รู้จัก “ไวรัสไข้หวัดหมู” มฤตยูสายพันธุ์ล่าสุด!
ภายหลังข่าวที่มี รายงานการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่และปอดบวมในประเทศเม็กซิโก ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม
2552 และทวีความรุนแรงมากขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา จนมีผู้ป่วยรวม 854 ราย เสียชีวิตไปแล้ว 59 ราย ซึ่งจากการเก็บ
ตัวอย่างผู้ป่วยรวม 50 ราย ส่งตรวจพบว่า 17 ราย เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิด เอ สายพันธุ์ เอช 1 เอ็น 1 (H1N1) ที่ต้อง
ตกตะลึง คือ เชื้อมฤตยูนี้เป็นไข้หวัดสายพันธุ์ของคน โดยมีสารพันธุกรรมของเชื้อไข้หวัดใหญ่ในหมูผสมอยู่ด้วย
ที่มา : http://69.73.159.248/images/thainewsland/th/1/6/7116.jpg
“ในส่วนการระบาดของ เชื้อไวรัสไข้หวัดหมู ที่พบในประเทศเม็กซิโก และอเมริกานั้น เป็นสายพันธุ์ที่ไม่เคยพบมาก่อนในมนุษย์
เป็นสายพันธุ์ที่มีชิ้นส่วนของพันธุกรรมเกิดจากการผสมผสานของไข้หวัดหมู ที่เคยมีรายงานในอเมริกา หรือ ยุโรป และเอเชีย รวมทั้งชิ้น
ส่วนพันธุกรรมของไข้หวัดที่เคยรายงานไว้ในอเมริกาเหนือ จึงถือได้ว่าเป็น “ไวรัสสายพันธุ์ใหม่” และเมื่อดูองค์ประกอบเปรียบเทียบกับ
วัคซีน H1N1 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีความคล้ายคลึงกันไม่ถึง 80% ...บ่งชี้ให้เห็นว่า การป้องกันด้วยวัคซีนที่ใช้ในปัจจุบันก็ไม่น่าจะได้ผล
อย่างไรก็ตาม ไวรัสดังกล่าวยังคงตอบสนองต่อยาต้านไวรัส ได้แก่ Oseltamivir (Tamiflu) และ Zanamivir แต่สามารถดื้อต่อ ยา
Amantadine ได้เช่นกัน” ศ.นพ.ยง ขยายความ
การแพร่เชื้อ อาการไข้หวัดหมู
กับ
คำถามที่ว่าการแพร่เชื้อนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร
แล้วหากกินหมูจะติดโรคหรือไม่นั้น นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์
ปลัดกระทรวงสาธารณ
สุข บอกว่า เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้
มีการแพร่ติดต่อเช่นเดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่ในคนโดยทั่วไป คือเชื้อ
นั้นจะอยู่ในเสมหะ น้ำมูก
น้ำลายของผู้ป่วย แพร่ไปยังผู้อื่นโดยการไอ
หรือจามรดกันในระยะใกล้ชิด หรือติดจากมือและสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่
และเชื้อจะเข้าสู่
ร่างกายทางจมูกและตา เช่น การแคะจมูก การขยี้ตา
แต่สิ่งที่ทำให้เหล่าผู้บริโภคทั้งหลายหายกังวลได้เปลาะหนึ่ง คือ เชื้อนี้ไม่ติดต่อจากการรับประทานเนื้อหมู!!!
1). ไม่จับมือ (shake hands)
*อ.นพ.มาร์ค เมนเกล มหาวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ สหรัฐฯ แนะนำว่า ให้ล้างมือด้วยสบู่ หรือถูมือด้วยเจลแอลกอฮอล์หลังจับมือทักทายกัน
(2). นอนให้พอ…
*การนอนให้พอ และนอนไม่ดึก ช่วยให้ภูมิต้านทานโรคแข็งแรง
(3). ฉีดวัคซีน
*วัคซีนไข้หวัดใหญ่ป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ชอบระบาดในหน้าหนาวได้ แต่ป้องกันหวัดทั่วไป-หวัดหมูไม่ได้
(4). กินอาหารสุขภาพ
*ผักผลไม้ทั้งผล (น้ำผลไม้ปั่นรวมกากใช้ได้ แต่ไม่ควรดื่มน้ำผลไม้กรองกาก)
*การออกกำลังทำให้ภูมิต้านทานโรคแข็งแรง
*ถ้า เป็นไข้… อย่าออกกำลังอย่างหนัก เนื่องจากจะเพิ่มเสี่ยงอันตรายจากกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ (ทำให้ตาย
(6). อยู่ไกลๆ
*อยู่ให้ไกลคนป่วย อย่างน้อย 2 เมตร ไม่เข้าไปในห้องแอร์ ไม่ไปในที่คนแออัด เช่น ไม่ร่วมประท้วง (ไม่ว่าจะสวมเสื้อสีใด) ฯลฯ
(7). ใช้เจลแอลกอฮอล์
*ถูมือด้วยเจลแอลกอฮอล์เมื่อไม่มีโอกาสล้างมือด้วยสบู่
(8). ไม่สูบ
*ไม่สูบบุหรี่และไม่หายใจเอาควันที่คนอื่นสูบเข้าไป
*บุหรี่ ทำลายเซลล์ขน (cilia) ซึ่งช่วยทำความสะอาดทางเดินหายใจ คล้ายๆ กับการกวาดบ้าน… เมื่อเซลล์ขนลดลง หรือทำหน้าที่ได้
*การกินอาหารประเภทจิ้มจุ่ม (dippers) ด้วยกันหลายๆ คนอาจทำให้น้ำมูกน้ำลายตกลงไปในน้ำจิ้ม ทำให้ติดเชื้อได้
*ทางที่ดีคือ ใช้ช้อนกลาง และตักแบ่งน้ำจิ้มกันตั้งแต่แรก
(10). ทำความสะอาด
*อย่าลืมทำความสะอาดกระเป๋า (กระเป๋าถือ กระเป๋าสตางค์ ฯลฯ) เพื่อลดการปริมาณเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนมาได้
(11). ไม่กัดเล็บ
*การกัดเล็บเพิ่มโอกาสติดเชื้อจากนิ้วมือ-เล็บ
(12). ยิ้ม
*ศ.นพ.ชาร์ล คาร์เนตสกี แห่งมหาวิทยาลัยวิลเคส แนะนำว่า ความสุขเล็กๆ น้อยๆ (ที่ได้มาโดยชอบธรรม) ทำให้ภูมิคุ้มกันโรคของคน
*วิธี เสริมสร้างความสุขง่ายๆ ได้แก่ ยิ้มบ่อยๆ (อ่านเรื่องนี้ไป-ยิ้มไปก็ได้ครับ…) หัวเราะพอประมาณ มองโลกในแง่บวก (ฝึกได้ด้วย
* เวลาไอหรือจาม… ให้ยกแขนขึ้นปิดปาก-จมูก อย่าใช้มือ เพราะจะมีโอกาสติดเชื้อใหม่ๆ เช่น หวัดพันธุ์ใหม่ (มีเป็นร้อยๆ เลย) ฯลฯ
(14). ถ้าป่วยไปแล้ว…
*ควร พักงาน อยู่บ้าน ดื่มน้ำให้พอ เตรียมกระดาษชำระ (ทิชชู) ไว้ให้พร้อม… ไอหรือจามใส่ทิชชูแล้วทิ้งในถุงที่ปิดปากถุงได้ เพื่อลด
http://health.buddythai.com/archives/289