บาสเกตบอล ( Basketball )
การเปลี่ยนตัว
ที่มา http://www.thaigoodview.com/files/u7505/03.jpg
1. เมื่อเกิดการฟาวล์ การโยนโทษจะพิจารณาเป็นชุดหรือเป็นกลุ่มของการฟาวล์
คำนิยาม
ชุด อาจจะมีลักษณะดังนี้ คือ โยนโทษ 1 ครั้ง หรือโยนโทษ 1+1 หรือ โยนโทษ 2 ครั้ง หรือโยนโทษ 3 ครั้ง
กลุ่ม อาจจะมีลักษณะดังนั้ คือ
- โยนโทษ 1+1 และโยนโทษ 2 ครั้ง
- โยนโทษ 2 ครั้ง และโยนโทษ 2 ครั้ง + การครอบครองบอล
- โยนโทษ 1 ครั้ง และโยนโทษ 2 ครั้ง
- และการโยนโทษลักษณะผสมใด ๆ ของกลุ่มที่นอกเหนือจากนี้
2. ถ้าภายหลังได้เริ่มดำเนินการโยนโทษของกลุ่มการโยนโทษ แล้วปรากฎว่ามีการฟาวล์ หรือการทำผิดระเบียบเกิดขึ้นก่อนจะเริ่มเดินเวลาการแข่งขัน การลงโทษคือ การโยนโทษ (ครั้งเดียวหรือหลายครั้ง) การเล่นลูกกระโดด หรือการส่งลูกบอลเข้าเล่นจากนอกเส้นข้างอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วก็ให้เปลี่ยนตัวเพิ่มได้อีก
ตำแหน่งของผู้เล่นและผู้ตัดสิน
ตำแหน่งของผู้ตัดสินจะถูกกำหนดโดยจุดสัมผัสกับพื้นสนามเมื่ออยู่ในอากาศจากการกระโดด จะมีสภาพเช่นเดียวกับตอนสัมผัสพื้นสนามครั้งสุดท้ายเมื่อพิจารณาเกี่ยวกับเส้นขอบของสนามเส้นกลาง เส้นเขตกำหนดการยิงประตูเพื่อทำ 3 คะแนนเส้นโยนโทษ หรือเส้นกำหนดเขตโยนโทษ
ตำแหน่งของผู้ตัดสินจะถูกกำหนดเหมือนกับผู้เล่น เมื่อลูกบอลถูกตัวผู้ตัดสินก็เสมือนกับถูกพื้นสนามในตำแหน่งที่ผู้ตัดสินยืน
วิธีเล่นลูกบอล
กีฬาบาสเกตบอลคือ การเล่นลูกบอลด้วยมือ แต่การพาลูกบอลวิ่ง การเตะลูกบอล หรือการชกลูกบอล เป็นการทำผิดกติกา
การเตะลูกบอลหรือสกัดลูกบอลด้วยส่วนหนึ่งส่วนใดของผู้เล่นเป็นการทำผิดกติกาได้เมื่อการกระทำโดยจงใจเท่านั้นและการที่เท้าหรือขาถูกลูกบอลโดยไม่ถือเป็นการทำผิดกติกา
การครอบครองลูกบอล ผู้เล่นได้ครอบครองลูกบอล เมื่อผู้เล่นถือลูกบอลหรือเลี้ยงลูกบอลดี หรือในกรณีที่ครอบครองลูกบอลนอกเขตสนามก็ต่อเมื่อลูกบอลอยู่ในมือของผู้เล่นเพื่อส่งลูกบอลเข้าเล่น
ทีมครอบครองลูกบอล เมื่อผู้เล่นของทีมนั้นได้ครอบครองลูกบอล รวมทั้งเมื่อลูกบอลถูกส่งไปมาระหว่างผู้เล่นของทีมนั้น ซึ่งทีมจะได้ครอบครองลูกบอลต่อไปจนกระทั่งคู่แข่งขันได้แย่งการครอบครองลูกบอล หรือเกิดมีบอลตาย หรือได้มีการยิง
ประตูตอนที่ลูกบอลหลุดออกจากมือผู้ยิงประตูไปแล้ว
- ผู้เล่นออกนอกเขตสนาม-ลูกบอลออกนอกเขตสนาม
- ผู้เล่นจะออกนอกเขตสนามเมื่อสัมผัสพื้นบนเส้นขอบสนาม หรือนอกเขตสนาม
- ลูกบอลออกนอกเขตสนาม เมื่อถูกสิ่งต่อไปนี้
1. ผู้เล่นหรือบุคคลอื่นผู้ซึ่งอยู่นอกเขตสนาม หรือ
2. พื้นหรือวัตถุอื่นใดนอกเขตสนาม หรือ
3. สิ่งค้ำยันหรือด้านหลังของกระดานหลัง
การที่ลูกบอลออกนอกเขตสนาม
ลูกบอลถูกทำให้ออกนอกเขตสนาม โดยผู้เล่นคนสุดท้ายที่ถูกลูกบอลก่อนที่ลูกบอลจะออกนอกเขตสนาม โดยถูกสิ่งอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากผู้เล่น ผู้ตัดสินจะต้องแสดงสัญญาณอย่างชัดเจนว่าทีมใดจะได้ส่งลูกบอลเข้าเล่นจากนอกเขตสนามการทำให้ลูกบอลออกนอกเขตสนาม เป็นการทำผิดกติกา ผู้ตัดสินต้องขานลูกยึดเมื่อไม่แน่ใจว่าทีมใดทำให้ลูกบอลออกนอกเขตสนาม
