การจัดดอกไม้








หลักการจัดดอกไม้

สิ่งที่ต้องเตรียม

-ภาชนะสำหรับจัด หมายถึง ภาชนะสำหรับรองรับดอกไม้มีหลายชนิด เช่น
แจกันรูปทรงต่าง ๆ เช่น กระบุง ตะกร้า ชะลอม

-ที่สำหรับรองภาชนะ เมื่อจัดดอกไม้เสร็จควรมีสิ่งรองรับเพื่อความสวยงาม
ความโดดเด่นของแจกัน เช่นไม้ไผ่ขัดหรือสานเป็นแพ กระจก แป้นไม้

-กรรไกรสำหรับตัดแต่ง

-เครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น ลวด ทราย ดินน้ำมัน กระดาษสี
ฟลอร่าเทปสีเขียว ก้านมะพร้าว ลวดเบอร์
24 และ เบอร์ 30

-ดอกไม้ประดิษฐ์พร้อมใบไม้สำเร็จ

-เครื่องประกอบตกแต่ง เช่น กิ่งไม้ ขอนไม้ ตุ๊กตา ขดลวด เป็นต้น

 

ภาพ:Flo2.jpg

 

ดอกไม้ที่นิยมใช้

1.เลือกดอกไม้ตามวัตถุประสงค์สำหรับงานนั้น ๆ

2.ความทนทานของดอกไม้ประดิษฐ์

3.ขนาด เลือกให้เหมาะกับภาชนะ สถานที่ตั้ง และแบบของการจัด

4.การเลือกสี ต้องดูฉากด้านหลังและจุดประสงค์ว่าต้องการ กลมกลืน
หรือตัดกัน

5.ความนิยม เช่นดอกกุหลาบนิยมใช้ในงานมงคล ดอกบัวใช้บูชาพระ

สิ่งควรคำนึงในการจัด ดอกไม้

1.สัดส่วน ควรให้ความสูงของดอกไม้พอดีกับแจกันเช่น แจกันทรงสูง
ดอกไม้ดอกแรกควรสูง เท่ากับ
1.5 - 2 เท่าของความสูงของแจกัน สำหรับแจกันทรงเตี้ยดอกไม้ดอกแรกควรสูง
เท่ากับ
1.5 - 2 เท่าของความกว้างของแจกัน

2.ความสมดุยลควรจัดให้มีความสมดุลไม่หนักหรือเอียงข้างใดข้างหนึ่ง

3.ความกลมกลืน เป็นหัวใจของการจัดต้องมีความสัมพันธ์ทุกด้านตั้งแต่ขนาดของแจกัน
ความเล็กและใหญ่ของดอกไม้ ความมากน้อยของใบที่นำมาประกอบ

4.ความแตกต่าง เป็นการจัดที่ทำให้สวยงามสะดุดตา เช่นจัดดอกไม้เล็ก ๆ
และมีดอกใหญ่เด่นขึ้นมา

5.ช่วงจังหวะ ช่วยให้ดอกไม้มีชีวิตมากขึ้น ควรไล่ขนาด ดอกตูม ดอกแย้ม
จนถึงดอกบาน

6.การเทียบส่วน เป็นความสัมพันธ์กับส่วนต่าง ๆ เช่น
ดอกไม้ดอกเล็กควรใส่แจกันใบเล็ก ตลอดจนที่รองแจกันมีขาดเล็กด้วย

ภาพ:Flo3.jpg

รูปแบบการจัดดอกไม้

การจัดดอกไม้โดยทั่ว ๆ ไปแบ่งออกเป็น 3 แบบ ดังนี้

1.การจัดดอกไม้เลียนแบบธรรมชาติ ( เพื่อใช้เอง) เป็นการจัดดอกไม้แบบง่าย
ๆ เพื่อประดับตกแต่งบ้าน โดยอาศัยความเจริญเติบโตของต้นไม้ ดอกไม้ กิ่งไม้
นำมาจัดลงภาชนะ โดยใช้กิ่งไม้ขนาดต่าง ๆ
3 กิ่ง
การจัดดอกไม้แบบนี้ นิยมนำหลักการจัดดอกไม้จากประเทศ

2.การจัดดอกไม้แบบสากล นิยมจัด 7 รูปแบบ คือ รูปทรงแนวดิ่ง
ทรงกลม ทรงสามเหลี่ยมมุมฉากทรงสามเหลี่ยมด้านเท่า ทรงพระจันทร์คว่ำ
ทรงพระจันทร์เสี้ยว ทรงตัวเอส

3.การจัดดอกไม้แบบสมันใหม่ เป็นการจัดดอกไม้ที่มีรูปแบบอิสระ เน้นความหมายของรูปแบบบางครั้งไม่จำเป็นต้องใช้ดอกไม้แต่อาจใช้วัสดุหรือ
ภาชนะเป็นจุดเด่นเป็นการสร้างความรู้สึกให้ผู้พบเห็น การจัดดอกไม้แบบนี้ยังอาศัยหลักเกณฑ์
สัดส่วนและความสมดุลด้วย

การเตรียมดอกไม้ก่อนจัด

1.ดอกไม้ ใบไม้ ที่ซื้อมาจากตลาดต้องนำมาพักไว้ในน้ำอย่างน้อย 45
นาที - 2 ชั่วโมง

2.นำดอกไม้มาลิดใบที่ไม่สวย เหี่ยว หรือไม่จำเป็นออกไป

3.ตัดก้านดอกไม้ใต้น้ำ หากก้านไม่แข็งให้ตัดตรง
หากก้านแข็งให้ตัดเฉียงประมาณ
1
นิ้ว

4.แช่ดอกไม้พักไว้ในน้ำมาก ๆ

5.ดอกไม้ที่ซื้อมาค้างคืนให้ห่อด้วยใบตองหรือกระดาษ
นำไปแช่ไว้ในถังน้ำ เพื่อไม่ให้ดอกบานเร็ว

ภาพ:Flo4.jpg

หลักทั่วไปในการจัดแจกันดอกไม้

1.หน้าที่และประโยชน์ใช้สอย ก่อนจัดควรจะทราบวัตถุประสงค์ในการจัดตกแต่งก่อนว่า
จะใช้ในงานอะไร และจะจัดวางที่ไหน เช่น วางกลางโต๊ะ วางมุมโต๊ะ ชิดผลัก หรือแจกันติดผนัง
เป็นต้น และควรดูด้วยว่า ลักษณะของห้องที่จะจัดวางเป็นห้องลักษณะแบบใด ทรงใด
และขนาดเล็ก ปานกลางหรือใหญ่ เพื่อเราจะได้เลือกแจกันและดอกไม้ที่เหมาะสมกับห้องนั้น
ๆ ด้วย

2.สัดส่วน สัดส่วนเป็นเรื่องสำคัญมาก ที่จะกำหนดว่าแจกันที่จัดเสร็จจะสวยหรือไม่สวย
ถ้าสัดส่วนไม่สมดุลย์แจกันที่จัดออกมาก็ไม่สวย สิ่งที่ต้องคำนึง

2.1ภาชนะทรงเตี้ย ความสูงที่จัดควรเป็น 1.5-2 เท่า
ของความกว้างของภาชนะ

2.2ภาชนะทรงสูง ความสูงที่จัดควรเป็น 1.5-2 เท่า
ของความสูงของภาชนะ

3.การเทียบส่วน ระหว่างดอกไม้กับแจกัน, แจกันกับขนาดของห้อง

4.ความสมดุลย์ เป็นความถ่วงดุล เช่น ซ้ายขวาเท่ากัน หรือ สองข้างไม่เท่ากันแต่หนักไปทางใดทางหนึ่งก็ได้
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้จัด

5.การเลือกสี เส้นและขนาดให้แตกต่าง กัน เช่น สีกลาง อ่อน
เส้นที่โค้งเรียว ขนาดดอกมีใหญ่เล็กเป็นต้น

6.ความกลมกลืน คือ การเข้ากันอย่างสอดคล้องระหว่างองค์ประกอบต่าง ๆ

7.ความแตกต่าง เช่น สีของดอก ใบ และภาชนะที่มีสีแตกต่างกัน
แต่ความแตกต่างไม่ควรเกิน
20%

8.การสร้างจุดเด่น คือ จัดให้มีตัวเด่น ตัวรอง และให้มีการส่งเสริมกันและกัน

การจัดดอกไม้สำหรับงานเเต่งงาน

หลักในการจัดดอกไม้ในงานเเต่ง

ภาพ:Flo8.jpg

ดอกไม้ในงานแต่งงาน เปรียบได้กับเครื่องประดับชิ้นสวยของงาน ที่เจ้าภาพจัดเตรียมไว้ต้อนรับสร้างความประทับใจให้กับแขกเหรื่อ
และยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะช่วยทำให้ความทรงจำที่เก็บไว้ในภาพถ่ายงดงาม

