• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:4a80c6856b11d24b634c607cf0f425e3' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p><span style=\"color: #008000\"><span style=\"color: #339966\">แหล่งที่มา</span>: </span><a href=\"http://www.med.cmu.ac.th/hospital/opd/health/yoket.jpg\"><span style=\"color: #008000\">http://www.med.cmu.ac.th/hospital/opd/health/yoket.jpg</span></a><span style=\"color: #ff99cc\"> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #513041\"><strong><u><span style=\"color: #ff99cc\"></span></u></strong></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ff99cc\"><span style=\"color: #513041\"><span style=\"color: #513041\"><strong><u>แลคโตบาซิลัส- แบคทีเรียมหัศจรรย์</u></strong></span><br />\n</span>     <span style=\"color: #ff99cc\"> </span></span><span style=\"color: #ff99cc\"><span style=\"color: #ff99cc\"><span style=\"color: #ff99cc\">บริเวณลำไส้ใหญ่ของเรามีแบคทีเรียมากมายหลายชนิดอาศัยอยู่ และหนึ่งในแบคทีเรียทีเป็นประโยชน์แก่ร่างกายที่อาศัยอยู่บริเวณนี้คือ แบคทีเรียในกลุ่มแลคโตบาซิลัสซึ่งอาศัยน้ำตาลแลคโตสเป็นอาหาร และแบคทีเรียที่เรารู้จักกันดีคือ Lactobacillus acidophilus ซึ่งเจริญเติบโตได้ดีในภาวะเป็นกรดของลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้แบคทีเรียชนิดนี้ยังมีประโยชน์ต่างๆต่อร่างกายของเรา ได้แก่<br />\n1. ช่วยในระบบการย่อยอาหาร เนื่องจากแบคทีเรียแลคโตบาซิลัสจะช่วยย่อยน้ำตาลแลคโตสในผลิตภัณฑ์จำพวกนม ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดภาวะที่มีปริมาณแลคโตสมากเกินไปและช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นในคนที่ไม่สามารถย่อยนมได้ แบคทีเรียแลคโตบาซิลัสยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหารที่ลำไส้และช่วยกระตุ้นการบีบตัวของทางเดินอาหารที่เป็นกลไกตามธรรมชาติ ทำให้อาหารเคลื่อนผ่านสู่ลำไส้ได้ดีขึ้น<br />\n2. สร้างวิตามิน แบคทีเรียแลคโตบาซิลัสสามารถสร้างวิตามินบีและวิตามินเค<br />\n3. สร้างสารอาหารที่จำเป็นแก่ร่างกาย บคทีเรียชนิดนี้จะช่วยสร้างกรดไขมันจำเป็นหรือกรดไขมันชนิดที่มีสายโมเลกุลสั้น ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญต่อเซลล์บริเวณลำไส้ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างสารที่ช่วยต้านมะเร็งอีกด้วย<br />\n4. กระตุ้นระบบภูมิต้านทาน แบคทีเรียแลคโตบาซิลัสจะยับยั้งการเติบโตของของแบคทีเรียที่เป็นอันตรายและเชื้อรา อาทิเช่น ราแคนดิดา เนื่องจากแบคทีเรียประเภทนี้จะทำให้บริเวณลำไส้มีสภาวะเป็นกรดซึ่งแบคทีเรียที่เป็นอันตรายไม่สามารถอยู่รอดได้ นอกจากนี้แบคทีเรียแลคโตบาซิลัสยังสร้างไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรคต่างๆ <br />\n5. ต้านสารก่อมะเร็ง แบคทีเรียแลคโตบาซิลัสสามารถจับกับสารก่อมะเร็ง ทำให้สารดังกล่าวไม่สามารถทำอันตรายกับเซลล์ร่างกายได้อีก และLactobacillus  bulgaricusซึ่งเป็นแบคทีเรียที่นิยมเติมในโยเกิร์ตนั้นมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็งได้ดี นอกจากนี้แบคทีเรีย   แลคโตบาซิลัสยังสามารถจับโลหะหนักและกรดน้ำดีซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งได้ ตลอดจนสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ผลิตสารไนเตรต (ไนเตรตเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง) และแบคทีเรียแลคโตบาซิลัสยังทำปฏิกิริยากับสารฟลาโวนอยด์ทำให้เกิดสารธรรมชาติที่สามารถต้านมะเร็งได้ดี<br />\n6. ป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ เนื่องจากแบคทีเรียแลคโตบาซิลัสช่วยควบคุมระดับคลอเลสเตอรอลและกลีเซอไรด์ในกระแสเลือด<br />\n                    </span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ff99cc\"><span style=\"color: #ff99cc\"><span style=\"color: #ff99cc\">        การรับประทานโยเกิร์ตเป็นอาหารเช้าจะช่วยทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้น เนื่องจากในโยเกิร์ตมีกรดอะมิโนไทโรซีนปริมาณสูงซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบประสาท และมีกรดอะมิโนทริปโตเฟนซึ่งทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะสงบในปริมาณน้อย การเติมน้ำมันเมล็ดปอ (ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อสมอง) หรือพวกถั่ว (เป็นแหล่งของโปรตีนและช่วยรักษาระดับน้ำตาลในกระแสเลือด) ลงในโยเกิร์ตจะช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหาร  ซึ่งจะช่วยให้พัฒนาการทางสมองของลูกน้อยเป็นไปได้ดียิ่งขึ้น</span> </span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ff99cc\"><span style=\"color: #ff99cc\"></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #281820\"><span style=\"color: #ff99cc\"></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ff99cc\"><span style=\"color: #281820\"><span style=\"color: #513041\"></span></span></span>\n</p>\n<p></p>', created = 1719111700, expire = 1719198100, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:4a80c6856b11d24b634c607cf0f425e3' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

