รายงานผลการดำเนินงานเปิดบ้านโครงงาน ประจำปี 2557
บทที่ 1
บทนำ
ที่มาและความสำคัญของปัญหา
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ.2542ได้กำหนดจุดมุ่งหมายและหลักการจัดการศึกษาไว้เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายจิตใจสติปัญญาความรู้และคุณธรรมมีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขโดยกระบวนการเรียนรู้ต้องมุ่งปลูกฝังจิตสานึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขรู้จักรักษาและส่งเสริมสิทธิหน้าที่เสรีภาพความเคารพกฎหมายความเสมอภาคและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทยรู้จักรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมและของประเทศชาติรวมทั้งส่งเสริมศาสนาศิลปะวัฒนธรรมของชาติการกีฬาภูมิปัญญาท้องถิ่นภูมิปัญญาไทยและความรู้อันเป็นสากลตลอดจนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีความสามารถในการประกอบอาชีพรู้จักพึ่งตนเองมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ใฝ่รู้และเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องในการจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุดกระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ(กระทรวงศึกษาธิการ. 2551 : 3)
จากความสำคัญดังกล่าวข้างต้นโรงเรียนจึงเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนจึงได้กำหนดแผนงานประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ผลงานทางวิชาการของนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ในความสำเร็จด้านการจัดการเรียนการสอนและการบริหารจัดการ ตลอดจนสรุปกิจกรรมและโครงการเด่นที่ประสบผลสำเร็จในรอบปีการศึกษาที่ผ่านมาและเปิดโอกาสให้ผู้ปกครอง ชุมชนได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็น และเยี่ยมชมผลงาน เพื่อเปิดบ้านรับนักเรียนใหม่ ในปีการศึกษา 2558และผู้มีส่วนร่วมได้เสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินงานต่างๆของโรงเรียนเป็นการแสดงถึงความภาคภูมิใจในผลงานทางวิชาการของนักเรียน ครูที่จัดการเรียนการสอนของสถานศึกษาบรรลุตามเป้าหมาย พร้อมทั้งยังเป็นการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการให้ผู้ปกครอง ชุมชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องของสถานศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาโรงเรียนสู่มาตรฐานการจัดการศึกษาทั้งนี้ยังรองรับการประเมินความยั่งยืนคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในฝัน เพื่อคงสภาพความเป็นโรงเรียนในฝันที่มุ่งจัดการศึกษาให้มีคุณภาพได้มาตรฐานทางการศึกษาของชาติและสอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น เป็นที่ยอมรับของนักเรียน ผู้ปกครองและชุมชน เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตให้กับชุมชนและสังคม มีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
ดังนั้นกลุ่มงานวิชาการ โรงเรียนเวียงแก่นวิทยาคมจึงได้จัดกิจกรรม “ข่วงปัญญา เปิดฟ้า เวียงแก่น” ประจำปีการศึกษา 2557 และเตรียมรับการประเมินโครงการพัฒนาความยั่งยืนด้านคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในฝันในสังกัด สพม.36 ขึ้น
วัตถุประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีทักษะในการทำโครงงาน และสามารถคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ได้
2. เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้รู้จักการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ในการสร้างสรรค์ผลงาน
3. เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้รู้จักการนำเสนอผลงานตนเอง กล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้อง
4. เพื่อให้นักเรียนได้นำประสบการณ์ตรงไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
5. เพื่อการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการของนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ในความสำเร็จด้านการจัดการเรียนการสอนและการบริหารจัดการต่อสาธารณชน
6. เพื่อประเมินความยั่งยืนด้านคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในฝัน
ขอบเขตของการดำเนินงาน
1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรที่ใช้ ได้แก่ นักเรียนโรงเรียนเวียงแก่นวิทยาคม จำนวน896คน นักเรียนโรงเรียนประถมในอำเภอเวียงแก่น 300 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนเวียงแก่นวิทยาคม จำนวน 63 คน และครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนประถมศึกษาในอำเภอเวียงแก่น จำนวน 10 คนภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ได้แก่ นักเรียนโรงเรียนเวียงแก่นวิทยาคม จำนวน265คน นักเรียนโรงเรียนประถมในอำเภอเวียงแก่น 169 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนเวียงแก่นวิทยาคม จำนวน 48 คน และครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนประถมศึกษาในอำเภอเวียงแก่น จำนวน 10 คนภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557
2. สถานที่ในการจัดกิจกรรม
โรงเรียนเวียงแก่นวิทยาคม อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย
3. ระยะเวลาที่ใช้ในจัดกิจกรรม
วันที่ 19 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
นิยามศัพท์เฉพาะ
1. กิจกรรม หมายถึง การปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อการเรียนรู้
2. กิจกรรม “ข่วงปัญญา เปิดฟ้าเวียงแก่น” หมายถึง กิจกรรมการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการของนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ในความสำเร็จด้านการจัดการเรียนการสอนและการบริหารจัดการ ตลอดจนสรุปกิจกรรมและโครงการเด่นที่ประสบผลสำเร็จในรอบปีการศึกษาที่ผ่านมาที่เปิดโอกาสให้ผู้ปกครอง ชุมชนได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็น และเยี่ยมชมผลงาน
3. การประเมินความยั่งยืนโรงเรียนในฝัน หมายถึง การประเมินเพื่อคงสภาพความเป็นโรงเรียนในฝันที่มุ่งจัดการศึกษาให้มีคุณภาพได้มาตรฐานทางการศึกษาของชาติและสอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น เป็นที่ยอมรับของนักเรียน ผู้ปกครองและชุมชน เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตให้กับชุมชนและสังคม มีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดกิจกรรม
- นักเรียนและครูได้มีโอกาสได้แสดงความรู้ความสามารถ
- นักเรียนและครูเกิดความภาคภูมิใจ
- ชุมชนให้การยอมรับโรงเรียนและให้การสนับสนุน
- โรงเรียนผ่านการประเมินความยั่งยืนด้านคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในฝัน
|
บทที่ 2
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรม “ข่วงปัญญา เปิดฟ้าเวียงแก่น” ปีการศึกษา 2557และเตรียมรับการประเมินโครงการพัฒนาความยั่งยืนด้านคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในฝันในสังกัด สพม.36 ผู้จัดกิจกรรมได้รวบรวมแนวคิดทฤษฎีและหลักการต่างๆจากเอกสารที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
1. นิทรรศการ
1.1 ความหมายของนิทรรศการ
1.2 ประเภทของนิทรรศการ
2. การนำเสนอผลงาน
2.1 ความหมายของการนำเสนอผลงาน
2.2 ลักษณะและรูปแบบการนำเสนอผลงาน
2.3 ประเภทของสื่อการนำเสนอผลงาน
3. โรงเรียนในฝัน
นิทรรศการ
ความหมายของนิทรรศการ
นิทรรศการ (Exhibitions) ตรงกับภาษาอังกฤษว่า "Exhibitions" มีความหมายใกล้เคียงกับคำว่า "Display" ซึ่งแปลว่า "การจัดแสดง"ความหมายของนิทรรศการ มีนักเทคโนโลยีการศึกษาหลายท่านได้ให้ความหมายของนิทรรศการในแง่มุมต่างๆ ดังนี้
เปรื่องกุมุท (2552:25) ได้ให้ความหมายของนิทรรศการว่าเป็นเครื่องมือสื่อสารที่มีบทบาทและอิทธิพลมากขึ้นทุกขณะ ทั้งในด้าน การศึกษาวิทยาศาสตร์ แพทย์ ธุรกิจ สังคม การเมือง การอุตสาหกรรม และอื่น ๆนอกจากนี้ยังให้ความหมายในทัศนะของผู้จัดว่าเป็นวิธีอันทรงประสิทธิภาพในการกระตุ้นให้ผู้คนสนใจในวัตถุ และแนวความคิด ความอ่านเป็นวิธีที่สามารถเข้าถึงประชาชนได้ ในเมื่อวิธีการ อย่างอื่นไม่สามารถทำได้ทั้งนี้เพราะเสน่ห์อันเกิดจากผลงานการรวบรวมสรรพสิ่งทั้งหลาย การคัดเลือกการจัดแสดงที่ดี และได้ให้ความหมายของนิทรรศการในทัศนะของผู้ชมหรือประชาชนว่านิทรรศการ หมายถึง โอกาสของ ความเห็นความชื่นชมและการเรียนรู้บางอย่างเกินปกติวิสัยที่จะได้มีโอกาสเช่นนั้นเสน่ห์ของนิทรรศการอยู่ที่ความพิเศษ หรือโอกาสที่หายาก หรือหาชมได้เป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้น
ธีรศักดิ์ อัครบวร (2550:56) ได้ให้ความหมายของนิทรรศการว่า นิทรรศการ หมายถึงการวางแผนการถ่ายทอดความรู้ โดยใช้โสตทัศนวัสดุ เครื่องมือโสตทัศนศึกษา และกิจกรรมโสตทัศนศึกษา (A.V. Activities) อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือผสมผสานกัน อย่างมีระบบ เพื่อให้ผู้ชมได้รับความรู้ ความเข้าใจ ตลอดจนมุ่งชักจูงความคิดความสนใจ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ผู้จัด ได้กำหนดไว้
Melara, Shelley (1996)ได้กล่าวถึงนิทรรศการว่า นิทรรศการเป็นสื่อการเรียนการสอนที่ให้ประสบการณ์รูปธรรมขั้นที่ 6 ของกรวย ประสบการณ์ (Cone of Experience) ทั้งนี้จะต้องเป็นนิทรรศการที่จัดแสดงอย่างมีความหมาย อาจจัดเป็นชุดของรูปถ่าย หรือรูปถ่าย ผสมผสานกับแผนภูมิ และภาพโฆษณา บางครั้งอาจจะมีการสาธิตหรือฉายภาพยนตร์ประกอบ แต่อย่างไรก็ตาม ทุก นิทรรศการมีลักษณะอย่างหนึ่งที่เหมือนกันคือ นิทรรศการเป็นการขมวดความรู้ความสนใจของผู้อื่นให้มุ่งไปยังวัสดุอุปกรณ์ โดยการควบคุมเงื่อนไข
