• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:79fd1243b94843f148806e3c9e5ff7a8' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><table border=\"0\" width=\"100%\" cellPadding=\"2\" cellSpacing=\"0\">\n<tbody>\n<tr>\n<td bgColor=\"#fbfabf\"><span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\"><b>Collocation : ต้นเหตุสำคัญที่ทำให้คนไทยเขียนและพูดภาษาอังกฤษกันไม่ได้มาตรฐาน</b></span></td>\n</tr>\n</tbody>\n</table>\n<p align=\"justify\">\n<span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\">ในการเรียนการแต่งประโยคภาษาอังกฤษ พวกเราจะถูกสอนอยู่เพียง 2 ส่วนคือ คำศัพท์ (Vocabulary) และไวยากรณ์ (Grammar) แต่ความจริงแล้ว องค์ประกอบที่สำคัญในการแต่งประโยคภาษาอังกฤษ มี 3 ส่วน คือ </span>\n</p>\n<table border=\"0\" align=\"center\" width=\"70%\" cellPadding=\"0\" cellSpacing=\"0\">\n<tbody>\n<tr>\n<td>\n<div align=\"center\">\n<table border=\"1\" width=\"90%\" cellPadding=\"0\" cellSpacing=\"0\" borderColor=\"#ccccff\">\n<tbody>\n<tr>\n<td height=\"27\">\n<div align=\"center\">\n <span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\">คำศัพท์ (Vocabulary)</span>\n </div>\n</td>\n</tr>\n</tbody>\n</table>\n</div>\n</td>\n<td>  </td>\n<td> </td>\n</tr>\n<tr>\n<td>\n<div align=\"center\">\n <span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\">+ </span>\n </div>\n</td>\n<td> </td>\n<td> </td>\n</tr>\n<tr>\n<td>\n<div align=\"center\">\n<table border=\"1\" width=\"90%\" cellPadding=\"0\" cellSpacing=\"0\" borderColor=\"#ccccff\">\n<tbody>\n<tr>\n<td height=\"27\">\n<div align=\"center\">\n <span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\">ไวยากรณ์ (Grammar)</span>\n </div>\n</td>\n</tr>\n</tbody>\n</table>\n</div>\n</td>\n<td><span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\">= </span></td>\n<td>\n<table border=\"1\" width=\"90%\" cellPadding=\"0\" cellSpacing=\"0\" borderColor=\"#ccccff\">\n<tbody>\n<tr>\n<td height=\"27\">\n<div align=\"center\">\n <span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\">ประโยค (Sentence) </span>\n </div>\n</td>\n</tr>\n</tbody>\n</table>\n</td>\n</tr>\n<tr>\n<td>\n<div align=\"center\">\n <span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\">+ </span>\n </div>\n</td>\n<td> </td>\n<td> </td>\n</tr>\n<tr>\n<td>\n<div align=\"center\">\n<table border=\"1\" width=\"90%\" cellPadding=\"0\" cellSpacing=\"0\" borderColor=\"#ccccff\">\n<tbody>\n<tr>\n<td height=\"50\">\n<div align=\"center\">\n <span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\">Collocation</span>\n </div>\n</td>\n</tr>\n</tbody>\n</table>\n</div>\n</td>\n<td> </td>\n<td> </td>\n</tr>\n</tbody>\n</table>\n<p align=\"justify\">\n<span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\">หากคุณเห็นองค์ประกอบ 3 ส่วนนี้แล้ว คุณคงจะเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกเราจึงแต่งประโยคภาษาอังกฤษกันไม่ได้หรือแต่งได้ไม่ดี แม้จะรู้ศัพท์และไวยากรณ์ นั่นเป็นเพราะว่า Collocations ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญถูกละเลยไม่ได้รับความสำคัญในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ทั้งๆ ที่ Collocations ถูกใช้ในการเขียนภาษาอังกฤษมากถึง 60-80% และถูกใช้ในการพูด 20-40%</span>\n</p>\n<table border=\"0\" width=\"100%\" cellPadding=\"0\" cellSpacing=\"0\">\n<tbody>\n<tr>\n<td bgColor=\"#fbfabf\"><span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\"><b>Collocation คืออะไร</b></span></td>\n</tr>\n</tbody>\n</table>\n<p align=\"justify\">\n<span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\">คำว่า Collocation มาจากคำภาษาอังกฤษ 2 คำ คือ <span style=\"color: #000099\">col</span> (to do something with something or someone) + <span style=\"color: #000099\">location</span> มีคำแปลภาษาไทยว่า &quot;คำปรากฏร่วม&quot; อธิบายความหมายให้ชัดเจนขึ้นก็คือ<b> Collocation เป็นการเชื่อมคำ การจัดวางคำ หรือกลุ่มคำ (รวมทั้ง idioms) ที่จำเป็นต้องใช้ร่วมกันในประโยคต่างๆ</b> ที่เจ้าของภาษานิยมใช้ และเห็นว่าถูกต้องตามมาตรฐาน ซึ่งคำที่ใช้ร่วมกันนั้น จะใช้คำอื่นแทนหรือสลับตำแหน่งกันไม่ได้ ถึงแม้ว่าคำที่จะใช้แทนจะมีความหมายเหมือนกันหรือใกล้เคียงกันก็ตาม</span>\n</p>\n<p align=\"justify\">\n<span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\">ตัวอย่างเช่น :</span>\n</p>\n<p align=\"justify\">\n<span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\">The cloth has <u>fast colour</u>. (ผ้าสีไม่ตก) <br />\nเราจะทราบกันโดยส่วนใหญ่ว่า fast แปลว่า &quot;เร็ว&quot; <br />\nคำว่า stable หรือ durable ซึ่งแปลว่า &quot;ทนทาน&quot; น่าจะใกล้เคียงกว่า<br />\nแต่เจ้าของภาษาไม่ใช้คำว่า stable colour หรือ durable colour<br />\nดังนั้นจึงต้องใช้คำว่า fast colour เท่านั้น คำว่า fast colour เป็น collocation</span>\n</p>\n<p align=\"justify\">\n<span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\">It rains cats and dogs.(ฝนตกหนัก) <br />\nคำว่า cats and dogs เป็น collocation<br />\nเราไม่สามารถ เขียนเป็น dogs and cats หรือ cats and cows ได้ </span>\n</p>\n<p align=\"justify\">\n<span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\">คำว่า strong กับ powerful มีความหมายใกล้เคียงกัน<br />\nแต่ภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า strong wind, strong competition<br />\nและ powerful machine, powerful engine, powerful weapon<br />\nเราไม่สามารถใช้ strong machine หรือ powerful wind ได้</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\">ตัวอย่างคำทั้งหมดนี้เป็น collocations</span></p>\n<p>จากตัวอย่างจะเห็นว่า <b>Collocation นั้นไม่เกี่ยวกับหลักไวยากรณ์ </b>เพราะบางกลุ่มคำถึงแม้จะวางสลับตำแหน่ง หรือใช้คำไม่ถูก ก็ไม่ผิดไวยากรณ์แต่ประการใด แต่การใช้ Collocation ผิด จะทำให้เจ้าของภาษาหรือผู้ที่รู้ภาษาอังกฤษมากๆ ทราบได้ทันทีว่า เราเป็นคนต่างชาติและใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งความไม่ได้มาตรฐานนี้จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของตนเอง และองค์กรที่เราสังกัด ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ ทำให้คนที่ติดต่อกับเราเกิดความไม่มั่นใจว่าเราจะสามารถสื่อสารกับเขาเป็นภาษาอังกฤษด้วยความเข้าใจที่ตรงกันได้หรือไม่ เพราะการใช้ Collocation ผิดอาจทำให้ความหมายผิดไปด้วย\n</p>\n<p align=\"justify\">\n<span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\">ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษได้จัดให้ Collocation เป็นสิ่งที่ยากที่สุดสิ่งหนึ่งสำหรับคนไทยและคนต่างชาติที่ศึกษาภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง และมีเพียง <a href=\"http://null/2ways.php\"><span style=\"color: #3366ff\">2 วิธีเท่านั้น ที่ทำให้เราสามารถรู้ Collocations ได้มากๆ</span></a></span>\n</p>\n<table border=\"0\" width=\"100%\" cellPadding=\"0\" cellSpacing=\"0\">\n<tbody>\n<tr>\n<td bgColor=\"#fbfabf\"><span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\"><b><span style=\"color: #000000\">ความสำคัญของ Collocation</span></b></span></td>\n</tr>\n</tbody>\n</table>\n<table border=\"0\" width=\"100%\" cellPadding=\"2\" cellSpacing=\"0\">\n<tbody>\n<tr>\n<td> </td>\n</tr>\n<tr>\n<td><span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\"><b>Harold E. Palmer <br />\n ผู้แต่งหนังสือชื่อ &quot;A Grammar of English Words&quot; (1949)</b> </span></td>\n</tr>\n</tbody>\n</table>\n<p><span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\"></span></p>\n<p>\nได้เขียนไว้ในคำนำหน้า iii-iv ว่า <br />\n&quot;ข้อผิดพลาดส่วนใหญ่ในการเขียนเรียงความภาษาอังกฤษของนักศึกษาต่างชาตินั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องคำศัพท์.... มีคำศัพท์ในภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยประมาณ 1,000 คำ ที่ไม่เคยก่อความยุ่งยากในการใช้แก่ผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ แต่กลับสร้างปัญหาให้กับนักศึกษาต่างชาติ และเป็นเครื่องกีดขวางไม่ให้นักศึกษาต่างชาติใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ คำศัพท์เหล่านี้ &quot;ยาก&quot; เนื่องจากสาเหตุหลายประการ ได้แก่ <br />\n    1. คำศัพท์แต่ละคำทำหน้าที่ได้มากกว่า 1 ประเภท . . .<br />\n    2. คำศัพท์แต่ละคำอาจมี Collocations ได้มากมายหลายแบบ . . .&quot;\n</p>\n<p>\n</p>\n<table border=\"0\" width=\"100%\" cellPadding=\"2\" cellSpacing=\"0\">\n<tbody>\n<tr>\n<td><span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\"><b>Della Summers <br />\n บรรณาธิการอำนวยการของพจนานุกรม Longman Language Activator - The World\'s First Production Dictionary (1993, p.8)</b></span></td>\n</tr>\n</tbody>\n</table>\n<p><span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\"></span></p>\n<p>\nได้กล่าวถึง Collocations ในพจนานุกรมเล่มนี้ว่า<br />\n&quot;นักศึกษาจะแสดงความจำนงอยู่เสมอถึงความจำเป็นที่ต้องมีพจนานุกรมที่สามารถบอกพวกเขาได้ว่า ศัพท์คำใดที่ถูกต้องสำหรับข้อความนั้นๆ วลีใด หรือ Collocations ใดที่จะช่วยให้พวกเขาพัฒนาความสามารถในการสื่อสิ่งที่พวกเขาต้องการสื่อ&quot;\n</p>\n<p>\n</p>\n<table border=\"0\" width=\"100%\" cellPadding=\"2\" cellSpacing=\"0\">\n<tbody>\n<tr>\n<td><span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\"><b>A.P. Cowie, University of Leeds</b> </span></td>\n</tr>\n</tbody>\n</table>\n<p><span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\"></span></p>\n<p align=\"justify\">\nได้เขียนไว้ในบทนำของ Oxford Advanced Learner\'s Dictionary of Current English by A.S. Hornby, Fourth Edition (1995, p. vii ) ที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ Collocations ไว้ว่า &quot;เป็นเวลากว่า 40 ปีแล้ว ที่ Oxford University Press ได้จัดพิมพ์ Advanced Learner\'s Dictionary ของ A.S. Hornby ขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งนับเป็นผลงานบุกเบิกอันโดดเด่นที่เกิดจากการวิจัยอันละเอียดลึกซึ้งในแง่มุมต่างๆ ของการใช้ภาษาอังกฤษ รวมทั้งโครงสร้างประโยค และ Collocations อันเป็นที่รู้กันดีว่า สร้างความยากลำบากให้กับนักศึกษาชาวต่างชาติ&quot;\n</p>\n<p>\n</p>\n<table border=\"0\" width=\"100%\" cellPadding=\"2\" cellSpacing=\"0\">\n<tbody>\n<tr>\n<td><span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\"><b>พจนานุกรม &quot;The Oxford Companion To The English Language&quot; ปี 1992</b> </span></td>\n</tr>\n</tbody>\n</table>\n<p><span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif\"></span></p>\n<p align=\"justify\">\nได้ระบุความสำคัญของ Collocations ไว้ในหน้า 231 - 232 ว่า &quot;Collocations เป็นพื้นฐานของภาษา ที่ผู้ศึกษาจำเป็นต้องเรียนรู้ถึงความละเอียดอ่อนของมัน เพราะความผิดพลาดในการจัดเรียงคำในการเขียนภาษาอังกฤษจะเป็นเครื่องบ่งชี้ที่สำคัญถึงความเป็นคนต่างชาติ&quot;\n</p>\n<p></p>\n', created = 1719629371, expire = 1719715771, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:79fd1243b94843f148806e3c9e5ff7a8' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

Collocation

Collocation : ต้นเหตุสำคัญที่ทำให้คนไทยเขียนและพูดภาษาอังกฤษกันไม่ได้มาตรฐาน

ในการเรียนการแต่งประโยคภาษาอังกฤษ พวกเราจะถูกสอนอยู่เพียง 2 ส่วนคือ คำศัพท์ (Vocabulary) และไวยากรณ์ (Grammar) แต่ความจริงแล้ว องค์ประกอบที่สำคัญในการแต่งประโยคภาษาอังกฤษ มี 3 ส่วน คือ

คำศัพท์ (Vocabulary)
   
+
   
ไวยากรณ์ (Grammar)
=
ประโยค (Sentence)
+
   
Collocation
   

หากคุณเห็นองค์ประกอบ 3 ส่วนนี้แล้ว คุณคงจะเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกเราจึงแต่งประโยคภาษาอังกฤษกันไม่ได้หรือแต่งได้ไม่ดี แม้จะรู้ศัพท์และไวยากรณ์ นั่นเป็นเพราะว่า Collocations ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญถูกละเลยไม่ได้รับความสำคัญในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ทั้งๆ ที่ Collocations ถูกใช้ในการเขียนภาษาอังกฤษมากถึง 60-80% และถูกใช้ในการพูด 20-40%

Collocation คืออะไร

คำว่า Collocation มาจากคำภาษาอังกฤษ 2 คำ คือ col (to do something with something or someone) + location มีคำแปลภาษาไทยว่า "คำปรากฏร่วม" อธิบายความหมายให้ชัดเจนขึ้นก็คือ Collocation เป็นการเชื่อมคำ การจัดวางคำ หรือกลุ่มคำ (รวมทั้ง idioms) ที่จำเป็นต้องใช้ร่วมกันในประโยคต่างๆ ที่เจ้าของภาษานิยมใช้ และเห็นว่าถูกต้องตามมาตรฐาน ซึ่งคำที่ใช้ร่วมกันนั้น จะใช้คำอื่นแทนหรือสลับตำแหน่งกันไม่ได้ ถึงแม้ว่าคำที่จะใช้แทนจะมีความหมายเหมือนกันหรือใกล้เคียงกันก็ตาม

ตัวอย่างเช่น :

The cloth has fast colour. (ผ้าสีไม่ตก)
เราจะทราบกันโดยส่วนใหญ่ว่า fast แปลว่า "เร็ว"
คำว่า stable หรือ durable ซึ่งแปลว่า "ทนทาน" น่าจะใกล้เคียงกว่า
แต่เจ้าของภาษาไม่ใช้คำว่า stable colour หรือ durable colour
ดังนั้นจึงต้องใช้คำว่า fast colour เท่านั้น คำว่า fast colour เป็น collocation

It rains cats and dogs.(ฝนตกหนัก)
คำว่า cats and dogs เป็น collocation
เราไม่สามารถ เขียนเป็น dogs and cats หรือ cats and cows ได้

คำว่า strong กับ powerful มีความหมายใกล้เคียงกัน
แต่ภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า strong wind, strong competition
และ powerful machine, powerful engine, powerful weapon
เราไม่สามารถใช้ strong machine หรือ powerful wind ได้

ตัวอย่างคำทั้งหมดนี้เป็น collocations

จากตัวอย่างจะเห็นว่า Collocation นั้นไม่เกี่ยวกับหลักไวยากรณ์ เพราะบางกลุ่มคำถึงแม้จะวางสลับตำแหน่ง หรือใช้คำไม่ถูก ก็ไม่ผิดไวยากรณ์แต่ประการใด แต่การใช้ Collocation ผิด จะทำให้เจ้าของภาษาหรือผู้ที่รู้ภาษาอังกฤษมากๆ ทราบได้ทันทีว่า เราเป็นคนต่างชาติและใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งความไม่ได้มาตรฐานนี้จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของตนเอง และองค์กรที่เราสังกัด ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ ทำให้คนที่ติดต่อกับเราเกิดความไม่มั่นใจว่าเราจะสามารถสื่อสารกับเขาเป็นภาษาอังกฤษด้วยความเข้าใจที่ตรงกันได้หรือไม่ เพราะการใช้ Collocation ผิดอาจทำให้ความหมายผิดไปด้วย

ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษได้จัดให้ Collocation เป็นสิ่งที่ยากที่สุดสิ่งหนึ่งสำหรับคนไทยและคนต่างชาติที่ศึกษาภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง และมีเพียง 2 วิธีเท่านั้น ที่ทำให้เราสามารถรู้ Collocations ได้มากๆ

ความสำคัญของ Collocation
 
Harold E. Palmer
ผู้แต่งหนังสือชื่อ "A Grammar of English Words" (1949)

ได้เขียนไว้ในคำนำหน้า iii-iv ว่า
"ข้อผิดพลาดส่วนใหญ่ในการเขียนเรียงความภาษาอังกฤษของนักศึกษาต่างชาตินั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องคำศัพท์.... มีคำศัพท์ในภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยประมาณ 1,000 คำ ที่ไม่เคยก่อความยุ่งยากในการใช้แก่ผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ แต่กลับสร้างปัญหาให้กับนักศึกษาต่างชาติ และเป็นเครื่องกีดขวางไม่ให้นักศึกษาต่างชาติใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ คำศัพท์เหล่านี้ "ยาก" เนื่องจากสาเหตุหลายประการ ได้แก่
    1. คำศัพท์แต่ละคำทำหน้าที่ได้มากกว่า 1 ประเภท . . .
    2. คำศัพท์แต่ละคำอาจมี Collocations ได้มากมายหลายแบบ . . ."

Della Summers
บรรณาธิการอำนวยการของพจนานุกรม Longman Language Activator - The World's First Production Dictionary (1993, p.8)

ได้กล่าวถึง Collocations ในพจนานุกรมเล่มนี้ว่า
"นักศึกษาจะแสดงความจำนงอยู่เสมอถึงความจำเป็นที่ต้องมีพจนานุกรมที่สามารถบอกพวกเขาได้ว่า ศัพท์คำใดที่ถูกต้องสำหรับข้อความนั้นๆ วลีใด หรือ Collocations ใดที่จะช่วยให้พวกเขาพัฒนาความสามารถในการสื่อสิ่งที่พวกเขาต้องการสื่อ"

A.P. Cowie, University of Leeds

ได้เขียนไว้ในบทนำของ Oxford Advanced Learner's Dictionary of Current English by A.S. Hornby, Fourth Edition (1995, p. vii ) ที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ Collocations ไว้ว่า "เป็นเวลากว่า 40 ปีแล้ว ที่ Oxford University Press ได้จัดพิมพ์ Advanced Learner's Dictionary ของ A.S. Hornby ขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งนับเป็นผลงานบุกเบิกอันโดดเด่นที่เกิดจากการวิจัยอันละเอียดลึกซึ้งในแง่มุมต่างๆ ของการใช้ภาษาอังกฤษ รวมทั้งโครงสร้างประโยค และ Collocations อันเป็นที่รู้กันดีว่า สร้างความยากลำบากให้กับนักศึกษาชาวต่างชาติ"

พจนานุกรม "The Oxford Companion To The English Language" ปี 1992

ได้ระบุความสำคัญของ Collocations ไว้ในหน้า 231 - 232 ว่า "Collocations เป็นพื้นฐานของภาษา ที่ผู้ศึกษาจำเป็นต้องเรียนรู้ถึงความละเอียดอ่อนของมัน เพราะความผิดพลาดในการจัดเรียงคำในการเขียนภาษาอังกฤษจะเป็นเครื่องบ่งชี้ที่สำคัญถึงความเป็นคนต่างชาติ"

สร้างโดย: 
aj_ding

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 271 คน กำลังออนไลน์