การเลี้ยงลูกบอล
การเลี้ยงลูกบอลจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นได้ครอบครองลูกบอล แล้วทำให้ลูกบอลเคลื่อนที่โดยการโยน ปัด หรือกลิ้งลูกบอลแล้วไปถูกลูกบอลอีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะไปถูกผู้เล่นคนอื่น ในการเลี้ยงลูกบอลนั้น ลูกบอลจะต้องถูกพื้นสนามภายหลังจากการทำให้ลูกบอลเคลื่อนที่ดังกล่าวแล้ว ผู้เล่นจะสิ้นสุดการเลี้ยงลูกบอลทันทีที่เขาได้สัมผัสลูกบอลด้วยสองมือพร้อมๆ กัน หรือทำให้ลูกบอลพักอยู่ในมือใดมือหนึ่งหรือทั้งสองมือ ไม่จำกัดว่าผู้เล่นจะต้องก้าวเท้ากี่ก้าว ขณะที่ลูกบอลไม่สัมผัสมือของเขา
ผู้เล่นจะต้องไม่เลี้ยงลูกบอลครั้งที่สองภายหลังการเลี้ยงลูกบอลครั้งแรกสิ้นสุดลง เว้นแต่ว่าได้เสียการครอบครองลูกบอลเพราะเหตุต่อไปนี้
1. ทำการยิงประตู หรือ
2. ถูกคู่แข่งปัดลูกบอลออกจากการครอบครอง หรือ
3. การส่งหรือการทำลูกบอลหลุดจากมือโดยบังเอิญ แล้วลูกบอลไปถูกผู้เล่นคนอื่น หรือผู้เล่นคนอื่นถูกลูกบอล ผู้เล่นที่โยนลูกบอลใส่กระดานหลังแล้วไปถูกลูกบอลอีกก่อนที่ลูกบอลจะถูกผู้เล่นคนอื่น เป็นการทำผิดกติกา เว้นแต่ผู้ตัดสินเห็นว่าเป็นการยิงประตู
ข้อยกเว้น ต่อไปนี้ไม่ใช่การเลี้ยงลูกบอล
1. การยิงประตูต่อเนื่องกัน
2. เสียการครอบครองลูกบอลโดยบังเอิญ (การที่ลูกบอลหลุดจากมือโดยบังเอิญ) ตอนเริ่มต้นหรือตอนสิ้นสุดการเลี้ยงลูกบอล และได้ครอบครองลูกบอลอีกครั้ง
3. ความพยายามที่จะครอบครองลูกบอล โดยการปัดลูกบอลจากผู้เล่นคนอื่นที่พยายามครอบครองลูกบอล
4. ปัดลูกบอลจากการครอบครองของผู้เล่นคนอื่น
5. สกัดกั้นการส่งเพื่อให้ได้ลูกบอลไว้ครอบครอง หรือ
6. โยนลูกบอลไปมาจากมือหนึ่งไปยังอีกมือหนึ่ง (หรือทั้งสองมือ) และถือลูกบอลไว้ก่อนที่ลูกบอลจะถูกพื้นสนาม โดยมีข้อแม้ว่าผู้เล่นคนนั้นไม่ได้ทำผิดกติกาว่าด้วยการเคลื่อนที่พร้อมลูกบอล การเลี้ยงลูกบอลครั้งที่สอง เป็นการทำผิดกติกา
บทลงโทษ
ให้คู่แข่งขันได้ส่งลูกบอลเข้าเล่นจากนอกเส้นข้าง ณ จุดที่ใกล้กับการทำผิดกติกามากที่สุด
การหมุนตัว
การหมุนตัวจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นที่กำลังถือลูกบอลก้าวเท้าใดเท้าหนึ่งเพียงเท้าเดียว 1 ก้าว หรือหลายๆ ก้าวในทิศทางต่างๆ โดยเท้าอีกข้างหนึ่งจะเป็นเท้าหลัก (หรือเท้าหมุน) ซึ่งยังคงสัมผัสพื้น ณ จุดที่ตนยืนอยู่นั้น
การเคลื่อนที่พร้อมกับลูกบอล
ผู้เล่นอาจจะเคลื่อนที่พร้อมกับลูกบอลไปในทิศทางใดก็ได้ ภายใต้ระเบียบต่อไปนี้
ระเบียบข้อที่ 1 ผู้เล่นที่ได้รับลูกบอลขณะที่ยืนอยู่นิ่ง ๆ อาจจะหมุนตัวโดยเท้าใดเท้าหนึ่งเป็นเท้าหลักก็ได้
ระเบียบข้อที่ 2 ผู้เล่นที่ได้รับลูกบอลขณะที่ตนเองกำลังเคลื่อนที่ หรือเมื่อสิ้นสุดการเลี้ยงลูกบอล อาจจะใช้การนับสองจังหวะเพื่อหยุด หรือเพื่อส่งลูกบอลให้พ้นจากตัวไป
การนับจังหวะที่หนึ่ง เกิดขึ้นเมื่อ
1. เมื่อผู้เล่นได้ลูกบอล ถ้าเท้าใดเท้าหนึ่งถูกพื้นสนามในตอนที่ได้รับลูกบอล หรือ
2. เมื่อเท้าใดเท้าหนึ่ง หรือทั้งสองเท้าถูกพื้นสนามพร้อมกัน ภายหลังจากผู้เล่นได้รับลูกบอล ขณะที่เท้าทั้งสองข้างของผู้เล่นไม่ถูกพื้น (เท้าพ้นพื้น เช่น ลอยตัวในอากาศ)
การนับจังหวะที่สอง จะเกิดขึ้นภายหลังจากการนับจังหวะที่หนึ่งแล้ว เมื่อเท้าใดเท้าหนึ่งหรือทั้งสองเท้าถูกพื้นสนามพร้อม ๆ กัน ผู้เล่นที่ได้หยุดในจังหวะที่หนึ่งของการนับช่วงจังหวะ จะไม่มีสิทธิ์เคลื่อนที่ต่อในจังหวะที่สอง เมื่อผู้เล่นได้หยุดตามกติกาแล้ว ถ้าเท้าใดเท้าหนึ่งอยู่ล้ำหน้ากัน ก็อาจจะหมุนตัวได้ แต่เท้าหลังเท่านั้นที่จะเป็นเท้าหลัก อย่างไรก็ตาม ถ้าเท้าทั้งสองอยู่ในแนวเดียวกัน อาจจะใช้เท้าใดเท้าหนึ่งเป็นเท้าหลักในการหมุน
ระเบียบข้อที่ 3 ผู้เล่นที่ได้รับลูกบอลขณะที่ยืนนิ่ง ๆ หรือได้หยุดตามกติกาขณะที่ถูกลูกบอล
1. อาจจะยกเท้าหลักหรือกระโดดขึ้นเพื่อยิงประตู หรือส่งลูกบอล แต่ลูกบอลจะต้องหลุดจากมือก่อนเท้าที่ยกพ้นพื้นหรือทั้งสองเท้าถูกพื้นสนามอีกครั้งหนึ่งถึงแม้ว่าผู้เล่นฝ่ายปกป้องกันจะถูกลูกบอลด้วยมือใดมือหนึ่ง หรือทั้งสองมือก็ตาม ถ้ามือที่จับลูกบอลนั้นยึดลูกบอลแน่นจนไม่มีใครจะได้ครอบครองลูกบอลโดยปราศจากความรุนแรง ผู้ตัดสินต้องขานลูกยึด หรือ
2. ไม่อาจจะยกเท้าหลัก เมื่อเริ่มต้นการเลี้ยงลูกบอลก่อนที่ลูกบอลจะหลุดจากมือการเคลื่อนที่พร้อมกับลูกบอลนอกเหนือจากกติกาเหล่านี้เป็นการทำผิดระเบียบ
บทลงโทษ
ให้คู่แข่งขันได้ส่งลูกบอลเข้าเล่นจากนอกเส้นข้าง ณ จุดที่ใกล้กับการทำผิดกติกามากที่สุด
ลูกยึด
ผู้ตัดสินไม่ควรขานลูกยึดเร็วเกินไป ซึ่งจะทำให้การแข่งขันหยุดชะงัก และทำให้ขาดความยุติธรรมที่ผู้เล่นต้องเสียลูกบอลที่ตนกำลังครอบครอง หรือกำลังจะได้ครอบครอง ผู้ตัดสินจะขานลูกยึดก็ต่อเมื่อมีผู้เล่นอย่างน้อยฝ่ายละหนึ่งคนยึดลูกบอลด้วยมือเดียวหรือสองมือไว้อย่างมั่นคง จนกระทั่งไม่มีผู้เล่นคนใดสามารถจะครอบครองลูกบอลได้โดยปราศจากความรุนแรง และไม่ควรขานลูกยึดโดยเพียงพิจารณาจากเหตุผลที่ว่า ฝ่ายป้องกันได้ใช้มือสัมผัสลูกบอลเท่านั้น การขานในลักษณะเช่นนี้จะไม่ยุติธรรมต่อผู้เล่นที่ได้ครอบครองลูกบอลอย่างสมบูรณ์อยู่แล้ว
- « แรก
- ‹ หน้าก่อน
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- ถัดไป ›
- หน้าสุดท้าย »
ใช้ได้ทีเดียว ขออีดนิดเดียว
อ้างแหล่งที่มาทุกหน้าด้วย
ควรมีภาพประกอบมากกว่านี้นะ
จะตามมาดูอีกที
อย่าลืมส่งประกวด ต้องหาเนื้อหาและต้องสร้างให้มากกว่า 20 node พร้อมลิ้งค์ด้วย
-----------------------------------------------------------------------------------------
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน