong><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-size: 16pt; font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\"></span><span style=\"font-size: 16pt; font-family: \'Angsana New\'\"><o:p></o:p></span></span></strong><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span><strong>เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีข่าวว่า สำนักงาน ก.<span lang=\"TH\">พ</span>.<span lang=\"TH\">กับ</span></strong></span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">กระทรวงเศรษฐกิจ </span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\">6 <span lang=\"TH\">กระทรวง ได้หารือแผนการปรับโครงสร้างใหม่ เพื่อเพิ่มศักยภาพใน</span></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"><span lang=\"TH\">การแข่งขันด้านการค้าของไทย โดยได้มีข้อเสนอให้รวมกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นกระทรวง </span>&quot;Miti&quot; <span lang=\"TH\">เลียนแบบของญี่ปุ่น </span><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">คอลัมน์วันนี้ ผมจึงอยากจะวิเคราะห์ถึงปัญหาในด้านโครงสร้างของนโยบายต่างประเทศด้านเศรษฐกิจของไทย และผมอยากจะพูดถึงข้อเสนอแนะต่างๆ ซึ่งมีอยู่มากมายทีเดียว ในเรื่องของการปรับโครงสร้าง </span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">ก่อนอื่น ผมอยากจะกล่าวว่า ในเรื่องหน่วยงาน หรือกลไกที่เกี่ยวข้องกับการกำหนด และดำเนินนโยบายต่างประเทศของไทยด้านเศรษฐกิจนั้น มีอยู่มากมายหลายหน่วยงานด้วยกัน ที่สำคัญได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตร และกระทรวงอุตสาหกรรม </span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุที่มีหลายหน่วยงานที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศของไทย จึงมักจะเกิดปัญหาในเรื่องของการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ การที่ไทยจะมีท่าที มีนโยบายต่างประเทศที่เป็นเอกภาพได้ จำเป็นจะต้องมีการประสานงาน ประสานท่าที แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่างๆ ตัวอย่างเช่น กระทรวงการต่างประเทศจำเป็นต้องรู้ว่า กระทรวงพาณิชย์กำลังทำอะไรอยู่ เช่นเดียวกับกระทรวงพาณิชย์ก็ต้องรู้ว่า กระทรวงการต่างประเทศกำลังทำอะไรอยู่ แต่ในทางปฏิบัติมักจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น หน่วยงานต่างๆ มักต่างคนต่างทำ มักหวงข้อมูล ไม่อยากให้หน่วยงานอื่นรู้เรื่องที่ตัวเองกำลังทำอยู่ มีการแก่งแย่งต่อสู้กันในการสร้างผลงานว่า หน่วยงานไหนจะมีบทบาทโดดเด่นในด้านการต่างประเทศ </span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">เพราะฉะนั้น เมื่อขาดการประสานงาน ขาดการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน จึงมักทำให้นโยบายต่างประเทศด้านเศรษฐกิจของไทยขาดเอกภาพ ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน หน่วยงานหนึ่งทำไปทางหนึ่ง อีกหน่วยงานหนึ่งก็ทำไปในอีกทางหนึ่ง หลายครั้งไม่ได้พูดเป็นเสียงเดียวกัน ปัญหาเหล่านี้นับเป็นจุดอ่อนที่สำคัญของนโยบายต่างประเทศ ต่างชาติก็มักจะใช้ประโยชน์ ฉวยโอกาสจากความแตกแยกระหว่างหน่วยงานต่างๆ ของไทย มักจะใช้วิธีที่เราเรียกว่า </span><b><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\">&quot;<span lang=\"TH\">แบ่งแยกและปกครอง</span>&quot;</span></b><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"> <span lang=\"TH\">คือ รู้ถึงจุดอ่อนของระบบราชการไทยที่มีความแตกแยก ไม่มีความสามัคคี ไม่สามารถผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ในการเจรจาต่อรองระหว่างประเทศ </span><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">ปัญหาอีกอันหนึ่ง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่หน่วยงานหลายหน่วยงานทำงานเรื่องเดียวกัน จึงมักจะเกิดความซ้ำซ้อนในเรื่องของการทำงาน อาทิ กระทรวงพาณิชย์ก็รับผิดชอบในเรื่องการค้า ในขณะที่กระทรวงการต่างประเทศพยายามมีบทบาทด้านการค้าเช่นเดียวกัน </span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\">BOI <span lang=\"TH\">มีบทบาทในการส่งเสริมการลงทุน ในขณะที่ กระทรวงอุตสาหกรรมก็พยายามมีบทบาทด้านนี้เช่นเดียวกัน </span><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">นอกจากนั้น ยังมีปัญหาที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า</span><b><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"> &quot;tunnel vision&quot;</span></b><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"> <span lang=\"TH\">คือ การมองเข้าไปในอุโมงค์ เป็นวิสัยทัศน์ที่คับแคบ เป็นการมองเฉพาะเรื่องที่กำลังทำอยู่ แต่ละหน่วยงานราชการของไทย เวลาจะมองอะไร ก็มักจะมองด้วยประสบการณ์ ผลประโยชน์ ภาระหน้าที่ของหน่วยงานนั้นเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น หน้าที่ของ </span>BOI <span lang=\"TH\">คือ การส่งเสริมการลงทุนจากญี่ปุ่น มาไทย </span>BOI <span lang=\"TH\">ก็จะมองแต่ว่า ทำอย่างไรจะดึงให้ญี่ปุ่น มาไทยให้ได้ แต่บางครั้ง การดึงญี่ปุ่นเข้ามาไทยมากๆ อาจมีผลเสีย ผลเสียที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา คือ การที่ทำให้ไทยต้องพึ่งพาเศรษฐกิจของญี่ปุ่นอย่างถอนตัวไม่ขึ้น เศรษฐกิจไทยต้องพึ่งพาการลงทุนจากต่างชาติมากเกินไป </span></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"><span lang=\"TH\"></span><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><b><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">หากเราเปรียบเทียบนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจของบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ซึ่งไม่ได้เน้นการลงทุนจากต่างชาติ เพราะญี่ปุ่นกลัวว่า ถ้าต่างชาติเข้ามามากเกินไป จะทำให้ระบบเศรษฐกิจญี่ปุ่นต้องพึ่งพาต่างชาติ ต้องสูญเสียเอกราชด้านเศรษฐกิจ ซึ่งประเด็นการมองในลักษณะนี้ จะอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของ </span></b><b><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\">BOI <span lang=\"TH\">หน้าที่ของ </span>BOI <span lang=\"TH\">คือ ทำอย่างไรให้ญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด </span></span></b></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><b><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"><span lang=\"TH\"></span><o:p></o:p></span></b></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">ปัญหาอีกประการหนึ่งของการที่มีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนโยบายเศรษฐกิจต่างประเทศ คือ ปัญหาของการแย่งงานกัน ในภาษาอังกฤษเรียกว่า </span><b><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\">&quot;turf fighting&quot; </span></b><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">ธรรมชาติของหน่วยงานราชการ คือ ความต้องการที่จะขยายอำนาจ ขยายอาณาจักรออกไปเรื่อยๆ แต่ในการที่จะขยายอำนาจ ก็จะต้องไปเจอหน่วยงานอื่นที่ต้องการขยายบทบาทอำนาจเช่นเดียวกัน จึงหลีกเลี่ยงการต่อสู้แย่งงานกันไม่ได้ </span><b><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\">&quot;<span lang=\"TH\">งาน</span>&quot; </span></b><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">เป็นสิ่งสำคัญมากในระบบราชการ งานทำให้เกิดอำนาจ ทำให้เกิดอาณาจักร และทำให้มีงบประมาณมากขึ้น </span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">ผมอยากจะกล่าวด้วยว่า ปัญหาด้านโครงสร้างเหล่านี้ ไม่ได้เกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ เมืองหลวงของเราเท่านั้น แต่ปัญหาในลักษณะเดียวกัน ได้เกิดขึ้นระหว่างหน่วยงานของไทยในต่างประเทศด้วย คือ ในเมืองหลวงของประเทศต่างๆ จะมีสถานทูต และสำนักงานของหน่วยงานต่างๆ ของไทยไปตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ปัญหาที่ผู้เกี่ยวข้อง และผู้มีประสบการณ์มักพบอยู่เป็นประจำ คือ การขาดเอกภาพในการดำเนินงานของหน่วยงานไทยในต่างประเทศ คือ มักมีปัญหาว่า แต่ละหน่วยงานจะต่างคนต่างทำ มีอิสระจากกัน </span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">ตามทฤษฎี สถานทูตใหญ่ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่มาจากกระทรวงการต่างประเทศ และมีเอก</span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\">-<span lang=\"TH\">อัครราชทูตเป็นหัวหน้าสำนักงาน จะต้องเป็นหน่วยงานหลักในการประสานนโยบายของหน่วยงานต่างๆ ของไทยให้เป็นเอกภาพ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น ก็คือ สถานทูตไม่สามารถคุมหน่วยงานเหล่านี้ อาทิ สำนักงานที่ปรึกษาการพาณิชย์ของกระทรวงพาณิชย์ หรือสำนักงานของ </span>BOI <span lang=\"TH\">ได้ เพราะหน่วยงานเหล่านี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานทูต หรือขึ้นอยู่กับกระทรวงการต่างประเทศ </span><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">ปัญหาเหล่านี้ได้มีการพูดกันมานาน และมีความพยายามที่จะแก้ไขกันมานาน แต่ประสบความยากลำบากมาก เรามาดูกันว่า ที่ผ่านมา ได้มีข้อเสนออะไรบ้าง ในการที่จะปรับรื้อระบบ โครงสร้าง และกลไกทางด้านเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ผมอยากจะเน้นว่า ปัญหาใหญ่ที่จะต้องแก้ไขมี </span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\">2 <span lang=\"TH\">เรื่อง คือ แก้ไขการประสานงาน การซ้ำซ้อนของหน่วยงาน และอีกเรื่อง ก็คือ จะทำอย่างไรให้เราสามารถมีกลไกในการกำหนด และเจรจาทางด้านการค้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เท่าที่ผมลองนึกดู ก็ปรากฏว่า สามารถที่จะรวบรวมข้อเสนอต่างๆเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างดังกล่าวได้ถึง </span>9 <span lang=\"TH\">ข้อเสนอ หรือทางเลือกด้วยกัน โดยผมจะจับรวมกลุ่มกันเป็นประเภท คือ </span><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\">1. <span lang=\"TH\">ข้อเสนอที่เกี่ยวกับ การเสนอให้มีการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมา </span><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\">2. <span lang=\"TH\">การยุบรวมหน่วยงานเข้าด้วยกัน </span><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\">3. <span lang=\"TH\">ข้อเสนอให้มีการปรับโครงสร้างภายในของหน่วยงาน </span><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\">4. <span lang=\"TH\">ข้อเสนอให้มีการปรับบทบาทของหน่วยงานใหม่ </span><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><b><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">กลุ่มที่ </span></b><b><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\">1</span></b><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"> <span lang=\"TH\">คือ ข้อเสนอให้มีการตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมา คือ </span><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\">1.1 <span lang=\"TH\">ข้อเสนอการจัดตั้งสำนักงานผู้แทนการค้าของไทย ข้อเสนอนี้เป็นข้อเสนอที่เลียนแบบสำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐ หรือ </span>USTR <span lang=\"TH\">ได้เคยมีข้อเสนอให้มีการจัดตั้ง </span><b>&quot;Thai Trade Representative Office&quot; </b><span lang=\"TH\">หรือ </span>TTR <span lang=\"TH\">ขึ้นมา ผมจำได้ว่า เป็นข้อเสนอในหลายปีก่อน ข้อดีของข้อเสนอนี้ คือ จะทำให้ประเทศไทยมีกลไกในการเจรจาการค้าที่เข้มแข็งขึ้น แทนที่จะเป็นอยู่อย่างปัจจุบันที่กระจัดกระจายในหน่วยงานต่างๆ </span><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">อย่างไรก็ตาม </span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\">TTR <span lang=\"TH\">ก็อาจจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องการประสานงานระหว่างหน่วยงานเศรษฐกิจต่างประเทศของไทย นอกจากนี้ ถ้าจะต้องมีการจัดตั้ง </span>TTR <span lang=\"TH\">ขึ้นมา ต้องมีการโอนงานทางด้านการเจรจาการค้าจากกระทรวงต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระทรวงพาณิชย์ และจะมีตำแหน่งใหม่ขึ้นมา คือ หัวหน้าผู้แทนทางการค้า ซึ่งก็หมายความว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลงานทางด้านเศรษฐกิจจะถูกลดบทบาท ไม่มีบทบาทในการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ </span><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\">1.2 <span lang=\"TH\">ข้อเสนอให้มีการจัดตั้ง </span>&quot;National Economic Council&quot; (NEC) <span lang=\"TH\">ขึ้นมา หรือสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ ซึ่งเช่นเดียวกัน ก็จะเป็นการเลียนแบบ </span>NEC <span lang=\"TH\">ของสหรัฐ ข้อดีของข้อเสนอนี้ ก็คือ การทำหน้าที่เป็นกลไกของการประสานงานนโยบายด้านเศรษฐกิจของไทยได้ แต่ว่าผลในแง่ของการเพิ่มประสิทธิภาพการเจรจาการค้านี้นั้น คงจะไม่ชัดเจนนัก อย่างไรก็ตาม ปัญหาของข้อเสนอนี้ก็จะเหมือนๆ กับข้อเสนอข้างต้น และข้อเสนอที่ตามมา ที่จะเป็นปัญหาของทั้งกลุ่มข้อเสนอที่เกี่ยวกับการตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมา คือ ความเป็นไปได้ที่จะจัดตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมา จะมีความยากลำบากมาก เพราะเป็นเรื่องใหญ่ และจะมีหน่วยงานบางหน่วยงานที่จะสูญเสียอำนาจไป จะพยายามต่อต้านข้อเสนอเหล่านี้ ข้อเสนอนี้ ผมจำได้ว่า กรมเศรษฐกิจ กระทรวงการต่างประเทศเคยเสนอข้อเสนอนี้ ผมเข้าใจว่า กระทรวงการต่างประเทศก็คงจะมองว่า ถ้ามีการจัดตั้ง </span>NEC <span lang=\"TH\">ขึ้นมา กระทรวงการต่างประเทศก็จะสามารถทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการ ซึ่งก็จะทำให้กระทรวงการต่างประเทศเพิ่มบทบาททางด้านนี้ได้ </span><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้ก็ไม่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งมักจะมองกระทรวงการต่างประเทศว่า ไม่มีความสามารถพอที่จะมาเล่นบทบาททางด้านเศรษฐกิจ ในช่วงหลังๆ นี้ ข้อเสนอนี้ก็เงียบหายไป </span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\">1.3 <span lang=\"TH\">ข้อเสนอการจัดตั้ง กระทรวงการค้าระหว่างประเทศ และข้อเสนอการจัดตั้ง </span>&quot;<span lang=\"TH\">กระทรวงการต่างประเทศ การค้าระหว่างประเทศ และความร่วมมือ เพื่อการพัฒนา</span>&quot; (<span lang=\"TH\">เลียนแบบประเทศของยุโรปบางประเทศ</span>) <span lang=\"TH\">โดยกระทรวงใหม่นี้ ก็จะมีบทบาททั้งในด้านการทูต การค้า และความช่วยเหลือ ข้อเสนอที่คล้ายกับข้อเสนอนี้คือ ข้อเสนอของอาจารย์ติน จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งเสนอให้มีการจัดตั้ง กระทรวงการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ คือ การตั้ง </span><b>&quot;super ministry&quot;</b> <span lang=\"TH\">ขึ้นมา ซึ่งหมายความว่าต้องรวมงานทางด้านการค้าจากกระทรวงพาณิชย์ งานด้านการส่งเสริมการลงทุนจาก </span>BOI <span lang=\"TH\">และงานด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจจากกระทรวงการคลัง และกรมวิเทศสหการ </span><o:p></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">ข้อดีของข้อเสนอเหล่านี้ ก็คือ ถ้าหากมีการจัดตั้งกระทรวงใหม่เหล่านี้ขึ้นมาได้ การเจรจาการค้าของไทยก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น และการประสานงานก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอเหล่านี้ก็คงจะเป็นเพียงแค่ข้อเสนอเท่านั้น หมายความว่า คงจะเป็นจริงขึ้นมาไม่ได้</span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"><o:p></o:p></span></span></span> </p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\" class=\"MsoNormal\">\n<span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\">2. <b><span lang=\"TH\">การยุบรวมกระทรวง </span>2 <span lang=\"TH\">กระทรวงเข้าด้วยกัน </span></b><span lang=\"TH\">เป็นกระทรวงใหม่ คือ ให้มีการรวม<b>กระทรวงพาณิชย์ </b>และ<b>กระทรวงอุตสาหกรรม </b>เข้าด้วยกัน กลายเป็น<b>กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม</b> หรือกระทรวง</span><b> Miti</b> <span lang=\"TH\">ตามแบบของญี่ปุ่น ข้อเสนอนี้ก็คือ ข้อเสนอที่รัฐบาลโดยสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน </span>(<span lang=\"TH\">ก</span>.<span lang=\"TH\">พ</span>.) <span lang=\"TH\">และกระทรวงต่างๆ กำลังให้ความสำคัญอยู่ </span></span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\" class=\"MsoNormal\">\n<span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">อย่างไรก็ตาม ถ้าเราจะเลียนแบบญี่ปุ่นจริงก็ต้องมีการยุบรวมกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน คือ จาก </span>2 <span lang=\"TH\">กระทรวงเหลือ </span>1 <span lang=\"TH\">กระทรวง แต่ผลประชุมที่ออกมา กลายเป็นว่ากระทรวงอุตสาหกรรมนั้นจะเพิ่มบทบาททางด้านการค้า คือ กระทรวงอุตสาหกรรมจะเปลี่ยนเป็นกระทรวง </span>Miti <span lang=\"TH\">โดยดึงงานบางส่วนของกระทรวงพาณิชย์ </span></span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\" class=\"MsoNormal\">\n<span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: large; color: #000000; font-family: Cordia New\">ในส่วนที่เกี่ยวกับการค้าเข้าไปด้วย ในขณะที่กระทรวงพาณิชย์ยังคงมีอยู่ไม่ได้ยุบหายไปไหน แต่ถูกลดบทบาทลง ให้ดูแลเรื่องการค้าภายในเท่านั้น </span></span>\n</p>\n<p><b><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">ข้อดีของกระทรวง </span>Miti <span lang=\"TH\">คือ การเชื่อมโยงภายใน ให้นโยบายเศรษฐกิจนั้นครบวงจร คือการผลิตกับการตลาดนั้นควรจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าจะส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านใดเพื่อการส่งออก ในขณะที่ปัจจุบันกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงพาณิชย์คิดไปคนละทิศคนละทาง </span><o:p></o:p></span></span></span></b></p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\" class=\"MsoNormal\">\n<span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">อย่างไรก็ตาม ผมกลับมองว่า ถ้าเป็นกระทรวง </span>Miti <span lang=\"TH\">แบบไทย </span>(<span lang=\"TH\">ซึ่งก็คือกระทรวงอุตสาหกรรมเก่านั่นเอง</span>) <span lang=\"TH\">ก็ไม่น่าจะเพิ่มประสิทธิ</span>-<span lang=\"TH\">ภาพการเจรจาการค้าระหว่างประเทศเนื่องจากกระทรวงอุตสาหกรรมไม่เคยมีประสบการณ์ในการเจรจาการค้าระหว่างประเทศมาก่อน </span></span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">นอกจากนั้น กระทรวง </span>Miti <span lang=\"TH\">ใหม่ของไทยคงจะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของการประสานงานประสานนโยบายทางด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศในแง่ภาพรวม และยังมีความไม่ชัดเจนว่าถ้ามีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง รัฐบาลใหม่จะเอาด้วยกับข้อเสนอของรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ ก็คือ กระทรวง </span>Miti <span lang=\"TH\">คงจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายๆ </span></span><span style=\"font-family: AngsanaUPC\" lang=\"TH\">ยิ่งไปกว่านั้น</span><span style=\"font-family: \'Times New Roman\'\" lang=\"TH\"> </span><span style=\"font-family: AngsanaUPC\" lang=\"TH\">ตามข้อเสนอของ</span><span style=\"font-family: \'Times New Roman\'\" lang=\"TH\"> </span><span style=\"font-family: AngsanaUPC\" lang=\"TH\">ก</span><span style=\"font-family: \'Times New Roman\'\">.</span><span style=\"font-family: AngsanaUPC\" lang=\"TH\">พ</span><span style=\"font-family: \'Times New Roman\'\">.</span><span style=\"font-family: AngsanaUPC\" lang=\"TH\">ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการกระจายอำนาจการเจรจาการค้าจากกระทรวงพาณิชย์</span><span style=\"font-family: \'Times New Roman\'\" lang=\"TH\"> </span><span style=\"font-family: AngsanaUPC\" lang=\"TH\">ไปสู่กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงเกษตร</span><span style=\"font-family: \'Times New Roman\'\" lang=\"TH\"> </span><span style=\"font-family: AngsanaUPC\" lang=\"TH\">ก็จะยิ่งสับสนวุ่นวายมากขึ้น</span><span style=\"font-family: \'Times New Roman\'\" lang=\"TH\"> </span><span style=\"font-family: AngsanaUPC\" lang=\"TH\">ยิ่งทำให้การเจรจาการค้าของไทยอ่อนแอลงไปเพราะแทนที่จะรวมศูนย์การเจรจาการค้าในลักษณะ</span><span style=\"font-family: \'Times New Roman\'\"> USTR </span><span style=\"font-family: AngsanaUPC\" lang=\"TH\">หรือ</span><span style=\"font-family: \'Times New Roman\'\"> TTR </span><span style=\"font-family: AngsanaUPC\" lang=\"TH\">แต่เรากลับมากระจายการเจรจาการค้าออกไปยังหลายๆ</span><span style=\"font-family: \'Times New Roman\'\" lang=\"TH\"> </span><span style=\"font-family: AngsanaUPC\" lang=\"TH\">หน่วยงานมากขึ้น</span><span style=\"font-family: \'Times New Roman\'\"> </span></span></span>\n</p>\n<p><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Times New Roman\'\"><o:p></o:p></span></span></span><b><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\">3. <span lang=\"TH\">อีกกลุ่มข้อเสนอหนึ่งก็เป็นข้อเสนอในการปรับปรุงบทบาทของกระทรวงสำคัญๆ </span><o:p></o:p></span></span></span></b></p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\" class=\"MsoNormal\">\n<span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\">3.1 <span lang=\"TH\">ข้อเสนอการปรับโครงสร้างภายในของกระทรวงพาณิชย์เคยเป็นข้อเสนอของ </span>TDRI <span lang=\"TH\">ซึ่งเคยทำการวิจัยให้กระทรวงพาณิชย์ คือ การรวมหน่วยงานด้านการเจรจาด้านการค้าจากกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กรมการค้าระหว่างประเทศ เป็นกรมใหม่ภายในกระทรวงพาณิชย์ </span></span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\" class=\"MsoNormal\">\n<span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">ข้อเสนอนี้ก็อาจจะช่วยแก้ไขปัญหาการขัดแย้งภายในของกระทรวงพาณิชย์ได้บ้าง </span>(<span lang=\"TH\">กรมการค้าต่างประเทศกับกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์มักจะมีความขัดแย้งกันในเรื่องการเจรจาการค้า</span>) <span lang=\"TH\">แต่การปรับโครงสร้างภายในของกระทรวงพาณิชย์นั้นอาจจะไม่เพียงพอต่อการที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการเจรจาการค้าของไทย ถ้าเปรียบเทียบกับทางเลือกอื่นๆ เช่น ข้อเสนอ </span>TTR <span lang=\"TH\">หรือข้อเสนอกระทรวง </span>Miti <span lang=\"TH\">หรือกระทรวงการค้าระหว่างประเทศ และยิ่งไปกว่านั้น การปรับโครงสร้างเช่นนั้นก็ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาการขาดการประสานงานกันระหว่างกระทรวงด้วย </span></span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\" class=\"MsoNormal\">\n<span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\">3.2 <span lang=\"TH\">การปรับบทบาทของคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ </span>(<span lang=\"TH\">กนศ</span>.) <span lang=\"TH\">ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี ดูแลงานด้านเศรษฐกิจเป็นประธานข้อเสนอนี้เป็นการปรับปรุง กนศ</span>. <span lang=\"TH\">ให้มีประสิทธิภาพ ในการเป็นกลไกในการประสานนโยบายและการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ที่ผ่านมา กนศ</span>. <span lang=\"TH\">ก็ไม่สามารถมีบทบาทอะไรได้มากนัก เพราะเป็นเพียงคณะกรรมการไม่ได้มีฐานะเป็นหน่วยงาน หรือกระทรวง ทบวง กรม บุคลากรก็ใช้คนจากกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์เป็นหลัก </span></span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\" class=\"MsoNormal\">\n<span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">ในอดีต คือ ในสมัยรัฐบาล <b>พล</b></span><b>.<span lang=\"TH\">อ</span>.<st1:personname ProductID=\"เปรม ติณสูลานนท์\" w:st=\"on\"><span lang=\"TH\">เปรม ติณสูลานนท์</span></st1:personname><span lang=\"TH\"> </span></b><span lang=\"TH\">เคยมี กนศ</span>. <span lang=\"TH\">ซึ่งมีกลไกที่แตกต่างไปจากกนศ</span>.<span lang=\"TH\">ในยุคปัจจุบัน กนศ</span>.<span lang=\"TH\">ในยุคนั้นมีสำนักเลขานุการร่วมที่มาจากทั้งกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ และยังมีคณะอนุกรรมการที่ดูแลความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจหลักๆ ของไทย เช่น คณะอนุกรรมการสมุดปกขาวไทย </span>- <span lang=\"TH\">ญี่ปุ่น คณะอนุกรรมการไทย </span>- <span lang=\"TH\">สหรัฐ คณะอนุกรรมการไทย </span>-<span lang=\"TH\">ยุโรป เป็นต้น </span>(<span lang=\"TH\">ปัจจุบันเราไม่มีกลไกประสานนโยบายทางด้านเศรษฐกิจกับประเทศมหาอำนาจ</span>) <span lang=\"TH\">ผมคิดว่า กนศ</span>.<span lang=\"TH\">ในรูปแบบเดิมนั้น น่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่า กนศ</span>.<span lang=\"TH\">ในยุคปัจจุบัน ดังนั้น น่าจะมีการทบทวน รื้อฟื้นบทบาทของ กนศ</span>. <span lang=\"TH\">และคณะอนุกรรมการ กนศ</span>.<span lang=\"TH\">ภายใต้รูปแบบเดิม </span></span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\" class=\"MsoNormal\">\n<span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\">3.3 <span lang=\"TH\">ข้อเสนอการปรับเพิ่มบทบาทของกระทรวงการต่างประเทศให้กระทรวงต่างประเทศเป็นหัวหน้าทีมในเรื่องการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศเป็นหัวหน้าทีมในการเจรจาทางด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ </span></span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\" class=\"MsoNormal\">\n<span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: large; color: #000000; font-family: Cordia New\">ในอดีตกระทรวงการต่างประเทศเคยมีบทบาทนำในเรื่องของการเจรจาระหว่างประเทศในช่วงที่ประเด็นปัญหาทางด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศยังไม่ยุ่งยากสลับซับซ้อนเท่าในปัจจุบัน และประเด็นทางด้านเศรษฐกิจก็เป็นเพียงเรื่องปลีกย่อย เป็นเพียงเครื่องมือในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ ซึ่งในสมัยนั้นก็เน้นเรื่องการทหาร เรื่องการเมืองความมั่นคง </span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\" class=\"MsoNormal\">\n<span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">อย่างไรก็ตาม ในช่วง </span>10-20 <span lang=\"TH\">ปีที่ผ่านมา บทบาทของกระทรวงต่างประเทศในการเจรจาระหว่างประเทศก็ลดลงไปเรื่อยๆ ในขณะที่บทบาทของกระทรวงอื่นๆ ก็เพิ่มมากขึ้น ตามทฤษฎีแล้ว กระทรวงต่างประเทศน่าจะเป็นหน่วยงานที่เหมาะสมที่สุดในการทำหน้าที่เป็นหน่วยงานประสานนโยบายต่างประเทศทางด้านเศรษฐกิจกับหน่วยงานอื่นๆ </span></span></span></span>\n</p>\n<p><b><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">บทบาทที่สำคัญของกระทรวงต่างประเทศ คือ บทบาทในแง่ภาพรวม บทบาทการเจรจาในกรอบใหญ่แต่จากข่าวที่ปรากฏออกมาล่าสุด ที่มีการหารือกันระหว่าง ก</span>.<span lang=\"TH\">พ</span>.<span lang=\"TH\">กับกระทรวงเศรษฐกิจ </span>6 <span lang=\"TH\">กระทรวงนั้น ไม่ได้มีกระทรวงต่างประเทศรวมอยู่ด้วย </span><o:p></o:p></span></span></span></b></p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\" class=\"MsoNormal\">\n<span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: large; color: #000000; font-family: Cordia New\">ปัญหาตรงนี้ก็เป็นปัญหาที่สะท้อนถึงรากเหง้าของปัญหาบทบาทของกระทรวงต่างประเทศทางด้านเศรษฐกิจ คือ ในแง่หนึ่ง กระทรวงต่างประเทศ ก็มีบทบาททางด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ แต่ในอีกแง่หนึ่ง กระทรวงต่างประเทศ ก็ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นกระทรวงเศรษฐกิจ หน่วยงานอื่นๆ ก็ไม่ยอมรับถึงบทบาททางด้านเศรษฐกิจของกระทรวงต่างประเทศ </span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\" class=\"MsoNormal\">\n<span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">เรื่องบทบาททางด้านเศรษฐกิจของกระทรวงต่างประเทศนั้น เป็นเรื่องยาวมิติทางด้านเศรษฐกิจ ได้เริ่มมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในการต่างประเทศและการทูตกระทรวงการต่างประเทศจึงได้เริ่มปรับบทบาท โดยประเด็นหลักของนโยบาย คือ</span><b> &quot;<span lang=\"TH\">การเพิ่มบทบาททางด้านเศรษฐกิจ</span>&quot; </b><span lang=\"TH\">วลีนี้กลายเป็นวลีที่ฮิตมาโดยตลอด </span></span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\" class=\"MsoNormal\">\n<span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">ในแง่ของนโยบายของกระทรวงต่างประเทศอย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง การที่พูดว่า เพิ่มบทบาททางด้านเศรษฐกิจนั้น พูดง่ายแต่ถ้าถามต่อไปว่า จะเพิ่มบทบาททางด้านเศรษฐกิจอย่างไร บทบาททางด้านเศรษฐกิจของกระทรวงต่างประเทศคืออะไร ตรงนี้ตอบยาก จึงกลายเป็นว่า ที่ผ่านๆ มา เวลากระทรวงต่างประเทศจะเพิ่มบทบาททางด้านเศรษฐกิจ ก็จะหมายถึงการพยายามเพิ่มบทบาททางด้านการค้า การให้ทูตเป็น </span>&quot;Salesman&quot; <span lang=\"TH\">การไปแย่งงานกระทรวงพาณิชย์ การเพิ่มบทบาททางด้านเศรษฐกิจ หมายถึง การเพิ่มบทบาททางด้านการลงทุน ก็คือ การไปแย่งงาน </span>BOI <span lang=\"TH\">เหล่านี้เป็นต้น </span></span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\" class=\"MsoNormal\">\n<span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">บทบาทของกระทรวงต่างประเทศควรเป็นบทบาทของการมองในแง่ภาพรวม การเจรจาในกรอบใหญ่ดังที่กล่าวไปแล้ว ไม่ใช่แย่งงานกระทรวงพาณิชย์ หรือการแย่งงาน </span>BOI <span lang=\"TH\">บทบาทอันชอบธรรมของกระทรวงต่างประเทศ คือ บทบาทการมองในแง่ภาพรวมบทบาทของการประสานงาน การเป็นหัวหน้า </span><b>&quot;Team <st1:country-region w:st=\"on\"><st1:place w:st=\"on\">Thailand</st1:place></st1:country-region>&quot; </b><span lang=\"TH\">แต่ว่าบทบาทดังกล่าวเป็นบทบาทที่เล่นยาก เพราะการที่กระทรวงต่างประเทศจะเล่นบทนี้ได้ จะต้องมีบุคลากรที่พร้อมทั้งในระดับล่าง ระดับกลาง และระดับบน </span></span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\" class=\"MsoNormal\">\n<span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">อย่างไรก็ตาม กระทรวงต่างประเทศก็ขาดบุคลากรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจ ในระดับบนก็มีบุคลากรเพียงไม่กี่คนที่จะสามารถทำหน้าที่เป็นหัวหน้า </span><b>&quot;Team <st1:country-region w:st=\"on\"><st1:place w:st=\"on\">Thailand</st1:place></st1:country-region>&quot;</b> <span lang=\"TH\">ได้อย่างแท้จริง เพราะฉะนั้น หน่วยงานอื่นๆ จึงไม่มีความเชื่อมั่น และไม่ยอมรับในการเป็นผู้นำ เป็นหัวหน้าทีมของกระทรวงต่างประเทศ </span></span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\" class=\"MsoNormal\">\n<span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\">3.4 <span lang=\"TH\">สำหรับข้อเสนอสุดท้าย คือ ข้อเสนอที่เป็นการใช้ตัวแบบของระบบอังกฤษ ในระบบของอังกฤษนั้น รวมทั้งในประเทศที่เป็นเครือจักรภพอังกฤษ คือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา ประเทศเหล่านี้ กระทรวงต่างประเทศจะมีหน่วยงานด้านการค้ารวมอยู่ด้วย หากเราจะนำเอารูปแบบนี้มาประยุกต์ใช้กับรูปแบบของไทย ก็หมายความว่า ต้องมีการโอนงานด้านการเจรจาการค้าจากกระทรวงพาณิชย์มาอยู่ที่กระทรวงต่างประเทศอาจจะหมายถึง การย้ายกรมการค้าต่างประเทศมาอยู่ที่กระทรวงต่างประเทศ </span></span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\" class=\"MsoNormal\">\n<span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">ข้อดีของข้อเสนอนี้จะเป็นการเพิ่มประสิทธิ</span>-<span lang=\"TH\">ภาพการเจรจาการค้าต่างประเทศของไทยโดยจะเป็นการใช้ประโยชน์จากเครื่องมือทางการทูตของไทย จากเครือข่ายทางการทูตของไทยจะเป็นการใช้ประโยชน์ในการดำเนินยุทธศาสตร์ทางด้านการค้าที่ใกล้เคียงกับโลกแห่งความเป็นจริงนั่นก็คือ โลกที่การเมืองนำเศรษฐกิจโลกที่เรื่องการค้าเป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ หากเปรียบเทียบกับข้อเสนออื่น เช่น การจัดตั้ง </span>TTR <span lang=\"TH\">แต่อย่างที่ผมได้กล่าวไปแล้ว </span>TTR <span lang=\"TH\">คงจะเกิดขึ้นได้ยากในขณะที่กระทรวงต่างประเทศและการค้าน่าจะมีโอกาสเป็นไปได้มากกว่าเพราะไม่ได้เป็นการตั้งหน่วยงานใหม่แต่เป็นเพียงการดึงงานบางส่วนออกมาจากกระทรวงพาณิชย์เท่านั้น </span></span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\" class=\"MsoNormal\">\n<span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">ผลดีอีกประการหนึ่งของข้อเสนอนี้ ก็คือจะทำให้การประสานนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกระทรวงต่างประเทศนั้นน่าจะเป็นหน่วยงานที่เหมาะสมที่สุดในการประสานนโยบายซึ่งถ้าหากกระทรวงต่างประเทศรับผิดชอบในการเจรจาการค้าโดยตรงก็จะทำให้กระทรวงต่างประเทศได้รับการยอมรับในการเป็นหัวหน้า</span><b> &quot;Team <st1:country-region w:st=\"on\"><st1:place w:st=\"on\">Thailand</st1:place></st1:country-region>&quot; </b><span lang=\"TH\">ได้มากขึ้นด้วย </span></span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\" class=\"MsoNormal\">\n<b><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">กล่าวโดยสรุป จะเห็นได้ว่ามีข้อเสนอต่างๆ มากมายที่เกี่ยวกับการปรับรื้อระบบนโยบายต่างประเทศของไทย แต่ข้อเสนอส่วนใหญ่ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ และคงจะเป็นเพียงแค่ความฝัน ในที่สุดแล้วก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากระบบเดิมที่เป็นอยู่ในปัจจุบันโดยอาจมีการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย เข้าทำนอง </span>&quot;<span lang=\"TH\">ผักชีโรยหน้า</span>&quot; <span lang=\"TH\">เท่านั้น</span></span></span></span></b>\n</p>\n<p><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"><o:p><span style=\"font-size: large; color: #000000\"> </span></o:p></span><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-weight: normal; font-size: 14pt; font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">อ้างอิง </span><span style=\"font-weight: normal; font-size: 14pt; font-family: \'Angsana New\'\">: <span lang=\"TH\">หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ</span> / <span lang=\"TH\">นโยบายต่างประเทศของไทย ข้อเสนอการปรับรื้อระบบ </span><o:p></o:p></span></span><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"><span style=\"font-size: large; color: #000000\">[Online] Available URL; </span><a href=\"http://www.tu.ac.th/org/polsci/cips/thai.html\"><span style=\"font-family: \'Cordia New\'\"><u><span style=\"font-size: large; color: #0000ff\">http://www.tu.ac.th/org/polsci/cips/thai.html</span></u></span></a><o:p></o:p></span> </p>\n<p>\n ____________________________________________________________________\n</p>\n<p>\nกระทำการแก้ไขต่อจากที่อาจารย์บอก โดย อาจจารย์ต้องการความคิดเห็นส่วนตัว ชื่อและเลขที่คนทำ\n</p>\n<p>\n_____________________________________________________________________\n</p>\n<p>\nหลังจากได้อ่านมาจากบทความที่ข้าพเจ้าได้[คัดลอกมานั้น]รู้สึกว่า\n</p>\n<p>\nมีหลายหลายความคิดของสาธารณะชนที่แตกต่าง...