เรียนรู้พุทธประวัติจากพระพุทธรูปปางต่างๆ
ภาคแรก กำเนิดพระพุทธรูป
ศิลปะและ โบราณวัตถุสถานเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนานั้น พบหลักฐานว่าเริ่มเกิดมีขึ้นในอินเดียครั้งพระเจ้าอโศกมหาราช (พ.ศ. 270-311) ซึ่งเป็นกษัตริย์องค์ที่ 3 ในราชวงศ์โมริย ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาและได้ทรงอุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนาเป็นอันมาก ถึงกับยกพระพุทธศาสนาขึ้นเป็นศาสนาสำหรับอณาจักร ได้ทรงสร้างพุทธเจดีย์สถานไว้หลายแห่ง
แต่ในอินเดียในสมัยโบราณยังมีข้อห้ามมิให้ทำรูปคนสำหรับเคารพ คือไม่ทำรูปพระพุทธองค์เป็นรูปมนุษย์ จึงทำแต่รูปอื่นเป็นสัญลักษณ์ขึ้นแทนเช่น ปางมหาภิเนษกรมณ์ ก็ทำเป็นรูปม้าผูกเครื่องไม่มีคนขับขี่ ปางประทานปฐมเทศนาทำเป็นรูปธรรมจักรมีรูปกวางหมอบอันหมายความว่า ทรงแสดงพระธรรมจักรในมฤคทายวัน ปางประสูติก็ทำรูปพระนางศิริมหามายากำลังประทับนั่งหรือยืนอยู่บนดอกบัว มีช้างสองเชือกถือน้ำเต้าหรือปูรณฆฎะ(หม้อที่เต็มไปด้วยน้ำอันล้น หมายถึงความมั่งคั่งสมบูรณ์)เทลงบนเศียรของนางกษัตริย์ ดังที่ปรากฏอยู่ที่พระมหาสถูปสาญจี
รูปพระพุทธองค์ที่ทำเป็นรูปมนุษย์เกิดขึ้นภายหลังพุทธศตวรรษที 6 เล็กน้อย เป็นฝีมือช่างแคว้นคันธาระปัจจุบันอยู่ในเขตปากีสถานและอาฟกานิสถาน กับที่เป็นฝีมือช่างเมืองมธุรา หลังจากนั้นเพียงเล็กน้อยก็เกิดสกุลช่างขึ้นอีกสกุลหนึ่ง ณ เมืองอมรวดี ทางภาคใต้ของอินเดีย
นักปราชญ์บางท่านกล่าวว่า พระพุทธรูปแรกเกิดขึ้นในรัชกาลพระเจ้ากนิษกะ แห่งราชวงศ์กุษาณะ ซึ่งครองราชย์สมบัติระหว่างพ.ศ. 662-706 และนับเป็นฝีมือช่างกรีกโรมัน เชื่อกันว่าได้รับอิทธิพลและได้ช่างผู้ประดิษฐ์พระพุทธรูปมาจากทางเอเชียตะวันตก เหตุที่ได้สร้างพระพุทธรูปขึ้นจนเวลาล่วงเลยจากพุทธปรินิพพานมานานเช่นนี้ ลักษณะพระพุทธรูปจึงเป็นลักษณะที่ทำตามความคิดฝัน เพื่อเป็นพุทธานุสติให้บุคคลที่ได้เห็นแล้วระลึกถึงพระพุทธเจ้าผู้เป็นเจ้าของพระพุทธศาสนา เพื่อจะได้น้อมใจให้ประพฤติตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ มิใช่ทำให้เหมือนองค์พระพุทธเจ้า
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ทรงอธิบายว่า “ปางบางปางนั้นเอามาจาก มุทราของพราหมณ์หาใช่ปางไม่ เป็นเพียงกิริยาเท่านั้น ซึ่งน่าจะเรียกว่าท่าแต่โบราณเขาไม่เรียกกัน ก็เพราะคำว่าท่าอาจส่อไปในทางหยาบคายได้