บ้านบางกระวาน หมู่ที่ 15 ตำบล ปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ประวัติความเป็นมา บ้านบางกระวาน หมู่ที่ 15 ตำบล ปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2539 ซึ่งแยกออกจากหมู่ที่ 14 บ้านปรือคันใต้ ที่มาของชื่อบ้านบางกระวาน บาง เป็น ภาษาท้องถิ่นเป็นคำเรียกธารน้ำเล็กๆที่ไหลลงหนองน้ำใหญ่ คือ หนองปรือ ส่วนกระวานเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งมีสรรพคุณเป็นว่าน เป็นเครื่องเทศ เรียกว่าต้นกระวานขึ้นบริเวณธารน้ำเล็กๆแห่งนี้เป็นพืชล้มลุก พอฤดูแล้งก็ตายเหลือแต่หัวหรือเง่า พอถึงฤดูฝนได้รับความชื้นจากน้ำก็ผุดขึ้นมาใหม่ ปัจจุบันหาดูได้ยากมาก มีที่จังหวัดจันทบุรีทางภาคตะวันออกของไทยจึงเป็นที่มาของบ้านบางกระวานผู้ก่อตั้งหมู่บ้าน1.นายบุญเจือ วงษ์ขันธ์ เป็นผู้ใหญ่บ้านเมื่อปี พ.ศ.2539-25452.นายประสัตย์ ปรือปรัก เป็นผู้ใหญ่บ้านเมื่อปี พ.ศ.2546-ปัจจุบันรายนามผู้ใหญ่บ้าน1.นายบุญเจือ วงษ์ขันธ์ เป็นผู้ใหญ่บ้านเมื่อปี พ.ศ.2539-25452.นายประสัตย์ ปรือปรัก เป็นผู้ใหญ่บ้านเมื่อปี พ.ศ.2546-ปัจจุบันจำนวนครัวเรือน 67 ครัวเรือน ประชากร 416 คน แยกเป็นชาย 231 คน หญิง 185 คนอาณาเขตของหมู่บ้านทิศเหนือ จดบ้านปรือคันใต้ หมู่ที่ 14 ตำบลปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ทิศใต้ จดบ้านคลองลำเจียก หมู่ที่ 9 ตำบลปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ทิศตะวันออก จดบ้านโพธิ์สว่าง หมู่ที่ 8 ตำบลปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ทิศตะวันตก บ้านปรือคันใต้ หมู่ที่ 14 ตำบลปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์บ้านบางกระวาน ตั้งอยู่ในเขตตำบลปรือใหญ่ ห่างจากอำเภอขุขันธ์ไปทางทิศใต้ประมาณ 12 กิโลเมตรอาชีพ ชาวบ้านประกอบอาชีพ ทำนา อาชีพรอง ทำไร่ศาสนา ชาวบ้านส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธภาษา ชาวบ้านส่วนใหญ่พูดภาษาเขมร ลาวข้อมูลทั่วไปมีพื้นที่ทั้งหมด 814 ไร่ ใช้ทำการเกษตร 692 ไร่โทรศัพท์สาธารณะ 2 แห่งโทรศัพท์มือถือ 24 เครื่องโทรศัพท์บ้าน 1 เครื่องหอกระจายข่าว 1 แห่งโรงสี 4 แห่งรถยนต์ 5 คันรถจักรยานยนต์ 28 คันรถจักรยาน 30 คันทีวี 50 เครื่องสถานีอนามัย -ธนาคารข้าว – กลุ่มออมทรัพย์ ลักษณะภูมิประเทศตั้งอยู่ที่ราบสูงมีต้นไม้น้อยใหญ่นานาชนิด มี 3 ฤดูฤดูร้อนจะร้อนมากบางครั้งจะมีฝนตกในช่วงฤดูร้อนประมาณ 3 เดือน ฤดูฝนจะเริ้มประมาณปลายเดือนพฤษภาคมและฤดูหนาวต้นเดือนตุลาคมของทุกปีสภาพทางเศรษฐกิจรายได้เฉลี่ย 26683.39 บาท/คน/ปีครัวเรือนมีการออมร้อยละ 9032 ของครัวเรือนทั้งหมดชาวบ้านส่วนใหญ่ ทำนา ใช้เนื้อที่ทั้งหมด 402ไร่คิดเป็นร้อยละ 85.01 ของพื้นที่ทั้งหมด นอกนั้นทำไร่ผลผลิตที่ทำการผลิตสู่ตลาดภายในและภายนอกชุมชน ได้แก่ ผลผลิตทางการเกษตรประชาชนมีไฟฟ้าใช้ 62 ครัวเรือนเส้นทางคมนาคมไปอำเภอขุขันธ์ โดยทางรถยนต์ ระยะทาง 12 กิโลเมตรสภาพสังคมสภาพบ้านเรือนมีการจัดเป็นระเบียบ ถูกสุขลักษณะ ครอบครัวอบอุ่น ประชาชนอายุ 35 ปี ขึ้นไปมีการตรวจสุขภาพประจำปีเด็กได้รับการศึกษาภาคบังคับ 55 คน ประชาชนอายุ 15-60 อ่านออกเขียนได้ 192 คน ประชาชนไม่เสพบุหรี่/สุรา 285 คน ประชาชนปฏิบัติกิจทางศาสนาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง 62 ครัวเรือน นักเรียนเรียนต่อที่ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน 5 คน ในหมู่บ้านมีนักปราชญ์ชาวบ้าน 8 คน มีความรู้ภูมิปัญญาด้านต่างๆ1.นางแสง ปรือปรัก มีความรู้ภูมิปัญญาด้านประเพณีแม่มด2.นายเสงี่ยม คำขาว มีความรู้ภูมิปัญญาด้านศาสนา3.นายไช บุญขาว มีความรู้ภูมิปัญญาด้านหมอดู4.นางลิน คำไลย์ มีความรู้ภูมิปัญญาด้านหมอตำแย5.นายลี ปรือปรัก มีความรู้ภูมิปัญญาด้านช่างตีมีด6.นายชิน วงษ์ขันธ์ มีความรู้ภูมิปัญญาด้านจักสาน7.นายทอน ปรือปรัก มีความรู้ภูมิปัญญาด้านหมอโบราณ8.นายสมคิด ศรีสิงห์ มีความรู้ภูมิปัญญาด้านช่างซ่อมผลิตภัณฑ์ของชุมชน1.ชื่อกลุ่มสตรีจักสานประธานกลุ่ม นางเสวียน วงษ์ขันธ์ บ้านเลขที่ 207/25 หมู่ 15 จำนวนสมาชิก 20 คน2.ชื่อกลุ่ม เลี้ยงสุกรประธานกลุ่ม นายประสัตย์ ปรือปรัก บ้านเลขที่ 38 หมู่ที่ 15 จำนวนสมาชิก 15 คนสถานที่พักในชุมชน ศาลากลางหมู่บ้าน รำแม่มด เมื่อชาวบ้านมีอาการเจ็บป่วยในส่วนหนึ่งต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์แผนปัจจุบันเมื่อตรวจไม่พบหรือหมอไม่สามารถระบุโรคได้อย่างชัดเจนและคนไข้ก็ไม่ทุเลาลง ก็จะหาวิธีการตามความเชื่อของชาวบ้านโดยให้พระสงฆ์หรือหมอผีได้ตรวจดูโชคชะตาและเสี่ยงทายอาการของคนป่วยว่า การป่วยเกิดจากสาเหตุอะไร ถ้าปรากฏว่าเกิดจากแม่มด(ผีบรรพบุรุษ)ทำให้เจ็บไข้ได้ป่วยเพราะผิดญาติ พี่น้องก็จะทำการบอกกล่าวต่อแม่มด ว่าญาติพี่น้องป่วยจะทำพิธีเล่นแม่มดหรือรำแม่มด เป็นการแก้บนเพื่อให้ผู้ป่วยหายจากอาการโดยกำหนดระยะเวลา(ตามจันทรคติหรือเดือนเต็ม)จะมีการติดต่อนักดนตรีพื้นบ้านและติดต่อญาติผู้ใหญ่ให้มารำแก้บนแม่มดในคืนของวันที่กำหนด เมื่อรำจนเป็นที่พอใจของแม่มดผู้ป่วยก็จะมีอาการทุเลาและหายเป็นปกติตามความเชื่อของชาวบ้านสิ่งที่ต้องเตรียมในการไหว้ครูทุกครั้ง1.เทียน 5 คู่2.สุราขาว 1 ขวด3.ไก่ต้ม(จำนวนที่บนไว้)4.หัวหมู(จำนวนที่บนไว้)5.เงินค่ายกครูรำแม่มด(แล้วแต่ศรัทธา)6.ดอกลั่นทม(ดอกลีลาวดี) ดอกทองกวาว7.หมาก พลู 8.ม้าไม้แกะสลัก 1 ตัว ช้าง 3ตัว. เครื่องดนตรีที่ใช้ประกอบรำแม่มด
1.กลอง กลองชิ้นนี้มีความพิเศษตรงที่ทำมาจากหนังงูเหลือมยักษ์ เสียงดังได้ไพเราะและนุ่มนวลชวนฟัง
ตอนนี้ทดลองนำข้อมูลมาลงก่อน....เดี๋ยวจะนำข้อมูลมาเพิ่มคราวหน้าค่ะ
พัชรี นาครินทร์ (Patcharee Nakkarin : Kae)
สร้างโดย:
Patcharee Nakkarin
แหล่งอ้างอิง:
Ban Bang Kravan village Sisaket