โรค... ไมเกรนด์
![รูปภาพของ sss28367 รูปภาพของ sss28367](http://old.thaigoodview.com/files/profilepic/picture-7489.jpg)
โรคในโรคนี้
1. ชื่อโรค ชื่อภาษาไทย ไมเกรน, ลมตะกัง
ชื่อภาษาอังกฤษ Migraine
2.อยู่ในกลุ่มโรคชนิดใด
3.ผู้ค้นพบ
4. สาเหตุของการเกิดโรค โรคปวดศีรษะไมเกรนเป็นโรคที่พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ประมาณว่าร้อยละ 25 ของผู้หญิง และร้อยละ 10 ของผู้ชาย วัยผู้ใหญ่ตอนต้นจะมีอาการปวดศีรษะไมเกรนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเริ่มมีอาการตั่งแต่วัยเด็ก หรือวัยรุ่น ต่อเนื่องเรื้อรัง เป็น ๆ หาย ๆ และลดลงเมื่อถึงวัยหมดประจำเดือน ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่เชื่อว่าเกิดจากปรากฏการณ์ทางสมองที่เรียกว่า “Cortical spreading depression” ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เซลล์ประสาทบริเวณผิวสมอง (cerebral cortex) ถูกกระตุ้นและตามมาด้วยการยับยั้งการทำงาน ก่อให้เกิดการหดและขยายตัวของหลอดเลือดแดงบริเวณผิวสมอง จนเกิดการหลั่งสาร inflammatory mediators และ neuropeptide ออกมาในลักษณะที่เรียกว่า “sterile inflammation” ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองต่อเส้นประสาทสมองคู่ที่ 5 (Trigerminal nerve) และเกิดอาการปวดศีรษะขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่าโรคปวดศีรษะไมเกรนมีปัจจัยทางกรรมพันธุ์ร่วมด้วย
4.1 เชื้อโรค
4.2 พฤติกรรม/จิตใจ
5. อาการของโรค ผู้ป่วยจะมีอาการปวดศีรษะเป็นครั้งคราว มักจะเริ่มเป็นครั้งแรกตั้งแต่อายุน้อย (วัยรุ่น หรือวัยหนุ่มสาว) และจะเป็นๆหายๆ จนเลยวัย ๕๕ ปี หรือตลอดชีวิต
แต่ละครั้ง จะมีอาการปวดตุบๆ ที่ขมับ หรือรอบๆ เบ้าตาซีกใดซีกหนึ่ง อาจปวดสลับข้างในแต่ละคราว หรือปวดพร้อมกันทั้ง ๒ ข้างก็ได้ ผู้ป่วยมักจะคลำได้หลอดเลือดที่บริเวณขมับมีลักษณะโป่งพองและเต้นตุบๆ บางคนอาจปวดแบบตื้อๆ ทั้งศีรษะ หรืออาจมีอาการเวียนศีรษะ กลัวแสง ปวดเสียวหนังศีรษะ บางรายก่อนปวดหรือขณะปวด อาจมีอาการตาพร่า ตาลาย ตาเห็นแสงวอบแวบ หรือมืดมัวไปครึ่งซีก แต่ละครั้งมักปวดนาน ๔-๗๒ ชั่วโมง แต่ถ้าได้กินยาบรรเทาปวด และนอนหลับสักครู่ ก็อาจทำให้อาการทุเลาได้เร็วขึ้น บางรายที่มีอาการปวดมากหรือปวดนาน ก่อนจะทุเลาอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เมื่ออาเจียนแล้วอาการปวดจะทุเลาไปได้เอง ในรายที่เป็นไมเกรนชนิดรุนแรง ก็อาจมีอาการ หน้าชา ริมฝีปากชา มือชา วิงเวียน ตาเห็นภาพซ้อน หรือแขนขาอ่อนแรงซีกหนึ่ง แต่อาการแบบนี้พบได้น้อยมาก และมักเป็นเพียงชั่วคราวก็จะหายได้เอง
6. วิธีการป้องกัน