:: Diary Of French บันทึกประเทศฝรั่งเศส ::
โรงละครปาเลส์ การ์นิเยร์
โรงละครหินอ่อนและทองคำ
http://i180.photobucket.com/albums/x66/olacm/Jane2008/380px-Opera_Garnier_Grand_Escalier.jpg
"ปาเลส์ การ์นิเยร์" นั้นนอกจากจะถูกเปรียบเป็นดั่งวิหารแห่งดุริยางคศิลป์และนาฏยลีลา
ด้วยความหรูหราของบันไดกลาง และตัวอาคารอันเป็นที่เลื่องลือ รวมทั้งความตระการตาของห้องชมการแสดงแล้ว
เหนืออื่นใดคือการเป็นโรงละครที่เต็มไปด้วยกิจกรรมต่างๆ ในฐานะเป็นที่ทำการของคณะบัลเล่ต์ แห่งโอเปร่าปารีส
ความเป็นมาของโอเปร่าแห่งปารีส เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 28 มิถุนายน ปี 1669
เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 มีพระบรมราชานุญาตให้ ปิแอร์ แปร์แร็ง ก่อตั้งวิทยาลัยดุริยางค์ขึ้น
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นราชวิทยาลัยดุริยางค์ในสมัยของลุลลิ
โอเปร่าแห่งปารีส ใช้สถานที่ในเมืองหลวงเป็นที่ทำการไปแล้วมากมายหลายแห่ง รวมทั้งโรงละครปาเลส์ รัวยาล
และห้องเครื่องกลของปาเลส์ตุยเลอรี ก่อนที่จักรพรรดินโปเลียนที่ 3
จะทรงตัดสินพระทัยให้ก่อสร้างสถานที่ซึ่งจะเป็นปาเลส์ การ์นิเยร์ ขึ้น
การก่อสร้างนี้อยู่ภายใต้แผนงานบูรณปฏิสังขรณ์กรุงปารีส ซึ่งมีบารอนโอสมานน์ เป็นแม่งานใหญ่
สถาปนิกหนุ่มวัย 35 ปีซึ่งไม่เป็นที่รู้จักนามว่า "ชาร์ลส์ การ์นิเยร์"
เป็นผู้ชนะการประกวดแบบโรงละครจากจำนวนผู้ส่งแบบประกวดทั้งสิ้น 171 คน
งานก่อสร้างโรงละครแห่งนี้กินเวลานานถึง 15 ปี คือระหว่างปี 1860-1875
เพราะต้องหยุดชะงักจากเหตุสุดวิสัยนานัปการ อาทิ สงครามในปี 1870
การล่มสลายของระบอบจักรวรรดินิยม และระบอบคอมมูน
แต่ท้ายที่สุดแล้วโรงละครก็เปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 1875 โดยประธานาธิบดีแม็ค มาอง เป็นผู้ทำพิธีเปิด
นับแต่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงก่อตั้งโอเปร่าแห่งปารีส เมื่อสร้างโรงละครปาเลส์ การ์นิเยร์ เสร็จเรียบร้อย
จึงนับเป็นครั้งแรกที่คณะโอเปร่าได้มีโรงละครที่ออกแบบและก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นของตัวเองอย่างแท้จริง
การ์นิเยร์ สร้างสถาปัตยกรรมยุคนโปเลียนที่ 3 ขึ้นด้วยการออกแบบงานให้ตรงข้ามกับงานแบบเก่าที่นิยมทำกันในยุคนั้น
ผลงานของการ์นิเยร์ แม้ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นงานสถาปัตยกรรมสกุลหนึ่ง
แต่อย่างน้อยก็เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สวยงามที่สุดในสมัยจักรวรรดิที่สอง
ชานพักของบันไดกลาง ถือเป็นหนึ่งในจุดยอดนิยมของปาเลส์ การ์นิเยร์ สร้างจากหินอ่อนหลากสี
และแยกเป็นบันไดเวียนออกไปสองทาง ทางหนึ่งนำไปสู่ห้องพักนักแสดง ส่วนอีกทางนั้นทอดสู่ชั้นถัดไป
สำหรับห้องชมการแสดงนั้นตกแต่งด้วยสีแดงและสีทองอันแสนโอ่อ่า มีโคมไฟระย้าเปล่งแสงเจิดจ้าจากคริสตัล หนักถึง 8 ตัน
ส่วนเพดานห้องที่ชากาลได้ฝากฝีมือไว้ในปี 1964 ก็ช่วยขับให้บทละครโอเปร่า
และนาฏยลีลาชิ้นเอกทั้งหลายตรึงอยู่ในความทรงจำของผู้ชมยิ่งขึ้น
ปัจจุบันนี้ปาเลส์ การ์นิเยร์ เป็นสถานที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ประมาณ 70 คน
รวมทั้งคณะบัลเล่ต์ของโอเปร่าแห่งปารีสที่มีชื่อเสียงระดับโลก
คณะบัลเล่ต์นี้มี บริจิตต์ เลอแฟฟว์ เป็นผู้ควบคุม ประกอบด้วยนักบัลเล่ต์ 154 คน
นักบัลเล่ต์ระดับผู้แสดงนำ 16 คน และระดับดาราอีก 13 คน แต่ละคนมีอายุโดยเฉลี่ยประมาณ 25 ปีเท่านั้น
นักเต้นส่วนใหญ่จบการศึกษาจากโรงเรียนสอนเต้นของโอเปร่า ซึ่งจัดการสอนทั้งด้านศิลปะและวิชาการให้แก่บรรดานักเต้น
และเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าร่วมแข่งขันคัดตัวของคณะบัลเล่ต์ด้วย
นอกจากนี้ยังมีแผนกโอเปร่า อันเป็นแหล่งบ่มเพาะนักร้องและนักเปียโนเยาวชน ที่ใฝ่ฝันจะยืนอยู่แถวหน้าสำหรับงานอาชีพนี้
โอเปร่าแห่งปารีส ยังมีวงออเคสตราชั้นนำของโลกที่รวมนักดนตรีไว้ถึง 174 ชีวิต มีคณะนักร้องประสานเสียง 102 คน
นักดนตรีฝีมือดีและเป็นแหล่งรวมบทโอเปร่าเรื่องยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีอีกมากมาย
สวยจังเลยๆๆๆ
^-^
อิอิ
เด๋วเราทำเส็ดแล้วมาเม้นให้มั้งนะๆๆ
5555555