ความหลากหลายกลายเป็นหนึ่ง นาย ณัฐนนท์ ขันประมาณ ม.5/4 เลขที่ 23
หลากหลายกลายเป็นหนึ่ง
บนโลกของคนเราล้วนย่อมมีการแตกต่างทั้งด้านเชื้อชาติต่างสัญชาติอาจมีสิ่งต่างต่างที่แตกต่างกันเป็นที่ประจักแต่ล้วนเกิดมามีชีวิตเหมือนกันถึงเราจะต่างเชื้อชาติชาติก็ตามพวกเราก็มีหัวใจและร่างกายเหมือนกันถึงเราจะต่างเชื่อชาติ
ปัจจุบันชีวิตคนประสบพบเจอปัญหาต่างๆมากมาย ทั้งในเรื่องของ ความคิด การดำรงชีวิต ความเชื่อต่างๆ เป็นต้น ซึ่งก็แน่นอนเมื่ออยู่ในสังคมส่วนมากย่อมเกิดปัญหาความขัดแย้งกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วซึ่งยิ่งมีผู้คนอาศัยยอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมากเท่าใดก็ยิ่งจะทำให้เกิดปัญหาความวุ่นวายมากขึ้นเท่านั้นและความขัดแย้งในสังคมปัจจุบันนี้ก็มีหลายๆอย่างบางอย่างอาจรุนแรงจนทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทขึ้นเกิดการก่อจราจนเกิดการสร้างความวุ่นวายและได้เป็นสาเหตุให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายเกิดขึ้นสาเหตุหรือที่มาของความขัดแย้งความขัดแย้งระหว่างบุคคลหรือระหว่างกลุ่มเกิดขึ้นได้จากสาเหตุหรือแหล่งต่างๆ เช่น มนุษย์สัมพันธ์ระหว่างบุคคลหรือกลุ่มบุลคล ความขัดแย้งเป็นความขัดแย้งร้าวลึกระหว่างประชาชน ลุกลามไปทุกที่ ไม่ว่าในครอบครัว ในบรรดาเพื่อนฝูงที่ทำงาน จนแม้ระหว่างคนในภูมิภาคต่างๆ กฎหมายในบ้านเมืองถูกสั่นคลอนอย่างรุนแรงโดยรัฐเองและประชาชน การทุจริตที่ปรากฏเป็นข่าวมากมายในฝ่ายการเมืองและข้าราชการแสดงให้เห็นความไม่แยแสต่อกฎหมายของผู้มีอำนาจ ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการที่ฝูงชนทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดงสามารถกระทำการท้าทายความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายได้โดยมิได้มีอะไร เกิดขึ้น ทำให้มีการตั้งคำถามกันว่า รัฐไทยเป็นรัฐที่ล้มเหลว การลุกลามของความขัดแย้งในประเทศเป็นปัญหาระหว่างประเทศของไทยกับเพื่อนบ้าน คือกัมพูชา ซึ่งถ้าไม่จัดการให้ดีก็จะกระทบกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และการเมืองระหว่างประเทศทั้งอาจลุกลามไปสู่ภูมิภาคก็เป็นได้ ผลกระทบทางเศรษฐกิจนั้น ยังไม่มีสถาบันใดทำตัวเลขให้เห็นชัดสำหรับความสูญเสียดังกล่าวของประเทศไทย แต่ถ้าเทียบกับประเทศเกาหลีใต้ที่ความรุนแรงของความขัดแย้งของสังคมน้อยกว่าไทยมากก็จะเห็นความน่ากลัว นักการเมืองมักมองเป็นเกมส์ทางการเมือง เล่นพรรคเล่นพวก มือใครยาวสาวได้สาวเอา แต่มักเป็นไปแบบเช้าชามเย็นชาม นักการเมืองส่วนมากมักทุจริตและประกอบโดยผลประโยชน์ ความไม่สามัคคีของนักการเมือง แม้จะหน่วยงานคอยตรวจสอบก็ตามที ก็เป็นไปอย่างไม่เต็มที่นักด้วยเกรงกลัวอำนาจและอิทธิพล ปัญหาอีกอย่างของการเมืองคือด้านการดำเนินนโยบายผิดพลาด อันเกิดผลเสียกับสังคมและประเทศชาติ ผู้บริหารประเทศยังไม่ได้มีการบริหารอย่างเต็มความรับผิดชอบ ยังมีการเล่นการเมืองมากเกินความจำเป็นซึ่งมีผลทำให้การดำเนินนโยบายต่างๆยังไม่ได้แก้ปัญหาที่แท้จริงของประเทศ บางครั้งนโยบายหลายๆ นโยบายก็ดูน่าจะดี