• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:6005e1563b512d433444f1cd66032bf7' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p><span style=\"color: #ff0000\"><strong><b><span style=\"font-size: large\"></span></b></strong></span><span style=\"color: #ff0000\"><strong><b><span style=\"font-size: large\"></span></b></strong></span></p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #ff6600\">หญิงงามเมือง</span>\n</p>\n<p></p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #ff0000\"><strong><span style=\"color: #ff00ff\"></span></strong></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #ff0000\"><img border=\"0\" width=\"219\" src=\"/files/u7186/1387.jpg\" height=\"253\" /></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #ff0000\"><a href=\"http://ecurriculum.mv.ac.th/dhamma/dhammathai/webboard/data/imagefiles/1387.jpg\">http://ecurriculum.mv.ac.th/dhamma/dhammathai/webboard/data/imagefiles/1387.jpg</a></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #ff0000\"></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ff0000\"><strong>หญิงงามเมือง</strong> ถ้าเปิดในพจนานุกรม ได้ว่า น. หญิงที่หาเลี้ยงชีพด้วยการค้าประเวณี, โสเภณี, หญิงโสเภณี, หญิงนครโสเภณี, หรือหญิงหากิน ก็ว่า.</span>\n</p>\n<p>\nขยายความต่อนะคะ\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #800080\">          คำว่า &quot;<strong> นครโสเภณี</strong> &quot; มาจากอินเดีย ในสมัยโบราณบางแคว้นของชมพูทวีป มีหญิงเหล่านี้เอาไว้เพื่อเชิดหน้าชูตา แบบว่าดึงดูดนักท่องเที่ยว อะไรประมาณนี้<br />\nและมีปรากฏในเรื่อง กามนิต (เป็นวรรณกรรมอิงพุทธศาสนา ประพันธ์โดยชาวเดนมาร์ก) ซึ่งได้กล่าวเกี่ยวกับนางนครโสเภณีไว้ว่า &quot;มงกุฏดอกไม้หลากสีของกรุงอุชเชนี&quot;</span> เรียกได้ว่านางนครโสเภณีเป็นของขึ้นชื่อของกรุงอุชเชนีก็เลยว่าได้\n</p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" width=\"400\" src=\"/files/u7186/1199006908.jpg\" height=\"280\" style=\"width: 254px; height: 185px\" />\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<a href=\"http://www.bloggang.com/data/raveetavan/picture/1199006908.jpg\">http://www.bloggang.com/data/raveetavan/picture/1199006908.jpg</a>\n</div>\n<p>\n<span style=\"color: #993300\">          แต่ในประเทศไทยนั้น โสเภณี ไม่ได้เป็นที่น่าเชิดหน้าชูตาเหมือนในประเทศอินเดีย และเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจด้วยซ้ำ ถึงกับมีกฏหมาย&quot;ลักษณะผัวเมีย&quot; บัญญัติขึ้นในสมัยพระรามาธิบดีที่ 1 มีบทลงโทษหากมีการนำหญิงโสเภณีเหล่านี้มาเป็นภรรยาแล้วหล่อนเกิดคบชู้ขึ้นมา ว่า<br />\n <br />\n          มาตราหนึ่ง ชายใดสู่ขอเอาหญิงคนขับ คนรำ เที่ยวขอทานเลี้ยงชีวิต และหญิงนครโสเภณีมาเลี้ยงทำเมีย ทำชั่วเหนือผัวก็ดี ผัวรู้ด้วยประการใดๆ ท่านให้ผจานหญิงชายนั้นด้วยไถนา อันหญิงร้ายให้เอาเฉลวปะหน้า ทัดดอกฉะบาทั้งสองหู ร้อยดอกฉะบาแดงเป็นมาลัยใส่ศีศะใส่คอแล้วให้เอาหญิงนั้นเทียมแอกข้างหนึ่งชายชู้<br />\nเข้าเทียมแอกอีกข้างหนึ่ง ผจานด้วยไถนา 3 วัน</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #993300\">          ในกฏหมายนี้ยังบอกอีกว่า ถ้าผัวยังรักเมียอยู่ จับได้ว่าคบชู้แล้วยังรักเมียไม่อยากให้ประจาน บ้านเมืองจะลงโทษให้เทียมแอกไถนาเสียอีกคนกันเลยทีเดียว</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #993300\">          มาถึงในสมัย ร.5 - ร.6 โสเภณีมีชื่อใหม่ว่า &quot;<strong>หญิงโคมเขียว</strong>&quot; เพราะว่าที่สำนักของพวกเธอจะแขวนโคมสีเขียว พอค่ำก็จะจุดไฟที่โคมสีเขียวนั่นเป็นอันรู้กัน <br />\nแหล่งที่ขึ้นชื่อมากเรียกว่า &quot;ตรอกเต๊า&quot; แต่ละสำนักก็จะมี มาม่าซัง หรือแม่เล้า เป็นผู้บริหารงาน</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #993300\">          คนดังที่มีชื่อในประวัติโสเภณีไทยก็คือคุณแม่แฟง ซึ่งทำมาค้าขึ้นมากจนมีเงินมาสร้างวัดที่ตรอกวัดโคกชื่อ &quot;วัดคณิกาผล&quot; แปลว่า เป็นผลมาจากโสเภณี ชาวบ้านเค้าเรียกกันว่า &quot;วัดใหม่ยายแฟง&quot;</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #993300\">          กลีบลูกสาวของคุณแม่แฟงก็รับสืบทอดกิจการต่อ ทำมาค้าขึ้นไม่แพ้แม่แฟงเลยทีเดียว จนมีเงินมีทองสร้างวัดได้เช่นกัน โดยมีชื่อวัดว่า &quot;วัดกันมาตุยาราม&quot; แต่บุตรของคุณแม่กลีบไม่ได้เจริญรอยตามธุรกิจนี้ แต่ได้เข้ารับราชการเป็นขุนนางจนได้เป็นถึงคุณพระ</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #993300\">          สมัยก่อนโสเภณีก็มีอายุประมาณสิบห้าสิบหกปี ทำตัวฉูดฉาดสะดุดตา ผัดหน้าขาว กินหมากปากแดง ใส่น้ำอบไทยหอมฟุ้งนุ่งผ้าลายหรือโจงกระเบน ห่มสไบเฉียง<br />\nบางคนใส่เสื้อคอ คือเป็นเสื้อที่มีสายโยงบ่า คล้ายสายเดี่ยวสมัยนี้</span>\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #333399\">          ว่ากันต่อถึงหญิงงามเมืองชั้นสูงในญี่ปุ่น รู้จักกันในชื่อ &quot;<strong>เกอิชา&quot;</strong> เรียกว่าเป็นผู้สร้างสรรค์ความบันเทิง ทั้งเล่นดนตรี เต้นระบำ เล่นตลก เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยโชกุน <br />\nรู้หรือไม่ว่าเกอิชารุ่นแรกนั่นเป็นชายแท้  ก่อนที่จะแปรเป็นเกอิชาหญิง เรียกอีกอย่างว่า &quot;โสเภณีชั้นสูง&quot; เป็นหญิงผู้รักษาขนบธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่น ซึ่งการจะเป็น เกอิชาได้นั้นต้องได้รับการฝึกฝนการร่ายรำแบบโบราณ เล่นดนตรี ซามิเซ็ง แบบโบราณ ฝึกการสร้างเสน่ห์แบบต่างๆ ดูแลเอาใจใส่ผู้ชาย และต้องเป็นผู้รักษาความลับอีกด้วยเพราะถ้ามีอะไรเพร่งพรายออกจากห้องสี่เหลี่ยมก็ไม่ต่างอะไรกับโสเภณี </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #333399\">          เกอิชาสามารถมีเพศสัมพันธ์กับดันนะ หรือผู้อุปถัมภ์ของเธอได้เพียงคนเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ เกอิชาจะคาดโอบิโดยผูกเงื่อนไว้ข้างหลัง แต่โสเภณีจะผูกไว้ข้างหน้า (เพราะต้องถอดออกบ่อยๆ) </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #333399\">          การแต่งหน้าแต่งตัวของเกอิชา จะแต่งหน้าหนามากเหมือนใส่หน้ากาก ให้ดูเร้นลับ รอการเปิดเผย ทาริมฝีปากครึ่งเดียวเพื่อให้ดูคล้ายเชื้อเชิญ มีการเปิดเผยไรผมเล็กน้อยเพื่อให้ดูเด่น น่าค้นหา </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #333399\">          สมบัติที่มีค่าที่สุดของเกอิชาคือ กิโมโน ซึ่งมีราคาแพงมาก เกอิชาที่โด่งดังมากๆจะมีชุดกิโมโนไม่ต่ำกว่า 2 โหล สวมเกี๊ยะไม้สูงเพื่อที่ชายกิโมโนจะได้ไม่ลากพื ้น ก้าวเดินสั้นๆนุ่มๆ ปลายเท้าต้องหันเข้าหากัน สำหรับค่าตอบแทนเกอิชาจะได้ค่าตอบแทนชั่วโมงละ 550 ดอลล่าร์ ถ้าลูกค้าพอใจ</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #333399\"><span style=\"color: #000000\">ปัจจุบันนี้เกอิชาก็มีน้อยลงในญี่ปุ่น แต่ก็ยังคงมีอยู่ซึ่งก็คงความงามของสาวเกอิชา และรักษาขนบธรรมเนียมไว้สืบต่อไป</span> </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n  <img border=\"0\" width=\"480\" src=\"/files/u7186/060714.jpg\" height=\"331\" style=\"width: 296px; height: 226px\" />\n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"http://blog-eda.net/1000/image/060714.jpg\">http://blog-eda.net/1000/image/060714.jpg</a>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" width=\"300\" src=\"/files/u7186/2005-8-7-geisha_entertain_50792535.jpg\" height=\"201\" />\n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"http://english.epochtimes.com/news_images/2005-8-7-geisha_entertain_50792535.jpg\">http://english.epochtimes.com/news_images/2005-8-7-geisha_entertain_50792535.jpg</a>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<br />\n<strong>ตอนนี้ก็ได้ทราบความหมายของหญิงงามเมืองของแต่ละประเทศกันไปแล้วทีนี้เรามารู้จักกับ</strong>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong>ประวัติหญิงงามเมืองในพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงกันบ้าง</strong>\n</p>\n<p dir=\"ltr\">\n<span style=\"color: #003366\"><span style=\"color: #808080\">เนื้อหาบางส่วน :</span> </span>\n</p>\n<p dir=\"ltr\">\n<span style=\"color: #009f4f\"><a href=\"http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7465\"><u><span style=\"color: #0000ff\">http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7465</span></u></a> </span>\n</p>\n<p dir=\"ltr\">\n<span style=\"color: #009f4f\"><a href=\"http://antique.exteen.com/20060413/entry\"><u><span style=\"color: #0000ff\">http://antique.exteen.com/20060413/entry</span></u></a> </span>\n</p>\n<p dir=\"ltr\">\n<span style=\"color: #810081\"><a href=\"http://www.vcharkarn.com/varticle/247\"><u>http://www.vcharkarn.com/varticle/247</u></a></span>\n</p>\n<p dir=\"ltr\">\n<span style=\"color: #810081\"><a href=\"http://artsmen.net/content/show.php?Category=mythboard&amp;No=3710\"><u>http://artsmen.net/content/show.php?Category=mythboard&amp;No=3710</u></a></span>\n</p>\n', created = 1718487438, expire = 1718573838, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:6005e1563b512d433444f1cd66032bf7' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

หญิงงามเมือง

รูปภาพของ sss27113

หญิงงามเมือง

http://ecurriculum.mv.ac.th/dhamma/dhammathai/webboard/data/imagefiles/1387.jpg

หญิงงามเมือง ถ้าเปิดในพจนานุกรม ได้ว่า น. หญิงที่หาเลี้ยงชีพด้วยการค้าประเวณี, โสเภณี, หญิงโสเภณี, หญิงนครโสเภณี, หรือหญิงหากิน ก็ว่า.

ขยายความต่อนะคะ

          คำว่า " นครโสเภณี " มาจากอินเดีย ในสมัยโบราณบางแคว้นของชมพูทวีป มีหญิงเหล่านี้เอาไว้เพื่อเชิดหน้าชูตา แบบว่าดึงดูดนักท่องเที่ยว อะไรประมาณนี้
และมีปรากฏในเรื่อง กามนิต (เป็นวรรณกรรมอิงพุทธศาสนา ประพันธ์โดยชาวเดนมาร์ก) ซึ่งได้กล่าวเกี่ยวกับนางนครโสเภณีไว้ว่า "มงกุฏดอกไม้หลากสีของกรุงอุชเชนี"
เรียกได้ว่านางนครโสเภณีเป็นของขึ้นชื่อของกรุงอุชเชนีก็เลยว่าได้

          แต่ในประเทศไทยนั้น โสเภณี ไม่ได้เป็นที่น่าเชิดหน้าชูตาเหมือนในประเทศอินเดีย และเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจด้วยซ้ำ ถึงกับมีกฏหมาย"ลักษณะผัวเมีย" บัญญัติขึ้นในสมัยพระรามาธิบดีที่ 1 มีบทลงโทษหากมีการนำหญิงโสเภณีเหล่านี้มาเป็นภรรยาแล้วหล่อนเกิดคบชู้ขึ้นมา ว่า
 
          มาตราหนึ่ง ชายใดสู่ขอเอาหญิงคนขับ คนรำ เที่ยวขอทานเลี้ยงชีวิต และหญิงนครโสเภณีมาเลี้ยงทำเมีย ทำชั่วเหนือผัวก็ดี ผัวรู้ด้วยประการใดๆ ท่านให้ผจานหญิงชายนั้นด้วยไถนา อันหญิงร้ายให้เอาเฉลวปะหน้า ทัดดอกฉะบาทั้งสองหู ร้อยดอกฉะบาแดงเป็นมาลัยใส่ศีศะใส่คอแล้วให้เอาหญิงนั้นเทียมแอกข้างหนึ่งชายชู้
เข้าเทียมแอกอีกข้างหนึ่ง ผจานด้วยไถนา 3 วัน

          ในกฏหมายนี้ยังบอกอีกว่า ถ้าผัวยังรักเมียอยู่ จับได้ว่าคบชู้แล้วยังรักเมียไม่อยากให้ประจาน บ้านเมืองจะลงโทษให้เทียมแอกไถนาเสียอีกคนกันเลยทีเดียว

          มาถึงในสมัย ร.5 - ร.6 โสเภณีมีชื่อใหม่ว่า "หญิงโคมเขียว" เพราะว่าที่สำนักของพวกเธอจะแขวนโคมสีเขียว พอค่ำก็จะจุดไฟที่โคมสีเขียวนั่นเป็นอันรู้กัน
แหล่งที่ขึ้นชื่อมากเรียกว่า "ตรอกเต๊า" แต่ละสำนักก็จะมี มาม่าซัง หรือแม่เล้า เป็นผู้บริหารงาน

          คนดังที่มีชื่อในประวัติโสเภณีไทยก็คือคุณแม่แฟง ซึ่งทำมาค้าขึ้นมากจนมีเงินมาสร้างวัดที่ตรอกวัดโคกชื่อ "วัดคณิกาผล" แปลว่า เป็นผลมาจากโสเภณี ชาวบ้านเค้าเรียกกันว่า "วัดใหม่ยายแฟง"

          กลีบลูกสาวของคุณแม่แฟงก็รับสืบทอดกิจการต่อ ทำมาค้าขึ้นไม่แพ้แม่แฟงเลยทีเดียว จนมีเงินมีทองสร้างวัดได้เช่นกัน โดยมีชื่อวัดว่า "วัดกันมาตุยาราม" แต่บุตรของคุณแม่กลีบไม่ได้เจริญรอยตามธุรกิจนี้ แต่ได้เข้ารับราชการเป็นขุนนางจนได้เป็นถึงคุณพระ

          สมัยก่อนโสเภณีก็มีอายุประมาณสิบห้าสิบหกปี ทำตัวฉูดฉาดสะดุดตา ผัดหน้าขาว กินหมากปากแดง ใส่น้ำอบไทยหอมฟุ้งนุ่งผ้าลายหรือโจงกระเบน ห่มสไบเฉียง
บางคนใส่เสื้อคอ คือเป็นเสื้อที่มีสายโยงบ่า คล้ายสายเดี่ยวสมัยนี้

 

          ว่ากันต่อถึงหญิงงามเมืองชั้นสูงในญี่ปุ่น รู้จักกันในชื่อ "เกอิชา" เรียกว่าเป็นผู้สร้างสรรค์ความบันเทิง ทั้งเล่นดนตรี เต้นระบำ เล่นตลก เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยโชกุน
รู้หรือไม่ว่าเกอิชารุ่นแรกนั่นเป็นชายแท้  ก่อนที่จะแปรเป็นเกอิชาหญิง เรียกอีกอย่างว่า "โสเภณีชั้นสูง" เป็นหญิงผู้รักษาขนบธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่น ซึ่งการจะเป็น เกอิชาได้นั้นต้องได้รับการฝึกฝนการร่ายรำแบบโบราณ เล่นดนตรี ซามิเซ็ง แบบโบราณ ฝึกการสร้างเสน่ห์แบบต่างๆ ดูแลเอาใจใส่ผู้ชาย และต้องเป็นผู้รักษาความลับอีกด้วยเพราะถ้ามีอะไรเพร่งพรายออกจากห้องสี่เหลี่ยมก็ไม่ต่างอะไรกับโสเภณี

          เกอิชาสามารถมีเพศสัมพันธ์กับดันนะ หรือผู้อุปถัมภ์ของเธอได้เพียงคนเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ เกอิชาจะคาดโอบิโดยผูกเงื่อนไว้ข้างหลัง แต่โสเภณีจะผูกไว้ข้างหน้า (เพราะต้องถอดออกบ่อยๆ)

          การแต่งหน้าแต่งตัวของเกอิชา จะแต่งหน้าหนามากเหมือนใส่หน้ากาก ให้ดูเร้นลับ รอการเปิดเผย ทาริมฝีปากครึ่งเดียวเพื่อให้ดูคล้ายเชื้อเชิญ มีการเปิดเผยไรผมเล็กน้อยเพื่อให้ดูเด่น น่าค้นหา

          สมบัติที่มีค่าที่สุดของเกอิชาคือ กิโมโน ซึ่งมีราคาแพงมาก เกอิชาที่โด่งดังมากๆจะมีชุดกิโมโนไม่ต่ำกว่า 2 โหล สวมเกี๊ยะไม้สูงเพื่อที่ชายกิโมโนจะได้ไม่ลากพื ้น ก้าวเดินสั้นๆนุ่มๆ ปลายเท้าต้องหันเข้าหากัน สำหรับค่าตอบแทนเกอิชาจะได้ค่าตอบแทนชั่วโมงละ 550 ดอลล่าร์ ถ้าลูกค้าพอใจ

ปัจจุบันนี้เกอิชาก็มีน้อยลงในญี่ปุ่น แต่ก็ยังคงมีอยู่ซึ่งก็คงความงามของสาวเกอิชา และรักษาขนบธรรมเนียมไว้สืบต่อไป

 

http://blog-eda.net/1000/image/060714.jpg

http://english.epochtimes.com/news_images/2005-8-7-geisha_entertain_50792535.jpg


ตอนนี้ก็ได้ทราบความหมายของหญิงงามเมืองของแต่ละประเทศกันไปแล้วทีนี้เรามารู้จักกับ

ประวัติหญิงงามเมืองในพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงกันบ้าง

เนื้อหาบางส่วน :

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7465

http://antique.exteen.com/20060413/entry

http://www.vcharkarn.com/varticle/247

http://artsmen.net/content/show.php?Category=mythboard&No=3710

รูปภาพของ sss27141

มาเม้นให้แล้วนะ  ^^"

 

สุดยอดไปเลย   55555+  

รูปภาพของ sss27112

น่าสนใจมากๆๆๆๆเลย

 ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่เคยรู้เกี่ยวกับโสเภณีเยอะเลย

 

รูปภาพของ sss27101

โห สุด ๆ ไปเลยน๊ะ

เยี่ยมยอด 555.

^_________^

รูปภาพของ sss27345

เนื้อเรื่องน่าสนใจ

ได้ข้อคิดมากมาย

ขอบคุณมากๆจ้าาาInnocent

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 934 คน กำลังออนไลน์