หลากหลายกลายเป็นหนึ่ง
ถ้าพูดถึงเรื่องศาสนาของแต่ละคนทำให้มีความขัดแย้งแน่นอนคะแต่ถ้ารวมกันเป็นหนึ่งแล้วเชื่อว่ายังไงทุกคนก็ต้องรักและสามัคคีกันแน่นอนความขัดแย้งในสังคมเรานั้นได้มีมากมายหลายอย่างอาธิ เช่น การเอารัดเอาเปรียบ การเห็นแก่ตัว เป็นต้น สิ่งทำให้ผู้คนที่อยู่ในสังคมนี้มีแต่ความเสื่อมเสียแน่นอนความเชื่อของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนเชื่อในพระเจ้า บางคนเชื่อในสิ่งสัมผัสที่มองไม่เห็นมันแล้วแต่คนที่จะเชื่ออะไรแต่ละคนทำงานไม่เหมือนกันมีการแบ่งแยกชนชั้นทำให้คนที่อยู่ต่ำกว่าเป็นคนที่ด้อยที่สุดคนที่อยู่สูงสุดมั่งจะคิดว่าตนนั้นเป็นคนที่ประเสริฐ์ที่สุดและดูถูกพวกที่ต่ำต้อยที่สุดบุคคลพวกนี้เป็นบุคคลที่น่าสงสารมากการอยู่ร่วมกันกับคนในชาติต้องมีจิตใจที่เปิดกว้างไม่ใช่จิตใจที่คับแคบจะทำให้เราอยู่ในสังคมไทยได้แบบสงบสุขและสันติสุขต้องคอยช่วยเหลือยามที่ผู้คนตกยากลำบากจากเหตุการณ์ต่างๆสังคมก็จะเป็นระเบียบมากขึ้นจากปัญหาความแตกแย้งสังคมเราก็จะพัฒนาขึ้นได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืนจะกระตุ้นให้เกิดการลงทุนทางเศรษฐกิจทำให้ประเทศเรายั่งยืนประเทศอื่นก็คอยพัฒนาตามขึ้นเรื้อยๆทางสังคมให้มีประสิทธิภาพ ความสุขของคนในชาติเพิ่มมากขึ้น เพราะมีความอยู่ดีกินดี รู้สึกปลอดภัยในการดำเนินชีวิต มีหน้าที่การงานและรายได้ที่มั่นคงการเรียนรู้วิธีการอยู่ร่วมกันในสังคมที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและแตกต่าง เพื่อปรับตัวให้เข้ากับบุคคลรอบข้าง จะก่อให้เกิดความสุขในการอาศัยอยู่ร่วมกัน ซึ่งการสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในสังคม จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของพวกเราทุกๆคนถ้าคนใดคนหนึ่งไม่ปฏิบัติตามการพัฒนาของเราก็จะยิ่งด้อยๆลงไปเรื้อยๆพวกเราควรมารวมมือรวมใจรักษาความเป็นหนึ่งเดียวกันดีกว่าเคารพซึ่งกันและกันแสดงกิริยาที่นอบน้อมต่อกันพูดดีต่อกันทั้งต่อหน้าและลับหลังยอมรับในความแตกต่างทั้งความเชื่อ ศาสนา ภาษา วัฒนธรรม เชื้อชาติ ผิวพรรณ เป็นต้นรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกันเมตตาต่อกันเอาใจเขามาใส่ใจเรา คิดถึงจิตใจของผู้อื่นแสดงความห่วงใยต่อบุคคลรอบข้าง ไม่ซ้ำเติมให้ผู้อื่นได้รับความทุกข์ยากมากขึ้นฝึกใจให้รักในการให้ มากกว่าการรับเสียสละประโยชน์ส่วนตน เพื่อประโยชน์ส่วนรวมช่วยเหลือเกื้อกูลกันบริจาคทรัพย์สิน หรือสิ่งของช่วยเหลือผู้อื่นที่ยากลำบากหรือประสบภัยต่างๆช่วยเหลือผู้อื่นทำงาน หรือช่วยงานตามความสามารถของตนด้วยความทุ่มเทและเต็มใจให้ความร่วมมือในการปฎิบัติตามข้อกำหนด หรือระเบียบของสังคมมีความซื่อสัตย์ต่อกันแสดงความจริงใจต่อกันทั้งทางกาย วาจา ใจรักษาสัจจะวาจา ต้องทำให้ได้ตามที่รับปากไว้ไม่ทุจริต หรือเอาเปรียบผู้อื่นด้วยกลอุบายต่างๆไว้วางใจกัน ไม่ระแวงผู้อื่นจนเกิดความเป็นความบาดหมางความมีระเบียบวินัยในตนเองให้กลายเป็นนิสัยไ่ลบหลู่ดูหมิ่นกันไม่ดูถูกการกระทำ คำพูด หรือความคิดของผู้อื่นไม่แสดงกิริยาหรือวาจาดูถูกศรัทธาความเชื่อ วัฒนธรรม เชื้อชาติ หรือชาติพันธุ์ของผู้อื่นเคารพสิทธิมนุษยชน ด้วยการปฎิบัติต่อกันอย่างเท่าเทียมการแพร่กระจายวัฒนธรรมและการสังสรรค์ทางวัฒนธรรมอาจสร้างความขัดแย้ง