• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:c447a58c5b71cd5b9f8c3a1d23a44b79' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p><H2 style=\"TEXT-ALIGN: left\">&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; <IMG title=Cry border=0 alt=Cry src=\"http://www.thaigoodview.com/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-cry.gif\" />&nbsp;<IMG title=Cry border=0 alt=Cry src=\"http://www.thaigoodview.com/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-cry.gif\" /><SPAN style=\"COLOR: #808000\">มารยาทในการไปงานศพ</span><IMG title=Cry border=0 alt=Cry src=\"http://www.thaigoodview.com/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-cry.gif\" /><IMG title=Cry border=0 alt=Cry src=\"http://www.thaigoodview.com/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-cry.gif\" />&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;</h2><br />\n</p><P style=\"TEXT-ALIGN: left\">&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;</p><br />\n<H2><SPAN style=\"COLOR: #000000\">ที่มา: </span><SPAN style=\"COLOR: #333333\"><A href=\"http://www.kalyanamitra.org/culture/index36.html\"><SPAN style=\"COLOR: #333333\">http://www.kalyanamitra.org/culture/index36.html</span></a></span></h2><br />\n<H2><SPAN style=\"COLOR: #000000\">การไปรดน้ำศพ</span></h2><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">๑. แต่งกายไว้ทุกข์ตามความนิยมของสังคมท้องถิ่นนั้น ๆ</span></h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ๒. การรดน้ำศพถือสืบกันมาว่า&nbsp; ไปขอขมาโทษ&nbsp; เพื่อจะได้ไม่มีเวรภัยต่อกัน</span></h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ๓. นิยมรดเฉพาะท่านผู้มีอายุสูงกว่า หรือรุ่นราวคราวเดียวกันเท่านั้น</span></h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ๔. ผู้มีอายุมากกว่าผู้ตาม ก็ไปร่วมงานให้กำลังใจเจ้าภาพ แต่ไม่นิยมรดน้ำศพ</span></h5><br />\n<P>&nbsp;</p><br />\n<H2><SPAN style=\"COLOR: #000000\">วิธีปฏิบัติการรดน้ำศพคฤหัสถ์</span></h2><br />\n<H5>&nbsp;<SPAN style=\"COLOR: #000000\">๑. ถ้าอาวุโสมากกว่าตน ก่อนรดน้ำศพ นิยมนั่งคุกเข่าน้อมตัวลง ยกมือไหว้ พร้อมกับนึกขอขมาโทษต่อศพนั้นว่า&nbsp;</span></h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">&nbsp; “หากได้ล่วงเกินท่าน ทั้งทางกาย วาจา ใจ ก็ดี ขอท่านโปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด”</span></h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">&nbsp;๒. เมื่อยกมือไหว้ขอขมาแล้ว ถือภาชนะสำหรับรดน้ำด้วยมือทั้งสอง เทน้ำลงที่ฝ่ามือขวาของศพ&nbsp; พร้อมกับนึกในใจว่า&nbsp; “ร่างกายที่ตามแล้วนี้ ย่อมเป็นอโหสิกรรมไม่มีโทษ เหมือนน้ำที่รดแล้วฉะนั้น”</span></h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">&nbsp;&nbsp;๓. เมื่อรดน้ำศพเสร็จแล้ว นิยมน้อมตัวลงไหว้พร้อมกับอธิฐานว่า “ขอจงไปสู่สุคติเถิด”</span></h5><br />\n<H2><SPAN style=\"COLOR: #000000\">วิธีปฏิบัติการรดน้ำศพพระสงฆ์</span></h2><br />\n<H5>&nbsp;<SPAN style=\"COLOR: #000000\">&nbsp;๑. นั่งคุกเข่าตามเพศกราบเบญจางคประดิษฐ์ ๓ ครั้ง พร้อมกับนึกขอขมาโทษว่า </span></h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">“หากได้ล่วงเกินท่านทั้งทางกาย&nbsp; วาจา&nbsp; ใจ ก็ดี ขอท่านโปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด”</span></h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">&nbsp;๒. เมื่อขอขมาโทษเสร็จแล้ว&nbsp; พึงถือภาชนะด้วยทั้งสองเทน้ำรดลงที่ฝ่ามือขวาของศพ พร้อมกับนึกในใจว่า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;</span></h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">“ร่างกายที่ตามแล้วนี้ ย่อมเป็นอโหสิกรรมไม่มีโทษ เหมือนน้ำที่รดแล้วฉะนั้น”</span></h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">๓. เมื่อรดเสร็จแล้ว กราบเบญจางคประดิษฐ์อีก ๓ ครั้ง พร้อมกับนึกอธิฐานว่า “ขอจงไปสู่สุคติเถิด”</span></h5><br />\n<P>&nbsp;</p><br />\n<H2><SPAN style=\"COLOR: #000000\">การไปงานตั้งศพบำเพ็ญกุศล</span></h2><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">&nbsp;๑. นิยมแต่งกายไว้ทุกข์ตามความนิยมของสังคมท้องถิ่นนั้น ๆ</span></h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">๒.นิยมนำพวงหรีดหรือกระเช้าดอกไม้ แจกันดอกไม้ หรือพวงดอกไม้ อย่างใดอย่างหนึ่งตามควร&nbsp;แก่ฐานะตนไปแสดงความเคารพด้วย</span></h5><br />\n<H2><SPAN style=\"COLOR: #000000\">&nbsp;การแสดงความเคารพศพของคฤหัสถ์</span></h2><br />\n<H5>&nbsp;<SPAN style=\"COLOR: #000000\">๑. ถ้ามีอาวุโสมากกว่าตน นิยมนำพวงหรีดไปด้วย เมื่อวางหวงหรีดแล้ว ถ้าแต่งเครื่องแบบราชการ &nbsp;นิยมยืนตรงโค้งคำนับ ถ้ามิได้แต่งเครื่องแบบ ยืนตรงน้อมตัวลงยกมือไหว้</span></h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">๒. ถ้านำกระเช้าดอกไม้แจกันดอกไม้ หรือพวงหรีดดอกไม้ไปเคารพศพ&nbsp; เมื่อวางกระเช้าดอกไม้แล้ว</span><SPAN style=\"COLOR: #000000\">นิยมนั่งคุกเข่าราบ ทั้งเพศชายและหญิง จุดธูป ๑ ดอก ประนมมือยกธูปขึ้นจบ ให้ปลายนิ้วชี้อยู่ระหว่าง คิ้วตั้งจิตขอขมาโทษ (เหมือนดังที่กล่าวไว้แล้ว)</span></h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">&nbsp;๓. เมื่อขอขมาแล้วพึงปักธูป ณ ที่ปัก นั่งพักเพียบหมอบกราบ กระพุ่มมือ (คือนั่งพับเพียบตะแคงตัวข้างขวาหันหน้าไปทางศพ&nbsp; วางมือขวาลงก่อน แล้ววางมือซ้ายลงแนบกับมือขวา ประนมมือตั้งอยู่กับพื้นพร้อมกับหมอบให้หน้าผากลงจรด ล้นมือ) พร้อมตั้งใจอธิฐานแล้วลุกขึ้น<SPAN style=\"COLOR: #000000\">&nbsp;๑. นิยมแต่งกายตามแบบเช่นเดียวกับศพคฤหัสถ์</span></span></h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">&nbsp; ๒. เมื่อวางเครื่องสักการะบูชาแล้ว นิยมนั่งคุกเข่าตามเพศ จุดธูป ๑ ดอก ประนมมือยกธูปขึ้นตั้งให้ปลายนิ้วหัวแม่มืออยู่ระหว่างคิ้ว ปลายนิ้วชี้จรดหน้าผากพร้อมกับตั้งใจขอขมาโทษ</span></h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\"></span></h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">&nbsp;๓. เมื่อขอขมาโทษแล้ว พึงปักธูป ณ ที่ปักธูป กราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ ๓ ครั้ง พร้อมกับนึกอธิฐาน</span></h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\"></span></h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">หมายเหตุ : ถ้าเป็นผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องประกอบเกียรติศพนั้น ผู้ไปเคารพไม่ต้องจุดธูปบูชาศพ</span></h5><br />\n<H2>&nbsp;<SPAN style=\"COLOR: #000000\">การแสดงความเคารพศพพระสงฆ์</span></h2><br />\n<H5>&nbsp;<SPAN style=\"COLOR: #000000\">&nbsp;๑. นิยมแต่งกายตามแบบเช่นเดียวกับศพคฤหัสถ์</span></h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">&nbsp; ๒. เมื่อวางเครื่องสักการะบูชาแล้ว นิยมนั่งคุกเข่าตามเพศ จุดธูป ๑ ดอก ประนมมือยกธูปขึ้นตั้งให้ปลายนิ้วหัวแม่มืออยู่ระหว่างคิ้ว ปลายนิ้วชี้จรดหน้าผากพร้อมกับตั้งใจขอขมาโทษ</span></h5><br />\n<H5>&nbsp;๓. เมื่อขอขมาโทษแล้ว พึงปักธูป ณ ที่ปักธูป กราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ ๓ ครั้ง พร้อมกับนึกอธิฐาน</h5><br />\n<P>&nbsp;</p><br />\n<H2>การไปงานเผาศพ</h2><br />\n<P>&nbsp;</p><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">นิยมแต่งกายไว้ทุกข์ตามความนิยมของสังคมท้องถิ่นนั้น ๆ</span></h5><br />\n<H5>&nbsp;</h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">ลำดับการขึ้นเมรุเผาศพ</span></h5><br />\n<H5>&nbsp;</h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">๑. ถ้าเป็นงานพระราชทานเพลิงศพ นิยมขึ้นเมรุตามลำดับทางคุณวุฒิ คือผู้มียศถาบรรดาศักดิ์สูงกว่า ขึ้นไปเผาก่อน ผู้มีคุณวุฒิน้อยกว่าขึ้นภายหลัง</span></h5><br />\n<H5>&nbsp;</h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">&nbsp;๒. ถ้าเป็นงานฌาปนกิจศพ นิยมขึ้นเมรุเผาศพตามลำดับทางวัยวุฒิ คือ อายุมากกว่าขึ้นไปเผาก่อนผู้มีอายุน้อยกว่าขึ้นภายหลัง</span></h5><br />\n<P><SPAN style=\"COLOR: #000000\"></span></p><br />\n<H2><SPAN style=\"COLOR: #000000\">วิธีปฏิบัติในการเผาศพ</span></h2><br />\n<P>&nbsp;</p><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">เมื่อขึ้นไปถึงเมรุแล้วนิยมยืนตรง ห่างจากศพประมาณ ๑ ก้าว ถ้าแต่งเครื่องแบบราชการนิยมยืนตรงโค้งคำนับ&nbsp; ถ้าไม่ได้แต่งเครื่องแบบนิยมน้อมตัวลงยกมือไหว้พร้อมทั้งธูปเทียนดอกไม้จันทน์ในมือ (เฉพาะศพที่มีอายุมากกว่าหรือรุ่นราวคราวเดียวกัน) แล้วตั้งจิตขอขมาโทษ</span></h5><br />\n<H5>&nbsp;</h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">เมื่อตั้งจิตขอขมาโทษแล้วน้อมตัวลง วางธูป เทียน ดอกไม้จันทน์ที่เชิงตะกอนพร้อมกับพิจารณาถึงความตายว่า “ร่ายกายของเราแม้นี้แล ย่อมถึงความตายเป็นธรรมดาอย่างนี้&nbsp; มีปกติเป็นอย่างนี้ ไม่ล่วงพ้นความตายอย่างนี้ไปได้”&nbsp; จากนั้นยืนตรงโค้งคำนับหรือยกมือไหว้อีกครั้ง แล้วนึกอธิษฐานในใจว่า “ขอจงไปสู่สุคติเถิด”</span></h5><br />\n<H5>&nbsp;</h5><br />\n<H5><SPAN style=\"COLOR: #000000\">การที่ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลายขึ้นไปทำพิธีเผาศพพร้อมกันนั้น&nbsp; เป็นพิธีการแสดงความเคารพต่อศพเท่านั้น&nbsp; ยังไม่ใช่พิธีการเผาศพ&nbsp; แต่เมื่อเสร็จขั้นตอนแสดงความเคารพศพแล้ว นิยมให้วางศาคณาญาติ&nbsp; มิตรสหาย&nbsp; ผู้ใกล้ชิดกับผู้ตายขึ้นไปทำการเผาศพจริงอีกครั้ง&nbsp; จึงเสร็จพิธีเผาศพบริบูรณ์</span></h5><br />\n<P><SPAN style=\"COLOR: #000000\"></span></p>\n', created = 1728185352, expire = 1728271752, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:c447a58c5b71cd5b9f8c3a1d23a44b79' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

มารยาทไปงานศพ

                                Cry CryมารยาทในการไปงานศพCryCry       


            


ที่มา: http://www.kalyanamitra.org/culture/index36.html


การไปรดน้ำศพ


๑. แต่งกายไว้ทุกข์ตามความนิยมของสังคมท้องถิ่นนั้น ๆ

       ๒. การรดน้ำศพถือสืบกันมาว่า  ไปขอขมาโทษ  เพื่อจะได้ไม่มีเวรภัยต่อกัน

       ๓. นิยมรดเฉพาะท่านผู้มีอายุสูงกว่า หรือรุ่นราวคราวเดียวกันเท่านั้น

       ๔. ผู้มีอายุมากกว่าผู้ตาม ก็ไปร่วมงานให้กำลังใจเจ้าภาพ แต่ไม่นิยมรดน้ำศพ

 


วิธีปฏิบัติการรดน้ำศพคฤหัสถ์


 ๑. ถ้าอาวุโสมากกว่าตน ก่อนรดน้ำศพ นิยมนั่งคุกเข่าน้อมตัวลง ยกมือไหว้ พร้อมกับนึกขอขมาโทษต่อศพนั้นว่า 

  “หากได้ล่วงเกินท่าน ทั้งทางกาย วาจา ใจ ก็ดี ขอท่านโปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด”

 ๒. เมื่อยกมือไหว้ขอขมาแล้ว ถือภาชนะสำหรับรดน้ำด้วยมือทั้งสอง เทน้ำลงที่ฝ่ามือขวาของศพ  พร้อมกับนึกในใจว่า  “ร่างกายที่ตามแล้วนี้ ย่อมเป็นอโหสิกรรมไม่มีโทษ เหมือนน้ำที่รดแล้วฉะนั้น”

  ๓. เมื่อรดน้ำศพเสร็จแล้ว นิยมน้อมตัวลงไหว้พร้อมกับอธิฐานว่า “ขอจงไปสู่สุคติเถิด”

วิธีปฏิบัติการรดน้ำศพพระสงฆ์


  ๑. นั่งคุกเข่าตามเพศกราบเบญจางคประดิษฐ์ ๓ ครั้ง พร้อมกับนึกขอขมาโทษว่า

“หากได้ล่วงเกินท่านทั้งทางกาย  วาจา  ใจ ก็ดี ขอท่านโปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด”

 ๒. เมื่อขอขมาโทษเสร็จแล้ว  พึงถือภาชนะด้วยทั้งสองเทน้ำรดลงที่ฝ่ามือขวาของศพ พร้อมกับนึกในใจว่า              

“ร่างกายที่ตามแล้วนี้ ย่อมเป็นอโหสิกรรมไม่มีโทษ เหมือนน้ำที่รดแล้วฉะนั้น”

๓. เมื่อรดเสร็จแล้ว กราบเบญจางคประดิษฐ์อีก ๓ ครั้ง พร้อมกับนึกอธิฐานว่า “ขอจงไปสู่สุคติเถิด”

 


การไปงานตั้งศพบำเพ็ญกุศล


 ๑. นิยมแต่งกายไว้ทุกข์ตามความนิยมของสังคมท้องถิ่นนั้น ๆ

๒.นิยมนำพวงหรีดหรือกระเช้าดอกไม้ แจกันดอกไม้ หรือพวงดอกไม้ อย่างใดอย่างหนึ่งตามควร แก่ฐานะตนไปแสดงความเคารพด้วย

 การแสดงความเคารพศพของคฤหัสถ์


 ๑. ถ้ามีอาวุโสมากกว่าตน นิยมนำพวงหรีดไปด้วย เมื่อวางหวงหรีดแล้ว ถ้าแต่งเครื่องแบบราชการ  นิยมยืนตรงโค้งคำนับ ถ้ามิได้แต่งเครื่องแบบ ยืนตรงน้อมตัวลงยกมือไหว้

๒. ถ้านำกระเช้าดอกไม้แจกันดอกไม้ หรือพวงหรีดดอกไม้ไปเคารพศพ  เมื่อวางกระเช้าดอกไม้แล้วนิยมนั่งคุกเข่าราบ ทั้งเพศชายและหญิง จุดธูป ๑ ดอก ประนมมือยกธูปขึ้นจบ ให้ปลายนิ้วชี้อยู่ระหว่าง คิ้วตั้งจิตขอขมาโทษ (เหมือนดังที่กล่าวไว้แล้ว)

 ๓. เมื่อขอขมาแล้วพึงปักธูป ณ ที่ปัก นั่งพักเพียบหมอบกราบ กระพุ่มมือ (คือนั่งพับเพียบตะแคงตัวข้างขวาหันหน้าไปทางศพ  วางมือขวาลงก่อน แล้ววางมือซ้ายลงแนบกับมือขวา ประนมมือตั้งอยู่กับพื้นพร้อมกับหมอบให้หน้าผากลงจรด ล้นมือ) พร้อมตั้งใจอธิฐานแล้วลุกขึ้น ๑. นิยมแต่งกายตามแบบเช่นเดียวกับศพคฤหัสถ์

  ๒. เมื่อวางเครื่องสักการะบูชาแล้ว นิยมนั่งคุกเข่าตามเพศ จุดธูป ๑ ดอก ประนมมือยกธูปขึ้นตั้งให้ปลายนิ้วหัวแม่มืออยู่ระหว่างคิ้ว ปลายนิ้วชี้จรดหน้าผากพร้อมกับตั้งใจขอขมาโทษ


 ๓. เมื่อขอขมาโทษแล้ว พึงปักธูป ณ ที่ปักธูป กราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ ๓ ครั้ง พร้อมกับนึกอธิฐาน


หมายเหตุ : ถ้าเป็นผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องประกอบเกียรติศพนั้น ผู้ไปเคารพไม่ต้องจุดธูปบูชาศพ

 การแสดงความเคารพศพพระสงฆ์


  ๑. นิยมแต่งกายตามแบบเช่นเดียวกับศพคฤหัสถ์

  ๒. เมื่อวางเครื่องสักการะบูชาแล้ว นิยมนั่งคุกเข่าตามเพศ จุดธูป ๑ ดอก ประนมมือยกธูปขึ้นตั้งให้ปลายนิ้วหัวแม่มืออยู่ระหว่างคิ้ว ปลายนิ้วชี้จรดหน้าผากพร้อมกับตั้งใจขอขมาโทษ

 ๓. เมื่อขอขมาโทษแล้ว พึงปักธูป ณ ที่ปักธูป กราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ ๓ ครั้ง พร้อมกับนึกอธิฐาน

 


การไปงานเผาศพ


 


นิยมแต่งกายไว้ทุกข์ตามความนิยมของสังคมท้องถิ่นนั้น ๆ

 

ลำดับการขึ้นเมรุเผาศพ

 

๑. ถ้าเป็นงานพระราชทานเพลิงศพ นิยมขึ้นเมรุตามลำดับทางคุณวุฒิ คือผู้มียศถาบรรดาศักดิ์สูงกว่า ขึ้นไปเผาก่อน ผู้มีคุณวุฒิน้อยกว่าขึ้นภายหลัง

 

 ๒. ถ้าเป็นงานฌาปนกิจศพ นิยมขึ้นเมรุเผาศพตามลำดับทางวัยวุฒิ คือ อายุมากกว่าขึ้นไปเผาก่อนผู้มีอายุน้อยกว่าขึ้นภายหลัง


วิธีปฏิบัติในการเผาศพ


 


เมื่อขึ้นไปถึงเมรุแล้วนิยมยืนตรง ห่างจากศพประมาณ ๑ ก้าว ถ้าแต่งเครื่องแบบราชการนิยมยืนตรงโค้งคำนับ  ถ้าไม่ได้แต่งเครื่องแบบนิยมน้อมตัวลงยกมือไหว้พร้อมทั้งธูปเทียนดอกไม้จันทน์ในมือ (เฉพาะศพที่มีอายุมากกว่าหรือรุ่นราวคราวเดียวกัน) แล้วตั้งจิตขอขมาโทษ

 

เมื่อตั้งจิตขอขมาโทษแล้วน้อมตัวลง วางธูป เทียน ดอกไม้จันทน์ที่เชิงตะกอนพร้อมกับพิจารณาถึงความตายว่า “ร่ายกายของเราแม้นี้แล ย่อมถึงความตายเป็นธรรมดาอย่างนี้  มีปกติเป็นอย่างนี้ ไม่ล่วงพ้นความตายอย่างนี้ไปได้”  จากนั้นยืนตรงโค้งคำนับหรือยกมือไหว้อีกครั้ง แล้วนึกอธิษฐานในใจว่า “ขอจงไปสู่สุคติเถิด”

 

การที่ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลายขึ้นไปทำพิธีเผาศพพร้อมกันนั้น  เป็นพิธีการแสดงความเคารพต่อศพเท่านั้น  ยังไม่ใช่พิธีการเผาศพ  แต่เมื่อเสร็จขั้นตอนแสดงความเคารพศพแล้ว นิยมให้วางศาคณาญาติ  มิตรสหาย  ผู้ใกล้ชิดกับผู้ตายขึ้นไปทำการเผาศพจริงอีกครั้ง  จึงเสร็จพิธีเผาศพบริบูรณ์

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 626 คน กำลังออนไลน์