โยเกิร์ต

รูปภาพของ sss27426

แหล่งที่มา: http://www.med.cmu.ac.th/hospital/opd/health/yoket.jpg

แลคโตบาซิลัส- แบคทีเรียมหัศจรรย์
      
บริเวณลำไส้ใหญ่ของเรามีแบคทีเรียมากมายหลายชนิดอาศัยอยู่ และหนึ่งในแบคทีเรียทีเป็นประโยชน์แก่ร่างกายที่อาศัยอยู่บริเวณนี้คือ แบคทีเรียในกลุ่มแลคโตบาซิลัสซึ่งอาศัยน้ำตาลแลคโตสเป็นอาหาร และแบคทีเรียที่เรารู้จักกันดีคือ Lactobacillus acidophilus ซึ่งเจริญเติบโตได้ดีในภาวะเป็นกรดของลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้แบคทีเรียชนิดนี้ยังมีประโยชน์ต่างๆต่อร่างกายของเรา ได้แก่
1. ช่วยในระบบการย่อยอาหาร เนื่องจากแบคทีเรียแลคโตบาซิลัสจะช่วยย่อยน้ำตาลแลคโตสในผลิตภัณฑ์จำพวกนม ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดภาวะที่มีปริมาณแลคโตสมากเกินไปและช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นในคนที่ไม่สามารถย่อยนมได้ แบคทีเรียแลคโตบาซิลัสยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหารที่ลำไส้และช่วยกระตุ้นการบีบตัวของทางเดินอาหารที่เป็นกลไกตามธรรมชาติ ทำให้อาหารเคลื่อนผ่านสู่ลำไส้ได้ดีขึ้น
2. สร้างวิตามิน แบคทีเรียแลคโตบาซิลัสสามารถสร้างวิตามินบีและวิตามินเค
3. สร้างสารอาหารที่จำเป็นแก่ร่างกาย บคทีเรียชนิดนี้จะช่วยสร้างกรดไขมันจำเป็นหรือกรดไขมันชนิดที่มีสายโมเลกุลสั้น ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญต่อเซลล์บริเวณลำไส้ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างสารที่ช่วยต้านมะเร็งอีกด้วย
4. กระตุ้นระบบภูมิต้านทาน แบคทีเรียแลคโตบาซิลัสจะยับยั้งการเติบโตของของแบคทีเรียที่เป็นอันตรายและเชื้อรา อาทิเช่น ราแคนดิดา เนื่องจากแบคทีเรียประเภทนี้จะทำให้บริเวณลำไส้มีสภาวะเป็นกรดซึ่งแบคทีเรียที่เป็นอันตรายไม่สามารถอยู่รอดได้ นอกจากนี้แบคทีเรียแลคโตบาซิลัสยังสร้างไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรคต่างๆ
5. ต้านสารก่อมะเร็ง แบคทีเรียแลคโตบาซิลัสสามารถจับกับสารก่อมะเร็ง ทำให้สารดังกล่าวไม่สามารถทำอันตรายกับเซลล์ร่างกายได้อีก และLactobacillus  bulgaricusซึ่งเป็นแบคทีเรียที่นิยมเติมในโยเกิร์ตนั้นมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็งได้ดี นอกจากนี้แบคทีเรีย   แลคโตบาซิลัสยังสามารถจับโลหะหนักและกรดน้ำดีซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งได้ ตลอดจนสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ผลิตสารไนเตรต (ไนเตรตเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง) และแบคทีเรียแลคโตบาซิลัสยังทำปฏิกิริยากับสารฟลาโวนอยด์ทำให้เกิดสารธรรมชาติที่สามารถต้านมะเร็งได้ดี
6. ป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ เนื่องจากแบคทีเรียแลคโตบาซิลัสช่วยควบคุมระดับคลอเลสเตอรอลและกลีเซอไรด์ในกระแสเลือด
                   

        การรับประทานโยเกิร์ตเป็นอาหารเช้าจะช่วยทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้น เนื่องจากในโยเกิร์ตมีกรดอะมิโนไทโรซีนปริมาณสูงซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบประสาท และมีกรดอะมิโนทริปโตเฟนซึ่งทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะสงบในปริมาณน้อย การเติมน้ำมันเมล็ดปอ (ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อสมอง) หรือพวกถั่ว (เป็นแหล่งของโปรตีนและช่วยรักษาระดับน้ำตาลในกระแสเลือด) ลงในโยเกิร์ตจะช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหาร  ซึ่งจะช่วยให้พัฒนาการทางสมองของลูกน้อยเป็นไปได้ดียิ่งขึ้น

รูปภาพของ ssspoonsak

ดีแล้วละ

ขออีกนิด แต่ขออีกนิด การอ้างอิง ต้องอ้างอิงทุกหน้า ตรวจดูอีกทีนะ ที่มารูปภาพต้องชัดเจน

อย่าลืมส่งประกวด
แต่ต้องสร้างให้มากกว่า 20 node พร้อมลิ้งค์ด้วย

-----------------------------------------------------------------------------------------
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 442 คน กำลังออนไลน์