• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:b7860e7ce57dd9a06dd7557d439c77d3' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: small; color: #ff0000; font-family: Tahoma\"><strong>การแก้ปัญหาระบบคอมพิวเตอร์</strong></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Tahoma\"><span></span><span lang=\"TH\">การแก้ไขปัญหาในการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ จำเป็นที่เราต้องศึกษาการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์แต่ละส่วนไป ทั้งทางด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ โดยทำการศึกษาถึงการทำงานของส่วนประกอบแต่ละส่วนว่ามีการทำงานเป็นอย่างไร เพื่อที่จะเป็นส่วนที่ใช้สำหรับการวิเคราะห์ปัญหาได้อีกทาง</span></span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small\"><span style=\"font-family: Tahoma\"><strong><span style=\"color: #3366ff\"><span lang=\"TH\">เมนบอร์ด </span>: MAIN BOARD</span></strong></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Tahoma\"><span></span><span lang=\"TH\">เมนบอร์ด เป็นส่วนประกอบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเครื่องคอมพิวเตอร์ ลักษณะภายนอกจะเหมือนกับวงแผงวงจรไฟฟ้าทั่วไป โดยมีชิพไอซีและขั้วต่อต่างๆมากมายอยู่บนตัวมันเพื่อใช้ในการควบคุมของอุปกรณ์ต่อพ่วง ไม่ว่าจะเป็น ซีพียู</span>, <span lang=\"TH\">หน่วยความจำ</span>, <span lang=\"TH\">การ์ดขยายต่างๆ</span>, <span lang=\"TH\">ฮาร์ดดิสก์</span>, <span lang=\"TH\">ฟลอปปี้ดิสก์</span>, <span lang=\"TH\">ซีดีรอมไดรว์ ฯลฯ อุปกรณ์เหล่านี้แม้จะมีความสำคัญเพียงใด ก็ไม่สามารถทำงานได้ถ้าไม่ติดตั้งลงบนเมนบอร์ด</span></span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: small; color: #3366ff; font-family: Tahoma\"><strong>ส่วนประกอบที่สำคัญบนเมนบอร์ด</strong></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: small; color: #000000; font-family: Tahoma\">ชุดชิพเซ็ต ชิพเซ็ตเป็นหัวใจของเครื่องคอมพิวเตอร์ การทำงานของชิพเซ็ตนั้นเปรียบ</span></span><span style=\"font-size: small\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Tahoma\"><span lang=\"TH\">เสมือนล่ามแปรภาษาต่างๆ ให้อุปกรณ์แต่ละชิ้นที่อยู่บนเมนบอร์ดเข้าใจและทำงาน ร่วมกันได้อย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยชุดชิพเซ็ตนี้จะประกอบด้วยไอซีสองตัว</span>(<span lang=\"TH\">หรือมากกว่าในชิพเซ็ตรุ่นใหม่ๆ</span>) <span lang=\"TH\">นั่นคือชิพเซ็ตที่เรียกกันง่ายๆ ว่า </span>North Bridge <span lang=\"TH\">หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า </span>System Controller <span lang=\"TH\">หรือ </span>AGP Set <span lang=\"TH\">และตัวที่สองคือ </span>South Bridge <span lang=\"TH\">เรียกเป็นทางการว่า </span>PCI to ISA Bridge</span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small; color: #3366ff; font-family: Tahoma\"><strong>System Controller <span lang=\"TH\">หรือ</span> North Bridge</strong></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Tahoma\"><span></span><span lang=\"TH\">ชิพเซ็ตตัวนี้จะมีหน้าที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ที่ทำงานด้วยความเร็วสูงกว่าอุปกรณ์อื่นๆ บนเมนบอร์ด อุปกรณ์เหล่านี้ได้แก่ซีพียู</span>, <span lang=\"TH\">หน่วยความจำแคชระดับสอง หรือ </span>L2 cache <span lang=\"TH\">หน่วยความจำหลักหรือ </span>RAM, <span lang=\"TH\">ระบบกราฟิกบัสแบบ </span>AGP(Accelerated Graphic Port) <span lang=\"TH\">ระบบบัส </span>PCI</span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small; color: #3366ff; font-family: Tahoma\"><strong>PCI to ISA Bridge <span lang=\"TH\">หรือ </span>South Bridge</strong></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Tahoma\"><span></span><span lang=\"TH\">ชิพเซ็ตตัวนี้จะรับภาระที่เบากว่าตัวแรก คือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างระบบบัสแบบ </span>PCI <span