ถ้าสมาชิกในกลุ่มไม่ยอมรับซึ่งกันและกัน โดยปกติกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ความเชื่อ และภาษาพูดร่วมกันมักจะไม่มีความขัดแย้งทางวัฒนธรรม ความขัดแย้งทางวัฒนธรรมเกิดขึ้นเมื่อมีการปะทะสังสรรค์ของวัฒนธรรมที่ต่างกัน การปะทะสังสรรค์ทางวัฒนธรรมนี้เกิดจากการแพร่กระจายของวัฒนธรรมอย่างไรก็ตาม กรณีที่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์มีสูงเพราะสังคมวัฒนธรรมขัดแย้งกัน การปรับรับวัฒนธรรมซึ่งกันและกันไม่เกิดขึ้น ปัญหาเรื่องความขัดแย้งของกลุ่มชาติพันธุ์ เกิดจากการที่แต่ละฝ่ายพยายามรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของตนและไม่ยอมรับวัฒนธรรมของสังคมข้างเคียง หรือถ้าความขัดแย้งเกิดจากกรณีของการช่วงชิงอำนาจ ความสัมพันธ์จะอยู่ในลักษณะศัตรูหรือคู่ความขัดแย้งทางวัฒนธรรม(cultural conflicts) อาจเป็นคำที่ไม่คุ้นหูสำหรับหลายๆคน เป็นคำที่ใช้เรียกรวมๆของความตึงเครียด ความแตกร้าว ความเห็นที่ไม่ตรงกันอันเกิดจากการพบกันของวัฒนธรรมที่มีความแตกต่างกัน หากการสร้างกลุ่มประชากรซึ่งเป็นมาตรหลักของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศใน สมัยปัจจุบัน ให้เกิดเป็นรูปเป็นร่างอาศัยเงื่อนไขหลักอย่างหนึ่งคือความเหมือนกันของ วัฒนธรรม ก็จะสามารถแยกกลุ่มประชากรสองกลุ่มได้โดยอัตโนมัติอาศัยความต่างทางวัฒนธรรม เนื่องจากประชากรแต่ละคนจะซึมซับเอาวัฒนธรรมของกลุ่มที่ตนเองอยู่เข้าไปใน บุคลิกของตนไม่มากก็น้อย ทำให้เป็นธรรมดาที่ระหว่างปัจเจกชนซึ่งอยู่ในกลุ่มประชากรที่ต่างกันมี แนวทางความคิดและการกระทำที่ต่างกัน ยิ่งเมื่อเข้าสู่ยุคปัจจุบันที่การติดต่อระหว่างประเทศเป็นไปอย่างกว้างขวาง ประเทศที่ยืนหยัดในความเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมก็เพิ่มขึ้น ผลก็คือการเกิดความขัดแย้งทางวัฒนธรรมอันเกิดจากความแตกต่างทางวัฒนธรรมขึ้น ครั้งแล้วครั้งเล่าความขัดแย้งทางวัฒนธรรม เป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากแนวความคิดและการดำเนินวิถีชีวิตที่มีความแตก ต่างกัน ซึ่งการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในระดับนี้ต้องอาศัยระยะเวลา และต้องให้ความสำคัญกับคนทุกเชื้อชาติและทุกวัฒนธรรมดังนั้นการจัดการสังคมและวัฒนธรรมบนความหลากหลายจะต้องมีเอกภาพของคนในชาติและรัฐของตน ในขณะเดียวกันการใช้สันติวิธีผ่านกระบวนการต่างๆอย่างเป็นขั้นเป็นตอนไม่ว่า การยอมรับการคงอยู่ของความหลากหลายทางวัฒนธรรม และเชื้อชาติในฐานะที่ดิฉันเป็นเยาวชนของชาติคนหนึ่งดิฉันจึงมีความคิดเห็นให้คนในสังคมไทยหรือคนชนชาติต่างๆหันมารักและสามัคคีกันรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันทำผิดให้รู้จักขอโทษและการให้อภัยอย่านำอคติเข้ามาุทำความรุนแรงของคนในสังคมไทยเลย ถ้าเอ่ยคำว่า "หลากหลายกลายเป็นหนึ่ง" แล้วนั้นหมายถึงว่าไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามให้พวกเราลดอคติแล้วนำความที่เป็นหนึ่งของคนในชาติมารวมกันแค่นั้นชีวิตของเราก็อยู่ร่วมกับคนในชาติได้อย่างสงบสุขโดยไม่ต้องเกรงกลัวอะไรใดๆทั้งสิ้นเราพวกคุณต้องเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตซึ่งเยาวชนอย่างพวกเราจะได้นำไปสืบสานต่อให้รุ่นต่างๆได้ปัฏิบัติได้อย่างเหมาะสมพร้อมที่จะอยู่รวมกับคนในชาติ....