Piano
ประวัติเปียโน
เปียโนหลังแรก แจ้งเกิดในค.ศ.1709 โดย บาร์โตลอมเมโอ คริสโตโฟรี (Bartolommeo Cristofori) ชาวเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เขานำฮาร์พซิคอร์ดหลังหนึ่งมาพัฒนาด้วยการประดิษฐ์ลูกค้อนขึ้นเพื่อใช้เคาะเส้นลวดให้เกิดเสียงแทนการใช้ควิลล์สะกิดเส้นลวดให้เกิดเสียงซึ่งเป็นระบบของฮาร์พซิคอร์ด เขาเรียกชื่อเครื่องดนตรีน้องใหม่เป็นภาษาอิตาลีว่า Gravicembalo col piano forte แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า harpsichord with loudness and softness แปลเป็นไทยเท่ากับ ฮาร์พซิคอร์ดซึ่งส่งเสียงดังและเบาได้ ทั้งนี้เพราะฮาร์พซิคอร์ดตัวจริงไม่สามารถส่งเสียงดังและค่อยได้ด้วยมีแถวลิ่มนิ้วเพียงแถวเดียว ต่อมาคำยาวย่อเหลือแค่เปียโน-ฟอร์เต้ แต่ก็มี คนเห็นว่ายังยาวอยู่จึงพากันเรียกสั้นๆ ว่า เปียโน
จากนั้นมีนักประดิษฐ์ออร์แกนชาวเยอรมัน กอตต์ฟรีด ซิเบอร์มันน์ นำระบบกลไกเปียโนเข้าไปในเยอรมนี และในค. ศ.1726
เขาได้ประดิษฐ์เปียโนขึ้น 2 หลัง และเชิญ โยฮันน์ เซบาสเตียน บาค คีตกวีผู้มีชื่อเสียงให้ลองเล่นดู แต่บาคไม่สู้จะติดอกติดใจเท่าใด กระทั่งปี 1747 บาคได้รับเชิญจากพระเจ้าเฟรเดริกมหาราชแห่งรัสเซียให้เข้าเฝ้าที่ราชสำนักเมืองปอตส์ดัม ที่นั้นเขาได้เห็นเปียโนงดงามหลายหลัง ก็เป็นของซิเบอร์มันน์นั่นแหละ แต่ได้รับการปรับปรุงใหม่ (กาลต่อมา จอห์น บรอดวู้ด ชาวลอนดอน นับเป็นคนแรกที่ประดิษฐ์แกรนด์เปียโนที่สมบูรณ์หลังแรกเมื่อ ค.ศ.1796 คีตกวีก้องโลกอย่าง บีโธเฟ่น ก็นิยมเปียโนของนักประดิษฐ์ผู้นี้มาก) เปียโนได้พัฒนาเรื่อยมาจนค.ศ.1777 เซบาสเตียน เอราด์ นักประดิษฐ์ชาวกรุงปารีส ได้สร้างเปียโนแบบพิเศษเป็น square piano มีแถวลิ่มนิ้ว 2 ข้าง และปรับปรุงกลไกภายในของเปียโนให้ดีขึ้น มาถึงยุคของ อัลฟิอุส แบบค้อก แห่งบอสตัน สหรัฐอเมริกา เป็นนักประดิษฐ์คนแรก ที่ได้เปลี่ยนโครงซึ่งเป็นที่ยึดของเส้นลวดจากโครงไม้มาเป็นโครงเหล็กหล่อ และใช้กันมาจนทุกวันนี้
เปียโนสามารถบรรเลงเพลงได้ทุกชนิดทุกประเภท ด้วยเหตุนี้จึงได้รับการยกย่องว่าเป็น "มารดาหรือผู้ให้กำเนิดดนตรี"
[แหล่งที่มาของภาพ : http://www.geocities.com/ammail26/images/piano-black.jpg]
ใช้ได้ทีเดียว ขออีดนิดเดียว
อ้างแหล่งที่มาทุกหน้าด้วย
จะตามมาดูอีกที
อย่าลืมส่งประกวด ต้องหาเนื้อหาและต้องสร้างให้มากกว่า 20 node พร้อมลิ้งค์ด้วย
-----------------------------------------------------------------------------------------
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน