Chocolate
![รูปภาพของ sss27310 รูปภาพของ sss27310](http://old.thaigoodview.com/files/profilepic/picture-7228.jpg)
C H O C O L A T E .
![](/files/u7228/I_love_Chocolate_by_Manveru0.jpg)
ต้นกำเนิดช็อคโกแลต
ในปี พ.ศ. 2062 เออร์นานโด คอร์เตส แห่งสเปน ได้บุกเข้าโจมตีเม็กซิโก กองทัพของสเปนได้บุกยึดเมืองหลวง แต่เนื่องจากความเหน็ดเหนื่อย ทำให้ทหารอ่อนเพลียไปตามๆกัน แต่ระหว่างการเดินทาง คอร์เตสได้รับเครื่องดื่มสีดำ จากชาวเม็กซิโก ที่เรียกว่า ช็อคโกลาธ์ล ชาวเม็กซิโกได้นำเครื่องดื่ม ช็อคโกลาธ์ลนี้มาให้ และบอกว่า ได้มาจากการบดเมล็ดของลูกคาเคาและละลายน้ำ ถือกันว่า เป็นเครื่องดื่มของพระเจ้า เมื่อคอร์เตสทดลองดื่มดู ก็แทบจะอาเจียน เพราะรสชาติขมมาก แต่เพราะการเดินทางมาด้วยความเมื่อยล้า จึงต้องดื่ม และแจกจ่ายให้ทหารทุกคน ผลปรากฎว่า ทหารกระปรี้กระเปร่าขึ้นมากันทุกคน คอร์เตสจึงคิดว่า อาจจะเป็นเพราะ ช็อกโกลาธ์ล ที่ทำให้ทหารทุกคน กระปรี้กระเปร่า เมื่อยึดเม็กซิโกได้ จึงนำลูกคาเคากลับไปเป็นจำนวนมาก และเวลาที่จะรับประทาน ก็จะเติมน้ำตาลลงไป ทำให้ไม่ขม และเป็นที่นิยมกันมาก เพราะมีรสชาติอร่อยขึ้น จากนั้นก็มีวิวัฒนาการ ไปผสมกับส่วนอื่นๆ ที่สามารถเพิ่มรสชาติให้อร่อยขึ้น และนำมาทำเป็นแท่ง หรือ รูปแบบต่างๆ และกลายมาเป็น ช็อกโกแลต อย่างที่เห็นกันในปัจจุบันนั่นเอง
ช็อกโกแลต เป็นขนมหวานที่คนทั่วไปนิยมรับประทาน โดยเฉพาะเด็ก เพราะมีรสหวาน กลิ่นรสน่ารับประทาน มีรูปแบบในการผลิตที่หลากหลาย เช่น ชนิดแท่ง เคลือบ สอดไส้ ช็อกโกแลต ประกอบด้วย โกโก้ลิเควอร์ (Cocoaliquar) เนยโกโก้ (Cocoa butter) น้ำตาล เลซิทิน และสารแต่งกลิ่นต่างๆ อาจแบ่งชนิดของช็อกโกแลตได้เป็น 3 ชนิด คือ ช็อกโกแลต (Dark Chocolate) ช็อกโกแลตขาว (White Chocolate) และ ช็อกโกแลตรสนม (Milk Chocolate) ช็อกโกแลตขาว จะมีส่วนผสมเหมือนช็อกโกแลต แต่ใช้เนยโกโก้เควอร์ จึงทำให้ช็อกโกแลตมีลักษณะเป็นสีขาว และมีรสหวานมาก ในขณะที่ช็อกโกแลตนม จะลดปริมาณโกโก้เควอร์ และ เติมนมผง กระบวนการผลิตช็อกโกแลตมีขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อน เริ่มจากการผสมส่วนผสม การบดเพื่อทำให้ละเอียด โดยใช้ลูกกลิ้งบด 6 ตัว เพื่อลดขนาดอนุภาคขนาดอนุภาคของช็อกโกแลตต้องมีขนาดที่เล็กมาก ไม่ควรเกิน 35ไมครอน การนวดประมาณ 24-48 ชม. การควบคุมผลึกโดยการควบคุมอุณหภูมิของช็อกโกแลต ให้อยู่ในรูปที่เสถียร การขึ้นรูปโดยใช้แม่พิมพ์ โดยแม่พิมพ์ควรมีอุณหภูมิประมาณ 30 องศาเซลเซียส เพื่อไม่ให้ช็อกโกแลตติดแม่พิมพ์ เคาะแม่พิมพ์เพื่อไล่ฟองอากาศ ทำให้เย็นเพื่อกำจัดความร้อน จากการควบคุมผลึกหากกำจัดความร้อนไม่สมบูรณ์ จะเกิดการหลอมเหลวของไขมัน เป็นคราบขาว บริเวณผิวหน้า ซึ่งเรียกว่า Fat bloom ทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่น่ารับประทาน คุณลักษณะของช็อกโกแลต จะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน เช่น ช็อกโกแลตชิพ ในคุกกี้ จะต้องไม่ละลายเมื่อนำไปอบ ช็อกโกแลตสำหรับเคลือบจะต้องมีความหนืดต่ำ อ่อนตัวกว่าปกติ เมื่อเคลือบจะได้ไม่หนาเกินไป ช็อกโกแลตเป็นขนมที่มีคุณค่าโภชนาการค่อนข้างสูง นอกจากให้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรตและไขมันแล้ว ยังมีวิตามิน A D K และธาตุเหล็กค่อนข้างสูง การรับประทานช็อกโกแลตควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะอาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง ตามมาก็ได้
ดีจ้ะ อย่าลืมส่งประกวด ทำให้ครบ 20 node
ทำหน้าปกให้สวย เพราะตอนนี้ไม่รู้คืออะไร แล้วลิ้งไปยัง node ต่างๆ
-----------------------------------------------------------------------------------------
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน