การวิจัยเรื่อง การสร้างชุดฝึกและแผนการจัดการเรียนรู้ในการพัฒนาความสามารถทางการเขียนเชิงสร้างสรรค์ในครั้งนี้ ผู้วิจัยกำหนดวัตถุประสงค์ ดังนี้ ๑) เพื่อสร้างชุดฝึกและแผนการจัดการเรียนรู้ในการพัฒนาความสามารถทางการเขียนเชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนเทศบาล ๒ "รัชมังคลานุสรณ์"  ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๒) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการเขียนเชิงสร้างสรรค์กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนเทศบาล ๒ "รัชมังคลานุสรณ์"  ก่อนและหลังการเรียนด้วยชุดฝึกและแผนการจัดการเรียนรู้ในการพัฒนาความสามารถทางการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ๓) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนด้วยชุดฝึกและแผนการจัดการเรียนรู้ในการพัฒนาความสามารถทางการเขียนเชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  ประชากร  ได้แก่  นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่  ๔ โรงเรียนเทศบาล ๒ "รัชมังคลานุสรณ์" ปีการศึกษา ๒๕๕๗  รวม ๓๑  คน กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่  นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่  ๔ โรงเรียนเทศบาล ๒ "รัชมังคลานุสรณ์"  ปีการศึกษา ๒๕๕๗  รวม ๓๑  คน  ใช้เป็นกลุ่มเป้าหมายในการวิจัยครั้งนี้ ซึ่งได้มาจากการกำหนดแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ๑)  ชุดฝึกและแผนการจัดการเรียนรู้ในการพัฒนาความสามารถทางการเขียนเชิงสร้างสรรค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนเทศบาล ๒ "รัชมังคลานุสรณ์"  โดยสร้างชุดฝึกขึ้น ๑๐ ชุด และแผนการจัดการเรียนรู้  ๑๐ แผน ๒)  แบบทดสอบวัดความสามารถในการเขียนเชิงสร้างสรรค์และแบบทดสอบก่อนและหลังการใช้ชุดฝึกแต่ละชุด ๓)  แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนด้วยชุดฝึกและแผนการจัดการเรียนรู้การเขียนเชิงสร้างสรรค์ สถิติที่ใช้  ร้อยละ  ค่าเฉลี่ย  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ t-test

          ผลการวิจัย พบว่า ผลการประเมินชุดฝึกและแผนการจัดการเรียนรู้การเขียนเชิงสร้างสรรค์  โดยผู้เชี่ยวชาญ  พบว่า  ผลการประเมินภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด  ประสิทธิภาพของชุดฝึกและแผนการจัดการเรียนรู้การเขียนเชิงสร้างสรรค์  ได้ค่า E_๑/E_๒ เท่ากับ ๘๓.๕๘/๘๔.๐๓ สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ (๘๐/๘๐)  ผลคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนจากการใช้ชุดฝึกและแผนการจัดการเรียนรู้การเขียนเชิงสร้างสรรค์ ทั้ง  ๑๐  เล่ม  พบว่า  นักเรียนทำคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนทุกชุด

          เปรียบเทียบผลการทดสอบความสามารถในการเขียนเชิงสร้างสรรค์  และผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน  พบว่า ค่าเฉลี่ยการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าการทดสอบก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ    ทางสถิติที่ระดับ  .๐๕  แสดงว่าชุดฝึกและแผนการจัดการเรียนรู้การเขียนเชิงสร้างสรรค์  ที่สร้างขึ้นส่งผลให้ผู้เรียน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น

          ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนด้วยชุดฝึกและแผนการจัดการเรียนรู้การเขียนเชิงสร้างสรรค์  พบว่า  ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด