• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:e1670cd7ac676623fc95c8d87b2eca51' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p><span class=\"apple-converted-space\"><span style=\"font-size: 16pt; color: #c00000; font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'\" lang=\"TH\">หมู่เกาะอ่างทอง -</span></span><span style=\"font-size: 16pt; color: #c00000; font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'\" lang=\"TH\">จังหวัดสุราษฎร์ธานี</span><span style=\"font-size: 11pt; color: #c00000; font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'\" lang=\"TH\"><o:p></o:p></span> </p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nทะเลใน หนึ่งเดียวในอ่าวไทย \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เป็นหมู่เกาะในอ่าวไทยท้องที่ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ห่างจากเกาะสมุยและเกาะพะงันไปทางทิศตะวันตกประมาณ 20 กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะต่างๆ ประมาณ 40 เกาะ ตามเกาะต่างๆ\n</p>\n<p>\nจะมีหาดทรายอยู่เกือบทุกเกาะ บางเกาะหาดทรายมีสีขาวสะอาดบริสุทธิ์ บางเกาะมีปะการังตามชายทะเลหลายชนิด สีสวยงามหลากสี อยู่ท่ามกลางความเงียบสงบ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองมีเนื้อที่ประมาณ 63,750 ไร่ หรือ 102 ตารางกิโลเมตร \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nบริเวณ หมู่เกาะอ่างทอง แต่เดิมเป็นพื้นที่หวงห้ามของกองทัพเรือซึ่งมีโครงการจะสร้างฐานทัพเรือเพื่อควบคุมความปลอดภัย ของประเทศทางด้านอ่าวไทย แต่ด้วยมีทิวทัศน์สวยงาม ทะเลสาบ หน้าผา ถ้ำทะลุ เกาะรังนกนางแอ่น นกนานาชนิด และแนว\n</p>\n<p>\nปะการัง เป็นแหล่งอาศัยและเพาะพันธุ์ปลานานาชนิด ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2518 นายสมบูรณ์ วงศ์ภักดี นักวิชาการป่าไม้ตรี กองอุทยานแห่งชาติ ได้เขียนบทความสารคดีเรื่อง “หมู่เกาะอ่างทอง อุทยานแห่งชาติทางทะเล” ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ \n</p>\n<p>\nไทยรัฐ ฉบับวันที่ 29 มิถุนายน 2518 สรุปสาระสำคัญว่า ควรจัดหมู่เกาะอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล ประกอบกับกองอุทยานแห่งชาติได้มีโครงการอยู่แล้วเช่นกัน และคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ\n</p>\n<p>\nได้มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 2/2518 เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2518 ให้กรมป่าไม้พิจารณาจัดหมู่เกาะอ่างทองเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลอีกแห่งหนึ่ง\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nในปี พ.ศ. 2518 กองอุทยานแห่งชาติ ได้มีบันทึกที่ กส.0708/915 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2518 เสนอกรมป่าไม้ ให้นายสมบูรณ์ วงศ์ภักดี นักวิชาการป่าไม้ตรี ไปทำการสำรวจ ปรากฏว่า หมู่เกาะอ่างทอง ประกอบด้วยเกาะประมาณ 40 เกาะ มีทิวทัศน์สวยงาม\n</p>\n<p>\nทะเลสาบ หน้าผา ถ้ำทะลุ เกาะรังนกนางแอ่น และนกนานาชนิด ปะการัง เป็นแหล่งอาศัยและเพาะพันธุ์ปลานานาชนิด กรมป่าไม้จึงได้เสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติซึ่งได้มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 1/2519 เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2519 ให้กรมป่าไม้ตรวจ\n</p>\n<p>\nสอบรายละเอียดเกี่ยวกับหมู่เกาะอ่างทองกับกระทรวงกลาโหม และทำการตรวจสอบที่ดินบริเวณดังกล่าว กองอุทยานแห่งชาติ ได้มีหนังสือที่ กส.0708/1613 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2519 เสนอกรมป่าไม้ให้ นายสินไชย บูรณะเรข นักวิชาการป่าไม้ 4 ไปดำเนิน\n</p>\n<p>\nการตามมติคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ และกระทรวงกลาโหมได้มีหนังสือที่ กห. 0352 / 26927 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2519 ไม่ขัดข้องในการที่กรมป่าไม้จะกำหนด หมู่เกาะอ่างทอง เป็นอุทยานแห่งชาติ \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nกรมป่าไม้จึงได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติซึ่งได้มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 1/2520 เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2520 เห็นชอบให้กำหนดเป็นอุทยานแห่งชาติได้ ทั้งทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มีหนังสือที่ สฎ.25/21994 ลงวันที่ 18 เมษายน 2520 ให้การ\n</p>\n<p>\nสนับสนุนการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดที่ดินบริเวณหมู่เกาะอ่างทองในท้องที่ตำบลอ่างทอง อำเภอสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมเนื้อที่ 102 ตารางกิโลเมตร ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา \n</p>\n<p>\nเล่ม 97 ตอนที่ 174 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2523 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 21 ของประเทศไทย\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nแหล่งท่องเที่ยว\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nทะเลใน หรือทะเลสาบกลางภูเขาอยู่บนเกาะแม่เกาะ\n</p>\n<p>\n เป็นแอ่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาหินปูนที่สูงสลับ ซับซ้อนแต่มีอุโมงค์ใต้น้ำที่เชื่อมต่อกับทะเล การกำเนิดของทะเลสาบน้ำเค็มนี้ได้มีการสันนิษฐานว่า เกิดจากการยุบตัวของหินชั้นล่างทำให้เกิดบ่อยุบ ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมๆกับหมู่เกาะ \n</p>\n<p>\nหรืออาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในกระบวนการเดียวกับการเกิดถ้ำ \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nเกาะท้ายเพลาและเกาะวัวกันตัง เป็นจุดที่มีแนวปะการังและหาดทรายขาวสะอาด\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nเกาะวัวตาหลับ \n</p>\n<p>\nอยู่บริเวณอ่าวคาเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ด้านหน้าของที่ทำการฯ เป็นหาดทรายขาวสะอาดเหมาะแก่การเล่นน้ำ นอนเล่นพักผ่อนริมหาด เมื่อขึ้นไปจุดชมวิวบนยอดเขา ระยะทางประมาณ 500 เมตร จะมองเห็นหมู่เกาะอ่างทอง\n</p>\n<p>\nทั้งหมดที่ทอดตัวเรียงรายเป็นแนวยาวด้วยรูปร่างต่างๆ แปลกตา นอกจากนี้ยังมีถ้ำบัวโบกซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นแหล่งที่มีความแปลกและเด่นทางธรณีวิทยา โดยเฉพาะหินงอกหินย้อย\n</p>\n<p>\nรูปร่างสวยงามดูคล้ายดอกบัวบาน \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nเกาะสามเส้า\n</p>\n<p>\n ตั้งอยู่ตรงข้ามกับเกาะแม่เกาะ เป็นแหล่งปะการังที่สวยงาม และมีสะพานหินธรรมชาติที่ยื่นโค้งออกไปในทะเล มีหาดทรายขาวสะอาดเหมาะแก่การตั้งแค็มป์พักแรมและว่ายน้ำชมปะการัง\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nสถานที่ติดต่อ\n</p>\n<p>\nอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง 145/1 ถ.ตลาดล่าง ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฏร์ธานี 84000\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nลักษณะภูมิประเทศ \n</p>\n<p>\nอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลอ่างทอง อำเภอสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ระหว่างเส้นรุ้งที่ 9 องศา 31 ลิบดา-9 องศา 43 ลิบดา เหนือ และเส้นแวงที่ 99 องศา 39 ลิบดา - 99 องศา 44 ลิบดา ตะวันออก ประกอบด้วยเกาะ 42 เกาะ ลักษณะเกาะเป็นเขาหินปูนและมีหน้าผาสูงชันเกือบทั้งหมด มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 10-396 เมตรจากระดับน้ำทะเล เรียงตัวในแนวเหนือ-ใต้ เกาะที่มีขนาดใหญ่ เช่น เกาะวัวตาหลับ เกาะพะลวย เกาะแม่เกาะ เกาะสามเส้า เกาะหินดับ และเกาะท้ายเพลา สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองเป็นพื้นน้ำ มีพื้นป่าประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ สภาพป่าโดยทั่วไปมีไม้ขนาดใหญ่น้อยมาก ทั้งนี้เนื่องจากเกาะที่เป็นเขาหินปูนมีเนื้อดินเป็นชั้นบาง \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nลักษณะภูมิอากาศ \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุมที่พัดผ่าน ทำให้ฝนตกชุก คลื่นพายุรุนแรง \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nฤดูร้อน