• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:65203955ccf76f3a3e3faba6eea8725c' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>จุดเริ่มต้นของสงครามเย็นก่อตัวขึ้นเมื่อ สหภาพโซเวียตขยายอิทธิพลลัทธิคอมมิวนิสต์เข้าไปยังเขตยุโรปตะวันออก ประเทศโปแลนด์ ฮังการี ยูโกสลาเวีย แอลเบเนีย บัลแกเรีย โรมาเนียและเซคโกสโลวะเกีย ตกเป็นประเทศบริวาร ขณะเดียวกันสหภาพโซเวียตยังต้องการ คุมช่องแคบอสฟอรัสและช่องแคบดาร์ดะแนลล์ ซึ่งเป็นเส้นทางการเดินเรือระหว่างทะเลดำกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ดังนั้นสหภาพโซเวียตจึงส่งกองทัพเข้ารุกรานตุรกีและกรีซซึ่งเป็นรัฐในอารักขาของอังกฤษ อังกฤษไม่สามารถต้านทาน อิทธิพลของสหภาพโซเวียตได้ จึงขอความช่วยเหลือไปยังสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีทรูแมน (Harry S. Truman) ได้ออกประกาศหลักการทรูแมน (Truman Doctrine) ซึ่งมีสาระสำคัญว่าสหรัฐอเมริกาจะให้การสนับสนุนแก่ประเทศ เสรีทั้งหลายให้พ้นจากการคุกคามของลัทธิคอมมิวนิตส์ โดยจะให้ความช่วยเหลือทั้งทางการเงินและการทหาร สหภาพโซเวียตไม่พอใจและต่อโต้ด้วยการเรียกร้องให้ประเทศคอมมิวนิสต์ทั่วโลกร่วมมือกันต่อต้านการขยายอิทธิพลของ จักรวรรดิอเมริกาและพันธมิตร สงครามเย็นและสงครามร้อนจึงเริ่มแพร่ขยายออกไปยังพื้นที่ต่าง ๆ เมื่อพิจารณาในส่วน ของสงครามเย็นที่มีลักษณะของการแสดงอำนาจข่มขวัญฝ่ายตรงข้าม ส่วนใหญ่ปรากฏขึ้นในยุโรปตะวันออก กล่าวคือ หลังจากสหรัฐอเมริกาประกาศหลักการทรูแมน ในปี ค.ศ. 1947 อเมริกายังได้ประการใช้แผนการมาร์แชล (Marshal Plan) โดยมีใจความสำคัญ คือ สหรัฐอเมริกาจะให้ความช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจแก่ทุกประเทศ ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นความพยายามที่จะแสดงอำนาจทางเศรษฐกิจเหนือสหภาพโซเวียต รวมถึงเป็นการโน้มน้าวให้ประเทศต่าง ๆ ที่กำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจจากผลของสงครามโลกครั้งที่สองให้หันมานิยมสหรัฐอเมริกา สหภาพโซเวียตจึงได้ตอบโต้ ด้วยการจัดตั้งองค์การโคมินฟอร์ม (Cominform) เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก และประกาศใช้แผนการโมโลตอฟ (Molotov Plan)เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศคอมมิวนิสต์ในปีเดียวกัน นอกจากนี้สหภาพโซเวียตยังได้ก่อวิกฤตการณ์ปิดล้อมกรุงเบอร์ลินในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1948 เพื่อตัดเส้นทางคมนาคม ในเขตยึดครองของโลกเสรีประชาธิปไตย การกระทำดังกล่าวทำให้สหรัฐอเมริกาหวั่นเกรงการขยายอิทธิพลของ คอมมิวนิสต์ในเขตยุโรปมากขึ้น จึงได้จัดตั้งองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ในปี ค.