นักจัดดอกไม้ได้เห็นพ้องต้องกันว่า การจัดดอกไม้ในงานแต่งงานไม่ได้ยึดถือเรื่องเทรนด์เป็นสำคัญ
ขึ้นอยู่กับฤดูกาลของดอกไม้และความชอบของคู่บ่าว-สาวมากกว่า ดังนั้นก่อนจะไปพบนักจัดดอกไม้
คุณควรทำการบ้านโดยการพูดคุยตกลงกันว่าด้วยประเด็นต่างๆดังต่อไปนี้

       ต้องมีคอนเซ็ปต์ชัดเจนในใจ ว่าจะจัดงานแต่งงานแบบไหน ชอบดอกไม้โทนสีอะไร
สไตล์ไหน ทุกวันนี้คนนิยมจัดดอกไม้โทนสีขาว-เขียว เพราะเป็นสีที่ปลอดภัยหายห่วง
ดูเรียบร้อยและโก้หรู แต่เวลาถ่ายรูปออกมาสีอาจจืดชืดไป ถ้าคุณชอบสีสันสดใส แนะนำให้ลองจัดธีมสีแดง-ชมพู
หรือสีเหลือง-ส้ม โทนสีเหล่านี้มีดอกไม้ให้เลือกใช้ได้มากมายหลายชนิด

      เมื่อเห็นพ้องต้องกันแล้ว
อย่าลืมถามความเห็นชอบของครอบครัวด้วย โดยเฉพาะญาติผู้ใหญ่ที่ช่วยซัพพอร์ทงบประมาณการจัดงานแต่งงานให้คุณ
หากขัดแย้งกันควรพูดคุยให้เข้าใจ ดีกว่าต้องมารื้อหน้างาน เพราะจะเป็นเรื่องวุ่นวายมาก

     หาสถานที่จัดงานให้เรียบร้อยเสียก่อน คอนเซ็ปต์ของดอกไม้ที่คุณคิดไว้ควรไปกันได้กับสไตล์ของห้องที่จะจัดงาน
เช่น ถ้าห้องหรูหรา ใหญ่โต แต่อยากจัดดอกไม้สไตล์มินิมัลลิสม์คงไม่เหมาะ เพราะดอกไม้จะจมหายไปทันที

     งบประมาณ ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวให้ความสำคัญกับดอกไม้ในงานแต่งงานมากแค่ไหน
นักจัดดอกไม้ส่วนใหญ่ชอบให้ลูกค้าบอกงบประมาณในใจมาก่อน เพราะจะทำงานได้ง่ายขึ้น
รู้ว่าควรจะครีเอทมากแค่ไหน เพราะถ้าให้คิดไปก่อนโดยไม่บอกงบประมาณ
บางคนอาจมีไอเดียบรรเจิด อยากสร้างสรรค์งานของคุณให้สวยที่สุด แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้
เพราะติดเรื่องงบประมาณ ทำให้เสียเวลากันทั้งสองฝ่าย

     เมื่อทราบงบประมาณคร่าวๆ นักจัดดอกไม้จะดีไซน์การจัดดอกไม้เลือกชนิดของดอกไม้ที่จะใช้
แล้วกลับมาคุยกันอีกครั้ง หากคุณชอบใจและตกลงราคากันได้ จะต้องเตรียมสตางค์ไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานล่วงหน้าด้วย
จำนวนเงินจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่จะตกลงกัน

     ควรมีเวลาเตรียมงานล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งเดือน เพราะนักจัดดอกไม้จะต้องไปดูขนาดห้องที่จะจัดงานเพื่อออกแบบและคิดคำนวนว่า
จะต้องใช้ดอกไม้มากน้อยแค่ไหนถึงกำลังสวย แล้วจึงสั่งดอกไม้ ดอกไม้บางชนิดต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
แล้วยังต้องเตรียมงานโครงสร้างต่างๆ เช่น โครงเหล็กซุ้มประตู ทำ
backdrop หรือฉากหลังไว้สำหรับถ่ายรูป

ประเภทของการจัดดอกไม้

จัดดอกไม้สไตล์ Topiar

ภาพ:Flo6.jpg

โทปิอารี่ (Topiary) เป็นศิลปะการตกแต่งไม้พุ่มให้เป็นรูปทรงต่างๆ
โดยเฉพาะรูปทรงเรขาคณิต เช่น รูปทรงกลม รูปสามเหลี่ยม หรือรูปสี่เหลี่ยม
รวมทั้งการตกแต่งให้เป็นรูปคน สัตว์ หรือสิ่งของต่างๆ ซึ่งศิลปการตกแต่งดังกล่าวนี้เป็นที่นิยมตั้งแต่ยุคโบราณจนกระทั่งถึง
ปัจจุบันนี้และต่อมานักจัดดอกไม้ก็ได้นำศิลปะการจัดโทปิอารี่มาใช้ในการจัด ดอกไม้ด้วย
โดยโทปิอารี่ที่จัดง่ายที่สุดคือรูปทรงกลม และดอกไม้ที่จัดโทปิอารี่ได้สวยที่สุดก็คือ
ดอกกุหลาบนั่นเอง

การจัดดอกไม้รวม


ภาพ:Flo7.jpg

 การจัดดอกไม้รวมให้ออกมาดี คือ ดอกไม้แต่ละแบบต้องส่งเสริมซึ่งกันและกัน
และการส่งเสริมกันนี้ จะทำให้ความงามของดอกไม้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

การจัดดอกไม้สีโทนร้อน

ภาพ:Flo9.jpg

 สีโทนร้อนได้แก่ สีแดง สีส้มหรือสีแสด สีเหลือง สีม่วง เป็นต้น
สีโทนร้อนเป็นสีที่แสดงถึงพลัง ความบ้าคลั่ง ความตื่นเต้นเร้าใจ การเย้ายวน
ความกระฉับกระเฉง และไม่พ่ายแพ้ง่าย ๆ ถ้าคุณจะจัดดอกไม้โทนร้อนในบ้าน
ควรเลือกมุมที่แสงแดดส่องถึง การจัดลำดับสีโทนร้อนมีความหลากหลาย ที่จะทำให้คุณมีความคิดสร้างสรรค์แบบไม่จำกัด

การจัดดอกไม้สีโทนอ่อน 

ภาพ:Flo11.jpg

สีโทนอ่อนเป็นสีเย็นตา เช่น สีขาว มักใช้ในโอกาศสำคัญเกี่ยวกับทางศาสนา
เช่น งานแต่ง ดอกไม้สีขาวเป็นทางเลือกคลาสสิค ความงามตามธรรมชาติของดอกไม้สีอ่อน ทำให้ดูดีขึ้นได้ด้วยการเลือกใบอย่างชาญฉลาด
ภาชนะที่ใส่ถ้าเป็นดอกสีขาว




ภาชนะอาจจะเลือกให้อยู่ในโทนเดียวกันก็ได้ จะให้ความงามที่สบายตา และดูมีรสนิยม




การจัดดอกไม้ขนาดใหญ่

ภาพ:Flo13.jpg

การจัดดอกไม้ขนาดใหญ่ ต้องการภาชนะที่ใหญ่และหนัก ภาชนะที่ใช้อาจจะเป็นแจกันขนาดใหญ่
โอ่งขนาดเล็กหรือกลาง หรือง่าย ๆ ถังสีที่คุณใช้แล้ว ทำความสะอาดสักหน่อย ก็จะให้ความสวยที่ไม่แพ้กับแจกันราคาแพง
ยิ่งเป็นการจัดดอกไม้ใหญ่เท่าไร ความสำคัญของภาชนะก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
เนื่องจากเป็นจุดสนใจด้วย

การจัดดอกไม้สมัยใหม่

ภาพ:Callas.jpg

 การจัดดอกไม้แบบสมัยใหม่ ดูเหมือนจะได้รับอิทธิพลมาจากญี่ปุ่นเป็นอันมาก โดยมีอิทธิพลของจิตรกรเป็นส่วนประกอบด้วย
เพราะลักษณะรูปแบบในการจัดดอกไม้ตามแบบสมัยใหม่ มีทีท่าส่อไปในรูปแบบที่คำนึงถึงความง่าย
ความสะดวก เช่นเดียวกับการจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่น ไม่พิถีพิถันในการเลือกสรรวัสดุการจัดและอุปกรณ์แต่อย่างได
หากแต่ว่าได้เน้นหนักไปในทางที่จะต้องทำให้ได้ส่วนสัมพันธ์และรับกันกับแบบ ของเครื่องเรือนหรือลักษณะและรูปแบบของห้องที่นำมันไปประดับเป็นส่วนประกอบ
มากกว่าอื่นใดทั้งหมด

        ความสวยงามละลานตาตามคติเก่าๆ ในการจัดดอกไม้ แทบจะไร้ความหมาย สำหรับการจัดดอกไม้ตามแบบสมัยใหม่นี้
เหตุนี้เอง หลักสำคัญในการจัดดอกไม้แบบนี้จึงขึ้นอยู่กับแนวหรือเส้นของรูปพรรณ อันเป็นผลทำให้ไม้และใบไม้ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญยิ่งกว่าดอกไม้เสียด้วยซ้ำ