ก่อให้เป็นผลที่คนภายในประเทศไม่เข้าใจเหตุผลของคนภายนอก\n</p>\n<p>\nโดยบางส่วนของเนื้อหาได้มีการอ้างถึงบทบาทของกระทรวงหลายกระทรวง\n</p>\n<p>\nแต่หลักๆได้กล่าวถึง miti อะไลซักอย่าง[ซึ่งข้าพเจ้าก้อไม่เข้าใจแต่ก็อ่าน]\n</p>\n<p>\nแปลใจความได้ว่า  <span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">กระทรวง </span>Miti <span lang=\"TH\">คือ การเชื่อมโยงภายใน ให้นโยบายเศรษฐกิจนั้นครบวงจร คือการผลิตกับการตลาดนั้น</span></span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">ควรจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าจะส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านใดเพื่อการส่งออก ในขณะที่ปัจจุบันกระทรวงอุตสาหกรรมและ</span></span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">กระทรวงพาณิชย์คิดไปคนละทิศคนละทาง </span></span></span></span>\n</p>\n<p><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\"></span><o:p>โดยผู้เขียน page นี้ได้บอกถึงการปรับปรุงกระทรวงทบวงอะไรต่างๆมี 4 วิธี ได้แก่</o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p>1.<span lang=\"TH\">ข้อเสนอการปรับโครงสร้างภายในของกระทรวงพาณิชย์ <span lang=\"TH\">แต่การปรับโครงสร้างภายในของกระทรวงพาณิชย์นั้น</span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\">อาจจะไม่เพียงพอต่อการที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการเจรจาการค้าของไทย ถ้าเปรียบเทียบกับทางเลือกอื่นๆ</span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\">2.<span lang=\"TH\">การปรับบทบาทของคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ แต่ในสมัยรัฐบาล <b>พล</b><b>.<span lang=\"TH\">อ</span>.<st1:personname ProductID=\"เปรม ติณสูลานนท์\" w:st=\"on\"><span lang=\"TH\">เปรม ติณสูลานนท์</span></st1:personname><span lang=\"TH\"> </span></b></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><b><span lang=\"TH\"></span></b><span lang=\"TH\">เคยมี กนศ</span>. <span lang=\"TH\">ซึ่งมีกลไกที่แตกต่างไปจากกนศ</span>.<span lang=\"TH\">ในยุคปัจจุบัน กนศ</span>.<span lang=\"TH\">ในยุคนั้นมีสำนักเลขานุการร่วมที่มาจากทั้งกระทรวงพาณิชย์ </span></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\">และกระทรวงการต่างประเทศ และยังมีคณะอนุกรรมการที่ดูแลความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจหลักๆ ของไทย </span></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\">เช่น คณะอนุกรรมการสมุดปกขาวไทย </span>- <span lang=\"TH\">ญี่ปุ่น คณะอนุกรรมการไทย </span>- <span lang=\"TH\">สหรัฐ คณะอนุกรรมการไทย </span>-<span lang=\"TH\">ยุโรป </span></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\">3. <span lang=\"TH\">ข้อเสนอการปรับเพิ่มบทบาทของกระทรวงการต่างประเทศให้กระทรวงต่างประเทศ</span></span></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\">เป็นหัวหน้าทีมในเรื่องการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศเป็นหัวหน้าทีมในการเจรจาทางด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ </span></span></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\">แต่ในช่วง 10-20 <span lang=\"TH\">ปีที่ผ่านมา บทบาทของกระทรวงต่างประเทศในการเจรจาระหว่างประเทศก็ลดลงไปเรื่อยๆ </span></span></span></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\">ในขณะที่บทบาทของกระทรวงอื่นๆ ก็เพิ่มมากขึ้น ตามทฤษฎีแล้ว กระทรวงต่างประเทศน่าจะเป็นหน่วยงานที่เหมาะสม</span></span></span></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\">ที่สุดในการทำหน้าที่เป็นหน่วยงานประสานนโยบายต่างประเทศทางด้านเศรษฐกิจกับหน่วยงานอื่นๆ</span></span></span></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\">และข้อสุดท้าย</span></span></span></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\">4.การย้ายกรมการค้าต่างประเทศมาอยู่ที่กระทรวงต่างประเทศ <span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">ข้อดีของข้อเสนอนี้จะเป็นการเพิ่มประสิทธิ</span>-<span lang=\"TH\">ภาพการเจรจาการค้าต่าง</span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">ประเทศของไทยโดยจะเป็นการใช้ประโยชน์จากเครื่องมือทางการทูตของไทย จากเครือข่ายทางการทูตของไทยจะเป็น</span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">การใช้ประโยชน์ในการดำเนินยุทธศาสตร์ทางด้านการค้าที่ใกล้เคียงกับโลกแห่งความเป็นจริง</span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\"> </span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">และ แน่นอน เหมือนกับเชปทุกคนย่อม หวงตำราอาหารของตนเองแต่คนต่างคิดต่างสร้างสรรค์อาหารที่น่าทาน..</span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">..เหมือนกับกระทรวงเหล่านี้ก็ย่อมหวงอารหารที่คนเองทนลำบากทำมาทำให้เกิดการไม่ปองดองกัน</span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">จากที่ได้อ่านในช่วงที่ว่า“</span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\">หน่วยงานต่างๆ มักต่างคนต่างทำ มักหวงข้อมูล ไม่อยากให้หน่วยงานอื่นรู้เรื่องที่ตัวเองกำลังทำอยู่ มีการแก่งแย่งต่อสู้กันในการสร้างผลงานว่า หน่วยงานไหนจะมีบทบาทโดดเด่นในด้านการต่างประเทศ <span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"><o:p></o:p></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\" lang=\"TH\">เพราะฉะนั้น เมื่อขาดการประสานงาน ขาดการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน จึงมักทำให้นโยบายต่างประเทศด้านเศรษฐกิจของไทยขาดเอกภาพ ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน หน่วยงานหนึ่งทำไปทางหนึ่ง อีกหน่วยงานหนึ่งก็ทำไปในอีกทางหนึ่ง หลายครั้งไม่ได้พูดเป็นเสียงเดียวกัน ปัญหาเหล่านี้นับเป็นจุดอ่อนที่สำคัญของนโยบายต่างประเทศ ต่างชาติก็มักจะใช้ประโยชน์ ฉวยโอกาสจากความแตกแยกระหว่างหน่วยงานต่างๆ ของไทย มักจะใช้วิธีที่เราเรียกว่า </span><b><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\">&quot;<span lang=\"TH\">แบ่งแยกและปกครอง</span>&quot;</span></b><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"> </span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\">                               ”</span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\">บางทีปองดองกันและช่วยกันแก้ไขปัญหากระทรวงอะไรที่ว่านี้คงจะเป็นการดี[เพราะข้าพเจ้าเองก็ไม่เข้าใจ]</span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\"> </span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\">ท้ายที่สุด ชื่อคนหาข้อมูลและคนก็อบมาใส่ในที่นี้ - -*</span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></o:p></span></span></span><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><o:p><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Cordia New\"><span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: large\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: \'Angsana New\'\">มยุรินทร์ วรัทยา ม.6/1 เลขที่ 36 O[]O//</span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></o:p></span></span></span></p>\n', created = 1718499585, expire = 1718585985, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:a647e6ed6161e4df9ab6c23b401c02cc' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:03773a5cf421a45065a3d6c88b5c5a17' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p><img src=\"/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/images/smiley-innocent.gif\" title=\"Innocent\" alt=\"Innocent\" border=\"0\" />  ขาดชื่อผู้แสดงความคิดเห็น  </p>\n', created = 1718499586, expire = 1718585986, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:03773a5cf421a45065a3d6c88b5c5a17' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:d1eb7001b6b1c40b373f893cdd20ffef' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>ไม่ให้ลอกมาส่งให้อ่านแล้วเอามาเขียนโดยความคิดของตนเอง ขอให้แก้ไขใหม่  และให้บอกชื่อ เลขที่และชั้นด้วย เพราะให้คะแนนไม่ได้</p>\n', created = 1718499586, expire = 1718585986, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:d1eb7001b6b1c40b373f893cdd20ffef' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

นโยบายต่างประเทศของไทยสมัยปัจจุบัน

นโยบายต่างประเทศของไทย ข้อเสนอการปรับรื้อระบบ

ญี่ปุ่น ไม่ได้เน้นการลงทุนจากต่างชาติ เพราะญี่ปุ่นกลัวว่า ถ้าต่างชาติเข้ามามากเกินไป จะทำให้ระบบเศรษฐกิจต้องพึ่งพาต่างชาติ ต้องสูญเสียเอกราช ด้านเศรษฐกิจเมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีข่าวว่า สำนักงาน ก..กับกระทรวงเศรษฐกิจ 6 กระทรวง ได้หารือแผนการปรับโครงสร้างใหม่ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้านการค้าของไทย โดยได้มีข้อเสนอให้รวมกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นกระทรวง "Miti" เลียนแบบของญี่ปุ่น คอลัมน์วันนี้ ผมจึงอยากจะวิเคราะห์ถึงปัญหาในด้านโครงสร้างของนโยบายต่างประเทศด้านเศรษฐกิจของไทย และผมอยากจะพูดถึงข้อเสนอแนะต่างๆ ซึ่งมีอยู่มากมายทีเดียว ในเรื่องของการปรับโครงสร้าง ก่อนอื่น ผมอยากจะกล่าวว่า ในเรื่องหน่วยงาน หรือกลไกที่เกี่ยวข้องกับการกำหนด และดำเนินนโยบายต่างประเทศของไทยด้านเศรษฐกิจนั้น มีอยู่มากมายหลายหน่วยงานด้วยกัน ที่สำคัญได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตร และกระทรวงอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุที่มีหลายหน่วยงานที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศของไทย จึงมักจะเกิดปัญหาในเรื่องของการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ การที่ไทยจะมีท่าที มีนโยบายต่างประเทศที่เป็นเอกภาพได้ จำเป็นจะต้องมีการประสานงาน ประสานท่าที แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่างๆ ตัวอย่างเช่น กระทรวงการต่างประเทศจำเป็นต้องรู้ว่า กระทรวงพาณิชย์กำลังทำอะไรอยู่ เช่นเดียวกับกระทรวงพาณิชย์ก็ต้องรู้ว่า กระทรวงการต่างประเทศกำลังทำอะไรอยู่ แต่ในทางปฏิบัติมักจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น หน่วยงานต่างๆ มักต่างคนต่างทำ มักหวงข้อมูล ไม่อยากให้หน่วยงานอื่นรู้เรื่องที่ตัวเองกำลังทำอยู่ มีการแก่งแย่งต่อสู้กันในการสร้างผลงานว่า หน่วยงานไหนจะมีบทบาทโดดเด่นในด้านการต่างประเทศ เพราะฉะนั้น เมื่อขาดการประสานงาน ขาดการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน จึงมักทำให้นโยบายต่างประเทศด้านเศรษฐกิจของไทยขาดเอกภาพ ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน หน่วยงานหนึ่งทำไปทางหนึ่ง อีกหน่วยงานหนึ่งก็ทำไปในอีกทางหนึ่ง หลายครั้งไม่ได้พูดเป็นเสียงเดียวกัน ปัญหาเหล่านี้นับเป็นจุดอ่อนที่สำคัญของนโยบายต่างประเทศ ต่างชาติก็มักจะใช้ประโยชน์ ฉวยโอกาสจากความแตกแยกระหว่างหน่วยงานต่างๆ ของไทย มักจะใช้วิธีที่เราเรียกว่า "แบ่งแยกและปกครอง" คือ รู้ถึงจุดอ่อนของระบบราชการไทยที่มีความแตกแยก ไม่มีความสามัคคี ไม่สามารถผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ในการเจรจาต่อรองระหว่างประเทศ ปัญหาอีกอันหนึ่ง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่หน่วยงานหลายหน่วยงานทำงานเรื่องเดียวกัน จึงมักจะเกิดความซ้ำซ้อนในเรื่องของการทำงาน อาทิ กระทรวงพาณิชย์ก็รับผิดชอบในเรื่องการค้า ในขณะที่กระทรวงการต่างประเทศพยายามมีบทบาทด้านการค้าเช่นเดียวกัน BOI มีบทบาทในการส่งเสริมการลงทุน ในขณะที่ กระทรวงอุตสาหกรรมก็พยายามมีบทบาทด้านนี้เช่นเดียวกัน นอกจากนั้น ยังมีปัญหาที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า "tunnel vision" คือ การมองเข้าไปในอุโมงค์ เป็นวิสัยทัศน์ที่คับแคบ เป็นการมองเฉพาะเรื่องที่กำลังทำอยู่ แต่ละหน่วยงานราชการของไทย เวลาจะมองอะไร ก็มักจะมองด้วยประสบการณ์ ผลประโยชน์ ภาระหน้าที่ของหน่วยงานนั้นเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น หน้าที่ของ BOI คือ การส่งเสริมการลงทุนจากญี่ปุ่น มาไทย BOI ก็จะมองแต่ว่า ทำอย่างไรจะดึงให้ญี่ปุ่น มาไทยให้ได้ แต่บางครั้ง การดึงญี่ปุ่นเข้ามาไทยมากๆ อาจมีผลเสีย ผลเสียที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา คือ การที่ทำให้ไทยต้องพึ่งพาเศรษฐกิจของญี่ปุ่นอย่างถอนตัวไม่ขึ้น เศรษฐกิจไทยต้องพึ่งพาการลงทุนจากต่างชาติมากเกินไป หากเราเปรียบเทียบนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจของบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ซึ่งไม่ได้เน้นการลงทุนจากต่างชาติ เพราะญี่ปุ่นกลัวว่า ถ้าต่างชาติเข้ามามากเกินไป จะทำให้ระบบเศรษฐกิจญี่ปุ่นต้องพึ่งพาต่างชาติ ต้องสูญเสียเอกราชด้านเศรษฐกิจ ซึ่งประเด็นการมองในลักษณะนี้ จะอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของ BOI หน้าที่ของ BOI คือ ทำอย่างไรให้ญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ปัญหาอีกประการหนึ่งของการที่มีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนโยบายเศรษฐกิจต่างประเทศ คือ ปัญหาของการแย่งงานกัน ในภาษาอังกฤษเรียกว่า "turf fighting" ธรรมชาติของหน่วยงานราชการ คือ ความต้องการที่จะขยายอำนาจ ขยายอาณาจักรออกไปเรื่อยๆ แต่ในการที่จะขยายอำนาจ ก็จะต้องไปเจอหน่วยงานอื่นที่ต้องการขยายบทบาทอำนาจเช่นเดียวกัน จึงหลีกเลี่ยงการต่อสู้แย่งงานกันไม่ได้ "งาน" เป็นสิ่งสำคัญมากในระบบราชการ งานทำให้เกิดอำนาจ ทำให้เกิดอาณาจักร และทำให้มีงบประมาณมากขึ้น ผมอยากจะกล่าวด้วยว่า ปัญหาด้านโครงสร้างเหล่านี้ ไม่ได้เกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ เมืองหลวงของเราเท่านั้น แต่ปัญหาในลักษณะเดียวกัน ได้เกิดขึ้นระหว่างหน่วยงานของไทยในต่างประเทศด้วย คือ ในเมืองหลวงของประเทศต่างๆ จะมีสถานทูต และสำนักงานของหน่วยงานต่างๆ ของไทยไปตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ปัญหาที่ผู้เกี่ยวข้อง และผู้มีประสบการณ์มักพบอยู่เป็นประจำ คือ การขาดเอกภาพในการดำเนินงานของหน่วยงานไทยในต่างประเทศ คือ มักมีปัญหาว่า แต่ละหน่วยงานจะต่างคนต่างทำ มีอิสระจากกัน ตามทฤษฎี สถานทูตใหญ่ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่มาจากกระทรวงการต่างประเทศ และมีเอก-อัครราชทูตเป็นหัวหน้าสำนักงาน จะต้องเป็นหน่วยงานหลักในการประสานนโยบายของหน่วยงานต่างๆ ของไทยให้เป็นเอกภาพ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น ก็คือ สถานทูตไม่สามารถคุมหน่วยงานเหล่านี้ อาทิ สำนักงานที่ปรึกษาการพาณิชย์ของกระทรวงพาณิชย์ หรือสำนักงานของ BOI ได้ เพราะหน่วยงานเหล่านี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานทูต หรือขึ้นอยู่กับกระทรวงการต่างประเทศ ปัญหาเหล่านี้ได้มีการพูดกันมานาน และมีความพยายามที่จะแก้ไขกันมานาน แต่ประสบความยากลำบากมาก เรามาดูกันว่า ที่ผ่านมา ได้มีข้อเสนออะไรบ้าง ในการที่จะปรับรื้อระบบ โครงสร้าง และกลไกทางด้านเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ผมอยากจะเน้นว่า ปัญหาใหญ่ที่จะต้องแก้ไขมี 2 เรื่อง คือ แก้ไขการประสานงาน การซ้ำซ้อนของหน่วยงาน และอีกเรื่อง ก็คือ จะทำอย่างไรให้เราสามารถมีกลไกในการกำหนด และเจรจาทางด้านการค้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เท่าที่ผมลองนึกดู ก็ปรากฏว่า สามารถที่จะรวบรวมข้อเสนอต่างๆเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างดังกล่าวได้ถึง 9 ข้อเสนอ หรือทางเลือกด้วยกัน โดยผมจะจับรวมกลุ่มกันเป็นประเภท คือ 1. ข้อเสนอที่เกี่ยวกับ การเสนอให้มีการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมา 2. การยุบรวมหน่วยงานเข้าด้วยกัน 3. ข้อเสนอให้มีการปรับโครงสร้างภายในของหน่วยงาน 4. ข้อเสนอให้มีการปรับบทบาทของหน่วยงานใหม่ กลุ่มที่ 1 คือ ข้อเสนอให้มีการตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมา คือ 1.1 ข้อเสนอการจัดตั้งสำนักงานผู้แทนการค้าของไทย ข้อเสนอนี้เป็นข้อเสนอที่เลียนแบบสำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐ หรือ USTR ได้เคยมีข้อเสนอให้มีการจัดตั้ง "Thai Trade Representative Office" หรือ TTR ขึ้นมา ผมจำได้ว่า เป็นข้อเสนอในหลายปีก่อน ข้อดีของข้อเสนอนี้ คือ จะทำให้ประเทศไทยมีกลไกในการเจรจาการค้าที่เข้มแข็งขึ้น แทนที่จะเป็นอยู่อย่างปัจจุบันที่กระจัดกระจายในหน่วยงานต่างๆ อย่างไรก็ตาม TTR ก็อาจจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องการประสานงานระหว่างหน่วยงานเศรษฐกิจต่างประเทศของไทย นอกจากนี้ ถ้าจะต้องมีการจัดตั้ง TTR ขึ้นมา ต้องมีการโอนงานทางด้านการเจรจาการค้าจากกระทรวงต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระทรวงพาณิชย์ และจะมีตำแหน่งใหม่ขึ้นมา คือ หัวหน้าผู้แทนทางการค้า ซึ่งก็หมายความว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลงานทางด้านเศรษฐกิจจะถูกลดบทบาท ไม่มีบทบาทในการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ 1.2 ข้อเสนอให้มีการจัดตั้ง "National Economic Council" (NEC) ขึ้นมา หรือสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ ซึ่งเช่นเดียวกัน ก็จะเป็นการเลียนแบบ NEC ของสหรัฐ ข้อดีของข้อเสนอนี้ ก็คือ การทำหน้าที่เป็นกลไกของการประสานงานนโยบายด้านเศรษฐกิจของไทยได้ แต่ว่าผลในแง่ของการเพิ่มประสิทธิภาพการเจรจาการค้านี้นั้น คงจะไม่ชัดเจนนัก อย่างไรก็ตาม ปัญหาของข้อเสนอนี้ก็จะเหมือนๆ กับข้อเสนอข้างต้น และข้อเสนอที่ตามมา ที่จะเป็นปัญหาของทั้งกลุ่มข้อเสนอที่เกี่ยวกับการตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมา คือ ความเป็นไปได้ที่จะจัดตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมา จะมีความยากลำบากมาก เพราะเป็นเรื่องใหญ่ และจะมีหน่วยงานบางหน่วยงานที่จะสูญเสียอำนาจไป จะพยายามต่อต้านข้อเสนอเหล่านี้ ข้อเสนอนี้ ผมจำได้ว่า กรมเศรษฐกิจ กระทรวงการต่างประเทศเคยเสนอข้อเสนอนี้ ผมเข้าใจว่า กระทรวงการต่างประเทศก็คงจะมองว่า ถ้ามีการจัดตั้ง NEC ขึ้นมา กระทรวงการต่างประเทศก็จะสามารถทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการ ซึ่งก็จะทำให้กระทรวงการต่างประเทศเพิ่มบทบาททางด้านนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้ก็ไม่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งมักจะมองกระทรวงการต่างประเทศว่า ไม่มีความสามารถพอที่จะมาเล่นบทบาททางด้านเศรษฐกิจ ในช่วงหลังๆ นี้ ข้อเสนอนี้ก็เงียบหายไป 1.3 ข้อเสนอการจัดตั้ง กระทรวงการค้าระหว่างประเทศ และข้อเสนอการจัดตั้ง "กระทรวงการต่างประเทศ การค้าระหว่างประเทศ และความร่วมมือ เพื่อการพัฒนา" (เลียนแบบประเทศของยุโรปบางประเทศ) โดยกระทรวงใหม่นี้ ก็จะมีบทบาททั้งในด้านการทูต การค้า และความช่วยเหลือ ข้อเสนอที่คล้ายกับข้อเสนอนี้คือ ข้อเสนอของอาจารย์ติน จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งเสนอให้มีการจัดตั้ง กระทรวงการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ คือ การตั้ง "super ministry" ขึ้นมา ซึ่งหมายความว่าต้องรวมงานทางด้านการค้าจากกระทรวงพาณิชย์ งานด้านการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI และงานด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจจากกระทรวงการคลัง และกรมวิเทศสหการ ข้อดีของข้อเสนอเหล่านี้ ก็คือ ถ้าหากมีการจัดตั้งกระทรวงใหม่เหล่านี้ขึ้นมาได้ การเจรจาการค้าของไทยก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น และการประสานงานก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอเหล่านี้ก็คงจะเป็นเพียงแค่ข้อเสนอเท่านั้น หมายความว่า คงจะเป็นจริงขึ้นมาไม่ได้

2. การยุบรวมกระทรวง 2 กระทรวงเข้าด้วยกัน เป็นกระทรวงใหม่ คือ ให้มีการรวมกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าด้วยกัน กลายเป็นกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม หรือกระทรวง Miti ตามแบบของญี่ปุ่น ข้อเสนอนี้ก็คือ ข้อเสนอที่รัฐบาลโดยสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (..) และกระทรวงต่างๆ กำลังให้ความสำคัญอยู่

