โรคต้อกระจก
5. อาการ - ตามัวลง เห็นภาพพร่ามัวหรือเลือนลาง เนื่องจากเลนส์เป็นฝ้าขุ่นจนสายตาไม่สามารถโฟกัสได้โดยมากจะค่อย ๆ มัวลงทีละน้อย นอกจากอุบัติเหตุหรือโรคบางชนิด อาจมัวได้อย่างรวดเร็ว
- ต้องเปลี่ยนแว่นบ่อย เพราะสายตาสั้นมากขึ้น คือการมองไกลจะไม่ค่อยชัด และการมองระยะใกล้จะชัดเจนกว่า พบในต้อกระจกบางชนิด
- มีปัญหาการมองเห็น โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในที่แสงจ้า หรือการมองดวงไฟในเวลากลางคืน
- ตาข้างหนึ่งอาจเห็นภาพซ้อน ซึ่งเกิดจากแสงที่กระทบเรตินากระจายออกหลายจุด
- มองเห็นสีต่าง ๆ เปลี่ยนไปจากเดิม โดยเฉพาะสีเหลือง
- ปวดตาและมีต้อหินแทรก อาการนี้อันตรายมาก เพราะสายตาจะมัวไปเรื่อย ๆ และแก้ไขให้มองเห็นใหม่ได้ยากหรือบางครั้งไม่ได้เลย
6.วิธีรักษา - การรักษาต้อกระจกทำได้โดยการผ่าตัดเอาเลนส์ที่ขุ่นมัวออก วิธีการผ่าตัดทำได้ 2 วิธี
Phacoemulsification เป็นวิธีที่นิยมทีสุดโดยการเจาะรูเล็กๆแล้วใช้เครื่อง ultrasound สลายเลนส์และดูดออก
Extracapsular โดยการผ่าตัดเป็นแผลเล็กๆแล้วเอาเลนส์ที่เสียออก
หลังจากเอาเลนส์ออกแล้วแพทย์ก็จะใส่แก้วตาเทียมเข้าแทนที่อันเดิม หลังผ่าตัดอาจจะมีอาการระคายเคืองตา อาจจะต้องใส่เครื่องป้องกันการขยี้ตา 1-2 วัน หลังผ่าตัก 1 วันก็จะเห็นชัดขึ้นแต่จะชัดที่สุดคือหลังผ่า 4 สัปดาห์และมีความจำเป็นต้องสวมแว่นตา หลังผ่าตัด
หากมีอาการเหล่านี้ให้พบแพทย์
- ตามองไม่เห็น
- ปวดตาตลอด
- ตาแดงมากขึ้น
- เห็นแสงแปล็บๆ
- คลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะและไอ
การมองเห็นของตาปกติ
การมองเห็นของคนตาเป็นต้อกระจก