        การคำนึงในเรื่องของสีได้เป็นสิ่งที่พึงระมัดระวังเป็นกรณี พิเศษทีเดียว
เพราะรสนิยมของคนในสมัยใหม่นั้น ส่วนมากมักไม่ใคร่ชอบสีที่ตัดกันอย่างแท้จริง หากแต่ชอบสีที่กลมกลืนคล้ายคลึงกันมากกว่า
เช่น ห้องสีแดง ก็มักจะจัดดอกไม้สีแดงแก่หรืออ่อน หรือสีชมพู หรือสีส้ม อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองสามอย่างควบคู่กัน
ทั้งนี้ต้องแล้วแต่รสนิยมของแต่ละบุคคล ยิ่งไปกว่านั้น แม้การเลือกสีจะเป็นสีที่มีโทนเดียวกัน
แต่ก็ยังต้องคำนึงถึงน้ำหนักของสีอีกด้วย กล่าวคือ มักจะไม่นิยมใช้สีที่สดกว่า
หรือแก่กว่ากันจนเกินไป ถ้าสมมุติว่า ห้องนั้นเป็นสีอ่อนหรือสีจางๆ
ก็มักจะต้องใช้ดอกไม้สีอ่อนหรือจางด้วย จะเข้มกว่าหรือจางกว่าก็เพียงเล็กน้อย
ไม่แตกต่างกันจนเกินไปนัก

การจัดดอกไม้แบบสมัยใหม่นั้น

เราอาจจะแบ่งออกได้เป็น
3 ประเภท คือ

        แบบโมเดิร์น หรือแบบทันสมัย

        แบบแอ๊บสแตร็ค หรือแบบคำนึงถึงสัญลักษณ์มากกว่าความสมจริง

        แบบแฟนซี หรือแบบที่ดูแปลกๆ พิสดาร

        ลักษณะ วิธีการ และรูปแบบ การจัดดอกไม้แบบสมัยใหม่ทั้ง 3 ประการนั้น ส่วนใหญ่มิได้แตกต่างกันมากนัก เพราะหลักการสำคัญที่ยึดถืออยู่ก็คือ
เส้นหรือแนวนั้นเอง จนอาจจะกล่าวได้ว่า เป็นการจัดแบบเดียวกัน
แต่ที่แยกประเภทเอาไว้นั้น ก็เพื่อที่จะให้เป็นที่เห็นได้ชัดเจนขึ้น และเป็นการสะดวกที่จะทำความเข้าใจกันในโอการต่อไปเท่านั้น

        งานศิลปะนั้น ไม่ว่าจะเป็นศิลปะประเภทใด ต่างก็ต้องการรูปแบบที่สร้างสรรค์
เป็นตัวของตัวเอง ไม่ลอกเลียนแบบใคร ทั้งนี้หากเราสร้างสรรค์งานศิลปะได้แต่เพียงวิธีที่ต้องลอกเลียนแบบเสียแล้ว
งานก็ย่อมไม่ก้าวหน้า ความสามารถก็จะมีอยู่ในขอบเขตที่จำกัด ถ้าเปรียบเทียบ ก็จะเหมือนกับนกแก้วหรือนกขุนทองที่พูดได้ก็เฉพาะถ้อยคำที่เจ้าของสอนเอาไว้
ให้พูดเท่านั้น จะคิดหรือพูดคำอื่นๆ ไม่ได้ ซึ่งมันไม่ผิดอะไรกับเครื่องจักร
ดังเช่นวิทยุ โทรทัศน์ ที่จะเกิดภาพหรือมีเสียงก็แต่เฉพาะที่คนจัดรายการส่งออกอากาศเท่านั้น
คนที่รับฟังหรือชมอยู่ แม้จะอยากชมสิ่งแปลก ก็ไม่สามารถฟังหรือชมได้ดังใจปรารถนา
ค่าของมันก็ลดน้อยลง คราวนี้ถ้าเรามาลองสมมุติกันดูว่า หากเรามีโทรศัพท์ที่สามารถจะให้ภาพให้เสียงได้ตามที่ใจเราต้องการจะได้เห็น
ได้ยิน หรือมีวิทยุที่สามารถส่งเสียงเพลงที่เราต้องการฟังได้ทุกขณะทุกเวลา วิทยุหรือโทรทัศน์เครื่องนั้นๆ
จะกลายเป็นของที่มีค่าเลอเลิศเพียงใดเห็นจะไม่จำเป็นต้องพูดถึงกันอีก

 

สร้างโดย: 
นางสาวรัตนา เทียนสี

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 442 คน กำลังออนไลน์