แหล่งที่มา : หนังสือ สารพันเคล็ด(ไม่)ลับ...กับกรุงเทพประกันภัย

                                                  ผลไม้ 10 ชนิดที่ผู้หญิงควรกิน     

      นักวิจัยพบว่ามีผลไม้อยู่ 10 ชนิดที่คุณผู้หญิงควรกินเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพและความงาม
           ลูกพรุน มีสรรพคุณช่วยบำรุงเลือด ทำให้ผิวพรรณดี ลดความดันเลือด ป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยให้ขับถ่ายสะดวก
           ถั่ว เป็นแหล่งไฟเบอร์ที่ช่วยให้ระบบขับถ่ายดี ช่วยลดคอเรสเตอรอลและยังมีประโยชน์ต่อผู้หญิงสูงวัย
เนื่องจากช่วยลดความรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวในวัยหมดประจำเดือน และลดความรุนแรงของโรคกระดูกพรุน
           บรอกโคลี เป็นผักที่มีธาตุซีลีเนียม ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และอาจชะลอความชราของผิวพรรณได้
            กล้วยไข่ มีเบต้าแคโรทีนที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ มีไฟเบอร์มาก
            คะน้า มีเบต้าแคโรทีนสูงกว่าผักโขมถึง 3 เท่า จึงช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้หลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งปอด
           ฝรั่ง อุดมไปด้วยวตามินซีที่ช่วยให้ผิวพรรณสดใส ช่วยสร้างคอลลาเจน ป้องกันโรคหวัด ลดคอเรสเตอรอลช่วยให้         กระดูกและฟันแข็งแรง
           มะเขือเทศ อุดมไปด้วยไฟเบอร์และวิตามินหลายชนิด รวมทั้งสารไลโคปิน ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยป้องกันมะเร็ง
           เห็ด เป็นแหล่งของวิตามินบีรวมและธาตุโครเมียม ที่ช่วยให้เซลล์ไม่แก่ก่อนวัย ป้องกันโรคเบาหวาน
หลอดเลือดแข็งตัวและความจำเสื่อม
           แอปเปิ้ล ช่วยลดความอยากอาหารและลดคอเรสเตอรอลในผู้หญิงได้ดีกว่าผู้ชาย
           ส้ม มีวิตามินซีที่ช่วยเร่งการสร้างคอลลาเจน จึงทำให้ผิวพรรณสดใส  

                                      แหล่งที่มา : หนังสือ สารพันเคล็ด(ไม่)ลับ...กับกรุงเทพประกันภัย

                                                     jet lag จัดการอย่างไร     

          เมื่อเดินทางข้ามเขตเวลา อาการ jet lag อาจเกิดขึ้นได้กับหลายๆคน อาการที่เห็นเด่นชัด เช่น ปวดหัว หมดแรง
เหนื่อยล้า เซื่องซึม อารมณ์ฉุนเฉียว ไม่มีสมาธิ ไม่อยากอาหาร นอนไม่หลับ วิธีแก้อาการ jet lag มีดังนี้
           ควรจองเที่ยวบินให้ไปถึงที่หมายในเวลากลางคืน
           เมื่อไปถึงที่หมายแล้ว ควรหาเวลาออกไปรับแดดในช่วงกลางวันบ้าง ร่างกายจะรู้สึกสดชื่นขึ้น
           หาเวลาออกกำลังโดยการวิ่งเหยาะๆหรือเดินเพื่อให้ร่างกายตื่นตัว และทำให้รู้สึกอยากพักผ่อนในเวลาที่ควรจะทำ
           ใช้ท่าบริหารแบบจินชินยิตสึ ซึ่งเป็นวิธีบำบัดความเครียดและอ่อนล้าแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น โดยใช้มือขวาจับ            นิ้วโป้งข้างซ้ายจนรู้สึกถึงการเต้นของชีพจรแล้วจึงปล่อยมือ จากนั้นให้เปลี่ยนไปจับนิ้วชี้ข้างซ้าย โดยทำในลักษณะเดียวกัน            ทำแบบนี้จนครบทุกนิ้วทั้งสองข้างแล้วอาการ  jet lag จะดีขึ้น

แหล่งที่มา : หนังสือสารพันเคล็ด(ไม่)ลับ...กับกรุงเทพประกันภัย