การวิจัยชั้นเรียน เรื่องขวดคุณธรรม ช่วงชั้นที่ 2 ของนายสำนวน นิรัตติมานนท์ โรงเรียนบ้านราชกรูด
การวิจัยในชั้นเรียนเรื่องการแก้ปัญหานักเรียนขาดความรับผิดชอบด้วยการใช้ขวดคุณธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระที่ 1 การดำรงชีวิตและครอบครัว (งานเกษตร)ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นการวิจัยเพื่อแก้ปัญหาในระดับชั้นเรียนหลังจากที่ครูได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 เรื่องการให้น้ำบัวอย่างประหยัดผลปรากฏว่านักเรียนขาดความรับผิดชอบ จึงได้ศึกษารวบรวมข้อมูลจากเอกสารความรู้ต่างๆ เพื่อคิดออกแบบสื่อนวัตกรรม “ ขวดคุณธรรม” เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการวิจัยพบว่าขวดคุณธรรมสามารถใช้แก้ปัญหานักเรียนขาดความรับผิดชอบได้เป็นอย่างดี ผู้จัดทำหวังว่ารายงานการวิจัยในชั้นเรียนฉบับนี้ จะเป็นแนวทางให้กับผู้สนใจนำไปประยุกต์ใช้เพื่อแก้ปัญหาในการจัดการเรียนรู้ได้
นายสำนวน นิรัตติมานนท์
ผู้จัดทำ
บทที่ 1 บทนำ
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
กลุ่มการงานอาชีพและเทคโนโลยี เป็นสาระการเรียนรู้ที่มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับงานอาชีพและเทคโนโลยี มีทักษะการทำงาน ทักษะการจัดการ สามารถนำสารสนเทศและเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ในการทำงานอย่างถูกต้อง เหมาะสม คุ้มค่าและมีคุณธรรม สร้างและพัฒนาผลผลิตภัณฑ์หรือคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่เป็นพื้นฐาน ได้แก่ ความขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด และอดทน อันจะนำไปสู่การให้ผู้เรียนสามารถช่วยเหลือตนเองและพึ่งตนเองได้ตามพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ร่วมมือและแข่งขันในระดับสากลในบริบทของสังคมไทย คุณภาพของผู้เรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี กลุ่มการงานอาชีพและเทคโนโลยี มุ่งพัฒนาผู้เรียนแบบองค์รวม เพื่อให้เป็นคนดี มีความรู้ ความสามารถ โดยมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ดังนี้
1. มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการดำรงชีวิตและครอบครัว การอาชีพและเทคโนโลยี เทคโนโลยีสารสนเทศ และเทคโนโลยีเพื่อการทำงานและอาชีพ
2. มีทักษะในการทำงาน การประกอบอาชีพ การจัดการ การแสวงหาความรู้ เลือกใช้เทคโนโลยีและเทคโนโลยีสารสนเทศในการทำงาน สามารถทำงานอย่างมีกลยุทธ์ สร้างและพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือวิธีการใหม่
3. มีความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ขยัน อดทน รักการทำงาน ประหยัด อดออม ตรงต่อเวลา เอื้อเฟื้อ เสียสละ และมีวินัยในการทำงาน เห็นคุณค่าและความสำคัญของงานและอาชีพสุจริต ตระหนักถึงความสำคัญของสารสนเทศ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและพลังงาน จากการจัดการเรียนรู้เรื่อง งานปลูกบัวในภาชนะได้ถูกต้องตามขั้นตอนการปลูกด้วยความขยันและมีความรับผิดชอบ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระที่ 1 การดำรงชีวิตและครอบครัว (งานเกษตร) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ชื่อหน่วย บัวแล้งน้ำ แผนการสอนที่ 5 เรื่อง การให้น้ำบัวอย่างประหยัด พบว่า นักเรียนขาดความรับผิดชอบในการดูแลรักษาให้น้ำบัวอย่างต่อเนื่อง ไม่ทำงานตามแนวคิดของกลุ่มที่ได้วางไว้ ส่งผลให้บัวที่ปลูกไม่เจริญเติบโต ซึ่งความรับผิดชอบดังกล่าวสังเกตจากจำนวนครั้งของการดูแลรักษาให้น้ำบัวนอกเวลาเรียนของนักเรียน ดังแสดงในตาราง 1