ศ. 1949 เพื่อให้ความร่วมมือทางการทหารแก่สมาชิกในค่ายประชาธิปไตย<strong><span style=\"font-size: large\">สงครามเย็นเป็นสงครามที่ก่อตัวขึ้นจากปมปัญหาความขัดแย้งทางอุดมการณ์การเมืองการปกครองระหว่าง</span></strong> </p>\n<p align=\"left\" class=\"style5\">\n<strong>     สหรัฐอเมริกาที่ยึดถือการปกครองแบบประชาธิปไตย กับสหภาพโซเวียตที่ยึดถือการปกครองแบบสังคมนิยม </strong>\n</p>\n<p align=\"left\" class=\"style5\">\n<strong>    สาเหตุที่สงครามครั้งนี้ถูกขนานนามว่าเป็น “สงครามเย็น”  เนื่องจากมหาอำนาจทั้งสองมิได้ใช้กำลังเข้าทำสงครามกัน</strong>\n</p>\n<p align=\"left\" class=\"style5\">\n<strong>   โดยตรงหากแต่ใช้วิธิการอื่น ๆ เพื่อเป็นนัยของการแสดงอำนาจเหนืออีกฝ่ายหนึ่ง  เช่น การแผ่แพร่โฆษณาชวนเชื่ออุดมการณ์</strong>\n</p>\n<p align=\"left\" class=\"style5\">\n<strong>    ทางการเมืองของตนเพื่อให้เกิดประเทศบริวาร  การแข่นขันพัฒนากำลังทหารและอาวุธ การให้ความช่วยเหลือทางด้าน</strong>\n</p>\n<p align=\"left\" class=\"style5\">\n<strong>   เศรษฐกิจแก่ประเทศที่สาม  รวมถึงการใช้นโยบายทางการทูต  เป็นต้น   อย่างไรก็ตาม</strong>\n</p>\n<p align=\"left\" class=\"style5\">\n<strong>          ภายใต้การแสดงอำนาจข่มขวัญซึ่งกันและกันนี้  ก็ถูกสอดแทรกด้วย “สงครามร้อน” ซึ่งดำเนินไปในลักษณะของสง</strong>\n</p>\n<p align=\"left\" class=\"style5\">\n<strong>   ครามตัวแทน (Proxy warfare) โดยมหาอำนาจทั้งสองจะสนับสนุนกำลังทหารและอาวุธ   ในกรณีที่เกิดการรบ</strong>\n</p>\n<p align=\"left\" class=\"style5\">\n<strong>   ระหว่างฝ่ายนิยมประชาธิปไตยกับฝ่ายนิยมคอมมิวนิสต์ในประเทศที่สาม</strong>   <strong>จุดเริ่มต้นของสงครามเย็นก่อตัวขึ้นเมื่อ</strong>\n</p>\n<p align=\"left\" class=\"style5\">\n<strong>   สหภาพโซเวียตขยายอิทธิพลลัทธิคอมมิวนิสต์เข้าไปยังเขตยุโรปตะวันออก   ประเทศโปแลนด์  ฮังการี  ยูโกสลาเวีย </strong>\n</p>\n<p align=\"left\" class=\"style5\">\n<strong>   แอลเบเนีย  บัลแกเรีย  โรมาเนียและเซคโกสโลวะเกีย  ตกเป็นประเทศบริวาร  ขณะเดียวกันสหภาพโซเวียตยังต้องการ</strong>\n</p>\n<p align=\"left\" class=\"style5\">\n<strong>   คุมช่องแคบอสฟอรัสและช่องแคบดาร์ดะแนลล์  ซึ่งเป็นเส้นทางการเดินเรือระหว่างทะเลดำกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน  </strong>\n</p>\n<p align=\"left\" class=\"style5\">\n<strong>   ดังนั้นสหภาพโซเวียตจึงส่งกองทัพเข้ารุกรานตุรกีและกรีซซึ่งเป็นรัฐในอารักขาของอังกฤษ   อังกฤษไม่สามารถต้านทาน</strong>\n</p>\n<p align=\"left\" class=\"style5\">\n<strong>   อิทธิพลของสหภาพโซเวียตได้  จึงขอความช่วยเหลือไปยังสหรัฐอเมริกา   ประธานาธิบดีทรูแมน (Harry S. Truman) </strong>\n</p>\n<p align=\"left\" class=\"style5\">\n<strong>   ได้ออกประกาศหลักการทรูแมน (Truman  Doctrine) ซึ่งมีสาระสำคัญว่าสหรัฐอเมริกาจะให้การสนับสนุนแก่ประเทศ</strong>\n</p>\n<p align=\"left\" class=\"style5\">\n<strong>    เสรีทั้งหลายให้พ้นจากการคุกคามของลัทธิคอมมิวนิตส์  โดยจะให้ความช่วยเหลือทั้งทางการเงินและการทหาร  </strong>\n</p>\n<p align=\"left\" class=\"style5\">\n<strong>   สหภาพโซเวียตไม่พอใจและต่อโต้ด้วยการเรียกร้องให้ประเทศคอมมิวนิสต์ทั่วโลกร่วมมือกันต่อต้านการขยายอิทธิพลของ</strong>\n</p>\n<p align=\"left\" class=\"style5\">\n<strong>   จักรวรรดิอเมริกาและพันธมิตร   สงครามเย็นและสงครามร้อนจึงเริ่มแพร่ขยายออกไปยังพื้นที่ต่าง ๆ เมื่อพิจารณาในส่วน</strong>\n</p>\n<p class=\"style5\">\n<strong>   ของสงครามเย็นที่มีลักษณะของการแสดงอำนาจข่มขวัญฝ่ายตรงข้าม  ส่วนใหญ่ปรากฏขึ้นในยุโรปตะวันออก  กล่าวคือ  </strong>\n</p>\n<p class=\"style5\">\n<strong>   หลังจากสหรัฐอเมริกาประกาศหลักการทรูแมน   ในปี ค.ศ. 1947 อเมริกายังได้ประการใช้แผนการมาร์แชล (Marshal  </strong>\n</p>\n<p class=\"style5\">\n<strong>   Plan) โดยมีใจความสำคัญ คือ สหรัฐอเมริกาจะให้ความช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจแก่ทุกประเทศ  ซึ่งการกระทำดังกล่าว</strong>\n</p>\n<p class=\"style5\">\n<strong>   เป็นความพยายามที่จะแสดงอำนาจทางเศรษฐกิจเหนือสหภาพโซเวียต  รวมถึงเป็นการโน้มน้าวให้ประเทศต่าง ๆ </strong>\n</p>\n<p class=\"style5\">\n<strong>   ที่กำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจจากผลของสงครามโลกครั้งที่สองให้หันมานิยมสหรัฐอเมริกา   สหภาพโซเวียตจึงได้ตอบโต้</strong>\n</p>\n<p class=\"style5\">\n<strong>  ด้วยการจัดตั้งองค์การโคมินฟอร์ม (Cominform) เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก  </strong>\n</p>\n<p class=\"style5\">\n<strong>  และประกาศใช้แผนการโมโลตอฟ (Molotov Plan)เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศคอมมิวนิสต์ในปีเดียวกัน   </strong>\n</p>\n<p class=\"style5\">\n<strong>  นอกจากนี้สหภาพโซเวียตยังได้ก่อวิกฤตการณ์ปิดล้อมกรุงเบอร์ลินในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1948 เพื่อตัดเส้นทางคมนาคม</strong>\n</p>\n<p class=\"style5\">\n<strong>  ในเขตยึดครองของโลกเสรีประชาธิปไตย   การกระทำดังกล่าวทำให้สหรัฐอเมริกาหวั่นเกรงการขยายอิทธิพลของ</strong>\n</p>\n<p class=\"style5\">\n<strong>  คอมมิวนิสต์ในเขตยุโรปมากขึ้น  จึงได้จัดตั้งองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ในปี ค.ศ. 1949 </strong>\n</p>\n<p class=\"style5\">\n<strong>  เพื่อให้ความร่วมมือทางการทหารแก่สมาชิกในค่ายประชาธิปไตย  สหภาพโซเวียตจึงตอบโต้ด้วยการจัดตั้ง</strong>\n</p>\n<p class=\"style1\">\n&nbsp;\n</p>\n', created = 1720462093, expire = 1720548493, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:65203955ccf76f3a3e3faba6eea8725c' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:0c61571da6ac0f3dce3b069c7e1921ec' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nให้ศึกษารายละเอียดของสนธิสัญญานี้มาด้วย\n</p>\n', created = 1720462093, expire = 1720548493, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:0c61571da6ac0f3dce3b069c7e1921ec' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

โคมินฟอร์ม

จุดเริ่มต้นของสงครามเย็นก่อตัวขึ้นเมื่อ สหภาพโซเวียตขยายอิทธิพลลัทธิคอมมิวนิสต์เข้าไปยังเขตยุโรปตะวันออก ประเทศโปแลนด์ ฮังการี ยูโกสลาเวีย แอลเบเนีย บัลแกเรีย โรมาเนียและเซคโกสโลวะเกีย ตกเป็นประเทศบริวาร ขณะเดียวกันสหภาพโซเวียตยังต้องการ คุมช่องแคบอสฟอรัสและช่องแคบดาร์ดะแนลล์ ซึ่งเป็นเส้นทางการเดินเรือระหว่างทะเลดำกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ดังนั้นสหภาพโซเวียตจึงส่งกองทัพเข้ารุกรานตุรกีและกรีซซึ่งเป็นรัฐในอารักขาของอังกฤษ อังกฤษไม่สามารถต้านทาน อิทธิพลของสหภาพโซเวียตได้ จึงขอความช่วยเหลือไปยังสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีทรูแมน (Harry S. Truman) ได้ออกประกาศหลักการทรูแมน (Truman Doctrine) ซึ่งมีสาระสำคัญว่าสหรัฐอเมริกาจะให้การสนับสนุนแก่ประเทศ เสรีทั้งหลายให้พ้นจากการคุกคามของลัทธิคอมมิวนิตส์ โดยจะให้ความช่วยเหลือทั้งทางการเงินและการทหาร สหภาพโซเวียตไม่พอใจและต่อโต้ด้วยการเรียกร้องให้ประเทศคอมมิวนิสต์ทั่วโลกร่วมมือกันต่อต้านการขยายอิทธิพลของ จักรวรรดิอเมริกาและพันธมิตร สงครามเย็นและสงครามร้อนจึงเริ่มแพร่ขยายออกไปยังพื้นที่ต่าง ๆ เมื่อพิจารณาในส่วน ของสงครามเย็นที่มีลักษณะของการแสดงอำนาจข่มขวัญฝ่ายตรงข้าม ส่วนใหญ่ปรากฏขึ้นในยุโรปตะวันออก กล่าวคือ หลังจากสหรัฐอเมริกาประกาศหลักการทรูแมน ในปี ค.ศ. 1947 อเมริกายังได้ประการใช้แผนการมาร์แชล (Marshal Plan) โดยมีใจความสำคัญ คือ สหรัฐอเมริกาจะให้ความช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจแก่ทุกประเทศ ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นความพยายามที่จะแสดงอำนาจทางเศรษฐกิจเหนือสหภาพโซเวียต รวมถึงเป็นการโน้มน้าวให้ประเทศต่าง ๆ ที่กำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจจากผลของสงครามโลกครั้งที่สองให้หันมานิยมสหรัฐอเมริกา สหภาพโซเวียตจึงได้ตอบโต้ ด้วยการจัดตั้งองค์การโคมินฟอร์ม (Cominform) เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก และประกาศใช้แผนการโมโลตอฟ (Molotov Plan)เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศคอมมิวนิสต์ในปีเดียวกัน นอกจากนี้สหภาพโซเวียตยังได้ก่อวิกฤตการณ์ปิดล้อมกรุงเบอร์ลินในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1948 เพื่อตัดเส้นทางคมนาคม ในเขตยึดครองของโลกเสรีประชาธิปไตย การกระทำดังกล่าวทำให้สหรัฐอเมริกาหวั่นเกรงการขยายอิทธิพลของ คอมมิวนิสต์ในเขตยุโรปมากขึ้น จึงได้จัดตั้งองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ในปี ค.ศ. 1949 เพื่อให้ความร่วมมือทางการทหารแก่สมาชิกในค่ายประชาธิปไตยสงครามเย็นเป็นสงครามที่ก่อตัวขึ้นจากปมปัญหาความขัดแย้งทางอุดมการณ์การเมืองการปกครองระหว่าง

     สหรัฐอเมริกาที่ยึดถือการปกครองแบบประชาธิปไตย กับสหภาพโซเวียตที่ยึดถือการปกครองแบบสังคมนิยม

    สาเหตุที่สงครามครั้งนี้ถูกขนานนามว่าเป็น “สงครามเย็น”  เนื่องจากมหาอำนาจทั้งสองมิได้ใช้กำลังเข้าทำสงครามกัน

   โดยตรงหากแต่ใช้วิธิการอื่น ๆ เพื่อเป็นนัยของการแสดงอำนาจเหนืออีกฝ่ายหนึ่ง  เช่น การแผ่แพร่โฆษณาชวนเชื่ออุดมการณ์

    ทางการเมืองของตนเพื่อให้เกิดประเทศบริวาร  การแข่นขันพัฒนากำลังทหารและอาวุธ การให้ความช่วยเหลือทางด้าน

   เศรษฐกิจแก่ประเทศที่สาม  รวมถึงการใช้นโยบายทางการทูต  เป็นต้น   อย่างไรก็ตาม

          ภายใต้การแสดงอำนาจข่มขวัญซึ่งกันและกันนี้  ก็ถูกสอดแทรกด้วย “สงครามร้อน” ซึ่งดำเนินไปในลักษณะของสง

   ครามตัวแทน (Proxy warfare) โดยมหาอำนาจทั้งสองจะสนับสนุนกำลังทหารและอาวุธ   ในกรณีที่เกิดการรบ

   ระหว่างฝ่ายนิยมประชาธิปไตยกับฝ่ายนิยมคอมมิวนิสต์ในประเทศที่สาม   จุดเริ่มต้นของสงครามเย็นก่อตัวขึ้นเมื่อ

   สหภาพโซเวียตขยายอิทธิพลลัทธิคอมมิวนิสต์เข้าไปยังเขตยุโรปตะวันออก   ประเทศโปแลนด์  ฮังการี  ยูโกสลาเวีย 

   แอลเบเนีย  บัลแกเรีย  โรมาเนียและเซคโกสโลวะเกีย  ตกเป็นประเทศบริวาร  ขณะเดียวกันสหภาพโซเวียตยังต้องการ

   คุมช่องแคบอสฟอรัสและช่องแคบดาร์ดะแนลล์  ซึ่งเป็นเส้นทางการเดินเรือระหว่างทะเลดำกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน  

   ดังนั้นสหภาพโซเวียตจึงส่งกองทัพเข้ารุกรานตุรกีและกรีซซึ่งเป็นรัฐในอารักขาของอังกฤษ   อังกฤษไม่สามารถต้านทาน

   อิทธิพลของสหภาพโซเวียตได้  จึงขอความช่วยเหลือไปยังสหรัฐอเมริกา   ประธานาธิบดีทรูแมน (Harry S. Truman)

   ได้ออกประกาศหลักการทรูแมน (Truman  Doctrine) ซึ่งมีสาระสำคัญว่าสหรัฐอเมริกาจะให้การสนับสนุนแก่ประเทศ

    เสรีทั้งหลายให้พ้นจากการคุกคามของลัทธิคอมมิวนิตส์  โดยจะให้ความช่วยเหลือทั้งทางการเงินและการทหาร 

   สหภาพโซเวียตไม่พอใจและต่อโต้ด้วยการเรียกร้องให้ประเทศคอมมิวนิสต์ทั่วโลกร่วมมือกันต่อต้านการขยายอิทธิพลของ

   จักรวรรดิอเมริกาและพันธมิตร   สงครามเย็นและสงครามร้อนจึงเริ่มแพร่ขยายออกไปยังพื้นที่ต่าง ๆ เมื่อพิจารณาในส่วน

   ของสงครามเย็นที่มีลักษณะของการแสดงอำนาจข่มขวัญฝ่ายตรงข้าม  ส่วนใหญ่ปรากฏขึ้นในยุโรปตะวันออก  กล่าวคือ 

   หลังจากสหรัฐอเมริกาประกาศหลักการทรูแมน   ในปี ค.ศ. 1947 อเมริกายังได้ประการใช้แผนการมาร์แชล (Marshal 

   Plan) โดยมีใจความสำคัญ คือ สหรัฐอเมริกาจะให้ความช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจแก่ทุกประเทศ  ซึ่งการกระทำดังกล่าว

   เป็นความพยายามที่จะแสดงอำนาจทางเศรษฐกิจเหนือสหภาพโซเวียต  รวมถึงเป็นการโน้มน้าวให้ประเทศต่าง ๆ

   ที่กำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจจากผลของสงครามโลกครั้งที่สองให้หันมานิยมสหรัฐอเมริกา   สหภาพโซเวียตจึงได้ตอบโต้

  ด้วยการจัดตั้งองค์การโคมินฟอร์ม (Cominform) เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก 

  และประกาศใช้แผนการโมโลตอฟ (Molotov Plan)เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศคอมมิวนิสต์ในปีเดียวกัน  

  นอกจากนี้สหภาพโซเวียตยังได้ก่อวิกฤตการณ์ปิดล้อมกรุงเบอร์ลินในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1948 เพื่อตัดเส้นทางคมนาคม

  ในเขตยึดครองของโลกเสรีประชาธิปไตย   การกระทำดังกล่าวทำให้สหรัฐอเมริกาหวั่นเกรงการขยายอิทธิพลของ

  คอมมิวนิสต์ในเขตยุโรปมากขึ้น  จึงได้จัดตั้งองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ในปี ค.ศ. 1949

  เพื่อให้ความร่วมมือทางการทหารแก่สมาชิกในค่ายประชาธิปไตย  สหภาพโซเวียตจึงตอบโต้ด้วยการจัดตั้ง

 

สร้างโดย: 
อังคณา ทองเจริญ ม4/2 เลขที่14
รูปภาพของ silavacharee

 

ให้ศึกษารายละเอียดของสนธิสัญญานี้มาด้วย

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 410 คน กำลังออนไลน์