การพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบจำนวนนับที่มีผลลัพธ์ไม่เกิน 100,00 ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 5E สำหรับนักเรียนชั้นประถม
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง : การพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบจำนวนนับที่มีผลลัพธ์ไม่เกิน 100,00 ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 5E สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ชื่อผู้รายงาน : นางสาวศิริพร ริยาพันธ์ ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ โรงเรียนวัดสำนักขัน อำเภอจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ปีที่รายงาน : ปีการศึกษา 2558
................................................................................................................................................................
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบจำนวนนับที่มีผลลัพธ์ไม่เกิน 100,000 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 5E พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 ซึ่งเป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง ที่มีแบบแผนการวิจัยแบบกลุ่มเดียว ทดสอบก่อนเรียน – หลังเรียน กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 22 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 5E และเรียบเรียงสาระตามโครงสร้างทางคณิตศาสตร์ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เทียบเคียงกับข้อสอบทางการศึกษาและข้อสอบระดับชาติตั้งแต่ปี 2550 - 2556 มีอำนาจจำแนก 0.20 – 0.97 ความยาก 0.50 - 0.80 และความเชื่อมั่น 0.93 และแบบสอบถามความพึงพอใจมีความเชื่อมั่น 0.85 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐานและการทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติทดสอบทีแบบกลุ่มสัมพันธ์
ผลการวิจัยพบว่าแผนการจัดการเรียนรู้เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบจำนวนนับที่มีผลลัพธ์ไม่เกิน 100,000 ที่มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 5E สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ 19 แผน ผลประเมินระดับคุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 ท่าน ผลระดับคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้มีประสิทธิภาพ 78.10/75.23 ดัชนีประสิทธิผล 0.61 โดยที่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และนักเรียนมีระดับความพึงพอใจต่อกิจกรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับมากที่สุด