ตาราง 1 ความรับผิดชอบในการดูแลรักษาให้น้ำบัวของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
กลุ่มที่ | วันที่นักเรียนดูแลรักษาให้น้ำบัว | จำนวนครั้งที่ความรับผิดชอบเกิดขึ้น | |||||
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | รวม | ร้อยละ | |
1 | P | - | - | P | - | 2 | 40 |
2 | - | - | - | P | - | 1 | 20 |
3 | - | P | - | - | - | 1 | 20 |
4 | P | - | - | P | - | 2 | 40 |
5 | - | - | - | - | P | 1 | 20 |
6 | - | - | P | - | - | 1 | 20 |
รวม | 8 | 26.67 |
จากตาราง 1 แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบในการดูแลรักษาให้น้ำบัวนอกเวลาเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 6 กลุ่ม จากจำนวนครั้งที่นักเรียนแต่ละกลุ่มดูแลรักษาให้น้ำบัว ผลปรากฏ ดังนี้ กลุ่มที่ 1 และ กลุ่มที่ 4 มาดูแลรักษาให้น้ำบัวร้อยละ 40 รองลงมา คือ กลุ่มที่ 2, กลุ่มที่ 3, กลุ่มที่ 5 และกลุ่มที่ 6 มาดูแลรักษาให้น้ำบัวร้อยละ 20 ซึ่งนักเรียนทั้งหมดไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินตามแผนการจัดการเรียนรู้ ซึ่งกำหนดไว้ว่าต้องผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80
จากข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่านักเรียนขาดความรับผิดชอบ ไม่ดูแลรักษาบัวอย่างต่อเนื่องตามแนวคิดของกลุ่มที่ได้วางไว้ ส่งผลให้บัวที่นักเรียนปลูกไม่เจริญเติบโตอย่างที่ควรเป็น ซึ่งความรับผิดชอบดังกล่าวดูจากจำนวนครั้งและการดูแลรักษาบัวนอกเวลาเรียนของนักเรียน
จากการศึกษาเอกสาร พบว่า การใช้คำถามสามารถแก้ปัญหานักเรียนขาดความรับผิดชอบได้ ทั้งนี้เนื่องจากคำถามจะช่วยกระตุ้นความคิดของนักเรียน ให้เกิดความตระหนักในหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเอง
ครูเห็นถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้ออกแบบนวัตกรรมสื่อการสอน “ขวดคุณธรรม” ซึ่งภายในขวดใส่บัตรคำถาม มีลักษณะเป็นคำถามปลายเปิดเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเกิดทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ในการให้น้ำบัวอย่างประหยัดด้วยความรับผิดชอบ โดยนำขวดคุณธรรมไปลอยในกระถางบัวที่ต้องการได้รับการดูแลจากนักเรียน ยกตัวอย่างเช่น กระถางบัวของกลุ่มที่ 1 บัวมีใบเหี่ยวเฉา ไม่มีน้ำในกระถาง หลังจากนั้นนักเรียนจะเปิดขวดคุณธรรมแล้วอ่านบัตรคำถาม นำขวดคุณธรรมพร้อมบัตรคำถามไปขอรับใบงานจากครูผู้สอน และช่วยกันระดมความคิดทำกิจกรรมในใบงานที่ 1 (ทักษะกระบวนการคิดก่อนการทำงาน) เพื่อคิดวิเคราะห์วางแผนงาน จากนั้นปฏิบัติงานตามแนวคิดใบงานที่ 1 (ทักษะกระบวนการคิดก่อนการทำงาน) แล้วบันทึกผลการปฏิบัติงานตามแนวคิดในใบงานที่ 2 (ทักษะกระบวนการทำงานตามแนวคิด) ตามหัวข้อกิจกรรมที่กำหนด และนำเสนอสรุปอภิปรายผลการปฏิบัติงานในใบงานที่ 2 (ทักษะกระบวนการทำงานตามแนวคิด) หน้าชั้นเรียน พร้อมรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ดังแสดงในภาพ 1 ผังมโนทัศน์การใช้นวัตกรรมขวดคุณธรรม
นักเรียนมีความรับผิดชอบในการดูแลรักษาให้น้ำบัวมากขึ้น |
การคิดวิเคราะห์ วางแผนงาน ทำงานตามแนวคิดได้ |
การพัฒนาทักษะการคิดโดยใช้คำถามปลายเปิด |
เป้าหมาย
|
ขั้นตอนการใช้ขวดคุณธรรม มีขั้นตอนการปฏิบัติงานดังนี้1. เปิดขวดคุณธรรมแล้วอ่านบัตรคำถาม 2. นำขวดคุณธรรมพร้อมบัตรคำถามไปขอรับใบงานจากครูผู้สอน3. ช่วยกันระดมความคิดทำกิจกรรมในใบงานที่ 1 ทักษะกระบวนการคิดก่อนการทำงาน เพื่อคิดวิเคราะห์วางแผนงาน4. ปฏิบัติงานตามแนวคิดใบงานที่ 1 ทักษะกระบวนการคิดก่อนการทำงาน แล้วบันทึกผลการปฏิบัติงานตามแนวคิดในใบงานที่ 2 ทักษะกระบวนการทำงานตามแนวคิด ตามหัวข้อกิจกรรมที่กำหนด5. นำเสนอ สรุปอภิปรายผลการปฏิบัติงานในใบงานที่ 2 ทักษะกระบวนการทำงานตามแนวคิด หน้าชั้นเรียนพร้อมรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ
|
นักเรียนขาดความรับผิดชอบในการดูแลรักษาให้น้ำบัว
|
การจัดการเรียนรู้ เรื่องการให้น้ำบัวอย่างประหยัดในภาชนะ |
การแก้ปัญหานักเรียนขาดความรับผิดชอบด้วยการใช้ขวดคุณธรรม |
กลุ่มที่ 5 |
กลุ่มที่ 6 |
กลุ่มที่ 4 |
กลุ่มที่ 3 |
กลุ่มที่ 2 |
กลุ่มที่ 1 |
กระบวนการกลุ่ม |
ภาพ 1 ผังมโนทัศน์การใช้นวัตกรรมขวดคุณธรรม
ด้วยแนวคิดดังกล่าว ครูมีความเชื่อว่าบัตรคำถามจะกระตุ้นให้นักเรียนมีความอยากรู้อยากเห็น เพราะข้อความที่ครูเขียนไว้ในบัตรคำถาม จะเปรียบเหมือนคำพูดของ”บัว”ที่ต้องการสื่อสารกับนักเรียนโดยตรง ซึ่งสามารถช่วยสร้างความสนใจและเร้าความรู้สึกให้กับนักเรียนได้เป็นอย่างดี เมื่อสามารถสร้างความสนใจให้แก่นักเรียนได้แล้ว นักเรียนก็จะมีความกระตือรือร้นในการดูแลรักษาบัวเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีความรับผิดชอบมากขึ้น
การระดมความคิดเพื่อคิดวิเคราะห์วางแผนงานเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ ช่วยให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง มีความมั่นใจในตนเอง ทั้งช่วยให้เกิดความคิดหลากหลาย และรู้จักการทำงานร่วมกับผู้อื่น ส่วนแผนผังความคิดนั้นเป็นการนำความคิดดังกล่าวมาจัดเป็นระบบ จัดกลุ่ม สร้างความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน
การนำนวัตกรรมสื่อการสอน “ขวดคุณธรรม” มาใช้ในการสอนจึงมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับธรรมชาติของนักเรียนในวัยนี้อย่างยิ่ง เพราะบทบาทสำคัญของการใช้บัตรคำถามจะมีส่วนสำคัญในการปรับพฤติกรรมความรับผิดชอบของนักเรียนได้ นอกจากนี้นักเรียนยังได้มีโอกาสระดมสมองและเขียนแผนผังความคิดออกมา เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาในการดูแลรักษาบัวอีกด้วย ทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ โดยวิธีนี้จะสามารถช่วยเร่งเร้าและท้าทายให้เด็กแสดงออก ซึ่งความคิดสร้างสรรค์ และทำให้นักเรียนมีความรับผิดชอบมากขึ้นอย่างแน่นอน
วัตถุประสงค์ เพื่อให้นักเรียนมีความรับผิดชอบในการทำงาน ขอบเขตของการดำเนินงาน
1. ประชากร นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านราชกรูด สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดระนอง จำนวน 28 คน เป็นชาย 12 คน และ หญิง 16 คน ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2550 ซึ่งได้จากการสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง
2. ตัวแปรที่ศึกษา
ตัวแปรต้น กิจกรรมการใช้บัตรคำถาม “ขวดคุณธรรม”
ตัวแปรตาม ความรับผิดชอบของนักเรียน
3. ระยะเวลาที่ใช้ในการทดลอง
ครูผู้จัดการเรียนรู้ได้ใช้ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลในระหว่างวันที่ 23กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ถึง วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. นักเรียนมีความรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้น
2. เป็นแนวทางสำหรับครูผู้สอนในการปรับปรุงการจัดการเรียนรู้
3. ได้เทคนิคในการสอนให้นักเรียนมีความรับผิดชอบมากขึ้นสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และชั้นอื่นๆ
นิยามศัพท์
ขวดคุณธรรม เป็นขวดใส่บัตรคำถามเพื่อใช้ในการแก้ปัญหานักเรียนขาดความรับผิดชอบ โดยจะมีฉลากขั้นตอนการใช้ขวดคุณธรรมติดไว้ข้างขวด
บัตรคำถาม เป็นบัตรคำถามเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความรับผิดชอบในการทำงาน โดยใช้ภาษาที่เหมาะสมกับวัยของผู้เรียนและสามารถช่วยกระตุ้นความสนใจของผู้เรียนได้ ยกตัวอย่างเช่น
“น้ำหายไปหมดแล้ว บ้านนี้ไม่น่าอยู่ คนรับผิดชอบบัว ช่วยบัวด้วย ไม่ช่วยบัวบัวจะย้ายบ้านนะ เธอจะช่วยบัวได้อย่างไรดีคะ”
|
บัตรคำชมเชย เป็นบัตรคำที่เขียนชมเชยกลุ่มนักเรียนที่ปฏิบัติงานด้วยความรับผิดชอบ โดยสังเกตจากพฤติกรรมการดูแลรักษาบัวและการเจริญเติบโตของบัว ยกตัวอย่างเช่น
“ขอบคุณมากนะ ที่ค่อยเติมน้ำให้บัว ตอนนี้บัวไม่หิวน้ำแล้ว บัวจะออกดอกอย่างสวยงามเป็นของขวัญ มอบแด่หนูๆ ที่น่ารักทุกคน ” |
คำถามปลายเปิด เป็นคำถามที่เปิดโอกาสให้นักเรียนตอบได้อย่างอิสระ โดยไม่จำกัดความคิดเห็นของนักเรียน
ความรับผิดชอบ คือ การที่นักเรียนสามารถดูแลรักษาบัวได้อย่างต่อเนื่องตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่กำหนด การระดมความคิด หมายถึง การนำเสนอความคิดภายในกลุ่มในเรื่องหรือปัญหาที่เกิดขึ้น โดยปล่อยให้ความคิดไหลอย่างเป็นอิสระ ไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์หรือตัดสิน จะคำนึงถึงปริมาณความคิดเป็นหลัก จนกว่าการระดมความคิดจะสิ้นสุดลงจึงนำความคิดเหล่านั้น มาร่วมกันประเมิน ผสมผสาน ปรับปรุงและตกแต่ง เพื่อให้ได้ความคิดที่ดีที่สุด
แผนผังความคิด หมายถึง การจัดกลุ่มความคิด การเชื่อมโยง การผูกต่อข้อมูลทั้งหมดเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดความชัดเจน สัมพันธ์ต่อเนื่องและง่ายต่อการเข้าใจและนำไปใช้
บทที่ 2
แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
การวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การแก้ปัญหานักเรียนขาดความรับผิดชอบด้วยการใช้ขวดคุณธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระที่ 1 การดำรงชีวิตและครอบครัว (งานเกษตร) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้ประมวลแนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัย เพื่อใช้เป็นกรอบในการศึกษาดังนี้ แนวคิดเกี่ยวกับความรับผิดชอบ
แนวคิดเกี่ยวกับการใช้คำถาม
- ความหมายและความสำคัญของการใช้คำถาม
- ลักษณะของคำถามที่ดี
- ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบใช้บัตรคำถาม
- ข้อดีและข้อจำกัดของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้บัตรคำถาม
แนวคิดเกี่ยวกับการระดมสมอง(Brainstorming) - ความหมายและความสำคัญของการระดมสมอง - ขั้นตอนและคำถามที่ใช้ในการระดมสมอง แนวคิดเกี่ยวกับแผนผังความคิด(Mind Mapping)
- ความหมายและความสำคัญของแผนผังความคิด
- ขั้นตอนในการเขียนแผนผังความคิด งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง แนวคิดเกี่ยวกับความรับผิดชอบ
ความรับผิดชอบ หมายถึง ลักษณะของบุคคลที่แสดงออกถึงความเอาใจใส่ จดจ่อ ตั้งใจ มุ่งมั่นต่อหน้าที่การงาน การศึกษาเล่าเรียน และการเป็นอยู่ของตนเอง และ ผู้อยู่ในความดูแลตลอดจนสังคมอย่างเต็มความสามารถด้วยความผูกพัน เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามความมุ่งหมายในเวลาที่กำหนด ยอมรับผลการกระทำทั้งผลดีและผลเสียที่เกิดขึ้น รวมทั้งปรับปรุงการปฏิบัติให้ดีขึ้นด้วย
ตัวบ่งชี้คุณลักษณะความรับผิดชอบ (www.chiangmaiarea1.net)
1. มีความพยายามปฏิบัติภารกิจ หน้าที่การงาน การศึกษาหรือหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ โดย
- ไม่หลีกเลี่ยงงาน
- ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
- ปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้จนสำเร็จ
2. ตรงต่อเวลา
- ทำงานเสร็จตามเวลาที่กำหนด
- ไม่มาเรียนสาย
- ส่งงานตามกำหนด
- ไม่ผิดเวลานัดหมาย
3. ปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ของตน
- ช่วยงานครอบครัว
- ช่วยกิจกรรมของชุมชน
- ดูแลสุขภาพอนามัยของตนเอง
- ปฏิบัติตามกฎของชุมชน
- ไม่ทำกิจกรรมอื่นขณะครูสอน
- เตรียมอุปกรณ์พร้อมที่จะเรียน
- โต้ตอบ ซักถามข้อสงสัย
4. ทำงานโดยคำนึงถึงคุณภาพของงาน
- มีขั้นตอนในการทำงาน
- ปฏิบัติงานตามขั้นตอน
- บอกจุดเด่น จุดด้อย ของงานที่ทำ
- เสนอแนะแนวทางแก้ไข ปรับปรุงงานให้ดีขึ้น
5. ดูแลรักษาสาธารณสมบัติ
- ไม่ขีดเขียนหรือทำลายทรัพย์สินของโรงเรียนและชุมชน
- ตักเตือนหรือห้ามผู้อื่นไม่ให้ทำลายสาธารณสมบัติ
- ร่วมกิจกรรมดูแลรักษาสาธารณสมบัติ
6. ยอมรับการกระทำของตนเองและปรับปรุงแก้ไข
- รับฟังคำติชมของผู้อื่น
- รับข้อเสนอแนะในการปรับปรุงงาน
- ลงมือแก้ไขข้อบกพร่อง
แนวคิดเกี่ยวกับการใช้คำถาม 1. ความหมายและความสำคัญของการใช้คำถาม การใช้คำถาม เป็นวิธีการสอนอีกวิธีหนึ่งที่เก่าแก่และใช้กันมานานแล้ว การใช้คำถามเป็นวิธีการที่เหมาะสมกับนักเรียนมาก เพราะธรรมชาติของมนุษย์เป็นผู้อยากรู้อยากเห็นอยู่แล้ว เมื่อสงสัยหรือไม่เข้าใจสิ่งหนึ่งสิ่งใด ย่อมต้องการจะรู้ และมักจะใช้คำถามในการคิดหาคำตอบ เพื่อแก้ไขข้อข้องใจนั้น ๆ ดังนั้นถ้าผู้สอนใช้คำถามกระตุ้นนักเรียนให้คิดเพื่อหาคำตอบ ย่อมเป็นหนทางหนึ่งในการได้มาซึ่งความรู้
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ (2540:20) กล่าวว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบใช้คำถามเป็นการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยในการจัดการเรียนรู้ต้องฝึกให้นักเรียนได้คิดด้วยการใช้คำถามประเภทต่าง ๆ ซึ่งผู้สอนจะต้องฝึกฝนการใช้คำถามให้ชำนาญ และต้องมีทักษะในการใช้คำถามตั้งแต่ขั้นต่ำจนถึงขั้นสูง
สุวิทย์ มูลคำ และอรทัย มูลคำ (2545:74) ได้ให้ความหมายของการจัด กิจกรรมการเรียนรู้แบบใช้คำถามไว้ว่า เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่มุ่งพัฒนากระบวนการทางการคิดของนักเรียน โดยผู้สอนจะป้อนคำถามในลักษณะต่าง ๆ ที่เป็นคำถามที่ดี สามารถพัฒนาความคิดของนักเรียนได้ ถามเพื่อให้นักเรียนใช้ความคิดเชิงเหตุผล วิเคราะห์วิจารณ์ สังเคราะห์ หรือการประเมินค่า เพื่อจะตอบคำถามเหล่านั้น
จึงสรุปได้ว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบใช้คำถาม หมายถึง การที่ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในรายวิชาใดวิชาหนึ่ง โดยครูพยายามป้อนคำถามที่ดี ในลักษณะต่าง ๆเพื่อให้นักเรียนได้คิด วิเคราะห์วิจารณ์ อภิปราย ด้วยหลักของเหตุและผล เพื่อค้นหาคำตอบที่ดีที่สุด บางคำถามให้นักเรียนตอบปากเปล่า ตอบเป็นรายบุคคล ตอบเป็นกลุ่ม หรือตอบพร้อมกันทั้งชั้น บางคำถามให้นักเรียนตอบในแบบฝึกทักษะ ใบงาน บางคำถามให้นักเรียนตอบแบบอภิปรายหน้าชั้นเรียน นับเป็นวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่ฝึกฝนให้นักเรียนได้พัฒนาความสามารถในการคิดได้อย่างดียิ่งอีกวิธีหนึ่ง คำถามจึงนับเป็นเครื่องมือที่สำคัญของครู ที่นำไปใช้ในการสอนให้นักเรียนพัฒนาทักษะในด้านต่างๆ การใช้คำถามเป็นเรื่องที่ต้องใช้ทักษะความสามารถ จะถามอย่างไรจึงจะกระตุ้นให้นักเรียนเริ่มคิด จะถามอย่างไรจึงจะทำให้นักเรียนคิดได้ถูกแนวทาง จะถามอย่างไรจึงจะให้นักเรียนคิดได้กว้าง คิดได้ไกล คิดได้อย่างมีเหตุผล จะถามอย่างไรจึงจะไม่มากไม่น้อยเกินไป จะถามอย่างไร จึงจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจคำถามที่ครูถามไปแล้วได้ดีขึ้น ครูควรจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนไหนบ้าง เพื่อจะให้นักเรียนคิดได้และคิดต่อในเรื่องอื่นต่อไป มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (2534: 70) ได้กล่าวถึงความสำคัญของการใช้คำถามที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนดังนี้ 1. การใช้คำถามทำให้นักเรียนได้มีโอกาสฝึกกระบวนการในการคิด เพราะการตอบคำถาม ผู้ตอบจะต้องหาคำตอบที่ถูกต้อง และการที่จะได้มาซึ่งคำตอบที่ถูกต้องนั้นก็ต้องอาศัยกระบวนการในการคิดอย่างมีเหตุผล คิดอย่างวิเคราะห์วิจารณ์ 2. การใช้คำถามทำให้นักเรียนเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล 3. การใช้คำถามทำให้นักเรียนได้ทบทวนความเข้าใจของตนเอง ภายหลังที่ได้เรียนบทเรียนไปแล้ว 4. การใช้คำถามทำให้นักเรียนสามารถเปลี่ยนแปลงและยอมรับเจตคติใหม่ๆ 5. การใช้คำถามทำให้นักเรียนได้ฝึกการนำข้อมูลหรือมโนมติที่ได้เรียนรู้ไปแล้ว มาใช้ให้เป็นประโยชน์ 6. การใช้คำถามทำให้นักเรียนสามารถประเมินความรู้ความสามารถของตนเอง ในความรู้ที่ได้เรียนไปแล้ว 7. การใช้คำถามช่วยส่งเสริมให้นักเรียนเป็นคนช่างคิด ช่างถาม 2. ลักษณะของคำถามที่ดี คำถามที่ดีจะช่วยให้นักเรียนพัฒนาความสามารถในการคิดได้ และยังช่วยให้ผู้สอนบรรลุวัตถุประสงค์ในการสอนด้วย ศิริกาญจน์ โกสุมภ์ (2521: 15) เป็นอีกท่านหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องการใช้คำถาม ได้แสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับลักษณะของคำถามที่ดี โดยเน้นความสำคัญ
บทที่ 3
1. ประชากร
2. แบบแผนการวิจัย
3. เครื่องมือที่ใช้การวิจัย
4. การดำเนินการทดลอง
5. การวิเคราะห์ข้อมูล
6. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ประชากร
1. ประชากร นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านราชกรูด สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดระนอง จำนวน 28 คน เป็นชาย 12 คน และ หญิง 16 คน ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2550 ซึ่งได้จากการสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง
2. ระยะเวลาที่ใช้ในการทดลอง
ครูผู้จัดการเรียนรู้ได้ใช้ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลในระหว่างวันที่ 23กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ถึง วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2550
O1 X O2 |
สูตร
เมื่อ
n แทน จำนวนคะแนนในกลุ่ม