*★.•MaNeKinEkO•.★***★.•แมวกวักญี่ปุ่น•.★***★.•นางสุภาวดี•.★***★.•นางกวักไทย•.★*
เรื่องเล่า***ถึงนางกวัก
เรื่องที่ 1
สำหรับนางกวักนั้น มีชื่อจริงว่า สุภาวดี บิดาชื่อ สุจิตพราพหณ์ มารดาชื่อ สุมณฑา เกิดที่เมืองมัจฉิกาสัณฑ์ (อยู่ห่างไม่ไกลจากเมืองสาวัตถี) มีครอบครัวประกอบอาชีพทำมาค้าขาย ต่อมาสุจิตตพราหมณ์ผู้เป็นพ่อ ได้ขยายกิจการซื้อเกวียนมา 1 เล่ม นำสินค้าไปเร่ขายในต่างถิ่น บางครั้งบุตรสาวขออนุญาตเดินทางไปด้วย เพื่อเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ระหว่างการค้าขาย
สุภาวดีได้มีโอกาสพบกับ "พระกัสสปเถระเจ้า" เป็นอริยสงฆ์แสดงธรรม หลังจากสุภาวดีฟังธรรมเทศนาอย่างตั้งใจแล้ว พระกัสสปเถระเจ้าได้กำหนดจิตเป็นอำนาจจิตพระอรหันต์ ประสิทธิ์ประสาทพรให้สุภาวดีและครอบครัว โดยได้ตั้งกุศลจิตประสาทพรเช่นนี้ทุกครั้งที่สุภาวดีมีโอกาสไปฟังจนจบอำลากลับ ต่อมา สุภาวดีได้เดินทางติดตามบิดาไปทำการค้า และมีโอกาสฟังธรรมพระอริยสงฆ์อีกท่านหนึ่ง นามว่า "พระสิวลีเถระเจ้า" สุภาวดีได้ฟังธรรมอย่างตั้งใจ สุภาวดีจึงมีความรู้แตกฉานในหลักธรรมต่างๆ เป็นอันมาก พระสิวลีเป็นผู้มีชีวิตอัศจรรย์กว่าพระสงฆ์อื่น คือ ท่านอยู่ในครรภ์มารดานานถึง 7 ปี 7 เดือน จึงคลอดออกมา พร้อมด้วยวาสนา บารมี ที่ติดกับวิญญาณธาตุของท่าน ท่านจึงเป็นผู้มีลาภสักการบูชามาหาท่านตลอด เมื่อถึงคราวจำเป็นและต้องการ ทุกครั้งที่สุภาวดีได้ฟังธรรมและลากลับ พระสิวลีเถระเจ้าได้กำหนดกุศลจิต ประสาทพรให้สุภาวดีและครอบครัว เช่นเดียวกัน จิตของสุภาวดีจึงได้รับประสาทพรจากพระอรหันต์ถึงสององค์ ส่งผลให้บิดาทำการค้าได้กำไรไม่เคยขาดทุน
นางได้รับพรว่า "ขอให้เจริญรุ่งเรืองไพบูลย์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง จากการค้าขายสินค้าต่างๆสมความปรารถนาเถิด"
บิดารู้ว่าสุภาวดีคือผู้ที่เป็นสิริมงคลที่แท้จริง เป็นที่ไหลมาแห่งทรัพย์สมบัติของครอบครัว ครอบครัวร่ำรวยขึ้นเป็นมหาเศรษฐีมีเงินทองและกองเกวียนสินค้ามากมาย เทียบได้กับธนัญชัยเศรษฐี บิดาของวิสาขาแห่งแคว้นโกศล บิดาของสุภาวดีได้ฟังธรรมพระพุทธเจ้า ปฏิบัติธรรมด้วยความศรัทธา
เรื่องที่ 2
เป็นตำนานที่แต่งเพิ่มเติมจากเรื่องท้าวกกขนากใน รามเกียรติ์ของไทย ที่เป็นที่มาของตำนานหนึ่งของลพบุรี มีเรื่องราวว่า นางกวักเป็นลูกสาวคนเดียวของ "ปู่เจ้าเขาเขียวหรือท้าวพนัสบดี" ซึ่งเป็นเจ้าชั้นจาตุมหาราชิกา มีตำแหน่งเป็นพระพนัสบดีคือ เจ้าแห่งป่าเขาลำเนาไพรทั้งปวง ครั้งนั้นอสูรหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนกับปู่เจ้าเขาเขียว ชื่อ "ท้าวอุณาราช" ถูกพระรามเอาศรต้นกกแผลงศรไปถูกทรวงอกแล้วตรึงร่างไปติดกับเขาพระสุเมรุ แล้วสาปว่า "ตราบใดที่บุตรของท้าวอุณาราชทอใยบัวเป็นจีวร เพื่อถวายแด่พระศรีอาริยเมตไตรยที่จะเสด็จมาตรัสรู้ จึงจะพ้นคำสาป" ท้าวอุณาราชจึงมีชื่อเรียกว่าท้าวกกขนากอีกชื่อหนึ่ง และนางนงประจันต์ บุตรสาวของท้าวกกขนากจึงต้องอยู่คอยปฏิบัติพระบิดาและพยายามทอจีวร ด้วยใยบัวเพื่อให้เสร็จทันถวายพระศรีอาริยเมตไตรยที่จะเสด็จมาตรัสรู้ในภายหน้า เมื่อนางนงประจันต์มาคอยดูแล พระบิดาอยู่ที่เขาพระสุเมรุนั้น ฐานะความเป็นอยู่ของนางลำบากมาก ทำให้ปู่เจ้าเขาเขียวเกิดความสงสารจึงส่งนางกวักบุตรสาวมาอยู่เป็นเพื่อน ด้วยบุญฤทธิ์ของนางกวัก จึงได้บันดาลให้พ่อค้าวานิช และผู้คนทั้งหลายเกิดความเมตตาพากันเอาทรัพย์สินเงินทองและเครื่องอุปบริโภค มาให้นางประจันต์เป็นจำนวนมาก ทำให้ความเป็นอยู่ของนางสุขสบายขึ้น รูปปั้นนางกวัก จะเห็นว่าจะยกมือขึ้นกวักระดับเสมอปาก แปลว่ากินไม่หมด แต่ถ้ากวักต่ำลงมากว่าปาก จะแปลว่ากินไม่พอ
ที่มาเนื้อหา : http://www.amulet.in.th/forums/view_topic.php?t=265
http://www.thainewyork.com/find-1357.html
มะลิ
รูปสวยมาก
น่าอ่าน
สดใส
ผิดกะเจ้าของ
555+
มะลิแกไปหาภาพมาจากไหนอ่ะ น่ารัก!!
แต่ไม่เข้ากับหน้าคนทำ555+
เมย์ แกมาเม้นให้ช้านได้งัยว่ะ
5 ทุ่มครึ่งยังจะทำอยู่อีกหรอ ถ้าเห็นแล้วตอบกลับด้วยโว้ย 27106