แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ของโลก ปี 2566

รูปภาพของ pornchokchai
แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ของโลก ปี 2566
  AREA แถลง ฉบับที่ 102/2566: วันจันทร์ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2566

 

ผู้แถลง: น.ส.น้ำทิพย์ พรโชคชัย
กรรมการผู้จัดการ บจก. Feasyonline.com cs@feasyonline.com https://facebook.com/feasyonline

 

            มาดูแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ของโลกในปี 2566 ทั้งนี้มาจากข้อมูลของ JPMorgan Chase & Co. (https://bit.ly/3jFXSA1) นับเป็นบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ

            บทความนี้ น.ส.น้ำทิพย์ พรโชคชัยได้แปลสรุปมาโดยระบุว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ในปี 2566 ต้องเผชิญกับความท้าทายในหลายด้าน อันเป็นผลกระทบมาจากเศรษฐกิจระดับมหภาค ห่วงโซ่อุปทานโลกจะสะดุด และสถานการณ์เงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 40 ปี ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐต้องปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น ทำให้ตลาดอสังหาฯ เชิงพาณิชย์หลายประเภทต้องเผชิญความท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นตลาดพื้นที่ค้าปลีกที่มีทั้งขาขึ้นและขาลงตามทำเล ตลาดสำนักงานที่อนาคตยังไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ธุรกิจให้เช่าที่อยู่อาศัยรวม (Multifamily properties) ยังคงเติบโตได้ดี อีกทั้งยังเป็นช่วงเวลาทองสำหรับภาคอุตสาหกรรมอีกด้วย

            สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ต้องจับตามองก็คือสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทาน อาหาร และพลังงาน ทำให้เกิดอัตราเงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 40 ปี โดยในเดือนตุลาคม 2565 อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐพุ่งสูงถึง 7.75% ค่าเช่าและราคาที่อยู่อาศัยปรับสูงขึ้น กระทบความสามารถในการซื้อ-หาที่อยู่อาศัย (Housing Affordability) โดยอัตราค่าเช่าปรับสูงขึ้น 7.5% ในเดือนตุลาคม 2565 เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า และ Owner’s Equivalent Rent (OER) ซึ่งเป็นสัดส่วนหลักในการคำนวณดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน ปรับขึ้น 6.9% จากปีก่อนหน้า

            ยิ่งกว่านั้นอัตราดอกเบี้ยก็เพิ่มขึ้น โดยในเดือน พฤศจิกายน 2565 ธนาคารกลางสหรัฐขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 3.75 - 4.00% เป็นอัตราสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อธุรกิจอสังหาเชิงพาณิชย์ แต่อาจเป็นปัจจัยบวกต่อที่อยู่อาศัยแบบปล่อยเช่า เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยตัดสินใจชะลอการซื้ออกไป และหันมาเช่าที่อยู่อาศัยนานขึ้น ปัจจัยเหล่านี้เป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ-ยุโรป จะเข้าสู่ภาวะถดถอย ในปี 2566

            ธุรกิจปล่อยเช่าที่อยู่อาศัยรวม (Multifamily properties) คือ ที่อยู่อาศัยสำหรับปล่อยเช่าที่มีมากกว่า 1 ยูนิต เช่น อะพาร์ตเมนต์ ห้องแถว โครงการทาวน์เฮาส์ให้เช่า เป็นต้น นับเป็นตลาดที่เติบโตได้ดี จากข้อมูลไตรมาสที่ 3 ปี 2565 อัตราห้องว่าง 4.4% ต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี อย่างไรก็ตาม ความต้องการที่อยู่อาศัยในราคาที่เอื้อมถึง (Affordable housing) มีมากกว่าอุปสงค์ในตลาด จึงควรหาวิธีพัฒนาที่อยู่อาศัยเหล่านี้ เช่น วิธีรูปแบบการก่อสร้างแบบโมดูล่าที่ช่วยลดต้นทุน หรือ การพัฒนาชุมชนที่มีกลุ่มผู้มีรายได้ผสมผสาน  (mixed income community) เป็นต้น

            ในภาคธุรกิจอุตสาหกรรม จากการที่ตลาดอีคอมเมิร์ซ ทั่วโลกเติบโตได้ดี ส่งผลให้ความต้องการคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมจึงเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันตลาดอีคอมเมิร์ซครองส่วนแบ่งตลาดน้อยกว่า 20%ของธุรกิจค้าปลีก แสดงให้เห็นว่ายังมีโอกาสเติบโตและครองส่วนแบ่งได้อีกมาก โดยผู้เชี่ยวชาญ คาดว่าตลาดอีคอมเมิร์ซจะสนับสนุนอุตสาหกรรมการขนส่ง ธุรกิจคลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า ไปอีกอย่างน้อย 10 ปี

ความท้าทายที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญในปัจจุบัน คือ ค่าเช่าที่ได้รับจากการทำสัญญาระยะยาวซึ่งรองรับการเติบโตของอัตราเงินเฟ้อเพียง 2-3%ต่อปี ต่างจากอัตราเงินเฟ้อปัจจุบันที่พุ่งขึ้นสูง

            ส่วนธุรกิจค้าปลีก สถานการณ์ธุรกิจค้าปลีกมีทั้งขึ้นและลงขึ้นอยู่กับทำเล หากเป็นทำเลที่มีผู้อยู่อาศัยเยอะเข้ามาใช้บริการก็จะดำเนินการได้ดี ในภาพรวมของสหรัฐอเมริกา พื้นที่ค้าปลีกใจกลางเมืองต้องเผชิญกับการเติบโตที่ลดลง เพราะ ถึงแม้ว่าค่าเช่าพื้นที่ค้าปลีกในเมืองจะสูงกว่าทั่วไป แต่ก็ถูกฉุดลงเนื่องจากมีผู้คนทำงานในเมืองลดลง พื้นที่ค้าปลีกจึงน่าจะได้รับผลกระทบพอสมควร

            อนาคตของตลาดสำนักงานยังไม่แน่นอน โดยปัจจุบันอัตราห้องว่างยังไม่ลดลงเท่าสถานการณ์ก่อนเกิดโควิด-19 ความจำเป็นที่จะต้องมีอาคารสำนักงานในใจกลางเมืองก็จะลดลง บริษัทต่างๆ ประหยัดเงินได้มากจากการที่ให้พนักงานทำงานที่บ้าน แม้บางธุรกิจอาจไม่สามารถให้พนักงานทำงานที่บ้านและวัดผลด้วยประสิทธิผลได้ แต่โดยที่พนักงานจำนวนมากสามารถทำงานที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ ทำให้ความต้องการพื้นที่สำนักงานลดลง การสร้างสำนักงานใหม่ๆ ก็จะลดลงตามไปด้วย

            นี่คือแนวโน้มสำคัญสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2566

 

 

 

 

 

ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 527 คน กำลังออนไลน์