lang=\"TH\">กับอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีความเร็วต่ำกว่าตัวมัน เช่นระบบบัสแบบ </span>ISA, <span lang=\"TH\">ระบบบัสอนุกรมแบบ </span>USB, <span lang=\"TH\">ชิพคอนโทรลเลอร์ </span>IDE, <span lang=\"TH\">ชิพหน่วยความจำรอมไบออส</span>,<span lang=\"TH\">ฟลอปปี้ดิสก์</span>, <span lang=\"TH\">คีย์บอร์ด</span>, PS/2 <span lang=\"TH\">เมาส์</span>, <span lang=\"TH\">พอร์ทอนุกรมและพอร์ทขนาน</span></span></span></span> <span style=\"font-size: small\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Tahoma\"><span lang=\"TH\">ชุดชิพเซ็ตนี้จะมีอยู่ด้วยกันหลายบริษัทเช่นเดียวกับซีพียู ทำให้เกิดการสับสนในการเลือกใช้งาน โดยการพิจารณาว่าจะใช้ชิพเซ็ตรุ่นใด ยี่ห้อใดต้องพิจารณาจากซีพียูที่เราเลือกใช้เพื่อเป็นหลักในการเลือกชิพเซ็ตนั้นๆ ซึ่งจะกล่าวถึงรายละเอียดอีกครั้ง</span></span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Tahoma\"><span lang=\"TH\"></span></span></span></span>\n</p>\n<p><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Tahoma\"><span lang=\"TH\"></span></span></span></p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small; color: #3366ff\"><strong>2. ROM BIOS&amp; Battery Backup</strong></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small\">ROM BIOS : Basic Input Output System <span lang=\"TH\">หรือบางครั้งอาจเรียกว่า </span>CMOS <span lang=\"TH\">เป็นชิพหน่วยความจำที่ใช้เก็บข้อมูล และโปรแกรมขนาดเล็ก ที่จำเป็นต่อการบู้ตระบบของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งในอดีตส่วนของ </span>ROM BIOS <span lang=\"TH\">จะแยกเป็นสองส่วนคือ ไบออสและซีมอส หน้าที่ของไบออสคือ เก็บข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นต่อการบู้ตระบบของเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซีมอสทำหน้าที่เก็บโปรแกรมขนาดเล็กที่จะใช้ในการบู้ตระบบซึ่งผู้ใช้สาสมารถที่จะเปลี่ยนแปลงข้อมูลภายในซีมอสนี้ได้</span></span> <span style=\"font-size: small\"><span lang=\"TH\">ในปัจจุบันมีการนำเอาทั้งสองส่วนมารวมไว้ด้วยกัน และเรียกชื่อใหม่ว่า </span>ROM BIOS <span lang=\"TH\">ดังนั้นบนเมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆ จะไม่มีซีมอสอยู่ เมื่อมีการรวมกันผลคือมีข้อมูลบางส่วนที่อยู่ภายในชิพรอมไบออสนั้นต้องการพลังงานไฟฟ้ามาหล่อเลี้ยงเพื่อรักษาข้อมูลไว้ ทำให้จำเป็นต้องมีแบตเตอรี่แบคอัพบนเมนบอร์ด ซึ่งแบตเตอรี่แบคอัพนี้ย่อมมีวันที่จะหมดอายุเช่นกัน</span></span> <span style=\"font-size: small\"><span lang=\"TH\">ยี่ห้อของรอมไบออสที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีอยู่สามยี่ห้อด้วยกันนั่นคือ </span>Award, AMI, Phoenix <span lang=\"TH\">ซึ่งไบออสของ </span>Award <span lang=\"TH\">จะได้รับความนิยมมากที่สุดในเครื่องประเภทขายปลีก</span>(Retail <span lang=\"TH\">คือตลาดของผู้ใช้ทั่วไป</span>) <span lang=\"TH\">ส่วน </span>AMI <span lang=\"TH\">จะรองลงมา ในส่วนของ </span>Phoenix <span lang=\"TH\">นั้นมักจะใช้ในเครื่องแบรนด์เนมเป็นส่วนใหญ่ ประสิทธิภาพของไบออสนั้นจะใกล้เคียงกัน ต่างกันเฉพาะรายละเอียดในการปรับแต่งเท่านั้น</span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small\"><span lang=\"TH\"></span></span>\n</p>\n<p><span lang=\"TH\"></span></p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small; color: #3366ff\"><strong>3.<span lang=\"TH\">หน่วยความจำแคช ระดับสอง</span> : Level 2 Cache</strong></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small\"><span></span>L2 cache <span lang=\"TH\">ทำหน้าที่เป็นหน่วยความจำสำรองหรือ บัฟเฟอร์ ให้กับซีพียู โดยพื้นฐานความคิดมาจากปัญหาอุปกรณ์ที่ทำงานด้วยความเร็วสูงในคอมพิวเตอร์มักเสีย้วลาส่วนหนึ่งไปกับการรออุปกรณ์ที่ทำงานช้ากว่าทำงานให้เสร็จสิ้นเสียก่อน อุปกรณ์ที่ทำงานด้วยความเร็วสูงนั้นจึงจะสามารถทำงานได้ต่อไป</span></span> <span style=\"font-size: small\"><span lang=\"TH\">จากอดีต เมื่อซีพียูต้องการข้อมูลสักชุดต้องไปค้นหาและเรียกข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์ซึ่งทำงานช้ากว่าซีพียูอยู่มาก หรือถ้าต้องการคำสั่งที่จะนำไปประมวลผล ซีพียูก็ต้องเข้าไปเรียกหาจาก </span>RAM <span lang=\"TH\">ซึ่งมีความเร็วต่ำกว่าซีพียูอยู่ดี </span></span><span style=\"font-size: small\"><span lang=\"TH\">ความมุ่งหมายในการนำหน่วยความจำแคชระดับสองมาใช้ในช่วงก่อนก็เพื่อลดช่องว่างระหว่างความเร็วของซีพียู และหน่วยความจำหลัก </span>RAM <span lang=\"TH\">นั่นเอง โดยหน่วยความจำแคชระดับสองบนเมนบอร์ดจะทำหน้าที่ดึงชุดข้อมูลในลำดับถัดไปหรือชุดคำสั่งในลำดับต่อๆ ไปหลายๆ ชุดจากฮาร์ดดิสก์หรือหน่วยความจำหลักที่ทำงานช้ากว่ามาเก็บไว้ที่ตัวเองในระหว่างที่ซีพียูกำลังทำการประมวลผลอยู่ เมื่อซีพพียูต้องการข้อมูลหรือชุดคำสั่งชุดต่อไปก็จะทำการเรียกใช้จากแคชระดับสองซึ่งทำงานเร็วกว่า </span>RAM <span lang=\"TH\">หรือฮาร์ดดิสก์ ที่ทำงานช้ากว่า</span></span> <span style=\"font-size: small\"><span lang=\"TH\">ตามหลักการแล้ว ขนาดของแคชระดับสอง ถ้ามีมากยิ่งจะทำให้ซีพียูทำงานเร็วขึ้น แต่เนื่องจากหน่วยความจำแคชระดับสองซึ่งเป็น </span>SRAM : Static RAM <span lang=\"TH\">มีราคาแพง และโอกาสที่ซีพียูจะเรียกชุดคำสั่งในตำแหน่งเดิม หรือตำแหน่งที่อยู่ติดกันนั้นไม่ได้มีอยู่ตลอดเวลา ทำให้แคชระดับสองมีขนาดไม่ใหญ่นัก โดยมาตรฐานจะอยู่ที่ </span>512 KB <span lang=\"TH\">และอยู่บนเมนบอร์ด</span>(<span lang=\"TH\">ปัจจุบันย้ายไปอยู่ในตัวซีพียู ในขนาดเท่าๆ เดิม แต่มีความเร็วที่มากกว่าคือความเร็วเท่ากับซีพียู</span>) </span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small\"></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small; color: #3366ff\"><strong>5.<span lang=\"TH\">ซ็อกเก็ตสำหรับ หน่วยความจำหลัก </span>RAM</strong></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small\"><span lang=\"TH\">ในช่วงแรกๆ นั้น ซ็อกเก็ตที่ใช้สำหรับการติดตั้ง </span>RAM <span lang=\"TH\">จะเป็นแบบ </span>SIMM : Single Inline </span><span style=\"font-size: small\">Memory Module <span lang=\"TH\">ที่รองรับ </span>RAM <span lang=\"TH\">ที่มีขาสัญญาณ </span>30 <span lang=\"TH\">ขา สามารถเพิ่มหน่วยความจำได้สูงสุดไม่เกิน </span>2 Bank <span lang=\"TH\">หรือ </span>8 <span lang=\"TH\">สล็อต </span>(<span lang=\"TH\">เป็นหน่วยความจำแบบ </span>8 <span lang=\"TH\">บิต</span>) <span lang=\"TH\">มีความจุแผงละ </span>1 – 4 MB <span lang=\"TH\">เท่านั้น</span></span> <span style=\"font-size: small\"><span lang=\"TH\">ถัดมามีการพัฒนาเป็นแบบซ็อกเก็ตติดตั้ง </span>RAM <span lang=\"TH\">แบบ </span>SIMM 72 <span lang=\"TH\">ขา เป็น </span>RAM <span lang=\"TH\">แบบ </span>32 <span lang=\"TH\">บิต มีขนาดความจุตั้งแต่ </span>4 – 32 MB <span lang=\"TH\">ซึ่งเมื่อนำไปใช้กับซีพียูที่เป็นแบบ </span>64 <span lang=\"TH\">บิต เช่น </span>Pentuim <span lang=\"TH\">จึงต้องใช้สองแผงจึงจะรองรับการทำงานร่วมกับซีพียูได้ดี</span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small\"><span></span><span lang=\"TH\">ต่อมาในชิพเซ็ตรุ่น </span>430 VX <span lang=\"TH\">ซึ่งสามารถรองรับหน่วยความจำรุ่นใหม่คือแบบ </span>DIMM : Dual Inline Memory Module 168 <span lang=\"TH\">ขา </span>64 <span lang=\"TH\">บิต ซึ่งมีทั้ง </span>EDO RAM <span lang=\"TH\">และ </span>SDRAM <span lang=\"TH\">ซึ่งมีความเร็วสูงกว่า </span>SIMM RAM <span lang=\"TH\">มาก และเป็น </span>RAM <span lang=\"TH\">มาตรฐานสำหรับคอมพิวเตอร์จนถึงปัจจุบัน</span></span> <span style=\"font-size: small\">(<span lang=\"TH\">ขณะนี้ </span>RAM <span lang=\"TH\">ที่ออกมาใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์จะมีที่มาแรงคือ </span>DDR SDRAM</span> ใ<span style=\"font-size: small\"><span lang=\"TH\">ช้งานกับซีพียู </span>Pentuim 4, Duron, Athlon ThunderBird)</span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n&nbsp;\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small\"><span style=\"font-family: Tahoma\"><strong><span style=\"color: #3366ff\">6.<span lang=\"TH\">สล็อตสำหรับเสียบการ์ดเพิ่มขยายต่างๆ</span></span></strong></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Tahoma\"><span lang=\"TH\">จากยุคเริ่มแรกที่เป็นสล็อตแบบ </span>ISA <span lang=\"TH\">ซึ่งเป็นแบบ </span>8 <span lang=\"TH\">บิต ทำงานที่ความเร็ว </span>8 MHz<span> </span><span lang=\"TH\">ต่อมา</span></span></span></span> <span style=\"font-size: small\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Tahoma\"><span lang=\"TH\">พัฒนาขึ้นเป็นแบบ </span>16 <span lang=\"TH\">บิต เพื่อเพิ่มความเร็วให้สามารถรองรับอุปกรณ์ใหม่ๆ ที่มีความเร็วในการทำงานสูงได้ ต่อมาได้พัฒนาระบบบัสแบบ </span>Vesa ISA 32 <span lang=\"TH\">บิต ความเร็ว </span>33 MHz <span lang=\"TH\">ขึ้นมาแต่ยังคงความยาวเอาไว้เพื่อใช้กับการ์ด </span>ISA <span lang=\"TH\">แบบเดิม ซึ่งเป็นข้อจำกัดของบัสแบบ </span>Vesa ISA <span lang=\"TH\">ต่อมาทาง </span>Intel <span lang=\"TH\">ได้ทำการออกแบบสล็อตแบบใหม่ที่เรียกว่า </span>PCI <span lang=\"TH\">เข้ามาแทนที่สล็อตแบบ </span>Vesa ISA <span lang=\"TH\">ด้วยคุณสมบัติที่เท่ากัน แต่ข้อได้เปรียบคือมีขนาดที่สั้นกว่า และยังสะดวกในการติดตั้งและอัพเกรดในตอนหลังอีกด้วย แต่ความเร็วของ </span>PCI <span lang=\"TH\">ยังไม่เพียงพอต่อการใช้งานร่วมกับการ์ดแสดงผลรุ่นใหม่ที่เป็นแบบสามมิติ และมีชิพเร่งความเร็วสามมิติอยู่ในตัวได้ จึงต้องมีการพัฒนาระบบบัสขึ้นมาสเพื่อใช้งานร่วมกับการ์ดแสดงผลแบบใหม่นี้ซึ่งเรียกว่า </span>AGP : Accerelated Graphic Port <span lang=\"TH\">แบบ </span>32 <span lang=\"TH\">บิต ความเร็วสูงถึง </span>100 MHz (AGP Port <span lang=\"TH\">จะมีเพียง</span> 1 Slot <span lang=\"TH\">เท่านั้นบนเมนบอร์ด</span>)</span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small; color: #000000; font-family: Tahoma\"></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small; color: #3366ff; font-family: Tahoma\"><strong>7. <span lang=\"TH\">วงจรควบคุมการจ่ายไฟให้กับซีพียู หรือ </span>Voltage Regulator</strong></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Tahoma\"><span></span><span lang=\"TH\">บนเมนบอร์ดจะมีวงจรจ่ายไฟให้กับซีพียูอยู่อีชุดหนึ่ง โดยแยกจาก </span>Power Supply<span> </span><span lang=\"TH\">ในเมนบอร์ดรุ่นเก่าจะเป็นแบบ </span>Linear <span lang=\"TH\">ซึ่งมีข้อด้อยคือไม่สามารถรองรับกับซีพียูที่มีความเร็วสูงได้ </span></span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Tahoma\"><span lang=\"TH\">จึงได้เปลี่ยนมาเป็นแบบ </span>Switching <span lang=\"TH\">แทนเพื่อให้กระแสไฟฟ้าที่จ่ายออกมามีความบริสุทธิ์พอ การสังเกตว่าบนเมนบอร์ดนั้นมีวงจรจ่ายไฟให้กับซีพียูเป็นแบบใด ถ้าเป็นแบบ </span>Switching <span lang=\"TH\">ใกล้ๆ </span></span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span lang=\"TH\"><span style=\"font-size: small; color: #000000; font-family: Tahoma\">ซ้อกเก็ต หรือสล็อตที่ใช้ติดตั้งซีพียูนั้นจะมีขดลวดทองแดงที่พันอยู่บนแกนทรงวงแหวนอย่างน้อย</span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Tahoma\"><span lang=\"TH\">สองวง แต่ถ้าวงจรควบคุมการจ่ายไฟเป็นแบบ </span>Linear <span lang=\"TH\">จะไม่มีวงแหวนนี้ แต่จะเป็น </span>IC Regulator <span lang=\"TH\">แบบ </span>3 <span lang=\"TH\">ขาแทน</span></span></span></span>\n</p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n&nbsp;\n</p>\n<p></p>\n<p style=\"margin: 0cm 0cm 0pt\">\n<span style=\"font-size: small\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"font-family: Tahoma\"><span lang=\"TH\"></span></span></span></span>\n</p>\n<p><o:p><span style=\"font-size: small; color: #000000; font-family: Tahoma\"></span></o:p></p>\n', created = 1726749436, expire = 1726835836, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:b7860e7ce57dd9a06dd7557d439c77d3' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