แต่กลับไม่ได้ผลเต็มที่ซึ่งก็มีสาเหตุมาจากการไม่สามารถนำ นโยบายไปปฏิบัติกันอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลบ่อยครั้งเป็น การดำเนินนโยบายเพื่อสร้างภาพให้แก่ ส่วนตน แต่ให้ความสำคัญของประสิทธิผลน้อยมาก หรือ แทบจะไม่ให้ความสำคัญเลยระบบราชการ ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่มีผลกระทบต่อการส่งออก และ อีก หลายๆ ธุรกิจหน่วยงานต่างๆ มีการทำงานซ้ำซ้อนกัน ซึ่งอันที่จริงแล้ว โครงสร้างของระบบราชการก็ได้มีการ กำหนดไว้ดีแล้ว แต่ก็ไปผิดพลาดที่การปฏิบัติอีก เพราะต่างคนต่างพยายามสร้างผลงานให้โดดเด่น ในสายตา ของผู้บังคับบัญชา หรือแม้กระทั่งนักการเมือง จนลืมนึกถึงประชาชน แต่ ก็มีข้าราชการระดับกลาง และ ระดับล่างที่มีแนวความคิดที่ดี ๆ แต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้แสดงฝีมือ และสิ่งที่เป็นผลเสียต่อสังคมอีกมากมาย ในพระพุทธศาสนา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่า ทั้งคนและสัตว์มีส่วนที่เหมือนกันคือล้วนรักสุขเกลียดทุกข์เหมือนกัน คนพูดภาษาสัตว์ไม่ได้ สัตว์ก็พูดภาษาคนไม่ได้ แต่ดูได้จากลักษณะท่าทางของเขาก็รู้ว่า รักสุขแล้วเกลียดทุกข์เหมือนกันในพระพุทธศาสนา พระบรมศาสดาทรงเป็นผู้ค้นพบความจริงของสรรพสิ่งทั้งหลาย ในการค้นพบนั้น ทรงค้นพบจากการทำสมาธิ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราทรงฝึกพระองค์อย่างนี้ ทรงทำสมาธิเพื่อทำให้ใจใส ๆ ส่วนระยะเวลาที่ฝึกก็ไม่ใช่แค่เป็นวัน ไม่ใช่แค่เป็นเดือน แต่ทรงฝึกสมาธิอย่างต่อเนื่องมานับภพนับชาติไม่ถ้วน แม้ในชาติสุดท้ายก็ทรงฝึกนานหลายปี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงรู้ความจริงของทุกสิ่งทุกอย่างโดยอาศัยการทำสมาธิให้ใจใส ๆ พอใสแล้วใจจะสว่าง สว่างแล้วก็จะเห็นความจริง พระพุทธองค์ทรงพบว่า คนทุกคนนั้น ถึงคราวละโลกไปก็ยังมีชีวิตหลังความตาย ไม่ได้ตายแล้วสูญ ถ้าตั้งใจทำความดี ความดีที่ทำไว้ก็จะส่งผลให้เปลี่ยนตัวเองจากคนไปเป็นเทวดานางฟ้า ไปอยู่ในภพภูมิใหม่ที่เป็นสุข ที่เรียกว่าสวรรค์คนที่ทำไม่ดี ตายแล้วก็ไม่สูญ แต่ว่าผลของความเลวจะส่งเขาไปอยู่ในภพภูมิที่เดือดร้อน ไปอยู่แล้วเป็นทุกข์ เรียกว่า นรก บางคนถึงจะเป็นคนเลว แต่ก็ยังไม่เลวสุด ๆ ผลของความเลวส่งให้ไปเกิดแค่เป็นสัตว์เท่านั้นแทนที่จะไปถึงนรก ถ้าไม่เลวเกินไปจนกระทั่งไปเป็นสัตว์นรก ก็มาเป็นสัตว์เดรัจฉานอย่างที่พวกเราเห็น เช่น มด ปลวก
ทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้เกิดมาย่อมแตกต่างกันเป็นธรรมดาแต่นั้นไม่ได้หมายถึงต้องแบ่งแยกกัดกั้นระหว่างกันและกันเพราะฉนั้นเราควรรักกันไว้สนิทไว้รักกันไว้ไม่ทิ้งข้างซึ่งกันและกันถึงแม่เราจะแตกต่างจากพวกอื่นๆ อย่างในศาสนาทุกศาสนาเช่น ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริส ศาสนานิกาย ล้วนแต่สอนให้เป็นคนดีทั้งนั้นเพราะงั้นเราถึงต้องรักและสามัคคีไว้ซึ่งกันและกันไม่ทอดทิ้งร่วมทุกร่วมสุขซึ่งกันและกัน เพราะฉนั้นเราคนเหมือนกันควรรักและรักษาไว้ซึ่งกันและกันตลอดจนรักษาสันติภาพไว้ให้ยืนนานและคงนานตลอดไป