ด่วนที่สุด สิงคโปร์ขึ้นภาษีซื้อบ้านของคนต่างชาติเป็น 60%

รูปภาพของ pornchokchai
ด่วนที่สุด สิงคโปร์ขึ้นภาษีซื้อบ้านของคนต่างชาติเป็น 60%
  AREA แถลง ฉบับที่ 323/2566: วันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน 2566

 

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

 

 

            ในขณะที่ในประเทศไทย พยายามจะ “ขายชาติ” ด้วยการให้ต่างชาติมาซื้ออสังหาริมทรัพย์แบบแทบไม่เก็บภาษีใดๆ สิงคโปร์กลับขึ้นภาษีซื้อของคนต่างชาติเป็น 60%  เหล่า “คนขายชาติ” ในไทยพึงสังวร

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวว่าจากรายงานข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง รายงานตรงกันว่า สิงคโปร์กำหนดภาษีซื้อของชาวต่างชาติใหม่ จากเดิม 30% เป็น  60% แล้ว เพื่อป้องกันการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติ ป้องกันการผูกขาดโดยชาวต่างชาติ และพิทักษ์ผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนชาวสิงคโปร์ ทั้งนี้มาตรการดังกล่าว เริ่มในวันที่ 27 เมษายน 2566 นี้

 

 

            ยิ่งในกรณีของบริษัทต่างชาติ ที่ไม่ใช่บุคคลธรรมดา ภาษีที่ต้องเสียตอนซื้อคือ 65% รวมทั้งกองทุน Trustee ด้วย ก็ต้องเสียภาษีจาก 35% เป็น 65% เช่นกัน  การเสียภาษีสูงเช่นนี้ ก็เท่ากับคนต่างชาติที่จะซื้อที่อยู่อาศัยในสิงคโปร์ ต้องนำเงินไปให้รัฐบาลสิงคโปร์ใช้พัฒนาประเทศโดยตรง แต่ในไทยเก็บภาษีซื้อต่ำมากแถมเก็บจากราคาประเมินของทางราชการซึ่งอาจเป็นเพียง 10%-60% ของราคาตลาด

            ยิ่งกว่านั้นในแต่ละปี ไทยก็แทบไม่เก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ต้องราคา 50 ล้านบาทตามราคาประเมินราชการจึงจะเก็บ) หรือแทบไม่เก็บภาษีกำไรจากการขายต่อ (Capital Gain Tax) ซึ่งเก็บตามราคาประเมินราชการที่ต่ำมาก ยิ่งกว่านั้นไทยยังแทบไม่เก็บภาษีมรดก (เก็บเฉพาะกองมรดกที่มีมูลค่า 100 ล้านบาทขึ้นไปตามราคาประเมินราชการ) การไม่มีมาตรการภาษีที่ดีนี้จึงถือว่าเป็นการ “ขายชาติ-ขายแผ่นดิน” ให้ต่างชาติโดยแทบไม่ได้อะไรกลับมาเลย

            ข้อสังเกตอย่างหนึ่งก็คือชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักถาวรในสิงคโปร์ก็ไม่ต้องเสียภาษีเท่าคนต่างชาติที่ตรงมาซื้อบ้านในสิงคโปร์เลย โดยชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักถาวรในสิงคโปร์ เสียภาษีเพียง 5% สำหรับบ้านหลังแรก ส่วนบ้านหลังที่ 2 และ 3 ขึ้นไปก็ต้องเสียภาษีหนัก เช่นเดียวกับชาวสิงคโปร์เอง ยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีซื้อในกรณีบ้านหลังแรก แต่ในกรณีบ้านหลังที่ 2 และ 3 ขึ้นไป ก็ต้องเสียภาษีที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก  นี่แสดงว่ารัฐบาลสิงคโปร์ไม่ส่งเสริมการเก็งกำไร ผิดกับทางราชการไทยที่ไม่มีมาตรการป้องกันการเก็งกำไรเท่าที่ควรและถือเป็นการ “ให้ท้าย” ผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินที่ผลิตที่อยู่อาศัยออกมามากมายเพื่อป้อนนักเก็งกำไรที่ถูกสอนโดยพวกโค้ชสอนลงทุนอสังหาริมทรัพย์

            ประเทศไทยไม่มีความจำเป็นต้องส่งเสริมให้ต่างชาติมาลงทุนซื้อที่อยู่อาศัยเลย ควรส่งเสริมให้มาลงทุนพัฒนาประเทศ พัฒนาการจ้างงานของประชาชนมากกว่า

 

 

 
 
 
 
 
 


ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 518 คน กำลังออนไลน์