อย่างไรก็ตาม ถ้าเราจะเลียนแบบญี่ปุ่นจริงก็ต้องมีการยุบรวมกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน คือ จาก 2 กระทรวงเหลือ 1 กระทรวง แต่ผลประชุมที่ออกมา กลายเป็นว่ากระทรวงอุตสาหกรรมนั้นจะเพิ่มบทบาททางด้านการค้า คือ กระทรวงอุตสาหกรรมจะเปลี่ยนเป็นกระทรวง Miti โดยดึงงานบางส่วนของกระทรวงพาณิชย์

ในส่วนที่เกี่ยวกับการค้าเข้าไปด้วย ในขณะที่กระทรวงพาณิชย์ยังคงมีอยู่ไม่ได้ยุบหายไปไหน แต่ถูกลดบทบาทลง ให้ดูแลเรื่องการค้าภายในเท่านั้น

ข้อดีของกระทรวง Miti คือ การเชื่อมโยงภายใน ให้นโยบายเศรษฐกิจนั้นครบวงจร คือการผลิตกับการตลาดนั้นควรจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าจะส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านใดเพื่อการส่งออก ในขณะที่ปัจจุบันกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงพาณิชย์คิดไปคนละทิศคนละทาง

อย่างไรก็ตาม ผมกลับมองว่า ถ้าเป็นกระทรวง Miti แบบไทย (ซึ่งก็คือกระทรวงอุตสาหกรรมเก่านั่นเอง) ก็ไม่น่าจะเพิ่มประสิทธิ-ภาพการเจรจาการค้าระหว่างประเทศเนื่องจากกระทรวงอุตสาหกรรมไม่เคยมีประสบการณ์ในการเจรจาการค้าระหว่างประเทศมาก่อน

นอกจากนั้น กระทรวง Miti ใหม่ของไทยคงจะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของการประสานงานประสานนโยบายทางด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศในแง่ภาพรวม และยังมีความไม่ชัดเจนว่าถ้ามีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง รัฐบาลใหม่จะเอาด้วยกับข้อเสนอของรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ ก็คือ กระทรวง Miti คงจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ยิ่งไปกว่านั้น ตามข้อเสนอของ ..ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการกระจายอำนาจการเจรจาการค้าจากกระทรวงพาณิชย์ ไปสู่กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงเกษตร ก็จะยิ่งสับสนวุ่นวายมากขึ้น ยิ่งทำให้การเจรจาการค้าของไทยอ่อนแอลงไปเพราะแทนที่จะรวมศูนย์การเจรจาการค้าในลักษณะ USTR หรือ TTR แต่เรากลับมากระจายการเจรจาการค้าออกไปยังหลายๆ หน่วยงานมากขึ้น

3. อีกกลุ่มข้อเสนอหนึ่งก็เป็นข้อเสนอในการปรับปรุงบทบาทของกระทรวงสำคัญๆ

3.1 ข้อเสนอการปรับโครงสร้างภายในของกระทรวงพาณิชย์เคยเป็นข้อเสนอของ TDRI ซึ่งเคยทำการวิจัยให้กระทรวงพาณิชย์ คือ การรวมหน่วยงานด้านการเจรจาด้านการค้าจากกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กรมการค้าระหว่างประเทศ เป็นกรมใหม่ภายในกระทรวงพาณิชย์

ข้อเสนอนี้ก็อาจจะช่วยแก้ไขปัญหาการขัดแย้งภายในของกระทรวงพาณิชย์ได้บ้าง (กรมการค้าต่างประเทศกับกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์มักจะมีความขัดแย้งกันในเรื่องการเจรจาการค้า) แต่การปรับโครงสร้างภายในของกระทรวงพาณิชย์นั้นอาจจะไม่เพียงพอต่อการที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการเจรจาการค้าของไทย ถ้าเปรียบเทียบกับทางเลือกอื่นๆ เช่น ข้อเสนอ TTR หรือข้อเสนอกระทรวง Miti หรือกระทรวงการค้าระหว่างประเทศ และยิ่งไปกว่านั้น การปรับโครงสร้างเช่นนั้นก็ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาการขาดการประสานงานกันระหว่างกระทรวงด้วย

3.2 การปรับบทบาทของคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี ดูแลงานด้านเศรษฐกิจเป็นประธานข้อเสนอนี้เป็นการปรับปรุง กนศ. ให้มีประสิทธิภาพ ในการเป็นกลไกในการประสานนโยบายและการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ที่ผ่านมา กนศ. ก็ไม่สามารถมีบทบาทอะไรได้มากนัก เพราะเป็นเพียงคณะกรรมการไม่ได้มีฐานะเป็นหน่วยงาน หรือกระทรวง ทบวง กรม บุคลากรก็ใช้คนจากกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์เป็นหลัก

ในอดีต คือ ในสมัยรัฐบาล พล..เปรม ติณสูลานนท์ เคยมี กนศ. ซึ่งมีกลไกที่แตกต่างไปจากกนศ.ในยุคปัจจุบัน กนศ.ในยุคนั้นมีสำนักเลขานุการร่วมที่มาจากทั้งกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ และยังมีคณะอนุกรรมการที่ดูแลความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจหลักๆ ของไทย เช่น คณะอนุกรรมการสมุดปกขาวไทย - ญี่ปุ่น คณะอนุกรรมการไทย - สหรัฐ คณะอนุกรรมการไทย -ยุโรป เป็นต้น (ปัจจุบันเราไม่มีกลไกประสานนโยบายทางด้านเศรษฐกิจกับประเทศมหาอำนาจ) ผมคิดว่า กนศ.ในรูปแบบเดิมนั้น น่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่า กนศ.ในยุคปัจจุบัน ดังนั้น น่าจะมีการทบทวน รื้อฟื้นบทบาทของ กนศ. และคณะอนุกรรมการ กนศ.ภายใต้รูปแบบเดิม

3.3 ข้อเสนอการปรับเพิ่มบทบาทของกระทรวงการต่างประเทศให้กระทรวงต่างประเทศเป็นหัวหน้าทีมในเรื่องการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศเป็นหัวหน้าทีมในการเจรจาทางด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ

ในอดีตกระทรวงการต่างประเทศเคยมีบทบาทนำในเรื่องของการเจรจาระหว่างประเทศในช่วงที่ประเด็นปัญหาทางด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศยังไม่ยุ่งยากสลับซับซ้อนเท่าในปัจจุบัน และประเด็นทางด้านเศรษฐกิจก็เป็นเพียงเรื่องปลีกย่อย เป็นเพียงเครื่องมือในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ ซึ่งในสมัยนั้นก็เน้นเรื่องการทหาร เรื่องการเมืองความมั่นคง

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมา บทบาทของกระทรวงต่างประเทศในการเจรจาระหว่างประเทศก็ลดลงไปเรื่อยๆ ในขณะที่บทบาทของกระทรวงอื่นๆ ก็เพิ่มมากขึ้น ตามทฤษฎีแล้ว กระทรวงต่างประเทศน่าจะเป็นหน่วยงานที่เหมาะสมที่สุดในการทำหน้าที่เป็นหน่วยงานประสานนโยบายต่างประเทศทางด้านเศรษฐกิจกับหน่วยงานอื่นๆ

บทบาทที่สำคัญของกระทรวงต่างประเทศ คือ บทบาทในแง่ภาพรวม บทบาทการเจรจาในกรอบใหญ่แต่จากข่าวที่ปรากฏออกมาล่าสุด ที่มีการหารือกันระหว่าง ก..กับกระทรวงเศรษฐกิจ 6 กระทรวงนั้น ไม่ได้มีกระทรวงต่างประเทศรวมอยู่ด้วย

ปัญหาตรงนี้ก็เป็นปัญหาที่สะท้อนถึงรากเหง้าของปัญหาบทบาทของกระทรวงต่างประเทศทางด้านเศรษฐกิจ คือ ในแง่หนึ่ง กระทรวงต่างประเทศ ก็มีบทบาททางด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ แต่ในอีกแง่หนึ่ง กระทรวงต่างประเทศ ก็ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นกระทรวงเศรษฐกิจ หน่วยงานอื่นๆ ก็ไม่ยอมรับถึงบทบาททางด้านเศรษฐกิจของกระทรวงต่างประเทศ

เรื่องบทบาททางด้านเศรษฐกิจของกระทรวงต่างประเทศนั้น เป็นเรื่องยาวมิติทางด้านเศรษฐกิจ ได้เริ่มมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในการต่างประเทศและการทูตกระทรวงการต่างประเทศจึงได้เริ่มปรับบทบาท โดยประเด็นหลักของนโยบาย คือ "การเพิ่มบทบาททางด้านเศรษฐกิจ" วลีนี้กลายเป็นวลีที่ฮิตมาโดยตลอด

ในแง่ของนโยบายของกระทรวงต่างประเทศอย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง การที่พูดว่า เพิ่มบทบาททางด้านเศรษฐกิจนั้น พูดง่ายแต่ถ้าถามต่อไปว่า จะเพิ่มบทบาททางด้านเศรษฐกิจอย่างไร บทบาททางด้านเศรษฐกิจของกระทรวงต่างประเทศคืออะไร ตรงนี้ตอบยาก จึงกลายเป็นว่า ที่ผ่านๆ มา เวลากระทรวงต่างประเทศจะเพิ่มบทบาททางด้านเศรษฐกิจ ก็จะหมายถึงการพยายามเพิ่มบทบาททางด้านการค้า การให้ทูตเป็น "Salesman" การไปแย่งงานกระทรวงพาณิชย์ การเพิ่มบทบาททางด้านเศรษฐกิจ หมายถึง การเพิ่มบทบาททางด้านการลงทุน ก็คือ การไปแย่งงาน BOI เหล่านี้เป็นต้น

บทบาทของกระทรวงต่างประเทศควรเป็นบทบาทของการมองในแง่ภาพรวม การเจรจาในกรอบใหญ่ดังที่กล่าวไปแล้ว ไม่ใช่แย่งงานกระทรวงพาณิชย์ หรือการแย่งงาน BOI บทบาทอันชอบธรรมของกระทรวงต่างประเทศ คือ บทบาทการมองในแง่ภาพรวมบทบาทของการประสานงาน การเป็นหัวหน้า "Team Thailand" แต่ว่าบทบาทดังกล่าวเป็นบทบาทที่เล่นยาก เพราะการที่กระทรวงต่างประเทศจะเล่นบทนี้ได้ จะต้องมีบุคลากรที่พร้อมทั้งในระดับล่าง ระดับกลาง และระดับบน

อย่างไรก็ตาม กระทรวงต่างประเทศก็ขาดบุคลากรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจ ในระดับบนก็มีบุคลากรเพียงไม่กี่คนที่จะสามารถทำหน้าที่เป็นหัวหน้า "Team Thailand" ได้อย่างแท้จริง เพราะฉะนั้น หน่วยงานอื่นๆ จึงไม่มีความเชื่อมั่น และไม่ยอมรับในการเป็นผู้นำ เป็นหัวหน้าทีมของกระทรวงต่างประเทศ

3.4 สำหรับข้อเสนอสุดท้าย คือ ข้อเสนอที่เป็นการใช้ตัวแบบของระบบอังกฤษ ในระบบของอังกฤษนั้น รวมทั้งในประเทศที่เป็นเครือจักรภพอังกฤษ คือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา ประเทศเหล่านี้ กระทรวงต่างประเทศจะมีหน่วยงานด้านการค้ารวมอยู่ด้วย หากเราจะนำเอารูปแบบนี้มาประยุกต์ใช้กับรูปแบบของไทย ก็หมายความว่า ต้องมีการโอนงานด้านการเจรจาการค้าจากกระทรวงพาณิชย์มาอยู่ที่กระทรวงต่างประเทศอาจจะหมายถึง การย้ายกรมการค้าต่างประเทศมาอยู่ที่กระทรวงต่างประเทศ

ข้อดีของข้อเสนอนี้จะเป็นการเพิ่มประสิทธิ-ภาพการเจรจาการค้าต่างประเทศของไทยโดยจะเป็นการใช้ประโยชน์จากเครื่องมือทางการทูตของไทย จากเครือข่ายทางการทูตของไทยจะเป็นการใช้ประโยชน์ในการดำเนินยุทธศาสตร์ทางด้านการค้าที่ใกล้เคียงกับโลกแห่งความเป็นจริงนั่นก็คือ โลกที่การเมืองนำเศรษฐกิจโลกที่เรื่องการค้าเป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ หากเปรียบเทียบกับข้อเสนออื่น เช่น การจัดตั้ง TTR แต่อย่างที่ผมได้กล่าวไปแล้ว TTR คงจะเกิดขึ้นได้ยากในขณะที่กระทรวงต่างประเทศและการค้าน่าจะมีโอกาสเป็นไปได้มากกว่าเพราะไม่ได้เป็นการตั้งหน่วยงานใหม่แต่เป็นเพียงการดึงงานบางส่วนออกมาจากกระทรวงพาณิชย์เท่านั้น

ผลดีอีกประการหนึ่งของข้อเสนอนี้ ก็คือจะทำให้การประสานนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกระทรวงต่างประเทศนั้นน่าจะเป็นหน่วยงานที่เหมาะสมที่สุดในการประสานนโยบายซึ่งถ้าหากกระทรวงต่างประเทศรับผิดชอบในการเจรจาการค้าโดยตรงก็จะทำให้กระทรวงต่างประเทศได้รับการยอมรับในการเป็นหัวหน้า "Team Thailand" ได้มากขึ้นด้วย

กล่าวโดยสรุป จะเห็นได้ว่ามีข้อเสนอต่างๆ มากมายที่เกี่ยวกับการปรับรื้อระบบนโยบายต่างประเทศของไทย แต่ข้อเสนอส่วนใหญ่ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ และคงจะเป็นเพียงแค่ความฝัน ในที่สุดแล้วก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากระบบเดิมที่เป็นอยู่ในปัจจุบันโดยอาจมีการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย เข้าทำนอง "ผักชีโรยหน้า" เท่านั้น

 อ้างอิง : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ / นโยบายต่างประเทศของไทย ข้อเสนอการปรับรื้อระบบ [Online] Available URL; http://www.tu.ac.th/org/polsci/cips/thai.html

 ____________________________________________________________________

กระทำการแก้ไขต่อจากที่อาจารย์บอก โดย อาจจารย์ต้องการความคิดเห็นส่วนตัว ชื่อและเลขที่คนทำ

_____________________________________________________________________

หลังจากได้อ่านมาจากบทความที่ข้าพเจ้าได้[คัดลอกมานั้น]รู้สึกว่า

มีหลายหลายความคิดของสาธารณะชนที่แตกต่าง...ก่อให้เป็นผลที่คนภายในประเทศไม่เข้าใจเหตุผลของคนภายนอก

โดยบางส่วนของเนื้อหาได้มีการอ้างถึงบทบาทของกระทรวงหลายกระทรวง

แต่หลักๆได้กล่าวถึง miti อะไลซักอย่าง[ซึ่งข้าพเจ้าก้อไม่เข้าใจแต่ก็อ่าน]

แปลใจความได้ว่า  กระทรวง Miti คือ การเชื่อมโยงภายใน ให้นโยบายเศรษฐกิจนั้นครบวงจร คือการผลิตกับการตลาดนั้น

ควรจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าจะส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านใดเพื่อการส่งออก ในขณะที่ปัจจุบันกระทรวงอุตสาหกรรมและ

กระทรวงพาณิชย์คิดไปคนละทิศคนละทาง

โดยผู้เขียน page นี้ได้บอกถึงการปรับปรุงกระทรวงทบวงอะไรต่างๆมี 4 วิธี ได้แก่1.ข้อเสนอการปรับโครงสร้างภายในของกระทรวงพาณิชย์ แต่การปรับโครงสร้างภายในของกระทรวงพาณิชย์นั้นอาจจะไม่เพียงพอต่อการที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการเจรจาการค้าของไทย ถ้าเปรียบเทียบกับทางเลือกอื่นๆ2.การปรับบทบาทของคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ แต่ในสมัยรัฐบาล พล..เปรม ติณสูลานนท์ เคยมี กนศ. ซึ่งมีกลไกที่แตกต่างไปจากกนศ.ในยุคปัจจุบัน กนศ.ในยุคนั้นมีสำนักเลขานุการร่วมที่มาจากทั้งกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ และยังมีคณะอนุกรรมการที่ดูแลความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจหลักๆ ของไทย เช่น คณะอนุกรรมการสมุดปกขาวไทย - ญี่ปุ่น คณะอนุกรรมการไทย - สหรัฐ คณะอนุกรรมการไทย -ยุโรป 3. ข้อเสนอการปรับเพิ่มบทบาทของกระทรวงการต่างประเทศให้กระทรวงต่างประเทศเป็นหัวหน้าทีมในเรื่องการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศเป็นหัวหน้าทีมในการเจรจาทางด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ แต่ในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมา บทบาทของกระทรวงต่างประเทศในการเจรจาระหว่างประเทศก็ลดลงไปเรื่อยๆ ในขณะที่บทบาทของกระทรวงอื่นๆ ก็เพิ่มมากขึ้น ตามทฤษฎีแล้ว กระทรวงต่างประเทศน่าจะเป็นหน่วยงานที่เหมาะสมที่สุดในการทำหน้าที่เป็นหน่วยงานประสานนโยบายต่างประเทศทางด้านเศรษฐกิจกับหน่วยงานอื่นๆและข้อสุดท้าย4.การย้ายกรมการค้าต่างประเทศมาอยู่ที่กระทรวงต่างประเทศ ข้อดีของข้อเสนอนี้จะเป็นการเพิ่มประสิทธิ-ภาพการเจรจาการค้าต่างประเทศของไทยโดยจะเป็นการใช้ประโยชน์จากเครื่องมือทางการทูตของไทย จากเครือข่ายทางการทูตของไทยจะเป็นการใช้ประโยชน์ในการดำเนินยุทธศาสตร์ทางด้านการค้าที่ใกล้เคียงกับโลกแห่งความเป็นจริง และ แน่นอน เหมือนกับเชปทุกคนย่อม หวงตำราอาหารของตนเองแต่คนต่างคิดต่างสร้างสรรค์อาหารที่น่าทาน....เหมือนกับกระทรวงเหล่านี้ก็ย่อมหวงอารหารที่คนเองทนลำบากทำมาทำให้เกิดการไม่ปองดองกันจากที่ได้อ่านในช่วงที่ว่า“หน่วยงานต่างๆ มักต่างคนต่างทำ มักหวงข้อมูล ไม่อยากให้หน่วยงานอื่นรู้เรื่องที่ตัวเองกำลังทำอยู่ มีการแก่งแย่งต่อสู้กันในการสร้างผลงานว่า หน่วยงานไหนจะมีบทบาทโดดเด่นในด้านการต่างประเทศ เพราะฉะนั้น เมื่อขาดการประสานงาน ขาดการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน จึงมักทำให้นโยบายต่างประเทศด้านเศรษฐกิจของไทยขาดเอกภาพ ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน หน่วยงานหนึ่งทำไปทางหนึ่ง อีกหน่วยงานหนึ่งก็ทำไปในอีกทางหนึ่ง หลายครั้งไม่ได้พูดเป็นเสียงเดียวกัน ปัญหาเหล่านี้นับเป็นจุดอ่อนที่สำคัญของนโยบายต่างประเทศ ต่างชาติก็มักจะใช้ประโยชน์ ฉวยโอกาสจากความแตกแยกระหว่างหน่วยงานต่างๆ ของไทย มักจะใช้วิธีที่เราเรียกว่า "แบ่งแยกและปกครอง"                                ”บางทีปองดองกันและช่วยกันแก้ไขปัญหากระทรวงอะไรที่ว่านี้คงจะเป็นการดี[เพราะข้าพเจ้าเองก็ไม่เข้าใจ] ท้ายที่สุด ชื่อคนหาข้อมูลและคนก็อบมาใส่ในที่นี้ - -*มยุรินทร์ วรัทยา ม.6/1 เลขที่ 36 O[]O//

รูปภาพของ silavacharee

Innocent  ขาดชื่อผู้แสดงความคิดเห็น  

รูปภาพของ silavacharee

ไม่ให้ลอกมาส่งให้อ่านแล้วเอามาเขียนโดยความคิดของตนเอง ขอให้แก้ไขใหม่  และให้บอกชื่อ เลขที่และชั้นด้วย เพราะให้คะแนนไม่ได้

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 866 คน กำลังออนไลน์