หนอนรักษาโรค
ที่มา http://www.geocities.com/ruammitra/sick-maggotherapy.html
เมื่อสมัย 1,000 ปีก่อน ชาวอินเดียแดงเผ่ามายาและชาวเจมบาซึ่งเป็นชาวพื้นเมืองใน New South Wales ประเทศออสเตรเลียได้ใช้หนอนแมลงวันในการทำความสะอาดแผลหนองหรือแผลเน่าติดเชื้อ วิวัฒนาการของแมลงวันเริ่มต้นจากไข่ที่ได้วางไว้บนซากเนื้อแล้วพัฒนาไปเป็นหนอนแมลงวัน หนอนเหล่านี้จะผลิตเอนไซม์เพื่อช่วยในการย่อยเซลล์ของเนื้อเยื่อที่ตายแล้ว และดูดส่วนที่ย่อยแล้วไปเป็นอาหารซึ่งหนอนแมลงวัน (Maggot) เหล่านี้จะย่อยสลายเฉพาะเนื้อเยื่อที่ตายแล้วเท่านั้น ไม่กัดกินเนื้อดีดังนั้นการกัดกินแบบลึกๆตามที่เข้าใจนั้นจะไม่พบในสัตว์ประเภทนี้ หนอนแมลงวันเติบโตได้สูงสุด 12 มิลลิเมตร ภายในเวลา 3-4 วัน. หลังจากนั้นก็จะละทิ้งซากเนื้อเพื่อจะพัฒนาไปเป็นดักแด้ในสิ่งแวดล้อมที่แห้งต่อไป
หลักการที่นำหนอนดังกล่าวมาใช้ในการทำลายเชื้อโรคในบาดแผลเนื้อตาย ก็คือหนอนจะหลั่งน้ำย่อยออกมาเพื่อย่อยเนื้อตาย ให้เป็นของเหลวและหลังจากนั้นก็จะดูดกินเนื้อตาย ที่ย่อยแล้วเข้าสู่ร่างกายเพื่อเป็นอาหารให้กับตัวมันเอง นอกจากนี้ยังพบว่าเอนไซม์มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียในบาดแผลและทำให้แผลสะอาด ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ของแผล และข้อดีอีกประการหนึ่งของวิธีการดังกล่าวนี้ก็คือการกระตุ้นให้เกิดการสร้างเสริมเซลล์เนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่
สำหรับเมืองไทยเริ่มนำเข้าสายพันธุ์แมลงวันก้นเขียวจากเยอรมนีเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2547 โดยบริษัท ไบโอมอนเด้ นำเข้ามาเป็นดักแด้ และเพาะเลี้ยงภายในห้องแล็บ โดยทำการผลิตเป็นผ้าปิดแผลสมุนไพรธรรมชาติ จัดเป็นสมุนไพรและกลุ่มแพทย์ทางเลือก
โรงพยาบาลที่จะใช้ต้องสั่งผลิตจากห้องแล็บก่อน ซึ่งในแต่ละเดือนจะมีคนไข้ที่ใช้การรักษาแบบหนอนบำบัดประมาณ 3-4 ราย และขณะนี้มีการใช้หนอนบำบัดที่โรงพยาบาลหลายแห่งในกรุงเทพฯ ส่วนในต่างจังหวัดมีที่โรงพยาบาล อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เพียงแห่งเดียว
แต่ข้อจำกัดของหนอนบำบัดนั้น จะไม่สามารถใช้รักษาบาดแผลที่มีความลึกมากได้ และบางรายอาจจะเกิดอาการแพ้ รวมทั้งต้องใช้เวลาในการบำบัดพอสมควร และค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เพราะผ้าปิดแผลหนอนบำบัดที่ทำออกมาขายนั้น จะมีหนอนอยู่ 200 ตัวต่อแผ่น จำหน่ายในราคาแผ่นละ 3,000 บาท และจะต้องใช้ผ้าปิดแผลนี้ประมาณ 3 ครั้ง ดังนั้น ในกรณีแผลเล็กใช้แค่แผ่นเดียวจะใช้ค่ารักษาหลักหมื่นทีเดียว
น่ากลัวอ่ะ!!
แต่มันคงจั๊กกะจี๋ดีมั้ง 555+
เหนรูปนี่กินข้าวไม่ลง -*-
อี๋น่ากลัว
คนสวยรับไม่ด๊ายยย~~~!
โว้ว~โว้ว~โว~เย ทำให้ชีวิตม.ปลายให้มีสีสัน ด้วยสีน้ำตรา ซากุร๊า~~~~บลาๆ~