เต่าทะเล
![รูปภาพของ sss27414 รูปภาพของ sss27414](http://old.thaigoodview.com/files/profilepic/picture-7502.jpg)
การอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลในประเทศไทย
ในประเทศไทย ได้มีการเก็บไข่เต่าทะเลเพื่อการบริโภคมาเป็นเวลานาน ในส่วนของการทำประมงก็มีข้อห้าม โดยประกาศของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตามความในมาตรา 32(7)แห่งพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 วันที่14 เมษายน พ.ศ.2490คุ้มครองเอาไว้ กล่าวคือ ห้ามจับ ดัก ล่อ ทำอันตราย และฆ่าเต่าทะเลทุกชนิดรวมทั้งไข่ของเต่าทะเล ผู้ใดฝ่าฝืนต้องจำคุกไม่เกิน 1ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และประเทศไทยก้ยังลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศของสัตว์ป่าและพืชป่าที่กลังจะสูญพันธุ์ (CITES)
ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลในประเทศไทย
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงมีพระราชดำริให้ดำเนินโครงการอนุรักษ์เต่าทะเล โดยได้พระราชทาน เกาะมันใน จังหวัดระยอง ซึ่งรัฐบาลในสมัยนั้นถวายให้เป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ จัดเป็นศูนย์กลางอนุรักษ์และเพาะขยายพันธุ์เต่าทะเล พระราชทานชื่อว่า โครงการสมเด็จฯอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล เริ่มเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2522 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ผู้แทนจากกรมประมง เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เต่าทะเล เพื่อนำไปใช้ในการแพร่ขยายพันธุ์ศูนย์อนุรักษ์และเพาะขยายพันธุ์เต่าทะเลนี้
ต่อมาเมื่อโครงการสิ้นสุดลงได้เปลี่ยนชื่อเป็น สถานีอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล สังกัดกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งอยู่ที่ตำบลกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ห่างจากชายฝั่งอ่าวมะขามประมาณ 6 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 137 ไร่ อันมีสภาพภูมิประเทศเป็นชายฝั่งยาว 1,200 เมตร กว้าง 550 เมตร ประกอบด้วย หาดทรายและโขดหินน้อยใหญ่จำนวนมาก เป็นแหล่งที่เต่าทะเลชอบขึ้นมาวางไข่ ทั้งเต่ากระและเต่าตนุ ขณะเดียวกันก็ได้มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อการอนุรักษ์เต่าทะเล โดยห้ามการจับและมีไว้ในครอบครองอีกด้วย
ศูนย์ฯมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิจัยชีววิทยาของเต่าทะเลอนุรักษ์ และเพิ่มจำนวนโดยการเพาะขยายพันธุ์ปล่อยสู่ทะเลตามธรรมชาติ โดยวิธีนำไข่เต่าทะเล ซึ่งส่วนใหญ่ได้จาก เกาะคราม อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ในความดูแลของกองทัพเรือ นำมาเพาะฟัก และอนุบาล เมื่อลูกเต่ามีอายุประมาณ 6 เดือน จะติดเครื่องหมายเพื่อติดตามผล นำปล่อยลงสู่ทะเล ลูกเต่าส่วนหนึ่งนำไปเลี้ยงไว้เป็นแม่พันธุ์พ่อพันธุ์ต่อไป กรมประมงประกาศขอให้ผู้พบเต่าทะเลที่ติดเครื่องหมายนำส่งคืนศูนย์ เพื่อเป็นข้อมูลศึกษาค้นคว้าวิจัย และยังทดลองเลี้ยงเต่าพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ เพื่อให้ผสมพันธุ์และวางไข่ ซึ่งประสบความสำเร็จ สามารถขยายพันธุ์ลูกเต่าให้มีจำนวนมากขึ้น นำมาอนุบาลแล้วปล่อยคืนสู่ท้องทะเล
สถานที่ดำเนินการอนุรักษ์เต่าทะเล มี 2 แห่ง คือ
แหล่งที่มาของรูปภาพ http://rayong.kapook.com , www2.nurnia.com
1. เกาะมันใน ดำเนินการเลี้ยงเต่าทะเลตั้งแต่แรกเกิดจนโตขึ้น วัดขนาดตามที่กำหนดแล้วนำไปเลี้ยงไว้ในคอกในทะเลซึ่งมีเนื้อที่ขนาด 30 ไร่ แล้วศึกษาเก็บข้อมูล
แหล่งที่มาของรูปwww.bloggang.com , www.weekendhobby.com
2. เกาะคราม อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือ ศึกษาวิจัยเก็บข้อมูลความเปลี่ยนแปลงของเต่าทะเลตามธรรมชาติ โดยติดเครื่องหมายที่แม่เต่าทะเลที่ขึ้นมาวางไข่ประมาณเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม พบว่าแม่เต่าตัวเดิมจะกลับมาวางไข่ห่างกัน 2-3 ปี หรืออาจจะถึง 5 ปี และเก็บข้อมูลแม่เต่าใหม่ที่ขึ้นมาวางไข่ และศึกษาพบว่ามีประชากรเต่าทดแทนกันพอสมควร
ในปัจจุบัน สถานีอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลในชื่อ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล อยู่ในการดูแลของกองทัพเรือ ที่สัตหีบ จังหวัดชลบุรี เปิดให้ประชาชนนักท่องเที่ยวเข้าชม และศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์เต่าทะเล และขายเต่าให้แก่ผู้ประสงค์จะปล่อยเต่า นำรายได้ไปเป็นค่าใช้จ่ายในการเพาะขยายพันธุ์และศึกษาวิจัยเต่าทะเลต่อไป รวมทั้งรับบริจาคด้วย
แหล่งอ้างอิง
http://www.dnp.go.th/npo/Html/Research/Turtle/turtle.html
http://km.dmcr.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=114:20...
http://www.krabi.most.go.th/index.php?option=com_content&task=view&id=41...
http://www.navy.mi.th/turtles/LAW.htm
http://www.moohin.com/059/059m015.shtml
http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%88%E0...
มีข้อมูลดี
ขออีกนิด อย่าลืมอ้างแหล่งที่มาของภาพไว้ใต้ภาพ
และอ้างแหล่งที่มาของข้อมูลไว้ทุกหน้า
จะเป็นกำลังใจให้ แล้วจะมาดูอีกครั้ง
อย่าลืมส่งประกวด
แต่ต้องสร้างให้มากกว่า 20 node พร้อมลิ้งค์ด้วย
-----------------------------------------------------------------------------------------
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน
เต่าทะเล