จากความหมายต่างๆ สรุปได้ว่านิทรรศการ คือรูปแบบหรือวิธีการถ่ายทอดความรู้ โดยนำเอาวัสดุอุปกรณ์หรือสื่อมาผสมผสานกันและนำเสนออย่างเป็นระบบ เช่น ภาพ ของจริง หุ่นจำลอง เอกสาร คำแนะนำ สไลด์ วิดีทัศน์ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ เพื่อกระตุ้นความสนใจและทำให้ผู้ดูเกิดความ เข้าใจในเนื้อหาของนิทรรศการได้รวดเร็วขึ้น อาจกล่าวได้ว่าเป็นการเรียนรู้ที่ใกล้เคียงกับประสบการณ์ตรงโดยผู้ชมสามารถรับรู้ได้จากประสาทสัมผัสทั้งห้า
ประเภทของนิทรรศการ
ธีรศักดิ์ อัครบวร (2550:74-80) แบ่งประเภทนิทรรศการตามลักษณะของวิธีการจัดแบ่งได้เป็น 3 ประเภทคือ
1. นิทรรศการถาวร (Permanent Exhibition) หมายถึงนิทรรศการที่จัดแสดงเรื่องราวเดิมๆ ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นที่รวบรวมสิ่งแสดงของที่ใช้จัดอาจจะเป็นของจริง หุ่นจำลอง รูปภาพ ฯลฯ ที่นำมาแสดงนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง รูปแบบ และวิธีการ จัดอยู่ในอาคารหรือสถานที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลง ผู้ชมสามารถเข้ามาชมได้ตลอดเวลา เพื่อศึกษาหรือหาความรู้/เพลิดเพลิน เช่น พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาทั้งทางประวัติศาสตร์ศิลป์ โบราณคดี ตลอดจนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย เป็นต้น
ภาพที่ 1 แสดงนิทรรศการถาวร
ที่มา : http://www.thaifestival.jp/th/index.php?option=com_content&view=article&id=58:-10
2. นิทรรศการชั่วคราว (Non Permanent Exhibition)คือการจัดนิทรรศการเป็นครั้งคราวในวาระโอกาสหรือเทศกาลพิเศษเพื่อแสดงความรู้ใหม่ๆแผนงานพิเศษ วาระในวันสำคัญต่างๆ ของหน่วยงานนิทรรศการชั่วคราวอาจจัดแสดงในสถานที่เดิมเป็นประจำ แต่สื่อที่นำมาแสดงชุดนั้นๆ จัดอยู่ไม่นานอาจเป็นสัปดาห์หรือสองสามเดือนก็เปลี่ยนใหม่ หรือเลิกไป
ภาพที่ 2 แสดงนิทรรศการชั่วคราว
ที่มา : http://www.oknation.net/blog/boonta-education/2007/11/05/entry-14
3. นิทรรศการเคลื่อนที่หมายถึง นิทรรศการที่จัดขึ้นเป็นชุดสำเร็จ เพื่อแสดงในหลายๆ สถานที่หมุนเวียนกันไป รูปแบบและสื่อหลักที่นำมาแสดง เป็นแบบเดิมวัตถุประสงค์ในการจัดเป็นแบบเดิม อาจมีสิ่งของหรือการแสดงประกอบเพิ่มเติมในบางครั้ง ส่วนสถานที่จัดก็หมุนเวียน เปลี่ยนไปเรื่อยอาจเคลื่อนที่ไปต่างจังหวัดหรือจังหวัดเดียวกันแต่เปลี่ยนชุมชนที่นำไปแสดง เช่นนิทรรศการศิลปะ นิทรรศการตราไปรษณียากร ในการเคลื่อนที่ก็จะร่วมกับหน่วยงานในท้องถิ่นซึ่งหน่วยงานหลักก็คือ หน่วยงานในสังกัดสำนักงานไปรษณีย์โทรเลขจังหวัดที่ไปจัด
ภาพที่ 3 แสดงนิทรรศการเคลื่อนที่
ที่มา : http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2009/08/E8191609/E8191609.html
ประเภทของนิทรรศการแบ่งตามจุดประสงค์การจัดมี 6 ประเภท คือ
1. นิทรรศการทางการศึกษาเป็นนิทรรศการที่มุ่งจัดเพื่อการศึกษาและให้ข้อมูลความรู้ทางวิชาการแก่ผู้ชมโดยเฉพาะ อาจจัดเป็นเฉพาะเรื่องหรือจัดในแบบความรู้กว้างๆ นิทรรศการโดยทั่วไปแทบทุกประเภทจะมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาแฝงอยู่ด้วยเสมอ เช่น นิทรรศการสัปดาห์วันวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เพื่อเผยแพร่วิชาการด้านวิทยาศาสตร์และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นิทรรศการการศึกษา จัดได้ทุกสาขาวิชาไม่ว่าจะเป็นวิทยาการทางด้าน มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปศาสตร์ตลอดจนวิทยาศาสตร์ประยุกต์สาขาวิชาต่างๆ
2. นิทรรศการทางการตลาดเป็นนิทรรศการอีกแบบหนึ่ง ที่จัดกันแพร่หลายพอๆกับนิทรรศการทางการศึกษาๆ ประเภทนี้อาจจัดในร่มหรือกลางแจ้งก็ได้แต่เป็นนิทรรศการแบบชั่วคราวเท่านั้น จุดประสงค์เพื่อการขายสินค้าและการพาณิชย์ นิทรรศการทางการตลาดที่ใหญ่ที่สุด คือ งานมหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ (Thailand Expo) ซึ่งหมุนเวียนจัดในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้าใหญ่ๆ ก็มีการจัดนิทรรศการทางการตลาดกันตลอดปีเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้านั้น ซึ่งมีการจัดกันอยู่เสมอโดยทั่วไปจะจัดในช่วงเทศกาลต่างๆ
3. นิทรรศการทางการเมืองในหลายๆ ประเทศทางด้านการเมืองและรัฐศาสตร์โดยเฉพาะประเทศกลุ่มสังคมนิยม จะใช้ พิพิธภัณฑ์เป็นเครื่องมือปลุกระดมสำนึกทางการเมืองของประชาชน เช่นพิพิธภัณฑ์แสดงร่องรอยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ที่จัดแสดงโดยรัฐบาลกัมพูชาประชาธิปไตย เพื่อปลุกสำนึกของเยาวชนรุ่นใหม่ ให้มีความรู้สึกร่วมกับบรรพบุรุษรุ่นก่อน ซึ่งถูกกดขี่ทำทารุณกรรม สำหรับประเทศไทย นิสิตนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาจะจัดนิทรรศการประเภทนี้กันเป็นประจำ
4. นิทรรศการศิลปวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมนิทรรศการทางศิลปะรวมถึงศิลปะแขนงอื่นๆ ด้วยเช่น อัญมณี เครื่องแก้ว งานศิลปหัตถกรรมต่างๆ นิทรรศการวัฒนธรรมนอกจากการจัดแบบถาวรแล้ว ก็มีการจัด นิทรรศการเกี่ยวกับการส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมต่างๆ ด้วย นิทรรศการทางสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันมีหน่วยงาน สมาคมมูลนิธิ สถาบันทางการศึกษาทุกระดับ จัดกันแพร่หลายโดยเฉพาะการรณรงค์เกี่ยวกับการนำมาใช้ใหม่ นิทรรศการทางศิลปะที่เด่นดังและดีเยี่ยมที่ดีที่สุดของไทย คือ "นิทรรศการศิลปาชีพ"ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ
5. นิทรรศการทางการทหารนิทรรศการทางการทหารโดยทั่วไปนิยมจัดแบบถาวรจัดแสดงเพื่อเป็นอนุสรณ์สถาน และเกียรติประวัติการสู้รบของทั้งสามเหล่าทัพ
6. นิทรรศการเพื่อการประชาสัมพันธ์องค์กรนิทรรศการตลาดนัดหลักสูตรโดยคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ จัดขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์ให้นักเรียนชั้นมัธยมปลาย ได้รู้ถึงหลักสูตรที่เปิดสอนอยู่ในสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศ และจัดตามมหาวิทยาลัยในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
8
การนำเสนอผลงาน
ความหมายของคำว่า การนำเสนอผลงาน
ประวีน ณ นคร (2550:37) กล่าวว่า การนำเสนอผลงาน คือ กระบวนการ วิธีการ เพื่อให้รู้ ให้ทราบ ให้เข้าใจ ในกิจกรรมขององค์กร ของสถาบัน ของหน่วยงาน ได้อย่างชัดเจนการถ่ายทอดเนื้อหา สาระที่ผสมผสานกันระหว่าง ศิลปะการพูด กับการแสดงข้อมูล ในรูปแบบต่างๆ ผ่านสื่อและอุปกรณ์ได้อย่างเหมาะสม
ลักษณะและรูปแบบการนำเสนอผลงาน
ประวีน ณ นคร (2550:41)ได้กำหนดรูปแบบการนำเสนอผลงาน (ที่นิยมใช้) มี 3 วิธีการ คือ
1. มี ผู้นำเสนอ และใช้ เอกสารประกอบ(Handout)เป็นส่วนร่วมในการนำเสนอ
2. มี ผู้นำเสนอ ใช้ วัสดุ-อุปกรณ์เครื่องฉาย เป็นสื่อ และมี เอกสารประกอบ เป็นส่วนร่วม
3. จัดเป็น Display ในรูปของนิทรรศการ ที่ใช้ Post line เป็นเส้นนำทาง และ(อาจ)มี เอกสารประกอบ เป็นส่วนร่วม
ประเภทของสื่อนำเสนอผลงาน
ประวีน ณ นคร (2550:45)ได้จำแนกประเภทสื่อการนำเสนอผลงานดังนี้
1.สื่อเพื่อการนำเสนอโครงการ(กิจกรรม)
2. สื่อเพื่อสรุปโครงการ(กิจกรรม)
3. สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์
4. สื่อประกอบการบรรยาย
โรงเรียนในฝัน
ความหมายของโรงเรียนในฝัน
โรงเรียนในฝัน เป็นโรงเรียนที่มุ่งจัดการศึกษาให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐานทางการศึกษาของชาติ และสอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น เป็นที่ยอมรับของนักเรียน ผู้ปกครองและชุมชน เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตของชุมชน มีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ใช้การบริหารจัดการแนวใหม่ที่มุ่งพัฒนาโรงเรียน ทุกด้าน ทั้งด้านวิชาการ กระบวนการเรียนรู้ สภาพแวดล้อมของโรงเรียน และการนำเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้และการบริหารจัดการ โดยมุ่งหวังให้เด็กไทยเป็นคนดีมีคุณภาพ มีอนาคตที่สดใส สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขโดย(สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. 2551 : 2)
9
กลยุทธ์ของโรงเรียนในฝัน
1. สร้างพลังขับเคลื่อนให้โรงเรียนมีระบบบริหารจัดการที่ดี คล่องตัวมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้นักเรียนพัฒนาศักยภาพ มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของสังคม
2. พัฒนาหลักสูตรและกระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงบูรณาการ ให้ผู้เรียนได้พัฒนาความรู้ ความสามารถ คุณลักษณะที่พึงประสงค์และทักษะการดำรงชีวิตได้ตามศักยภาพ
3. สร้างเสริมศักยภาพบุคลากรทุกระดับให้มีทักษะวิชาชีพ สามารถจัดกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา
4. เพิ่มสมรรถนะของโรงเรียนในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อจัดกระบวน
การเรียนรู้และบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เรียน
5. ระดมสรรพกำลัง สร้างระบบเครือข่ายอุปถัมภ์การศึกษาที่เข้มแข็ง อันเกิดจากพลังการมีส่วนร่วมของชุมชน องค์กร ประชาสังคม ในรูปแบบของผู้อุปถัมภ์และผู้ร่วมคิด ร่วมปฏิบัติ ร่วมพัฒนา
บทที่ 3
วิธีดำเนินงาน
กิจกรรม “ข่วงปัญญา เปิดฟ้าเวียงแก่น” ปีการศึกษา 2557และเตรียมรับการประเมินโครงการพัฒนาความยั่งยืนด้านคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในฝันในสังกัด สพม.36 ผู้จัดกิจกรรม ได้กำหนดวิธีดำเนินการดังต่อไปนี้
1. ประชากร
2. เครื่องมือที่ใช้
3. ขั้นตอนการดำเนินงาน
4. การจัดกระทำข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูล
5. สถิติที่ใช้
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรที่ใช้ ได้แก่ นักเรียนโรงเรียนเวียงแก่นวิทยาคม จำนวน896คน นักเรียนโรงเรียนประถมในอำเภอเวียงแก่น 300 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนเวียงแก่นวิทยาคม จำนวน 63 คน และครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนประถมศึกษาในอำเภอเวียงแก่น จำนวน 10 คนภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ได้แก่ นักเรียนโรงเรียนเวียงแก่นวิทยาคม จำนวน265คน นักเรียนโรงเรียนประถมในอำเภอเวียงแก่น 169 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนเวียงแก่นวิทยาคม จำนวน 48 คน และครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนประถมศึกษาในอำเภอเวียงแก่น จำนวน 10 คนภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557
เครื่องมือที่ใช้
- แบบสรุปผลการแข่งขันโครงงานระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6
- แบบสรุปการประเมินความยั่งยืนด้านคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในฝัน
- แบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อกิจกรรม “ข่วงปัญญา เปิดฟ้าเวียงแก่น” ปีการศึกษา 257
11
ขั้นตอนการดำเนินงาน
- นำเสนอกิจกรรมต่อผู้บริหารเพื่ออนุมัติการจัดกิจกรรม
- ประชุมคณะกรรมการจัดกิจกรรมเพื่อวางแผนกำหนดกรอบแนวทางการดำเนินงาน
- จัดทำคู่มือ เอกสารการจัดกิจกรรมและการเตรียมรับการประเมิน ประกอบด้วย
3.1 กิจกรรมที่จัด
3.2 กำหนดการจัดกิจกรรมและการประเมิน
3.3 แผงผังการจัดกิจกรรม
3.4 รายละเอียดวัสดุ อุปกรณ์ ที่ใช้ในกิจกรรม
3.5 แบบตอบรับการเข้าร่วมงาน
3.6 แบบลงทะเบียนการเข้าร่วมงาน
3.7 คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินกิจกรรม
3.8 แบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการจัดกิจกรรม
- ประชุมคณะครูทั้งโรงเรียนเพื่อชี้แจง รายละเอียดการจัดกิจกรรม บทบาทหน้าที่แต่ละคนที่รับผิดชอบตามคู่มือการจัดกิจกรรมที่แจกให้
- ทำหนังสือเชิญโรงเรียนประถมศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม
- ทำหนังสือเชิญแขกผู้มีเกียรติร่วมพิธีเปิดงาน
- แต่ละฝ่ายเตรียมการจัดกิจกรรม
7.1 จัดสถานที่
7.2 จัดซื้อ วัสดุ อุปกรณ์ งบประมาณที่ใช้ทั้งหมด 120,000 บาท
7.3 จัดเตรียมกิจกรรม
- จัดกิจกรรมตามวันและเวลาที่กำหนด
- ประเมิน สรุปผลการจัดกิจกรรม
การจัดกระทำข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูล
1. นำแบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อกิจกรรม “ข่วงปัญญา เปิดฟ้าเวียงแก่น” ปีการศึกษา 2557ซึ่งเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) มาตรวจสอบความสมบูรณ์ของคำตอบ แล้วตรวจให้คะแนน โดยกำหนดค่า 5 ระดับ ซึ่งได้กำหนดค่าคะแนนไว้ดังนี้
5 หมายถึง มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
4 หมายถึง มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
3 หมายถึง มีความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง
2 หมายถึง มีความพึงพอใจอยู่ในระดับน้อย
12
1 หมายถึง มีความพึงพอใจอยู่ในระดับน้อยที่สุด
2.นำแบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อกิจกรรม “ข่วงปัญญา เปิดฟ้าเวียงแก่น” ปีการศึกษา 2557แบบมาตราส่วนประมาณค่า( Rating Scale) โดยกำหนดค่าออกเป็น 5 ระดับ มาหาค่าเฉลี่ย และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)นำค่าเฉลี่ย ที่ได้มาเปรียบกับเกณฑ์ เพื่อพิจารณาความพึงพอใจที่มีต่อกิจกรรม “ข่วงปัญญา เปิดฟ้าเวียงแก่น” ปีการศึกษา 2557ดังนี้
ค่าเฉลี่ย 4.50 - 5.00 หมายถึง มีความพึงพอใจมากที่สุด
ค่าเฉลี่ย 3.50 - 4.49 หมายถึง มีความพึงพอใจมาก
ค่าเฉลี่ย 2.50 - 3.49 หมายถึง มีความพึงพอใจปานกลาง
ค่าเฉลี่ย 1.50 - 2.49 หมายถึง มีความพึงพอใจน้อย
ค่าเฉลี่ย 1.00 - 1.49 หมายถึง มีความพึงพอใจน้อยที่สุด
สถิติที่ใช้
1. ค่าร้อยละ
2. ค่าเฉลี่ยหรือคะแนนเฉลี่ย
=
เมื่อ X คือ คะแนนของนักเรียนแต่ละคน
n คือ จำนวนนักเรียนทั้งหมด
คือ ค่าเฉลี่ย
3. ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
S.D =
เมื่อ X คือ คะแนนของนักเรียนแต่ละคน
n คือ จำนวนนักเรียนทั้งหมด
S.D คือ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
บทที่ 4
ผลการดำเนินงาน
กิจกรรม “ข่วงปัญญา เปิดฟ้าเวียงแก่น” ปีการศึกษา 2557 และเตรียมรับการประเมินโครงการพัฒนาความยั่งยืนด้านคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในฝันในสังกัด สพม.36 ผู้จัดกิจกรรมเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล ดังนี้
ตอนที่ 1 ผลการแข่งขันโครงงานระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6
ที่ |
ชั้น |
ประเภทโครงงาน |
รางวัล |
ผลการแข่งขัน |
ชั้น |
1 |
มัธยมศึกษาปีที่ 1 |
พลศึกษาและ สุขศึกษา |
ยอดเยี่ยม |
อาหารท้องถิ่นเพื่อสุขภาพ |
ม.1/3 |
ดีเด่น |
น้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ |
ม.1/3 |
|||
ดี |
ลูกประคบสมุนไพร |
ม.1/2 |
|||
2 |
มัธยมศึกษาปีที่ 2 |
การงานอาชีพและ เทคโนโลยี
|
ยอดเยี่ยม |
มหัศจรรย์ผลิตภัณฑ์จากส้มโอ |
ม.2/3 |
ดีเด่น |
จิตรกรรมขวดแก้วแพรวพราว |
ม.2/3 |
|||
ดี |
อลังการลายผ้าม้งสู่อาเซียน |
ม.2/3 |
|||
3 |
มัธยมศึกษาปีที่ 3 |
ภาษาไทย-ภาษาอังกฤษ
|
ยอดเยี่ยม |
108 คำไทยมักเขียนผิด |
ม.3/3 |
ดีเด่น |
Opposites Are Fasy |
ม.3/3 |
|||
ดี |
คำยืมจากภาษาอังกฤษ |
ม.3/3 |
|||
4 |
มัธยมศึกษาปีที่ 4 |
สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
|
ยอดเยี่ยม |
การดำรงอยู่ของชาติพันธุ์ชนเผ่าขมุ |
ม.4/5 |
ดีเด่น |
ภูมิปัญญาท้องถิ่นการสานข้อง |
ม.4/4 |
|||
ดี |
สำรวจสถิติการมาเที่ยวดอยผาตั้ง |
ม.4/2 |
|||
5 |
มัธยมศึกษาปีที่ 5 |
วิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์
|
ยอดเยี่ยม |
แบตเตอรี่จากดิน |
ม.5/6 |
ดีเด่น |
คณิตคิดผสานผ้าไหม |
ม.5/3 |
|||
ดี |
ครีมขัดเครื่องเงินเครื่องทอง |
ม.5/5 |
|||
6 |
มัธยมศึกษาปีที่ 6 |
ทั่วไป
|
ยอดเยี่ยม |
ตู้ฟักไข่ |
ม.6/4 |
ดีเด่น |
เครื่องออกกำลังกายปอดต่อสุขภาพ |
ม.6/1 |
|||
ดี |
โคมไฟกะลามะพร้าว |
ม.6/5 |
14
ตอนที่ 2 ผลการประเมินความยั่งยืนด้านคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในฝันจากคณะกรรมการ
ข้อแนะนำและข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการประเมินความยั่งยืนคุณภาพโรงเรียนในฝัน มีดังนี้
(ผู้อำนวยการจีรพรรณ อุดมลาภ)
1. บรรยากาศ สิ่งแวดล้อมในโรงเรียนดีสวยงาม
2. ICT มีใช้ทุกห้องเรียน ควรให้โอกาสนักเรียนมีส่วนร่วมในการใช้ ICTมากขึ้น
3. ครูยังไม่เข้าใจโรงเรียนในฝัน
4. ควรนำผล o-net มาวิเคราะห์และสร้างเครื่องมือแก้ปัญหาในมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ที่ไม่
ผ่านหรือต้องปรับปรุง ให้ผล o-net เพิ่มขึ้น 3%และไม่ควรโทษว่าปัญหาอยู่ที่นักเรียน อาจบาปได้
5. นักเรียนมีความโดดเด่นด้านดนตรี กีฬา ศิลปะ
6. นักเรียนเป็นคนดีมีคุณธรรมจริยธรรม
7. โรงเรียนได้รับรางวัลส่งเสริมสุขภาพดีเด่นควรทำให้ต่อเนื่องปัจจุบันไม่เห็นร่องรอยของรางวัลที่
ได้รับ
8. ห้องสมุดดีเด่น สวยงามจัดได้ดี แต่ไม่ควรนำพระบรมฉายาลักษณ์พระเทพฯไปไว้ด้านหลัง
ห้องสมุดไม่สมพระเกียรติ
9. โครงการขยะรีไซเคิล ควรสานต่อทำให้ต่อเนื่องเพราะเป็นโครงการที่ดีมาก
10. โครงงานที่นำเสนอส่วนใหญ่เป็นกายภาพควรมีโครงงานประเภทอื่นๆบ้าง
11. โครงงานผักพื้นบ้าน สมุนไพรพื้นบ้านควรส่งเสริมให้นักเรียนได้ลงมือทำ เพราะปัจจุบันเน้น
การรักษาควบคู่การใช้ยาสมุนไพร
12. กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์การจัดการเรียนการสอนควรเน้นการคิดวิเคราะห์มากๆ การ
ทดลองไม่ควรง่าย ถ้าง่ายไม่ควรทดลอง
13. การเรียนการสอนให้ใช้ยูทูป ช่วย ไม่ต้องรองบประมาณ
14. จุดเด่นของโรงเรียนคือชนเผ่าควรบูรณาการในหลักสูตร สอดแทรกในหน่วยการเรียนรู้ ในทุก
กลุ่มสาระ เช่น วิทย์ ผักพื้นบ้านชนเผ่า สังคม วิถีชนเผ่า สุขฯ กีฬาชนเผ่า
15.สรุป อยู่ในระดับดีเด่น
ข้อแนะนำและข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการประเมินความยั่งยืนคุณภาพโรงเรียนในฝัน มีดังนี้
(ผู้อำนวยการจตุภูมิ แจ่มหม้อ)
1. การจัดการเรียนการสอนครูรุ่นใหม่ยังต้องฝึกฝนและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มาก
2. ห้องปฏิบัติการต่างๆต้องคงสภาพและพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
3. ครูควรใช้ ICT ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
15
4. นักเรียนยังขาดความกล้าแสดงออกและขาดความมั่นใจในตนเอง
5. ผล o-net โรงเรียนเวียงแก่นวิทยาคม คะแนนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
อยู่ในระดับดี ควรแก้ไข พัฒนาต่อไป และกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆยังต้องปรับปรุงและพัฒนาต่อไป
เช่นกัน
ข้อแนะนำและข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการประเมินความยั่งยืนคุณภาพโรงเรียนในฝัน มีดังนี้
(ผู้อำนวยการสุรินทร์ กันคำ)
1. นักเรียนมีความโดดเด่นและความสามารถทางด้านดนตรี ศิลปะ และนาฏศิลป์
2. นักเรียนไม่สามารถสร้างองค์ความรู้ใหม่ได้ด้วยตนเอง
3. นักเรียนยังไม่สามารถตอบได้ว่าสิ่งที่นักเรียนทำนั้นนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันอย่างไร
และตอบปัญหาไม่ตรงประเด็น
4. นักเรียนมีความหลากหลายทางชนเผ่าสามารถหลอมรวมอยู่ร่วมกันได้
5. จำนวน ICT ที่ให้นักเรียนสืบค้น ค้นคว้ายังมีไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียน
6. นักเรียนมีทักษะการดำรงชีวิตที่สามารถช่วยเหลือตนเองได้
7. นักเรียนมีทักษะทางภาษาจีน รองรับประชาคมอาเซียน
8. ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ มีโปรเจคเตอร์ ทีวี ทุกห้องควรให้นักเรียนมีโอกาสใช้สื่อ ICT มากขึ้น
9. ควรประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนรับรู้กับผลงานต่างๆที่นักเรียนได้รับอย่างต่อเนื่อง
ข้อแนะนำและข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการประเมินความยั่งยืนคุณภาพโรงเรียนในฝัน มีดังนี้ (ผู้อำนวยการวันสว่าง สิงห์ชัย)
1.นักเรียนยังขาดทักษะชีวิต รู้กระบวนการขั้นตอนในการทำแต่ยังไม่สามารถต่อยอดในการสร้างรายได้ ได้
2.ครูควรเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักเรียน ให้ความเมตตา มีกิริยา บุคลิกภาพการแต่งกายที่เหมาะสม
3.นักเรียนควรได้รับการส่งเสริมด้านภาษาอังกฤษเพิ่มมากขึ้น
16
ตอนที่ 3 ความพึงพอใจที่มีต่อกิจกรรม “ข่วงปัญญา เปิดฟ้าเวียงแก่น” ปีการศึกษา 2557
รายการประเมิน |
S.D |
ระดับความพึงพอใจ |
|
1. ด้านสภาพทั่วไปในการจัดกิจกรรม |
|
|
|
1.1ระยะเวลาของการจัดกิจกรรม |
4.70 |
0.55 |
มากที่สุด |
1.2ความเหมาะสมของสถานที่ |
4.20 |
0.47 |
มาก |
1.3การประชาสัมพันธ์ |
4.15 |
0.37 |
มาก |
1.4ลำดับขั้นตอนพิธีเปิด |
3.45 |
0.52 |
ปานกลาง |
1.5การประสานงานของคณะกรรมการจัดกิจกรรม |
4.25 |
0.63 |
มาก |
1.6การต้อนรับและอำนวยความสะดวก |
4.40 |
0.61 |
มาก |
โดยเฉลี่ย |
4.25 |
0.42 |
มาก |
2. ด้านแสดงผลงานครูและนักเรียน |
|
|
|
2.1 การจัดตกแต่งสถานที่จัดแสดงผลงาน |
4.23 |
0.45 |
มาก |
2.2 ผลงานที่นำเสนอน่าสนใจ |
4.20 |
0.37 |
มาก |
2.3 ความหลากหลายของผลงาน |
4.30 |
0.27 |
มาก |
2.4การนำเสนอผลงานของเจ้าของผลงาน |
4.40 |
0.42 |
มาก |
2.5ประโยชน์ที่ได้จากการเยี่ยมชมผลงาน |
4.25 |
0.53 |
มาก |
โดยเฉลี่ย |
4.32 |
0.44 |
มาก |
3. ด้านการนำเสนอโครงงานของนักเรียนชั้นม.1- 6 |
|
|
|
3.1 โครงงานมีความหลากหลาย |
4.27 |
0.25 |
มาก |
3.2รูปแบบการนำเสนอโครงงานน่าสนใจ |
4.35 |
0.31 |
มาก |
3.3 การนำเสนอโครงงานของเจ้าของโครงงาน |
3.40 |
0.49 |
ปานกลาง |
3.4การนำความรู้จากโครงงานไปประยุกต์ใช้ |
4.29 |
0.35 |
มาก |
โดยเฉลี่ย |
4.06 |
0.25 |
มาก |
4.ด้านสิ่งที่ได้รับจากการร่วมกิจกรรม |
|
|
|
4.1 การนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการเรียนการ สอนและใช้ในชีวิตประจำวัน |
4.40 |
0.54 |
มาก |
4.2ความรู้สึกภาคภูมิใจและยินดีที่ได้ร่วมกิจกรรม |
4.95 |
0.32 |
มากที่สุด |
4.3ควรให้มีการจัดกิจกรรมนี้ครั้งต่อไป |
4.90 |
0.25 |
มากที่สุด |
โดยเฉลี่ย |
4.86 |
0.47 |
มากที่สุด |
โดยเฉลี่ยภาพรวมทั้งหมด |
4.45 |
0.54 |
มาก |
17
จากตารางที่ 1 ความพึงพอใจที่มีต่อกิจกรรม “ข่วงปัญญา เปิดฟ้าเวียงแก่น” ปีการศึกษา 2557 โดยภาพรวมมีระดับความพึงพอใจมาก ( = 4.45 ) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า
ด้านสภาพทั่วไปในการจัดกิจกรรม มีระดับความพึงพอใจเฉลี่ยมาก ( = 4.25 )โดยมีความ พึงพอใจมากที่สุด 1 รายการคือ ระยะเวลาของการจัดกิจกรรม( = 4.70 )พึงพอใจมาก 4 รายการคือการต้อนรับและอำนวยความสะดวก( = 4.40 ) การประสานงานของคณะกรรมการจัดกิจก(= 4.25 ) ความเหมาะสมของสถานที่( = 4.20 )การประชาสัมพันธ์ ( = 4.15 )และพึงพอใจปานกลาง 1รายการ คือ ลำดับขั้นตอนพิธีเปิด ( = 3.45 )ตามลำดับ
ด้านแสดงผลงานครูและนักเรียนมีระดับความพึงพอใจเฉลี่ยมาก ( = 4.32 )โดยมีความพึงพอใจมากทุกรายการคือ การนำเสนอผลงานของเจ้าของผลงาน( = 4.40 ) ความหลากหลายของผลงาน ( = 4.30 ) ประโยชน์ที่ได้จากการเยี่ยมชมผลงาน( = 4.25 ) การจัดตกแต่งสถานที่จัดแสดงผลงาน ( = 4.23 ) ผลงานที่นำเสนอน่าสนใจ( = 4.20 ) ตามลำดับ
ด้านการนำเสนอโครงงานของนักเรียนชั้น ม.1-6 มีระดับความพึงพอใจเฉลี่ยมาก ( = 4.06 ) โดยมีความพึงพอใจมาก 3รายการคือ รูปแบบการนำเสนอโครงงานน่าสนใจ( = 4.35) การนำความรู้จากโครงงานไปประยุกต์ใช้( = 4.29 ) โครงงานมีความหลากหลาย( = 4.27 )และพึงพอใจปานกลาง 1 รายการคือการนำเสนอโครงงานของเจ้าของโครงงาน( = 3.40 ) ตามลำดับ
ด้านสิ่งที่ได้รับจากการร่วมกิจกรรมมีระดับความพึงพอใจเฉลี่ยมากที่สุด ( = 4.86 )โดยมีความพึงพอใจมากที่สุด2รายการคือ ความรู้สึกภาคภูมิใจและยินดีที่ได้ร่วมกิจกรรม( = 4.95) ควรให้มีการจัดกิจกรรมนี้ครั้งต่อไป ( = 4.90 ) และพึงพอใจมาก1 รายการคือการนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการเรียนการสอนและใช้ในชีวิตประจำวัน( = 4.40 ) ตามลำดับ
บทที่ 5
สรุป ผลและข้อเสนอแนะ
กิจกรรม “ข่วงปัญญา เปิดฟ้าเวียงแก่น” ปีการศึกษา 2557 ผู้จัดกิจกรรมสามารถสรุปผลการดำเนินงานได้ดังนี้
สรุปผลการดำเนินงาน
1. ผลการแข่งขันโครงงานระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ชนะเลิศ ได้แก่ โครงงานอาหารท้องถิ่นเพื่อสุขภาพ ม.1/3 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ชนะเลิศ ได้แก่ โครงงานมหัศจรรย์ผลิตภัณฑ์จากส้มโอ ม.2/3 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ชนะเลิศ ได้แก่ โครงงาน108 คำไทยมักเขียนผิด ม.3/3 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 4 ชนะเลิศ ได้แก่ โครงงานการดำรงอยู่ของชาติพันธุ์ชนเผ่าขมุ ม.4/5 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ชนะเลิศ ได้แก่ โครงงานแบตเตอรี่จากดิน ม.5/6 และ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ชนะเลิศ ได้แก่ โครงงานตู้ฟักไข่ ม.6/4
2. ข้อแนะนำและข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการประเมินความยั่งยืนคุณภาพโรงเรียนในฝัน สรุปได้ดังนี้ บรรยากาศ สิ่งแวดล้อมในโรงเรียนดีสวยงาม ICT มีใช้ทุกห้องเรียน ควรให้โอกาสนักเรียนมีส่วนร่วมในการใช้ ICTมากขึ้น นักเรียนมีความโดดเด่นด้านดนตรี กีฬา ศิลปะ จุดเด่นของโรงเรียนคือชนเผ่าควรบูรณาการในหลักสูตร สอดแทรกในหน่วยการเรียนรู้ ในทุกกลุ่มสาระ นักเรียนยังขาดความกล้าแสดงออกและขาดความมั่นใจในตนเอง นักเรียนควรได้รับการส่งเสริมด้านภาษาอังกฤษเพิ่มมากขึ้น
3. ความพึงพอใจที่มีต่อกิจกรรม “ข่วงปัญญา เปิดฟ้าเวียงแก่น” ปีการศึกษา 2557 โดยภาพรวมมีระดับความพึงพอใจมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า
ด้านสภาพทั่วไปในการจัดกิจกรรม มีระดับความพึงพอใจเฉลี่ยมาก โดยมีความพึงพอใจมากที่สุด 1 รายการคือ ระยะเวลาของการจัดกิจกรรมพึงพอใจมาก 4 รายการคือการต้อนรับและอำนวยความสะดวก การประสานงานของคณะกรรมการจัดกิจกความเหมาะสมของสถานที่การประชาสัมพันธ์ และพึงพอใจปานกลาง 1รายการ คือ ลำดับขั้นตอนพิธีเปิด ตามลำดับ
ด้านแสดงผลงานครูและนักเรียนมีระดับความพึงพอใจเฉลี่ยมาก โดยมีความพึงพอใจมากทุกรายการคือ การนำเสนอผลงานของเจ้าของผลงานความหลากหลายของผลงาน ประโยชน์ที่ได้จากการเยี่ยมชมผลงานการจัดตกแต่งสถานที่จัดแสดงผลงาน ผลงานที่นำเสนอน่าสนใจตามลำดับ
ด้านการนำเสนอโครงงานของนักเรียนชั้น ม.1-6มีระดับความพึงพอใจเฉลี่ยมากโดยมีความพึงพอใจมาก 3 รายการคือ รูปแบบการนำเสนอโครงงานน่าสนใจ การนำความรู้จากโครงงานไปประยุกต์ใช้ โครงงานมีความหลากหลายและพึงพอใจปานกลาง 1 รายการคือการนำเสนอโครงงานของเจ้าของโครงงาน ตามลำดับ
19
ด้านสิ่งที่ได้รับจากการร่วมกิจกรรมมีระดับความพึงพอใจเฉลี่ยมากที่สุด โดยมีความพึงพอใจมากที่สุด2รายการคือ ความรู้สึกภาคภูมิใจและยินดีที่ได้ร่วมกิจกรรมควรให้มีการจัดกิจกรรมนี้ครั้งต่อไป และพึงพอใจมาก1 รายการคือการนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการเรียนการสอนและใช้ในชีวิตประจำวัน ตามลำดับ
ข้อเสนอแนะ
1.ควรจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทุกๆปี
2. การประสานงานของแต่ละฝ่ายงานควรให้ชัดเจนมากกว่านี้
20
บรรณานุกรม
กระทรวงศึกษาธิการ. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3).
กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2554.
ธีรศักดิ์อัครบวร. ความเป็นครูไทย. กรุงเทพฯ : ก.พลทิพย์, 2550 .
เปรื่องกุมุท.เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษากับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้วย การศึกษาเล่าเรียน.
กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2552.
ประวีน ณ นคร. “เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษา”. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย, 2550.
21
ภาคผนวก |
|
ประกอบด้วยรายละเอียดต่างๆดังนี้ |
|
- |
รายการกิจกรรมที่จัดในงาน “ข่วงปัญญา เปิดฟ้าเวียงแก่น” ปีการศึกษา 2557และเตรียมรับการประเมินความยั่งยืนคุณภาพโรงเรียนในฝัน |
- |
กำหนดการจัดงาน“ข่วงปัญญา เปิดฟ้าเวียงแก่น” ปีการศึกษา 2557และเตรียมรับการประเมินความมยั่งยืนคุณภาพโรงเรียนในฝัน |
- |
คำสั่งคณะกรรมการดำเนินงาน“ข่วงปัญญา เปิดฟ้าเวียงแก่น” ปีการศึกษา 2557 |
- |
คำกล่าวเปิดงาน |
- |
คำกล่าวรายงาน |
- |
แผนผังการจัดงาน |
- |
บัญชีลงทะเบียนผู้เข้าร่วมงาน |
- |
หนังสือราชการแจ้งเข้าร่วมงาน |
- |
แบบตอบรับการเข้าร่วมงาน |
- |
แบบสำรวจจำนวนโครงงาน |
- |
แบบสำรวจรายชื่อโครงงาน |
- |
ผลการประเมินโครงงาน |
- |
แบบลงทะเบียนโครงงาน |
- |
รายละเอียดวัสดุเปิดบ้าน |
- |
ภาพถ่าย |