อยู่ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม ระยะนี้เป็นช่วงว่างของฤดูมรสุมหลังจากสิ้นฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว อากาศจะเริ่มร้อนและจะมีอากาศร้อนจัดที่สุดในเดือนเมษายน \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nฤดูฝน อยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลมร้อนและชื้นจากมหาสมุทรอินเดียพัดปกคลุมทำให้มีฝนตกทั่วไป ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 2,000 มิลลิเมตรต่อปี \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nฤดูหนาว อยู่ระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ในระยะนี้จะมีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเย็นและแห้งแล้งจากประเทศจีนพัดปกคลุม ทำให้อุณหภูมิลดลงทั่วไปและมีอากาศหนาวเย็น แต่เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากทะเลอ่าวไทย อากาศจึงไม่หนาวเย็นมากนักและจะมีฝนตกโดยทั่วไป โดยเฉพาะในเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน สำหรับช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม มีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 28 องศาเซลเซียส \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nสำหรับช่วงเวลาระพว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ของทุกปี เป็นช่วงฤดูมรสุม ทะเลจะมีคลื่นลมแรง ทำให้การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่มีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว ทางอุทยานแห่งชาติจึงกำหนดปิดการท่องเที่ยวประจำปี ดังนี้ \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน - 23 ธันวาคม ของทุกปี \n</p>\n<p>\nเปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม - 31 ตุลาคม ของทุกปี\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nพืชพรรณและสัตว์ป่า \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nลักษณะพรรณพืชตามธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง แบ่งตามลักษณะของสภาพป่าและถิ่นที่ขึ้นอยู่ได้แก่ ป่าดงดิบแล้ง ครอบคลุมพื้นที่ของเกาะขนาดใหญ่ \n</p>\n<p>\nคือ เกาะวัวตาหลับ เกาะพะลวย เกาะสามเส้า ในบริเวณไหล่เขาและตามร่องลำธาร มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญ เช่น พลองใบมน จิกเขา รักเขา หัวค่าง พลองกินลูก เกด ไหม้ ไม้พุ่มชั้นล่าง\n</p>\n<p>\nได้แก่ ข่อยหนาม กระจายอยู่ทั่วไป พืชพื้นล่างและพืชอิงอาศัยได้แก่ เต่าร้าง หวาย ข้าหลวงหลังลาย เปราะ บุก และกล้วยไม้นารีช่องอ่างทอง ฯลฯ \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nป่าชายหาด เป็นป่าโปร่งขึ้นบริเวณแคบๆ ตามชายหาดและเชิงเขาชายทะเลทั่วไปของเกาะต่างๆ พันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ หูกวาง โพทะเล กระทิง ปอทะเล จิกทะเล \n</p>\n<p>\nสนทะเล รักทะเล มะเดื่อป่า ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่ เตยทะเล พลับพลึง กะทกรก และผักบุ้งทะเล เป็นต้น \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nป่าเขาหินปูน พบในบริเวณเขาหินปูนที่มีชั้นดินน้อย พืชที่ขึ้นเป็นพืชขนาดเล็ก เช่น จันทน์ผา เป้ง สลัดได พลับพลึง บุก ปอทะเล เกด เชียด และยอป่า เป็นต้น \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nป่าชายเลน\n</p>\n<p>\n พบอยู่น้อยมากบริเวณซอกหินที่มีหาดทรายหรือหาดเลนในวงรอบของทะเลในของเกาะแม่เกาะ และทางทิศตะวันออกของเกาะพะลวยในบางอ่าวที่เว้าเข้าไปในแผ่นดิน\n</p>\n<p>\n พันธุ์ไม้ส่วนใหญ่เป็นโกงกางใบเล็ก \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nด้วยสภาพที่เป็นเกาะขนาดเล็กกลางทะเล มีที่ราบ และที่ลาดชันปานกลางถึงน้อย ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเกาะที่เป็นเขาหินปูนสูงชัน จึงทำให้เป็นข้อจำกัดในเรื่องของ\n</p>\n<p>\nการเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ขนาดใหญ่ สัตว์ที่พบเห็นโดยทั่วไปสามารถจำแนกออกได้เป็น \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม\n</p>\n<p>\n พบ 16 ชนิด ได้แก่ นากใหญ่หัวปลาดุก ค่างแว่นถิ่นใต้ ลิงแสม หมูป่า พญากระรอกดำ หนูเกาะ ค้างคาวแม่ไก่เกาะ โลมา และวาฬ เป็นต้น \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nนก\n</p>\n<p>\n พบไม่น้อยกว่า 54 ชนิด ได้แก่ นกยางเขียว เหยี่ยวแดง นกออก นกเด้าดิน นกแอ่นกินรัง นกแก๊ก นกแซงแซวหางบ่วงใหญ่ และนกขุนทอง ฯลฯ \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nสัตว์เลื้อยคลาน\n</p>\n<p>\n พบ 14 ชนิด ได้แก่ แย้ เหี้ย เต่าตนุ เต่ากระ งูเหลือม และงูจงอาง เป็นต้น \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก \n</p>\n<p>\nพบน้อยมากเพียง 5 ชนิด ได้แก่ คางคกบ้าน กบบัว กบนา กบหนอง และปาด \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nนอกจากนี้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ ที่สำคัญคือ ปลาทู และยังอุดมสมบูรณ์ด้วยสัตว์น้ำ เช่น ปลาผีเสื้อลายแปดเส้น \n</p>\n<p>\nปลาสินสมุทร ปลานกแก้ว ปลากระเบนทอง ปลาฉลามหูดำ ปลาเม่นลายเสือ ปลากะพง ปลาเก๋า ปลิงทะเล ปูม้า กัลปังหา แส้ทะเล หอยมือเสือ หอยนางรม และปะการังที่สวยงามซึ่งได้ฟื้นตัวขึ้นมาใหม่จำนวนมาก\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nบ้านพักและสิ่งอำนวยความสะดวก\n</p>\n<p>\nมีบ้านพักทางการที่ตั้งในอุทยานฯ \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nการเดินทาง\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nการเดินทาง\n</p>\n<p>\nรถยนต์ กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี ใช้เส้นทางสายธนบุรี–ปากท่อ ทางหลวงหมายเลข 35 แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 41 ถึงสุราษฎร์ธานี ระยะทางประมาณ 644 กิโลเมตร เดินทางต่อ\n</p>\n<p>\nจนถึงอำเภอดอนสักถึงท่าเรือเฟอร์รี่ดอนสัก ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nเครื่องบิน \n</p>\n<p>\nโดยสายการบินของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จากกรุงเทพฯ–สุราษฎร์ธานี และของบริษัท บางกอกแอร์เวย์ จำกัด เปิดบริการเที่ยวบิน กรุงเทพฯ–เกาะสมุย ไป-กลับทุกวันใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nเรือ\n</p>\n<p>\n การเดินทางจากเกาะสมุย ไปยังอุทยานแห่งชาติ ระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร สามารถเดินทางโดยทางเรือโดยสาร(เรือทัวร์) \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nรถไฟ จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง)\n</p>\n<p>\n มีบริการเดินรถทุกวัน ผู้โดยสารต้องเดินทางไปลงที่สถานีรถไฟพุนพิน แล้วต่อรถยนต์หรือรถโดยสารเข้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วเดินทางต่อโดยรถโดยสารประจำทางสายสุราษฎร์ธานี - เกาะสมุย \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nรถโดยสารประจำทาง \n</p>\n<p>\nการเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าสู่อำเภอเกาะสมุย ระยะทางประมาณ 84 กิโลเมตร หรือเดินทางโดยเรือเร็วของบริษัทส่งเสริมทราเวล เซ็นเตอร์ จำกัด จากท่าเรือท่าทอง สุราษฎร์ธานีถึงท่าเรือหน้าทอน เกาะสมุย\n</p>\n<p>\nบริการวันละ 2 เที่ยว เที่ยวไปเวลา 07.30 น. และ 14.30 น. เที่ยวกลับจากท่าเรือหน้าทอนถึงท่าเรือท่าทอง ออกเวลา 07.15 น. และ 14.30น. และ เรือธรรมดา (เรือนอน) ออกจากท่าเรือบ้านดอน สุราษฎร์ธานี เวลา 23.00 น. \n</p>\n<p>\nถึงเกาะสมุยเวลา 05.00 น. เที่ยวกลับออกจากเกาะสมุยเวลา 21.00 น. ถึงสุราษฎร์ธานี เวลา 04.00 น. \n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nแผนที่หมู่เกาะอ่างทอง\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nที่มา\n</p>\n<p>\n<a href=\"http://lifestyle.kingsolder.com/travel/travel.asp?id=1227\" title=\"http://lifestyle.kingsolder.com/travel/travel.asp?id=1227\">http://lifestyle.kingsolder.com/travel/travel.asp?id=1227</a>\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n', created = 1727529790, expire = 1727616190, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:e1670cd7ac676623fc95c8d87b2eca51' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

เที่ยวเกาะในประเทศไทย

รูปภาพของ sss27359

หมู่เกาะอ่างทอง -จังหวัดสุราษฎร์ธานี

 

ทะเลใน หนึ่งเดียวในอ่าวไทย 

 

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เป็นหมู่เกาะในอ่าวไทยท้องที่ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ห่างจากเกาะสมุยและเกาะพะงันไปทางทิศตะวันตกประมาณ 20 กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะต่างๆ ประมาณ 40 เกาะ ตามเกาะต่างๆ

จะมีหาดทรายอยู่เกือบทุกเกาะ บางเกาะหาดทรายมีสีขาวสะอาดบริสุทธิ์ บางเกาะมีปะการังตามชายทะเลหลายชนิด สีสวยงามหลากสี อยู่ท่ามกลางความเงียบสงบ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองมีเนื้อที่ประมาณ 63,750 ไร่ หรือ 102 ตารางกิโลเมตร 

 

บริเวณ หมู่เกาะอ่างทอง แต่เดิมเป็นพื้นที่หวงห้ามของกองทัพเรือซึ่งมีโครงการจะสร้างฐานทัพเรือเพื่อควบคุมความปลอดภัย ของประเทศทางด้านอ่าวไทย แต่ด้วยมีทิวทัศน์สวยงาม ทะเลสาบ หน้าผา ถ้ำทะลุ เกาะรังนกนางแอ่น นกนานาชนิด และแนว

ปะการัง เป็นแหล่งอาศัยและเพาะพันธุ์ปลานานาชนิด ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2518 นายสมบูรณ์ วงศ์ภักดี นักวิชาการป่าไม้ตรี กองอุทยานแห่งชาติ ได้เขียนบทความสารคดีเรื่อง “หมู่เกาะอ่างทอง อุทยานแห่งชาติทางทะเล” ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ 

ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 29 มิถุนายน 2518 สรุปสาระสำคัญว่า ควรจัดหมู่เกาะอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล ประกอบกับกองอุทยานแห่งชาติได้มีโครงการอยู่แล้วเช่นกัน และคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ

ได้มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 2/2518 เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2518 ให้กรมป่าไม้พิจารณาจัดหมู่เกาะอ่างทองเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลอีกแห่งหนึ่ง

 

ในปี พ.ศ. 2518 กองอุทยานแห่งชาติ ได้มีบันทึกที่ กส.0708/915 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2518 เสนอกรมป่าไม้ ให้นายสมบูรณ์ วงศ์ภักดี นักวิชาการป่าไม้ตรี ไปทำการสำรวจ ปรากฏว่า หมู่เกาะอ่างทอง ประกอบด้วยเกาะประมาณ 40 เกาะ มีทิวทัศน์สวยงาม

ทะเลสาบ หน้าผา ถ้ำทะลุ เกาะรังนกนางแอ่น และนกนานาชนิด ปะการัง เป็นแหล่งอาศัยและเพาะพันธุ์ปลานานาชนิด กรมป่าไม้จึงได้เสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติซึ่งได้มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 1/2519 เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2519 ให้กรมป่าไม้ตรวจ

สอบรายละเอียดเกี่ยวกับหมู่เกาะอ่างทองกับกระทรวงกลาโหม และทำการตรวจสอบที่ดินบริเวณดังกล่าว กองอุทยานแห่งชาติ ได้มีหนังสือที่ กส.0708/1613 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2519 เสนอกรมป่าไม้ให้ นายสินไชย บูรณะเรข นักวิชาการป่าไม้ 4 ไปดำเนิน

การตามมติคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ และกระทรวงกลาโหมได้มีหนังสือที่ กห. 0352 / 26927 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2519 ไม่ขัดข้องในการที่กรมป่าไม้จะกำหนด หมู่เกาะอ่างทอง เป็นอุทยานแห่งชาติ 

 

กรมป่าไม้จึงได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติซึ่งได้มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 1/2520 เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2520 เห็นชอบให้กำหนดเป็นอุทยานแห่งชาติได้ ทั้งทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มีหนังสือที่ สฎ.25/21994 ลงวันที่ 18 เมษายน 2520 ให้การ

สนับสนุนการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดที่ดินบริเวณหมู่เกาะอ่างทองในท้องที่ตำบลอ่างทอง อำเภอสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมเนื้อที่ 102 ตารางกิโลเมตร ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา 

เล่ม 97 ตอนที่ 174 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2523 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 21 ของประเทศไทย

 

แหล่งท่องเที่ยว

 

ทะเลใน หรือทะเลสาบกลางภูเขาอยู่บนเกาะแม่เกาะ

 เป็นแอ่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาหินปูนที่สูงสลับ ซับซ้อนแต่มีอุโมงค์ใต้น้ำที่เชื่อมต่อกับทะเล การกำเนิดของทะเลสาบน้ำเค็มนี้ได้มีการสันนิษฐานว่า เกิดจากการยุบตัวของหินชั้นล่างทำให้เกิดบ่อยุบ ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมๆกับหมู่เกาะ 

หรืออาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในกระบวนการเดียวกับการเกิดถ้ำ 

 

เกาะท้ายเพลาและเกาะวัวกันตัง เป็นจุดที่มีแนวปะการังและหาดทรายขาวสะอาด

 

เกาะวัวตาหลับ 

อยู่บริเวณอ่าวคาเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ด้านหน้าของที่ทำการฯ เป็นหาดทรายขาวสะอาดเหมาะแก่การเล่นน้ำ นอนเล่นพักผ่อนริมหาด เมื่อขึ้นไปจุดชมวิวบนยอดเขา ระยะทางประมาณ 500 เมตร จะมองเห็นหมู่เกาะอ่างทอง

ทั้งหมดที่ทอดตัวเรียงรายเป็นแนวยาวด้วยรูปร่างต่างๆ แปลกตา นอกจากนี้ยังมีถ้ำบัวโบกซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นแหล่งที่มีความแปลกและเด่นทางธรณีวิทยา โดยเฉพาะหินงอกหินย้อย

รูปร่างสวยงามดูคล้ายดอกบัวบาน 

 

เกาะสามเส้า

 ตั้งอยู่ตรงข้ามกับเกาะแม่เกาะ เป็นแหล่งปะการังที่สวยงาม และมีสะพานหินธรรมชาติที่ยื่นโค้งออกไปในทะเล มีหาดทรายขาวสะอาดเหมาะแก่การตั้งแค็มป์พักแรมและว่ายน้ำชมปะการัง

 

สถานที่ติดต่อ

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง 145/1 ถ.ตลาดล่าง ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฏร์ธานี 84000

 

 

 

 

ลักษณะภูมิประเทศ 

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลอ่างทอง อำเภอสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ระหว่างเส้นรุ้งที่ 9 องศา 31 ลิบดา-9 องศา 43 ลิบดา เหนือ และเส้นแวงที่ 99 องศา 39 ลิบดา - 99 องศา 44 ลิบดา ตะวันออก ประกอบด้วยเกาะ 42 เกาะ ลักษณะเกาะเป็นเขาหินปูนและมีหน้าผาสูงชันเกือบทั้งหมด มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 10-396 เมตรจากระดับน้ำทะเล เรียงตัวในแนวเหนือ-ใต้ เกาะที่มีขนาดใหญ่ เช่น เกาะวัวตาหลับ เกาะพะลวย เกาะแม่เกาะ เกาะสามเส้า เกาะหินดับ และเกาะท้ายเพลา สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองเป็นพื้นน้ำ มีพื้นป่าประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ สภาพป่าโดยทั่วไปมีไม้ขนาดใหญ่น้อยมาก ทั้งนี้เนื่องจากเกาะที่เป็นเขาหินปูนมีเนื้อดินเป็นชั้นบาง 

 

ลักษณะภูมิอากาศ 

 

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุมที่พัดผ่าน ทำให้ฝนตกชุก คลื่นพายุรุนแรง 

 

ฤดูร้อน อยู่ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม ระยะนี้เป็นช่วงว่างของฤดูมรสุมหลังจากสิ้นฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว อากาศจะเริ่มร้อนและจะมีอากาศร้อนจัดที่สุดในเดือนเมษายน 

 

ฤดูฝน อยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลมร้อนและชื้นจากมหาสมุทรอินเดียพัดปกคลุมทำให้มีฝนตกทั่วไป ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 2,000 มิลลิเมตรต่อปี 

 

ฤดูหนาว อยู่ระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ในระยะนี้จะมีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเย็นและแห้งแล้งจากประเทศจีนพัดปกคลุม ทำให้อุณหภูมิลดลงทั่วไปและมีอากาศหนาวเย็น แต่เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากทะเลอ่าวไทย อากาศจึงไม่หนาวเย็นมากนักและจะมีฝนตกโดยทั่วไป โดยเฉพาะในเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน สำหรับช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม มีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 28 องศาเซลเซียส 

 

สำหรับช่วงเวลาระพว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ของทุกปี เป็นช่วงฤดูมรสุม ทะเลจะมีคลื่นลมแรง ทำให้การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่มีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว ทางอุทยานแห่งชาติจึงกำหนดปิดการท่องเที่ยวประจำปี ดังนี้ 

 

ปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน - 23 ธันวาคม ของทุกปี 

เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม - 31 ตุลาคม ของทุกปี

 

พืชพรรณและสัตว์ป่า 

 

ลักษณะพรรณพืชตามธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง แบ่งตามลักษณะของสภาพป่าและถิ่นที่ขึ้นอยู่ได้แก่ ป่าดงดิบแล้ง ครอบคลุมพื้นที่ของเกาะขนาดใหญ่ 

คือ เกาะวัวตาหลับ เกาะพะลวย เกาะสามเส้า ในบริเวณไหล่เขาและตามร่องลำธาร มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญ เช่น พลองใบมน จิกเขา รักเขา หัวค่าง พลองกินลูก เกด ไหม้ ไม้พุ่มชั้นล่าง

ได้แก่ ข่อยหนาม กระจายอยู่ทั่วไป พืชพื้นล่างและพืชอิงอาศัยได้แก่ เต่าร้าง หวาย ข้าหลวงหลังลาย เปราะ บุก และกล้วยไม้นารีช่องอ่างทอง ฯลฯ 

 

ป่าชายหาด เป็นป่าโปร่งขึ้นบริเวณแคบๆ ตามชายหาดและเชิงเขาชายทะเลทั่วไปของเกาะต่างๆ พันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ หูกวาง โพทะเล กระทิง ปอทะเล จิกทะเล 

สนทะเล รักทะเล มะเดื่อป่า ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่ เตยทะเล พลับพลึง กะทกรก และผักบุ้งทะเล เป็นต้น 

 

ป่าเขาหินปูน พบในบริเวณเขาหินปูนที่มีชั้นดินน้อย พืชที่ขึ้นเป็นพืชขนาดเล็ก เช่น จันทน์ผา เป้ง สลัดได พลับพลึง บุก ปอทะเล เกด เชียด และยอป่า เป็นต้น 

 

ป่าชายเลน

 พบอยู่น้อยมากบริเวณซอกหินที่มีหาดทรายหรือหาดเลนในวงรอบของทะเลในของเกาะแม่เกาะ และทางทิศตะวันออกของเกาะพะลวยในบางอ่าวที่เว้าเข้าไปในแผ่นดิน

 พันธุ์ไม้ส่วนใหญ่เป็นโกงกางใบเล็ก 

 

ด้วยสภาพที่เป็นเกาะขนาดเล็กกลางทะเล มีที่ราบ และที่ลาดชันปานกลางถึงน้อย ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเกาะที่เป็นเขาหินปูนสูงชัน จึงทำให้เป็นข้อจำกัดในเรื่องของ

การเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ขนาดใหญ่ สัตว์ที่พบเห็นโดยทั่วไปสามารถจำแนกออกได้เป็น 

 

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

 พบ 16 ชนิด ได้แก่ นากใหญ่หัวปลาดุก ค่างแว่นถิ่นใต้ ลิงแสม หมูป่า พญากระรอกดำ หนูเกาะ ค้างคาวแม่ไก่เกาะ โลมา และวาฬ เป็นต้น 

 

นก

 พบไม่น้อยกว่า 54 ชนิด ได้แก่ นกยางเขียว เหยี่ยวแดง นกออก นกเด้าดิน นกแอ่นกินรัง นกแก๊ก นกแซงแซวหางบ่วงใหญ่ และนกขุนทอง ฯลฯ 

 

สัตว์เลื้อยคลาน

 พบ 14 ชนิด ได้แก่ แย้ เหี้ย เต่าตนุ เต่ากระ งูเหลือม และงูจงอาง เป็นต้น 

 

สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก 

พบน้อยมากเพียง 5 ชนิด ได้แก่ คางคกบ้าน กบบัว กบนา กบหนอง และปาด 

 

นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ ที่สำคัญคือ ปลาทู และยังอุดมสมบูรณ์ด้วยสัตว์น้ำ เช่น ปลาผีเสื้อลายแปดเส้น 

ปลาสินสมุทร ปลานกแก้ว ปลากระเบนทอง ปลาฉลามหูดำ ปลาเม่นลายเสือ ปลากะพง ปลาเก๋า ปลิงทะเล ปูม้า กัลปังหา แส้ทะเล หอยมือเสือ หอยนางรม และปะการังที่สวยงามซึ่งได้ฟื้นตัวขึ้นมาใหม่จำนวนมาก

 

 

 

บ้านพักและสิ่งอำนวยความสะดวก

มีบ้านพักทางการที่ตั้งในอุทยานฯ 

 

การเดินทาง

 

การเดินทาง

รถยนต์ กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี ใช้เส้นทางสายธนบุรี–ปากท่อ ทางหลวงหมายเลข 35 แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 41 ถึงสุราษฎร์ธานี ระยะทางประมาณ 644 กิโลเมตร เดินทางต่อ

จนถึงอำเภอดอนสักถึงท่าเรือเฟอร์รี่ดอนสัก ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร

 

เครื่องบิน 

โดยสายการบินของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จากกรุงเทพฯ–สุราษฎร์ธานี และของบริษัท บางกอกแอร์เวย์ จำกัด เปิดบริการเที่ยวบิน กรุงเทพฯ–เกาะสมุย ไป-กลับทุกวันใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที

 

เรือ

 การเดินทางจากเกาะสมุย ไปยังอุทยานแห่งชาติ ระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร สามารถเดินทางโดยทางเรือโดยสาร(เรือทัวร์) 

 

รถไฟ จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง)

 มีบริการเดินรถทุกวัน ผู้โดยสารต้องเดินทางไปลงที่สถานีรถไฟพุนพิน แล้วต่อรถยนต์หรือรถโดยสารเข้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วเดินทางต่อโดยรถโดยสารประจำทางสายสุราษฎร์ธานี - เกาะสมุย 

 

รถโดยสารประจำทาง 

การเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าสู่อำเภอเกาะสมุย ระยะทางประมาณ 84 กิโลเมตร หรือเดินทางโดยเรือเร็วของบริษัทส่งเสริมทราเวล เซ็นเตอร์ จำกัด จากท่าเรือท่าทอง สุราษฎร์ธานีถึงท่าเรือหน้าทอน เกาะสมุย

บริการวันละ 2 เที่ยว เที่ยวไปเวลา 07.30 น. และ 14.30 น. เที่ยวกลับจากท่าเรือหน้าทอนถึงท่าเรือท่าทอง ออกเวลา 07.15 น. และ 14.30น. และ เรือธรรมดา (เรือนอน) ออกจากท่าเรือบ้านดอน สุราษฎร์ธานี เวลา 23.00 น. 

ถึงเกาะสมุยเวลา 05.00 น. เที่ยวกลับออกจากเกาะสมุยเวลา 21.00 น. ถึงสุราษฎร์ธานี เวลา 04.00 น. 

 

แผนที่หมู่เกาะอ่างทอง

 

ที่มา

http://lifestyle.kingsolder.com/travel/travel.asp?id=1227

 

 

 

 

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 259 คน กำลังออนไลน์