การแก้ปัญหาระบบคอมพิวเตอร์

รูปภาพของ thaigoodnt-12345

การแก้ปัญหาระบบคอมพิวเตอร์

การแก้ไขปัญหาในการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ จำเป็นที่เราต้องศึกษาการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์แต่ละส่วนไป ทั้งทางด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ โดยทำการศึกษาถึงการทำงานของส่วนประกอบแต่ละส่วนว่ามีการทำงานเป็นอย่างไร เพื่อที่จะเป็นส่วนที่ใช้สำหรับการวิเคราะห์ปัญหาได้อีกทาง

เมนบอร์ด : MAIN BOARD

เมนบอร์ด เป็นส่วนประกอบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเครื่องคอมพิวเตอร์ ลักษณะภายนอกจะเหมือนกับวงแผงวงจรไฟฟ้าทั่วไป โดยมีชิพไอซีและขั้วต่อต่างๆมากมายอยู่บนตัวมันเพื่อใช้ในการควบคุมของอุปกรณ์ต่อพ่วง ไม่ว่าจะเป็น ซีพียู, หน่วยความจำ, การ์ดขยายต่างๆ, ฮาร์ดดิสก์, ฟลอปปี้ดิสก์, ซีดีรอมไดรว์ ฯลฯ อุปกรณ์เหล่านี้แม้จะมีความสำคัญเพียงใด ก็ไม่สามารถทำงานได้ถ้าไม่ติดตั้งลงบนเมนบอร์ด

ส่วนประกอบที่สำคัญบนเมนบอร์ด

ชุดชิพเซ็ต ชิพเซ็ตเป็นหัวใจของเครื่องคอมพิวเตอร์ การทำงานของชิพเซ็ตนั้นเปรียบเสมือนล่ามแปรภาษาต่างๆ ให้อุปกรณ์แต่ละชิ้นที่อยู่บนเมนบอร์ดเข้าใจและทำงาน ร่วมกันได้อย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยชุดชิพเซ็ตนี้จะประกอบด้วยไอซีสองตัว(หรือมากกว่าในชิพเซ็ตรุ่นใหม่ๆ) นั่นคือชิพเซ็ตที่เรียกกันง่ายๆ ว่า North Bridge หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า System Controller หรือ AGP Set และตัวที่สองคือ South Bridge เรียกเป็นทางการว่า PCI to ISA Bridge

System Controller หรือ North Bridge

ชิพเซ็ตตัวนี้จะมีหน้าที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ที่ทำงานด้วยความเร็วสูงกว่าอุปกรณ์อื่นๆ บนเมนบอร์ด อุปกรณ์เหล่านี้ได้แก่ซีพียู, หน่วยความจำแคชระดับสอง หรือ L2 cache หน่วยความจำหลักหรือ RAM, ระบบกราฟิกบัสแบบ AGP(Accelerated Graphic Port) ระบบบัส PCI

PCI to ISA Bridge หรือ South Bridge

ชิพเซ็ตตัวนี้จะรับภาระที่เบากว่าตัวแรก คือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างระบบบัสแบบ PCI กับอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีความเร็วต่ำกว่าตัวมัน เช่นระบบบัสแบบ ISA, ระบบบัสอนุกรมแบบ USB, ชิพคอนโทรลเลอร์ IDE, ชิพหน่วยความจำรอมไบออส,ฟลอปปี้ดิสก์, คีย์บอร์ด, PS/2 เมาส์, พอร์ทอนุกรมและพอร์ทขนาน ชุดชิพเซ็ตนี้จะมีอยู่ด้วยกันหลายบริษัทเช่นเดียวกับซีพียู ทำให้เกิดการสับสนในการเลือกใช้งาน โดยการพิจารณาว่าจะใช้ชิพเซ็ตรุ่นใด ยี่ห้อใดต้องพิจารณาจากซีพียูที่เราเลือกใช้เพื่อเป็นหลักในการเลือกชิพเซ็ตนั้นๆ ซึ่งจะกล่าวถึงรายละเอียดอีกครั้ง

2. ROM BIOS& Battery Backup

ROM BIOS : Basic Input Output System หรือบางครั้งอาจเรียกว่า CMOS เป็นชิพหน่วยความจำที่ใช้เก็บข้อมูล และโปรแกรมขนาดเล็ก ที่จำเป็นต่อการบู้ตระบบของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งในอดีตส่วนของ ROM BIOS จะแยกเป็นสองส่วนคือ ไบออสและซีมอส หน้าที่ของไบออสคือ เก็บข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นต่อการบู้ตระบบของเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนซีมอสทำหน้าที่เก็บโปรแกรมขนาดเล็กที่จะใช้ในการบู้ตระบบซึ่งผู้ใช้สาสมารถที่จะเปลี่ยนแปลงข้อมูลภายในซีมอสนี้ได้ ในปัจจุบันมีการนำเอาทั้งสองส่วนมารวมไว้ด้วยกัน และเรียกชื่อใหม่ว่า ROM BIOS ดังนั้นบนเมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆ จะไม่มีซีมอสอยู่ เมื่อมีการรวมกันผลคือมีข้อมูลบางส่วนที่อยู่ภายในชิพรอมไบออสนั้นต้องการพลังงานไฟฟ้ามาหล่อเลี้ยงเพื่อรักษาข้อมูลไว้ ทำให้จำเป็นต้องมีแบตเตอรี่แบคอัพบนเมนบอร์ด ซึ่งแบตเตอรี่แบคอัพนี้ย่อมมีวันที่จะหมดอายุเช่นกัน ยี่ห้อของรอมไบออสที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีอยู่สามยี่ห้อด้วยกันนั่นคือ Award, AMI, Phoenix ซึ่งไบออสของ Award จะได้รับความนิยมมากที่สุดในเครื่องประเภทขายปลีก(Retail คือตลาดของผู้ใช้ทั่วไป) ส่วน AMI จะรองลงมา ในส่วนของ Phoenix นั้นมักจะใช้ในเครื่องแบรนด์เนมเป็นส่วนใหญ่ ประสิทธิภาพของไบออสนั้นจะใกล้เคียงกัน ต่างกันเฉพาะรายละเอียดในการปรับแต่งเท่านั้น

