บอลไทยมีชัยชิง'เดนมาร์ก'
 นักเตะเลบานอนเล่นนอกเกมหวิดวางมวยหมู่กันกลางสนาม
               
ศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"คิงสคัพ"ครั้งที่ 39 ที่สนามสุรกุล จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 21 ม.ค.โดยพิธีเปิดมี"เสธ.หนั่น"พล.ต.หนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธาน เกมในคู่แรก"โคนม"เดนมาร์กพบกับ"โสมแดง"เกาหลีเหนือ ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัด ผลปรากฏว่า เดนมาร์ก ชนะไป 1-0 จากการยิงของ โซเรนไรค์ส นาทีที่ 21 ส่งผลให้เดนมาร์กผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ เป็นทีมแรก ส่วนเกาหลีเหนือ ไปชิงที่ 3 ในวันศุกร์ที่ 23 ม.ค. นี้
 
ส่วนคู่สอง “ทีมชาติไทย” แชมป์เก่า ลงเตะเป็นคู่ที่ 2 พบกับ เลบานอน โดยพิธีเปิดมี “เสธ.หนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธาน สำหรับผู้เล่นของทีมไทยในเกมนี้ ประกอบด้วย โกสินทร์ หทัยรัตนกุล (ผู้รักษาประตู), ณัฐพงษ์ สมณะ, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, ปฎิภาณ เพ็ชรพูล, สุรีย์ สุขะ, รังสรรค์ วิวัฒนฺโชคชัย, ดัสกร ทองเหลา, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, สุรัตน์ สุขะ, สุเชาว์ นุชนุ่ม และ ธีรศิลป์ แดงดา ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า
 
เปิดฉากครึ่งแรก ทีมไทยบุกเข้าใส่คู่แข่งทันที ขณะที่ เลบานอน ใช้ความเหนียวแน่นบวกกับเกมโต้กลับเข้าเล่นงานไทย เข้าสู่นาทีที่ 11 แฟนบอลทีมไทยที่มาเชียร์เกือบเต็มความจุสนามก็ได้เฮกันลั่นเมื่อ ดัสกร กัปตันทีม อาศัยความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงบอลหลบผู้เล่นเลบานอน ก่อนผ่านบอลเข้ากลาง กองหลังคู่ต่อสู้สกัดลูกมาเข้าทางปืนของ “มุ้ย” ธีรศิลป์ ที่จิ้มด้วยปลายเท้าบอลพุ่งลอดตัว เอเลียส ฟรายเจ นายทวารเลบานอน เข้าไปนอนก้น ตาข่าย ทำให้ทีมไทยขึ้นนำ 1-0 จากนั้นอีก 2 นาทีถัดมา ธีรศิลป์ คนเดิม ได้ยิงเต็มข้อบริเวณด้านขวาของกรอบเขตโทษ แต่บอลเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว ก่อนที่ ดัสกร จะได้ซัดอีกครั้งในนาทีที่ 22 แต่บอลก็ยังตรงตัวผู้รักษาประตูเลบานอนอยู่ดี อย่างไรก็ตาม ทีมไทย มาได้ประตูหนีห่าง 2-0 ในนาทีที่ 22 จากจังหวะชิ่งกันสุดสวยก่อนที่ พิชิตพงษ์ จะกระดกบอลให้ ดัสกร โหม่งเช็ดต่อไปให้ สุเชาว์ อัดด้วยเท้าขวา ส่งบอลตุงตาข่ายอย่างสวยงาม จบครึ่งแรก ไทย จึงนำอยู่ 2-0
 
เข้าสู่ครึ่งหลัง ปีเตอร์ รีด ผู้จัดการทีมไทย เปลี่ยนตัว 2 คน โดยส่ง กิตติศักดิ์ ระวังป่า เฝ้าเสาแทน โกสินทร์ ที่เจ็บ และ สลาฮูดิน อาแว แทน สุเชาว์ ขณะที่ เลบานอน ก็แก้เกมมาได้ดีเป็นฝ่ายไล่วิ่งกดดันนักเตะไทยจนเล่นไม่ออก และมาได้ประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 จากการยิงของ มามูด เอล อาลี นาทีที่ 49 จากนั้นแค่นาทีเดียว เอล อาลี คนเดิมก็ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปปะทะกับ กิตติศักดิ์ อย่างจังจนล้มมากองกับพื้น ทำให้แพทย์ต้องหามส่งโรงพยาบาลโดยเร่งด่วน จากนั้นทั้งสองทีมต่างเปิดเกมรุกเข้าใส่กันอย่างสนุก นาทีที่ 64 ดัสกร ดีดบอลให้ ธีรศิลป์ หลุดเข้าไปยิงแต่ถูกนายทวารเลบานอนเซฟได้ทัน นาทีที่ 67 ดัสกร แย่งบอลมาจากผู้เล่นเลบานอนและจ่ายถวายพานให้ รังสรรค์ ซัดเต็มข้อโล่ง ๆ แต่บอลหลุดนอกกรอบไปอย่างเหลือเชื่อ มาถึงนาทีที่ 73 ไทยเปลี่ยน รณชัย รังสิโย ไปแทน ธีรศิลป์
 
เข้าสู่นาทีที่ 80 เกมก็เดือด เมื่อสุรัตน์ ถูกผู้เล่นเลบานอนเตะจนล้ม ทำให้นักเตะทั้งสองทีมต่างกรูเข้ามาหวิดจะวางมวยกัน ซากาเรีย ชารารา ศูนย์หน้าเลบานอนยังเอามือตบหน้าสุรัตน์ เกมต้องหยุดไปเกือบ 10 นาที ก่อนที่ นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ จะลงมาเจรจาและแข่งขันกันต่อได้ แต่ไม่กี่นาทีต่อมา สุรีย์ ก็โดน ซากาเรีย ชารารา เหยีบ ผู้เล่นทั้ง 2 ทีมกรูกันเข้ามาอีก ชารารา ก็ตบหน้าสุรีย์ไป โดยที่ผู้ตัดสินไม่ได้แจกใบเหลือง-แดง แต่อย่างใด ทำให้เกมต้องหยุดอีก 2 นาที ท้ายที่สุดหลังจากที่ต่อเวลาไปร่วม 10 นาที ประยูร วีระพูล ผู้ตัดสิน ชาวไทย จึงเป่านกหวีดจบเกม ส่งผลให้ ไทย เอาชนะ เลบานอน ไปอย่างดุเดือด 2-1
 
สำหรับในวันที่ 23 ม.ค. รอบชิงชนะเลิศ ไทย จะพบกับ เดนมาร์ก เวลา 19.00 น. ช่อง 7 สีถ่ายทอดสด และคู่ชิงอันดับ 3 เกาหลี เหนือ จะพบกับ เลบานอน เวลา 16.30 น.
 
หลังจบเกม ปีเตอร์ รีด กุนซือทีมไทย กล่าวว่า ครึ่งแรกเราเล่นได้ดีมาก แต่ครึ่งหลังมีการเปลี่ยนตัวหลายคนเกมจึงเสียสมดุลไปเล็กน้อย ประกอบกับเลบานอน แก้เกมมาดีจึงยิงประตูไทยได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในเกมนี้จะมีหลายคนเสียสมาธิ แต่ส่วนตัวก็ยังมองว่าไทยก็ยังสมควรเป็นผู้ชนะอยู่ดี ส่วนเรื่องของผู้ตัดสินนั้นถือเป็นธรรมดาของเกมฟุตบอลที่เจ้าภาพอาจจะได้เปรียบในจังหวะการเข้าปะทะ 50-50 ส่วนนัดชิงกับ เดนมาร์ก ถือว่าลำบากเพราะเป็นทีมที่มีระบบดี แต่หวังว่าอากาศที่ร้อนจะช่วยบั่นทอนกำลังของคู่แข่งได้บ้าง สำหรับกรณีที่นักเตะไทย ออกอาการเกเร มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนั้น หลังจากจบศึก “คิงสคัพ” แล้วจะเข้าไปคุยเป็นการส่วนตัว ซึ่งก็มีหลายคนเรียกเข้ามาคุย แต่จะมีบทลงโทษหรือไม่นั้นเป็นเรื่องภายในทีมจะต้องหารือกันอีกครั้ง.