3.หน่วยความจำแคช ระดับสอง : Level 2 Cache

L2 cache ทำหน้าที่เป็นหน่วยความจำสำรองหรือ บัฟเฟอร์ ให้กับซีพียู โดยพื้นฐานความคิดมาจากปัญหาอุปกรณ์ที่ทำงานด้วยความเร็วสูงในคอมพิวเตอร์มักเสีย้วลาส่วนหนึ่งไปกับการรออุปกรณ์ที่ทำงานช้ากว่าทำงานให้เสร็จสิ้นเสียก่อน อุปกรณ์ที่ทำงานด้วยความเร็วสูงนั้นจึงจะสามารถทำงานได้ต่อไป จากอดีต เมื่อซีพียูต้องการข้อมูลสักชุดต้องไปค้นหาและเรียกข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์ซึ่งทำงานช้ากว่าซีพียูอยู่มาก หรือถ้าต้องการคำสั่งที่จะนำไปประมวลผล ซีพียูก็ต้องเข้าไปเรียกหาจาก RAM ซึ่งมีความเร็วต่ำกว่าซีพียูอยู่ดี ความมุ่งหมายในการนำหน่วยความจำแคชระดับสองมาใช้ในช่วงก่อนก็เพื่อลดช่องว่างระหว่างความเร็วของซีพียู และหน่วยความจำหลัก RAM นั่นเอง โดยหน่วยความจำแคชระดับสองบนเมนบอร์ดจะทำหน้าที่ดึงชุดข้อมูลในลำดับถัดไปหรือชุดคำสั่งในลำดับต่อๆ ไปหลายๆ ชุดจากฮาร์ดดิสก์หรือหน่วยความจำหลักที่ทำงานช้ากว่ามาเก็บไว้ที่ตัวเองในระหว่างที่ซีพียูกำลังทำการประมวลผลอยู่ เมื่อซีพพียูต้องการข้อมูลหรือชุดคำสั่งชุดต่อไปก็จะทำการเรียกใช้จากแคชระดับสองซึ่งทำงานเร็วกว่า RAM หรือฮาร์ดดิสก์ ที่ทำงานช้ากว่า ตามหลักการแล้ว ขนาดของแคชระดับสอง ถ้ามีมากยิ่งจะทำให้ซีพียูทำงานเร็วขึ้น แต่เนื่องจากหน่วยความจำแคชระดับสองซึ่งเป็น SRAM : Static RAM มีราคาแพง และโอกาสที่ซีพียูจะเรียกชุดคำสั่งในตำแหน่งเดิม หรือตำแหน่งที่อยู่ติดกันนั้นไม่ได้มีอยู่ตลอดเวลา ทำให้แคชระดับสองมีขนาดไม่ใหญ่นัก โดยมาตรฐานจะอยู่ที่ 512 KB และอยู่บนเมนบอร์ด(ปัจจุบันย้ายไปอยู่ในตัวซีพียู ในขนาดเท่าๆ เดิม แต่มีความเร็วที่มากกว่าคือความเร็วเท่ากับซีพียู)

5.ซ็อกเก็ตสำหรับ หน่วยความจำหลัก RAM

ในช่วงแรกๆ นั้น ซ็อกเก็ตที่ใช้สำหรับการติดตั้ง RAM จะเป็นแบบ SIMM : Single Inline Memory Module ที่รองรับ RAM ที่มีขาสัญญาณ 30 ขา สามารถเพิ่มหน่วยความจำได้สูงสุดไม่เกิน 2 Bank หรือ 8 สล็อต (เป็นหน่วยความจำแบบ 8 บิต) มีความจุแผงละ 1 – 4 MB เท่านั้น ถัดมามีการพัฒนาเป็นแบบซ็อกเก็ตติดตั้ง RAM แบบ SIMM 72 ขา เป็น RAM แบบ 32 บิต มีขนาดความจุตั้งแต่ 4 – 32 MB ซึ่งเมื่อนำไปใช้กับซีพียูที่เป็นแบบ 64 บิต เช่น Pentuim จึงต้องใช้สองแผงจึงจะรองรับการทำงานร่วมกับซีพียูได้ดี

ต่อมาในชิพเซ็ตรุ่น 430 VX ซึ่งสามารถรองรับหน่วยความจำรุ่นใหม่คือแบบ DIMM : Dual Inline Memory Module 168 ขา 64 บิต ซึ่งมีทั้ง EDO RAM และ SDRAM ซึ่งมีความเร็วสูงกว่า SIMM RAM มาก และเป็น RAM มาตรฐานสำหรับคอมพิวเตอร์จนถึงปัจจุบัน (ขณะนี้ RAM ที่ออกมาใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์จะมีที่มาแรงคือ DDR SDRAMช้งานกับซีพียู Pentuim 4, Duron, Athlon ThunderBird)

 

6.สล็อตสำหรับเสียบการ์ดเพิ่มขยายต่างๆ

จากยุคเริ่มแรกที่เป็นสล็อตแบบ ISA ซึ่งเป็นแบบ 8 บิต ทำงานที่ความเร็ว 8 MHz ต่อมา พัฒนาขึ้นเป็นแบบ 16 บิต เพื่อเพิ่มความเร็วให้สามารถรองรับอุปกรณ์ใหม่ๆ ที่มีความเร็วในการทำงานสูงได้ ต่อมาได้พัฒนาระบบบัสแบบ Vesa ISA 32 บิต ความเร็ว 33 MHz ขึ้นมาแต่ยังคงความยาวเอาไว้เพื่อใช้กับการ์ด ISA แบบเดิม ซึ่งเป็นข้อจำกัดของบัสแบบ Vesa ISA ต่อมาทาง Intel ได้ทำการออกแบบสล็อตแบบใหม่ที่เรียกว่า PCI เข้ามาแทนที่สล็อตแบบ Vesa ISA ด้วยคุณสมบัติที่เท่ากัน แต่ข้อได้เปรียบคือมีขนาดที่สั้นกว่า และยังสะดวกในการติดตั้งและอัพเกรดในตอนหลังอีกด้วย แต่ความเร็วของ PCI ยังไม่เพียงพอต่อการใช้งานร่วมกับการ์ดแสดงผลรุ่นใหม่ที่เป็นแบบสามมิติ และมีชิพเร่งความเร็วสามมิติอยู่ในตัวได้ จึงต้องมีการพัฒนาระบบบัสขึ้นมาสเพื่อใช้งานร่วมกับการ์ดแสดงผลแบบใหม่นี้ซึ่งเรียกว่า AGP : Accerelated Graphic Port แบบ 32 บิต ความเร็วสูงถึง 100 MHz (AGP Port จะมีเพียง 1 Slot เท่านั้นบนเมนบอร์ด)

7. วงจรควบคุมการจ่ายไฟให้กับซีพียู หรือ Voltage Regulator

บนเมนบอร์ดจะมีวงจรจ่ายไฟให้กับซีพียูอยู่อีชุดหนึ่ง โดยแยกจาก Power Supply ในเมนบอร์ดรุ่นเก่าจะเป็นแบบ Linear ซึ่งมีข้อด้อยคือไม่สามารถรองรับกับซีพียูที่มีความเร็วสูงได้

จึงได้เปลี่ยนมาเป็นแบบ Switching แทนเพื่อให้กระแสไฟฟ้าที่จ่ายออกมามีความบริสุทธิ์พอ การสังเกตว่าบนเมนบอร์ดนั้นมีวงจรจ่ายไฟให้กับซีพียูเป็นแบบใด ถ้าเป็นแบบ Switching ใกล้ๆ

ซ้อกเก็ต หรือสล็อตที่ใช้ติดตั้งซีพียูนั้นจะมีขดลวดทองแดงที่พันอยู่บนแกนทรงวงแหวนอย่างน้อย

สองวง แต่ถ้าวงจรควบคุมการจ่ายไฟเป็นแบบ Linear จะไม่มีวงแหวนนี้ แต่จะเป็น IC Regulator แบบ 3 ขาแทน

 

สร้างโดย: 
thaigoodnt-12345

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 529 คน กำลังออนไลน์